จางเหม่ยอิงค่อยๆ ลืมตาตื่นเมื่อแสงสีทองอร่ามสว่างจ้าปรากฏขึ้นตรงหน้า
“ที่นี่มันที่ไหนกันนะ…”
เธอพึมพำก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นและเริ่มเดินตามแสงนั้นไป จางเหม่ยอิงในวัย 30 ปีซึ่งเป็ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ในสถานที่แปลกๆ นี้ได้ ยิ่งเดินไปแสงก็ยิ่งสว่างเจิดจ้าเสียจนเธอเริ่มสงสัยว่ามันจะมีที่สิ้นสุดหรือเปล่า
ทันใดนั้น แสงสีทองนั้นก็พลันแปรเปลี่ยนเป็แรงดึงดูดมหาศาล จางเหม่ยอิงเบิกตากว้างเมื่อร่างของเธอถูกดูดเข้าไปอย่างรวดเร็ว และก่อนที่หญิงสาวนั้นจะทันได้คิดอะไร ทุกสิ่งทุกอย่างก็มืดลงอีกครั้ง
เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกที จางเหม่ยอิงพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกอย่างดูแปลกตาและเหมือนหลุดมาจากหนังจีนโบราณที่เธอเคยดูตอนสมัยที่ยังเป็เด็ก
"เอ๊ะ! ที่นี่คือที่ไหนเนี่ย แล้ว… ฉันเป็ใคร?"
เธอพูดออกมาด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง แต่ก่อนที่จะได้ขบคิดอะไรต่อ หญิงสาวร่างเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งก็เข้ามาอย่างเร่งรีบด้วยสีหน้าใ
“คุณหนูเหม่ยอิง! ฟื้นแล้วหรือเ้าคะ?” บ่าวสาวพูดด้วยน้ำเสียงยินดีปนความโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด
จางเหม่ยอิงมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างสับสน... เธอดูยังเป็เด็กมาก ดูแล้วอายุไม่น่าจะเกิน 15 ปี
“เหม่ยอิง? คุณหนู? เดี๋ยวก่อนนะ เธอเรียกใครว่าเหม่ยอิง?” หญิงถามด้วยความประหลาดใจ จนบ่าวรับใช้สาวต้องหยุดมองหน้าเธออย่างสงสัย
“คุณหนูไม่สบายถึงขนาดจำตัวเองไม่ได้เลยหรือเ้าคะ?”
“ก็ใช่น่ะสิ!” จางเหม่ยอิงพูดพลางยกมือขึ้นลูบหัวตัวเอง “เธอช่วยบอกฉันที ว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน แล้วเธอคือใคร?”
“บ่าวชื่อหงเอ๋อร์เ้าค่ะ..” บ่าวสาวคนนั้นตอบเสียงสั่น พลางนึกในใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูของตน
“ที่นี่คือบ้านสกุลจาง และท่านก็คือคุณหนูจางเหม่ยอิง บุตรสาวคนที่สามของเสนาบดีกรมยุติธรรม จางซวนหลง กับฮูหยิน หวงเจียซิน”
จางเหม่ยอิงพยักหน้าหงึกหงักด้วยความงงงวย เธอเริ่มประมวลข้อมูลอันน้อยนิดที่อยู่ในหัว
“เดี๋ยวนะ... ฉันเป็บุตรสาวคนที่สามของเสนาบดีกรมยุติธรรม? หงเอ๋อร์ นี่เธอล้อฉันเล่นหรือเปล่า?”
“คุณหนู ข้ามิได้ล้อเล่นนะเ้าคะ ร่างกายท่านเพิ่งจะฟื้นจากอาการอ่อนแอ แถมท่านก็สลบไปเพราะหายใจไม่สะดวกอีก อาจจะเป็เพราะท่านเหนื่อยมากเกินไปหรือไม่ก็คิดถึงเื่ราวต่างๆ มากเกินไป”
หงเอ๋อร์ยิ้มแหยๆ ก่อนจะเริ่มปรนนิบัติคุณหนูจางเหม่ยอิงด้วยการช่วยจัดหมอนให้เข้าที่ และยกน้ำชามาวางไว้ข้างเตียง
“คุณหนู ดื่มชานี่เถอะเ้าค่ะ เผื่อจะช่วยให้ท่านรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง”
จางเหม่ยอิงรับถ้วยชามาดื่มอย่างเอื่อยเฉื่อย แต่เธอก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“นี่ฉันกลายเป็คุณหนูโบราณยุคจริงๆ ไปแล้วสินะ มันก็ดูไม่เลวเลยนะ”
หงเอ๋อร์ขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจเมื่อได้ยินคุณหนูจางเหม่ยอิงพูดจาแปลกๆ หลุดออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
"เอ่อ... คุณหนูเ้าคะ ท่านพูดถึงอะไรที่ว่าเป็คุณหนูในยุคโบราณนี่มันหมายความว่ายังไงกันเ้าคะ?"
“ก็ฉัน ข้าหมายถึงแบบ… เอ่อ ข้าก็แค่รู้สึกว่าทุกอย่างมันแปลกตาไปหมดน่ะ เหมือนตัวเองหลุดมาจากโลกอื่นอย่างนั้นเลย”
หงเอ๋อร์กะพริบตาปริบๆ ก่อนจะถือวิสาสะยกมือขึ้นแตะหน้าผากของจางเหม่ยอิงด้วยความกังวล
“คุณหนู หรือว่าท่านจะยังไม่หายดีจริงๆ? ทำไมถึงพูดแปลกๆ เช่นนี้? บ่าวกลัวว่าท่านอาจจะเพ้อเพราะพิษไข้เสียแล้ว”
จางเหม่ยอิงรีบโบกมือ “ไม่ใช่ ไม่ใช่! ข้าสบายดี ไม่ได้เพ้ออะไรหรอก ก็แค่รู้สึกแปลกๆ เท่านั้นเองน่ะ อย่าซีเรียสเลยนะหงเอ๋อร์!”
แต่หงเอ๋อร์ยังคงมองจางเหม่ยอิงด้วยสายตาไม่ค่อยมั่นใจนัก
“เช่นนั้นบ่าวขอล่ะ ท่านว่าโปรดอย่าพูดแปลกๆ อีกเลยเ้าค่ะ บ่าวกลัวใจจะขาดทุกครั้งที่ได้ยินคำพูดแปลกๆ จากคุณหนู!”
จางเหม่ยอิงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
“ตกลงๆ ข้าจะไม่พูดอะไรแปลกๆ อีกแล้ว แต่เธอ... เ้าต้องสัญญานะว่าจะไม่มองข้าเหมือนเป็คนบ้าอีก”
หงเอ๋อร์ยิ้มแหยๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ “บ่าวสัญญาเ้าค่ะ แต่ถ้าท่านพูดจาแปลกๆ อีก บ่าวก็จะถือว่าท่านยังไม่หายดีและจะเชิญหมอหลวงมาดูอีกครั้งนะเ้าคะ!”
และทันทีที่จางซวนหลง เสนาบดีแห่งกรมยุติธรรมและฮูหยินหวงเจียซิน ผู้เป็มารดาได้ข่าวว่าบุตรสาวคนงามฟื้นขึ้นมาจากความตายแล้ว ทั้งสองก็รีบเดินเข้ามาเยี่ยมในห้องนอนด้วยความดีใจ
“เหม่ยอิง ลูกแม่! เ้าเป็อย่างไรบ้างลูก” หวงเจียซินเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน ในขณะที่บิดายืนมองอยู่ด้านหลังด้วยท่าทีเคร่งขรึม แต่ภายในใจกลับร่อนรุ่มตรงข้ามกับท่าทีที่แสดงออกภายนอก
จางเหม่ยอิงยิ้มแหยๆ ในใจคิดว่าต้องใช้ไหวพริบนิดหน่อยเพื่อรับมือสถานการณ์นี้ สองคนนี้เป็ใครกัน ทำไมร่างเดิมไม่ทิ้งความทรงจำไว้ให้ฉันเลย เอาล่ะ ตายเป็ตาย แกล้งทำเป็จำไม่ได้แล้วกัน!
“เอ่อ... พวกท่านเป็ใครหรือเ้าคะ?” เธอทำหน้าเลิ่กลั่ก แสร้งทำเป็ใและสับสน
จางซวนหลงกับหวงเจียซินเบิกตากว้างพร้อมกันด้วยความใ
“เ้า…จำพ่อไม่ได้หรือ เหม่ยอิง?” บิดาเอ่ยอย่างตกตะลึง
จางเหม่ยอิงรีบหรี่ตาลงเล็กน้อย พยายามสวมบทบาทอย่างเต็มที่ “ข้า…จำอะไรไม่ได้เลยเ้าค่ะ ท่าน...พวกท่านเป็ใคร?”
หวงเจียซินยกมือปิดปากด้วยความใ พลางมองบุตรสาวด้วยสายตาเวทนา
"เหม่ยอิงของแม่ ความจำเ้าหายไปงั้นหรือ!? ไม่ได้ ไม่ได้ ข้าต้องรีบตามหมอ... ท่านพี่ ช่วยไปตามหมอมาเดี๋ยวนี้ได้ไหมเ้าคะ?"
จากนั้น เสนาบดีจางจึงออกไปตามหมอที่เก่งที่สุดในเมืองมาดูอาการของบุตรสาวสุดที่รัก แต่ทว่าไม่มีใครสามารถบอกได้แน่ชัดว่าคุณหนูจางเหม่ยอิงเป็อะไร ได้แต่สรุปเอาว่านางอาจได้รับผลกระทบจากตอนที่สลบไปอย่างกะทันหัน
“เอ่อ… ข้าคงต้องรบกวนให้พวกท่านช่วยแนะนำสิ่งต่างๆ ให้ข้าสักพักนะ” เธอพูดกับบ่าวรับใช้ที่ชื่อหงเอ๋อร์และพ่อบ้านที่มีชื่อว่าหลิวกงหยวน
“บ่าวจะช่วยดูแลท่านอย่างเต็มที่ มีอะไรที่สงสัยสามารถถามบ่าวได้ตลอด คุณหนูไม่ต้องกังวลไปนะเ้าคะ”
หลิวกงหยวน พ่อบ้านวัยกลางคนก็ยิ้มบางๆ ให้กับหญิงสาว
“คุณหนูวางใจได้ ข้าจะช่วยแนะนำทุกสิ่งทุกอย่างให้ท่านเอง ถึงท่านจะลืมอะไรไปหมด แต่พวกข้าจะไม่ยอมให้ท่านลืมเื่ที่สำคัญอย่างแน่นอน”
“เื่สำคัญ?” จางเหม่ยอิงทำหน้างง แต่ในใจก็นึกสนุกไปกับสถานการณ์นี้แล้ว เธอพยักหน้ารับราวกับนักสืบกำลังวางแผน
“ดีเลย เช่นนั้นข้าคงต้องฝากฝังตัวข้าไว้กับพวกเ้าชั่วคราวแล้วล่ะ!”
วันต่อมาภายใต้การดูแลของหงเอ๋อร์และหลิวกงหยวน ชีวิตของจางเหม่ยอิงได้เริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ทำให้เธอหลุดขำในใจได้อยู่บ่อยๆ หงเอ๋อร์ที่สอนการเย็บผ้า ก็ถึงกับทำหน้าใเมื่อจางเหม่ยอิงทำเข็มหลุดมือจนปักนิ้วตัวเอง
“โอ๊ย! เจ็บ!” จางเหม่ยอิงรีบโวยวายขึ้น ขณะที่หงเอ๋อร์วิ่งเข้ามาด้วยความใ
“คุณหนูระวังหน่อยเ้าค่ะ!” หงเอ๋อร์รีบหยิบผ้าพันแผลมาอย่างรวดเร็ว “ท่านเคยเย็บปักถักร้อยเก่งกว่า นี้ไม่ใช่หรือเ้าคะ?”
จางเหม่ยอิงหัวเราะเบา ๆ “ข้าแค่... ข้าจำไม่ได้ว่าน่ะต้องเย็บมันอย่างไร”
พลางแอบคิดในใจว่า ‘ฉันน่ะมือใหม่จริงๆ ก็เพราะไม่เคยเย็บผ้ามาก่อนเลยต่างหากล่ะ!’
ส่วนหลิวกงหยวนก็แนะนำประวัติครอบครัวและขนบธรรมเนียมในบ้านให้เธอฟัง แต่จางเหม่ยอิงกลับนั่งฟังด้วยสีหน้างุนงง ทำเอาพ่อบ้านถึงกับกลอกตา
“คุณหนู… อย่าได้ลืมเป็อันขาดว่าท่านเป็บุตรสาวคนที่สามของเสนาบดีจางซวนหลงนะขอรับ เวลาอยู่ต่อหน้าคนท่านต้องรักษากิริยาให้เหมาะกับชนชั้นขุนนาง”
จางเหม่ยอิงพยักหน้ารับ “โอเคๆ เอ่อ ได้ ข้าจะฟัง…แต่ว่ามันก็เยอะจังนะกฎเกณฑ์ของที่นี่”
เธอทำท่ากุมขมับแกล้งทำเป็เหนื่อย หงเอ๋อร์ที่เห็นเข้าก็อดยิ้มขำไม่ได้ คุณหนูของนางในตอนนี้ดูสดใสมากกว่าก่อนอยู่มากโข ถึงแม้จะชอบพูดจาแปลกๆก็ตามที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้