ห้องประชุมชั้นบนสุดของตึก ‘พี.เค. กรุ๊ป’ เย็นเฉียบราวกับไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แอร์ที่เปิดในอุณหภูมิต่ำสะท้อนความเยือกเย็นจากเ้าของห้องได้อย่างสมบูรณ์แบบ มิรายืนอยู่กลางห้อง กอดอกตัวเองแน่นราวกับจะให้ความอบอุ่น แต่ลึกๆ แล้วเธอรู้ว่ามันคือการพยายามตั้งการ์ดป้องกันตัวเองจากผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะกระจกขนาดั์
ธีร์เอนหลังพิงพนักเก้าอี้หนังสีดำสนิท เขาสวมชุดสูทสั่งตัดราคาแพงที่ขับเน้นรูปร่างสูงสง่าของเขาให้ดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้น เขาวางมือประสานกันบนโต๊ะ สายตาคมกริบจ้องมองเธออย่างประเมิน เหมือนราชสีห์ที่กำลังมองเหยื่อตัวน้อยที่หลงเข้ามาในถ้ำของมัน
บนโต๊ะระหว่างพวกเขามีเอกสารปึกหนึ่งวางอยู่...
“คุณยัง้าอะไรจากฉันอีก! ยังทรมานฉันไม่พอใจอีกเหรอ!” เธอเผลอขึ้นเสียง
“ใจเย็นสิมิรา” เขายกยิ้มมุมปากอย่างยียวน “ฉันแค่จะเสนอ ‘ทางออก’ ที่ดีกว่าให้เธอ... และให้พ่อของเธอ”
เขาใช้นิ้วชี้ดันแฟ้มเอกสารบนโต๊ะให้เลื่อนมาตรงหน้าเธอ มิราเหลือบมองมันด้วยหางตาอย่างไม่ไว้ใจ บนหน้าปกพิมพ์ตัวอักษรสีทองหรูหราว่า ‘สัญญาจ้างงาน’
“สัญญาบ้าอะไรอีก”
“ลองเปิดอ่านดูก่อนสิ บางทีเธออาจจะสนใจ”
มิราลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ยอมเปิดแฟ้มออกอย่างเสียไม่ได้ นิ้วเรียวสั่นเทาเล็กน้อยขณะพลิกกระดาษแผ่นแรก ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นหัวข้อสัญญา
ตำแหน่ง: ผู้ช่วยส่วนตัวประธานกรรมการบริหาร
ผู้ว่าจ้าง: นายธีร์ ปัญญากรภักดีศักดิ์
ผู้รับจ้าง: นางสาวมิรา...
“คุณบ้าไปแล้วรึไง!” เธอปิดแฟ้มเสียงดังปัง! “คุณคิดว่าฉันจะยอมกลับมาทำงานให้คุณเหรอ! หลังจากที่คุณ...” เธอพูดต่อไม่ออก ภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นย้อนกลับมาทำร้ายเธออีกครั้ง
“หลังจากที่ฉันทำให้เธอรู้ว่าเธอยัง้าฉันงั้นเหรอ” เขาพูดแทงใจดำอย่างเืเย็น
“ฉันเกลียดคุณ!”
“ก็ดี” เขาไม่สะทกสะท้าน “แต่ความเกลียดของเธอ มันจ่ายค่าผ่าตัดรอบต่อไปของพ่อเธอไม่ได้นะ”
คำพูดนั้นเหมือนหมัดหนักๆ ที่ชกเข้าที่ลิ้นปี่ของมิราจนจุก เธอทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามอย่างหมดแรง ใช่... พ่อของเธอต้องผ่าตัดอีกครั้งในเดือนหน้า และยังมีค่ากายภาพบำบัดและค่าดูแลต่อเนื่องอีกมหาศาล เงินสองล้านที่ได้มามันแค่พอสำหรับครั้งนี้เท่านั้น
“อ่านข้อเสนอของฉันให้จบก่อน” ธีร์พูดต่อ เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มอ่อนลง “ฉันจะจ่ายเงินเดือนให้เธอ เดือนละหนึ่งล้านบาทเป็เวลาสามเดือน และรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดของพ่อเธอจนกว่าท่านจะหายดี รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนตัวจิปาถะของเธอด้วย”
ข้อเสนอของเขามันดีเกินจริง ดีจนน่ากลัว “แล้ว... คุณ้าอะไรเป็การตอบแทน” เธอถามเสียงสั่น
“ฉันมีเงื่อนไขแค่ไม่กี่ข้อ” เขาชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว “หนึ่ง... ตลอดระยะเวลาในสัญญา เธอต้องย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของฉัน”
“อะไรนะ!”
“สอง... ห้ามติดต่อกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่เื่งาน” เขามองหน้าเธอนิ่ง “และสาม... ซึ่งสำคัญที่สุด เธอต้องทำหน้าที่ ‘คนของฉัน’ ให้สมบูรณ์แบบ”
“คนของคุณ...” เธอย้ำคำนั้นเสียงแ่ “มันหมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความตามที่เธอเข้าใจนั่นแหละมิรา” เขายกยิ้มอย่างผู้ชนะ “ผู้ช่วยส่วนตัวตอนกลางวัน และ... ผู้หญิงของฉันตอนกลางคืน”
เพียะ!
มิราลุกขึ้นตบหน้าเขาอีกครั้งอย่างสุดจะทน แต่ครั้งนี้ธีร์ไวกว่า เขารวบข้อมือเธอไว้ได้ทันก่อนที่ฝ่ามือบางจะััใบหน้าเขา เขาบีบข้อมือเธอแน่นจนเธอต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“คุณมันเลวที่สุด! คุณเห็นฉันเป็อะไร! เป็ตุ๊กตา เป็ที่ระบายความใคร่ของคุณงั้นเหรอ!”
“ถ้าการเป็ตุ๊กตาของฉัน มันช่วยต่อชีวิตพ่อเธอได้... เธอยังจะปฏิเสธอีกเหรอ” เขาโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูเธอ “อย่าลืมสิว่าเธออยู่ในสถานะไหน มิรา เธอไม่มีอำนาจต่อรองอะไรกับฉันทั้งนั้น”
น้ำตาแห่งความอัปยศไหลรินลงมาอาบแก้ม เธอสบตาเขานิ่ง ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความเ็ปและแตกสลาย “ทำไมต้องเป็ฉัน... ทำไมต้องทำกับฉันถึงขนาดนี้”
แววตาของธีร์วูบไหวไปชั่วครู่ ความแข็งกร้าวลดลง กลายเป็ความรู้สึกบางอย่างที่ซับซ้อน “เพราะถ้าไม่ใช่เธอ... ก็เป็ใครไม่ได้”
เขาปล่อยข้อมือเธอเป็อิสระ ก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิมอย่างใจเย็น “ฉันให้เวลาเธอตัดสินใจห้านาที ถ้าเธอไม่เซ็น ก็ถือว่าข้อเสนอนี้เป็โมฆะ และฉันจะไม่ยุ่งกับเธออีก แต่แน่นอน... เื่ค่ารักษาพยาบาลของพ่อเธอ เธอก็ต้องไปหาทางของเธอเอง”
ทุกคำพูดของเขาคือการบีบบังคับที่ไร้ทางหนีสิ้นดี มิรามองปากกาที่วางอยู่บนสัญญา สลับกับใบหน้าหล่อเหลาแต่ไร้หัวใจของเขา เธอหลับตาลง ภาพใบหน้าของพ่อลอยขึ้นมา... เธอไม่มีทางเลือกจริงๆ
“คุณแน่ใจนะ... ว่าหลังจากสามเดือนนี้ ทุกอย่างจะจบสิ้น” เธอถามเป็ครั้งสุดท้าย
“ฉันสัญญา” เขามองเธอนิ่ง “ถ้าเมื่อถึงวันนั้น เธอยัง้าจะไปจากฉัน... ฉันจะปล่อยเธอไปโดยไม่มีเงื่อนไข”
มิราหยิบปากกาขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทา เธอจรดปลายปากกาลงบนกระดาษแล้วเซ็นชื่อของตัวเองลงไปอย่างรวดเร็วราวกับกลัวว่าตัวเองจะเปลี่ยนใจ เส้นหมึกที่กรีดลงบนแผ่นกระดาษ เหมือนโซ่ตรวนที่มองไม่เห็นซึ่งกำลังจะผูกมัดชีวิตและหัวใจของเธอไปอีกสามเดือนข้างหน้า... หรืออาจจะตลอดไป
...เย็นวันนั้น ณ คฤหาสน์ปัญญากรภักดีศักดิ์...
รถยนต์ของธีร์เลี้ยวเข้ามาในอาณาบริเวณของคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาส่วนตัว มิรามองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง มันใหญ่โตและหรูหรากว่าที่เธอเคยจินตนาการไว้หลายเท่าตัว สวนสวยสไตล์ยุโรปถูกจัดแต่งอย่างประณีต น้ำพุขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางสนามหญ้า ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ... และเ็า
“ยินดีต้อนรับกลับค่ะคุณธีร์” ป้านวล หัวหน้าแม่บ้านวัยกลางคน ออกมาต้อนรับด้วยท่าทีนอบน้อม ก่อนจะเหลือบมองมิราที่ก้าวลงจากรถตามมาด้วยความแปลกใจเล็กน้อย
“ป้านวล นี่คุณมิรา ต่อไปนี้เธอจะมาพักที่นี่ในฐานะผู้ช่วยของผม ช่วยจัดห้องพักให้เธอด้วย” ธีร์สั่งเสียงเรียบ
“เอ่อ... ได้ค่ะคุณธีร์” ป้านวลรับคำ แม้จะยังสงสัยในสถานะของหญิงสาวแปลกหน้าคนนี้ “แล้วจะให้คุณมิราพักที่ห้องไหนดีคะ ห้องรับรองแขกฝั่งปีกซ้ายยังว่างอยู่ค่ะ”
“ไม่ต้อง” ธีร์ปฏิเสธทันที “ให้เธอพักห้องนอนข้างๆ ห้องของผม”
คำสั่งนั้นทำให้ทั้งมิราและป้านวลชะงักไปพร้อมกัน
“แต่ว่า... ห้องนั้นมันมีประตูเชื่อมกับห้องนอนของคุณธีร์นะคะ” ป้านวลท้วงอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ผมทราบ” ธีร์ตอบสั้นๆ “ทำตามที่ผมสั่ง”
สิ้นคำสั่งนั้น เขาก็เดินเข้าบ้านไปทันที ทิ้งให้มิรายืนตัวแข็งทื่ออยู่กับความรู้สึกที่เหมือนถูกฟ้าผ่าลงกลางใจ เขาจงใจ... เขาจงใจทำทุกอย่างเพื่อตอกย้ำว่าเธอไม่มีทางหนีเขาพ้น
ป้านวลพาเธอขึ้นไปยังชั้นสองของคฤหาสน์ ห้องนอนที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้เธอกว้างขวางและตกแต่งอย่างหรูหรา มีระเบียงส่วนตัวที่มองเห็นวิวเมืองได้ทั้งเมือง แต่สิ่งที่มิราสนใจมีเพียงอย่างเดียว... ประตูไม้บานเล็กๆ ที่อยู่ติดกับหัวเตียง
“นี่คือประตูที่เชื่อมกับห้องคุณธีร์ค่ะ” ป้านวลอธิบาย “ปกติจะล็อคไว้ แต่... คุณธีร์สั่งให้คนมาปลดล็อคออกแล้วเมื่อตอนบ่าย”
มิราแทบอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ นี่มันกรงทองชัดๆ กรงที่สวยงามแต่พร้อมจะจองจำเธอไปตลอดกาล
...ค่ำคืนแรกในฐานะ ‘คนของเขา’...
หลังจากที่จัดการธุระส่วนตัวเสร็จ มิราก็ถูกเรียกให้เข้าไปพบธีร์ที่ห้องทำงานของเขาซึ่งอยู่ชั้นล่าง เธอนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเขา พยายามเว้นระยะห่างให้มากที่สุด
“นี่คือตารางงานของผมในสัปดาห์นี้” เขายื่นเอกสารให้เธอ “หน้าที่ของเธอคือจัดการนัดหมายทั้งหมด ติดตามผมไปประชุม และจดบันทึกทุกอย่างที่ผมสั่ง ทำได้ไหม”
“แค่นี้เองเหรอ” เธอถามอย่างแปลกใจ งานมันดูง่ายกว่าที่คิด
“นี่แค่งานตอนกลางวัน” เขายกยิ้มเ้าเล่ห์ “ส่วนงานตอนกลางคืน... เราค่อยมาว่ากันอีกที”
ใบหน้าของมิราร้อนผ่าวขึ้นมาทันที “คุณมันทุเรศ!”
“ขอบคุณสำหรับคำชม” เขาไม่ใส่ใจ “ตอนนี้เริ่มงานแรกของเธอได้เลย ช่วยชงกาแฟให้ผมแก้วหนึ่ง ขอแบบเข้มๆ ไม่ใส่น้ำตาล”
มิรากำหมัดแน่น แต่ก็ต้องลุกไปทำตามที่เขาสั่งอย่างขัดไม่ได้ ขณะที่เธอกำลังง่วนอยู่กับเครื่องชงกาแฟราคาแพงที่มุมห้อง ธีร์ก็เดินเข้ามายืนซ้อนหลังเธออย่างเงียบเชียบ ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาที่เป่ารดต้นคอทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว
“คุณจะทำอะไร!” เธอหันขวับ เตรียมจะผลักเขาออกไป
แต่เขากลับเพียงแค่หยิบแก้วกาแฟที่เธอชงเสร็จแล้วไปเท่านั้น “กาแฟฝีมือเธอ... ยังหอมเหมือนเดิม” เขากระซิบ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงาน ทิ้งให้มิรายืนใจเต้นไม่เป็ส่ำ
คืนนั้นมิรานอนไม่หลับ เธอเอาหมอนข้างใบใหญ่มากั้นที่ประตูเชื่อมห้องราวกับว่ามันจะช่วยอะไรได้ เธอนอนพลิกไปพลิกมาอยู่หลายชั่วโมง จนกระทั่งเสียงเปิดประตูห้องของเธอดังขึ้น
แกร๊ก...
มิราลืมตาโพลงในความมืด ร่างสูงของธีร์ยืนอยู่ที่ปลายเตียง เขาสวมเพียงกางเกงนอนขายาวตัวเดียว เผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็ลอนสวยงาม
“คุณเข้ามาได้ยังไง!” เธอถามเสียงสั่น ลุกขึ้นนั่งดึงผ้าห่มมาปิดอก
“ประตูไม่ได้ล็อค” เขาตอบเรียบๆ ก่อนจะเดินอ้อมมานั่งลงบนเตียงข้างๆ เธอ “นอนไม่หลับเหรอ”
“ก็เพราะคุณนั่นแหละ! ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!”
“นี่ก็ห้องของฉันเหมือนกัน” เขาลูบไล้ไปตามแนวสันกรามของเธออย่างแ่เบา “และตัวเธอก็เป็ของฉัน... อย่าลืมสิ”
“ฉันไม่ใช่ของใคร!” เธอปัดมือเขาออก
“ปากแข็ง” เขาหัวเราะในลำคอ “แต่ร่างกายเธอมันฟ้องนะ... หัวใจเธอเต้นแรงขนาดนี้ ยังจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรอีกเหรอ”
เขาไม่รอให้เธอได้เถียงต่อ โน้มตัวลงมาบดเบียดริมฝีปากกับเธออย่างรวดเร็ว จูบครั้งนี้ไม่ได้อ่อนหวานเหมือนครั้งก่อน แต่มันเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ร้อนแรงและ้า เขากดท้ายทอยเธอไว้ไม่ให้หันหนี สอดลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากของเธออย่างจาบจ้วง ตักตวงความหอมหวานอย่างหิวกระหาย
มิราทุบไปที่อกแกร่งของเขาอย่างแรงเพื่อประท้วง แต่เขากลับรวบมือทั้งสองข้างของเธอไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวแล้วตรึงไว้เหนือศีรษะ มืออีกข้างที่ว่างอยู่เริ่มซุกซนลูบไล้ไปทั่วร่างของเธอผ่านชุดนอนผ้าลื่น
เขาถอนจูบออกเพื่อมองใบหน้าแดงก่ำของเธอ “คืนนี้... มาทำหน้าที่ของเธอให้สมบูรณ์เถอะนะ”
พูดจบ เขาก็กระชากชุดนอนของเธอจนขาดวิ่นไม่เหลือชิ้นดี เผยให้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าที่เขาปรารถนา ธีร์มองภาพนั้นด้วยสายตาที่ลุกโชน ก่อนจะก้มลงไปทรวงอกอิ่มอีกครั้งอย่างตะกละตะกลาม
“อ๊ะ... ธีร์... อย่า” เธอครางประท้วงเสียงสั่น แต่กลับกลายเป็เชื้อไฟชั้นดีที่โหมกระพือความ้าของเขาให้รุนแรงขึ้น
เขาดูดดึงและขบเม้มยอดถันของเธอจนมันบวมเป่งและเปลี่ยนเป็สีแดงก่ำ มือหนาก็เลื่อนลงไปสำรวจที่จุดอ่อนไหวที่สุดของเธอ นิ้วเรียวยาวค่อยๆ แทรกผ่านกลีบกุหลาบที่เริ่มชุ่มฉ่ำเข้าไปทักทายอย่างช่ำชอง
“อ๊า!” มิราแอ่นกายขึ้นรับััเสียวซ่านนั้นอย่างลืมตัว ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเลือนหายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงความปรารถนาที่ร่างกายเรียกร้อง
เมื่อเห็นว่าเธอพร้อมเต็มที่แล้ว ธีร์ก็ไม่รอช้า เขาจัดการกับกางเกงของตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจับขาเรียวของเธอพาดไว้บนบ่าของเขา แล้วกดแก่นกายที่ร้อนผ่าวและแข็งขืนของเขาเข้ามาในตัวเธอจนสุดลำในคราวเดียว
“กรี๊ด!” มิราร้องออกมาด้วยความเ็ประคนเสียวซ่าน
เขาเริ่มขยับสะโพกเป็จังหวะที่หนักหน่วงและรุนแรงราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ ทุกการกระแทกกระทั้นของเขาเต็มไปด้วยความ้าและตอกย้ำความเป็เ้าของ เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วห้อง ผสมกับเสียงครางที่ไม่เป็ศัพท์ของเธอ
“มิรา... มองฉัน” เขาสั่งเสียงพร่า “บอกฉันสิว่าตอนนี้เธอเป็ของใคร”
“ฉัน... อ๊ะ... เป็ของ... คุณ” เธอสารภาพออกมาอย่างจำนนต่อแรงปรารถนา
“ดีมาก...” เขายิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วและแรงขึ้นอีก จนกระทั่งร่างกายของคนทั้งสองกระตุกเกร็งอย่างรุนแรงพร้อมกัน ธีร์ปลดปล่อยทุกหยาดหยดแห่งความปรารถนาเข้าไปในตัวเธอจนหมดสิ้น
เขายังคงแช่กายอยู่ในตัวเธอ ไม่ยอมถอนออกไปไหน เขาก้มลงกระซิบข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะ “จำไว้มิรา... ต่อให้เธอจะเกลียดฉันแค่ไหน แต่ร่างกายของเธอ... มันเป็ของฉันเสมอ”
...เช้าวันรุ่งขึ้น...
ธีร์ยืนมองเอกสารบนโต๊ะ แต่ในหัวกลับนึกถึงเื่เมื่อคืน เขากำลังหลงระเริงอยู่ในเกมที่ตัวเองสร้างขึ้น... เกมที่อาจจะทำร้ายทั้งเธอและเขาไปพร้อมๆ กัน
“คุณธีร์ครับ” วิทย์ ผู้ช่วยของเขาเดินเข้ามาในห้อง “คุณพิมพ์โทรมาอีกแล้วครับ เธอบอกว่าถ้าคุณธีร์ยังไม่ยอมคุยกับเธอดีๆ เธอจะมาหาคุณธีร์ที่นี่ด้วยตัวเองครับ”
“พิมพ์...” ธีร์ขมวดคิ้วอย่างรำคาญ ผู้หญิงคนนี้มักจะสร้างปัญหาให้เขาเสมอ “แล้วเธอบอกไหมว่ามีเื่อะไร”
“เธอบอกว่า... เป็เื่เกี่ยวกับผู้หญิงคนใหม่ของคุณธีร์ครับ”
คำพูดนั้นทำให้ธีร์ชะงัก แววตาของเขาเปลี่ยนเป็เ็าและน่ากลัวในทันที “บอกเธอไปว่าอย่ามายุ่งเื่ของฉัน! ถ้าเธอก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้แม้แต่ก้าวเดียว... เธอจะได้รู้ว่านรกมีจริง!”
เขาหันไปมองออกไปนอกหน้าต่าง ที่ระเบียงห้องนอนของมิรา เขาสามารถมองเห็นร่างบางที่ยืนเหม่อมองท้องฟ้าอยู่ไกลๆ
‘ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้วมิรา... ไม่ว่าคนนั้นจะเป็ใครก็ตาม’ เขาให้คำสัตย์กับตัวเองในใจ
เธอเซ็นสัญญาด้วยมือ แต่ร่างกายและหัวใจกลับตกอยู่ในพันธะที่ไม่มีลายเซ็นใดจะปลดได้... และเมื่อ ‘ศัตรู’ คนใหม่ปรากฏตัวขึ้น ธีร์จะปกป้องเธอได้จริงหรือ หรือทั้งหมดนี้เป็เพียงเกมที่เขาใช้เธอเป็หมากตัวหนึ่งในสนามรบที่มองไม่เห็น
ติดตามอ่านตอนต่อไป
