อย่างไรก็ตามฉินเฟิงไม่หยุด เขาได้รับภารกิจให้ฝึกสวี่รั่วโหรวดังนั้นเขาอยากจะบังคับให้สวี่รั่วโหรวยืนกรานบอกเขาให้หยุด แน่นอนว่าเขาเองก็มีความสุขด้วย
ก่อนที่สวี่รั่วโหรวจะหนีจากฉินเฟิงได้เขารีบจับเท้าของเธอ ทำให้ส้นสูงของเธอหล่น เมื่อลูบกับน่องที่เรียบเนียนของเธอฉินเฟิงก็รู้สึกยินดีปรีดาอย่างยิ่ง
ถ้าเขารู้ว่ามาทำงานมันยอดเยี่ยมขนาดนี้เขาคงไม่ต้องให้ฉินหวงมาบังคับหรอก
“อ๊าย...ฉินเฟิง ฉันขะ...ขอร้อง ปล่อยฉันไปนะ เรายังทำงานกันอยู่”สวี่รั่วโหรวกลัวมากจนปิดปาก ไม่กล้าให้เสียงออกมาเยอะ เธอไม่อยากให้คนอื่นๆเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าขยับเธอจ้องที่หน้าจอต่อไปและทำเป็ว่ากำลังอ่านเอกสาร
อย่างไรก็ตามใบหน้าที่สวยงามของเธอแดงก่ำ
แน่นอนว่าฉินเฟิงไม่ปล่อยไปทั้งอย่างนั้นแต่เขากลับใช้มือเริ่มเลื่อนขึ้นไปมากขึ้นๆ และทะลึ่งมากขึ้นแทน ที่ที่พวกมัน(มือ) ไป พวกมัน (มือ) จะบีบไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดรอยแดงขึ้นมา
หัวใจของสวี่รั่วโหรวเต้นรัวและดวงตาที่โตของเธอก็มองฉินเฟิงอย่างน่าสงสารเธอกัดฟันต่อไปแม้ว่าเธอจะไม่ชอบแบบนี้เธอไม่สามารถบอกให้ฉินเฟิงหยุดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดได้
เพียงแค่ว่าเมื่อมือใหญ่ของฉินเฟิงถึงภายใต้กระโปรงของเธอและวางอยู่บนต้นขาสวี่รั่วโหรวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอเตะฉินเฟิงทันทีเพื่อไล่มือของเขาไป
“ฉินเฟิง ดะ...ได้โปรดอย่ายุ่งกับฉันเลย ฉันไม่ชอบแบบนี้”น้ำตาไหลอาบหน้าของสวี่รั่วโหรว เพราะฉินเฟิงเพิ่งได้รับภารกิจเขาจึงคึกคักไปหน่อย อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยคิดว่าสวี่รั่วโหรวจะเริ่มร้องไห้ทำให้เขารู้สึกผิดเต็มที่
หลังจากที่ส่งกระดาษทิชชูให้ไม่กี่แผ่นฉินเฟิงก็พูดด้วยรอยยิ้ม “น้องรั่วโหรว อย่าร้องเลย ฉันแค่ล้อเล่นเอง”
เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงหยุดจริงๆและนั่งพิงเก้าอี้อย่างที่สมควรสวี่รั่วโหรวก็ยอมรับทิชชูและเช็ดน้ำตาขณะที่พูดอย่างเบาๆ “โอเคงั้นฉันจะทำงานต่อ”
นิสัยที่เขินอายและน่ารักของเธอทำให้ฉินเฟิงรู้สึกถนอมเธอแล้วเขาก็คิดถึงหลินเป้ยเป้ย หลินเป้ยเป้ยเป็สาวสวยที่อ่อนแอและโศกเศร้าแต่ก็ไม่ได้เขินอายถึงขนาดไม่ยอมขัดขืน
หลังจากที่ตัดสินใจหยุดไปมหาวิทยาลัยสักพักเขาได้บอกจ้าวหลิงเซียน แต่ยังไม่มีเวลาบอกหลินเป้ยเป้ยกับหยุนเซียวเขาตัดสินใจว่าเขาจะไปหาพวกเธอถ้าว่าง
ส่วนสวี่รั่วโหรวที่กำลังตั้งใจทำงานอยู่ตอนนี้ฉินเฟิงไม่รบกวนเธออีกต่อไป หลังจากฆ่าเหลียงเจิ้นเวย เขาได้รับแต้มสำราญ 1,000แต้ม แต่ยังหาเวลาใช้ไม่ได้ด้วยเหตุนี้เขาจึงเอนหลังพิงกับเก้าอี้ขณะที่เปิดระบบราชันเ้าสำราญไปด้วย
เมื่อไรที่ฉินเฟิงเปิดระบบขึ้นเขาทำได้แค่มองไอเทมที่ราคาต่ำกว่า 500 แต้มเท่านั้นเพื่อที่เขาจะได้แข็งแกร่งขึ้น ภารกิจก็เริ่มจะยากขึ้น แต่รางวัลก็แจ่มขึ้นเช่นกันเขาเริ่มมองไอเทมที่ราคา 1,000 แต้มขึ้นไป
ไอเทมที่มีค่ามากกว่า1,000แต้มจะแยกเป็ 3 หมวด : หมวดวิชาการฝึกฝนหมวดอุปกรณ์ที่ดูเท่และมีสง่าราศีและหมวดยาครอบจักรวาลสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกันระดับและขั้นที่แตกต่างกันของมันก็จะมีราคาที่แตกต่างกันมากมายมหาศาลตามไปด้วย
ตอนนี้ฉินเฟิงยังอยู่ที่มนุษย์เ้าสำราญขั้นที่สี่และไม่มีสิทธิ์ที่จะปลดล็อกไอเทมเร้นลับบางชนิดมากกว่านี้ได้หลังจากใช้ไป 10,000 แต้มสำราญเขาจะสามารถปลดล็อกการเชื่อมต่อนิยายกำลังภายในเขามั่นใจว่ามันอาจจะมีวิชาและอุปกรณ์ที่ท้าทาย์มากมายอยู่ในนั้นแต่มันต้องไม่ถูกแน่นอน
“นายท่านๆตอนนี้นายท่านสามารถเรียกได้ว่าเป็อัจฉริยะที่สามารถฝึกได้ทั้งกำลังภายในและกำลังภายนอกแล้วนายท่านมีหมัดพยัคฆ์คำรนขั้นกลางของกำลังภายนอกและวิชากระบี่พื้นฐานของกำลังภายในอย่างไรก็ตาม วิชากระบี่พื้นฐานนั้นจำเป็ต้องใช้ร่วมกันกับอาวุธประเภทกระบี่พวกมันไม่มีประโยชน์มากนักตอนที่นายท่านไม่มีอาวุธข้าแนะนำให้นายท่านซื้อวิชาหมวดกำลังภายในที่ไม่จำเป็ต้องใช้อาวุธเพื่อที่จะได้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก”เ้าหมูน้อยกล่าวทันที
หลังจากมองดูพวกไอเทมแบบผ่านๆสักพักหนึ่ง ฉินเฟิงก็ตาลายเพราะมันเยอะเหลือเกิน แถมเขาก็ยังไม่รู้ว่าจะซื้ออะไร“เ้าหมูน้อย แนะนำวิชากำลังภายในเจ๋งๆ ให้ฉันหน่อยสิ” เขากล่าว
ั้แ่ที่เ้าหมูน้อยพ่นลูกไฟออกมาฉินเฟิงก็ต้องให้ความเคารพมันอย่างช่วยไม่ได้ เ้าหมูน้อยตอบอย่างภูมิใจ “นายท่านข้าแนะนำให้ท่านเก็บแต้มสำราญ 3,000 แต้มเพื่อซื้อวิชาดาบวายุ”
หลังจากได้ยินเ้าหมูน้อยพูดฉินเฟิงก็รีบมองดูทั้งระบบทันที
วิชาดาบวายุ
ระดับวิชา: ดินขั้นต่ำ (ลำดับขั้นวิชา : เหลือง ดำ ดิน ฟ้า ราชัน)
หลังจากได้รับวิชานี้ผู้ใช้สามารถรวบรวมพลังลมปราณเพื่อปล่อยดาบสายลมล่องหนออกไปอย่างรวดเร็ว รุนแรงและแม่นยำ! เป็วิชาที่ใช้สังหารคนได้อย่างรวดเร็ว
แต้มสำราญที่ต้องใช้: 3,000
...
เมื่ออ่านรายละเอียดของดาบวายุฉินเฟิงก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันทีและพบว่าระบบนี่มันก็มีเอกลักษณ์อยู่
อย่างไรก็ตามวิชาคมดาบวายุใช้แต้มสำราญตั้ง 3,000 แต้มฉินเฟิงจำเป็ต้องทำภารกิจแบบยากอย่างน้อย 1 ภารกิจเพื่อซื้อมันหลังจากนึกถึงภารกิจที่ยากที่สุดที่เขามีอยู่ เขาจึงตัดสินใจว่าจะใช้แต้มสำราญ 1,000แต้มตอนนี้ก่อนดีกว่าทั้งนี้เพราะเขาต้องได้บางอย่างที่ต้องใช้ให้เร็วที่สุด
เ้าหมูน้อยรู้ความคิดของฉินเฟิงและก่อนที่เขาจะพูดอะไรมันก็บอก “นายท่าน ถ้านายท่านไม่อยากจะเก็บแต้มสำราญให้ถึง 3,000แต้มเพื่อซื้อวิชาดาบวายุ นายท่านลองระบบหลอมก็ได้
ฉินเฟิงจำได้ทันทีว่าหลังจากใช้แต้มสำราญ1,000แต้มแล้ว เขาจะกลายเป็มนุษย์เ้าสำราญขั้นสี่ซึ่งจะปลดล็อกระบบหลอม แต่เพราะเขาได้เกราะับินมาจากจับสลากเขาจึงตื่นเต้นมากไปจนลืมเื่นี้ไปเลย
เขารีบเปิดระบบหลอมขึ้นมาทันที
หลังจากมองทั่วแล้วฉินเฟิงก็ตกตะลึงโดยสิ้นเชิง ระบบหลอมทำให้เขาสามารถผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันตัวอย่างเช่น หมัดพยัคฆ์คำรนเบื้องต้นสามารถหลอมเป็หมัดพยัคฆ์คำรนขั้นกลางกระบี่เจินกังระดับส้มสามารถหลอมเป็กระบี่เจินกังระดับน้ำเงินและอย่างเกราะับินก็สามารถทำได้ยาผสานทองขั้นต้นก็สามารถผสมเป็ยาสมานทองขั้นกลางได้เช่นกัน
ตราบใดที่เขามีแต้มสำราญเพียงพอเขาสามารถหลอมอะไรก็ได้ที่เขา้า
สิ่งที่ดึงดูดใจฉินเฟิงมากที่สุดคือการหลอมสัตว์อสูรเขาแปลกใจที่แม้แต่สิ่งมีชีวิตก็สามารถหลอมได้ รวมถึงสิ่งมีชีวิตประเภทบินประเภทเลื้อยคลาน เดิน หรือประเภทว่ายน้ำ
มันแบ่งเป็สามระดับ: น้ำ ดิน ฟ้า และค่าใช้จ่ายในการหลอมก็แตกต่างกันไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้