ไม่นานหลังจากนั้น ชายสามคนพุ่งทะยานมาทางนี้ด้วยความเร็วสูง!
นอกจากจ้าวพยัคฆ์ชิวเทียนฉี่แล้ว ยังมีอีกสองท่านติดตามมาด้วย คนหนึ่งสูงใหญ่ อีกคนหนึ่งร่างอ้วน คนตัวสูงนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจ้าวสำนักิญญาเมฆา...ชื่อถิงเทียน! ส่วนคนอ้วนนั้นคือจ้าวเหวินจัวที่เซียวหลิงอวิ๋นรู้จักเป็อย่างดี!
จ้าวเหวินจัวบังเอิญกำลังสนทนาอยู่กับจ้าวสำนักชื่อ เมื่อเขาได้ยินจ้าวพยัคฆ์รายงาน แน่นอนว่าเขาย่อมต้องตามมาด้วย ทันทีที่เขาลงจอดก็พบว่าเป็เซียวหลิงอวิ๋นจริงๆ!
จ้าวเหวินจัวสามารถบอกได้ทันทีว่าเซียวหลิงอวิ๋นบรรลุมาถึงนักยุทธ์ระดับห้าแล้ว!
สุดยอด เขาบรรลุเป็นักยุทธ์ระดับห้าแล้วจริงด้วย! ความเร็วในการฝึกวิชาช่างเยี่ยมยอดนักมาก!
จ้าวเหวินจัวเป็คนที่ฉลาดมาก รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของเซียวหลิงอวิ๋นเป็อย่างดีอยู่แล้ว ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าอัจฉริยะขั้นสูงสุดที่จ้าวพยัคฆ์กล่าวถึงนั้นคือเซียวหลิงอวิ๋น! จึงรีบเข้าไปทักทายเซียวหลิงอวิ๋นอย่างกระตือรือร้นต่อหน้าเ้าสำนักชื่อ “หลิงอวิ๋น ลำพังการทดสอบพลังยุทธ์เพียงอย่างเดียว เ้าก็ทำลายสถิติของสำนักเราไปแล้ว ฮ่าๆๆ!”
“ศิษย์พี่ เด็กคนนี้คือ...” เ้าสำนักชื่อรู้สึกงุนงงขึ้นมา ศิษย์คนนี้ไม่ใช่คนคนเดียวกันกับที่เขาและท่านอาจารย์ลุงพบในตลาดนอกสำนักเมื่อวันก่อน เป็หนึ่งคนที่สามารถเอาชนะสองคนได้หรอกหรือ? ไฉนศิษย์พี่อ้วนจ้าวกับศิษย์คนนี้ถึงได้ดูสนิทสนมกันอย่างมาก!
“ฮ่าๆๆ นี่คือศิษย์น้องคนโปรดของข้าเอง ชื่อเซียวหลิงอวิ๋น!” ผู้าุโจ้าวที่กำลังรอให้เ้าสำนักชื่อถามอยู่แล้ว หัวเราะและตอบกลับไปทันที!
ศะ...ศิษย์น้อง! ในเวลานี้แม้แต่จ้าวพยัคฆ์-ชิวเทียนฉี่และหัวหน้าเขตหวังฉงเอินยังรู้สึกงุนงง! ศิษย์ที่มีพร์คนนี้ ที่แท้กลับกลายเป็ศิษย์น้องของผู้าุโจ้าว ทำให้ใครหลายคนตระหนักได้ในทันที: ให้ตายสิ ศิษย์พี่อ้วนจ้าวนี่ช่างไร้ยางอายเสียจริง! ครั้นรู้ว่าอีกฝ่ายเป็อัจฉริยะขั้นสูงสุดแล้ว ก็แต่งตั้ง ‘ฐานะ’ ให้อีกฝ่ายต่อหน้าผู้คนทันที!
เด็กคนนี้คืออัจฉริยะขั้นสูงสุดที่ทำลายสถิติของสำนักได้จริง หรือ? ในที่สุดเ้าสำนักชื่อก็ตั้งสติขึ้นมาได้! เหมือนมีอัลปาก้าหมื่นตัวกำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่งอยู่ในใจเขา[1]!
ให้ตายสิ เ้าเด็กนี่ช่างน่ากลัวจริงๆ ในวันนั้นท่านอาจารย์ลุงเองก็เตือนเราเอาไว้เช่นกัน เหตุใดถึงไม่ใส่ใจเขาให้มากกว่านี้กันนะ! ตอนนี้จะยึดเอาฐานะนี้มาจากศิษย์พี่อ้วนจ้าวก็เป็เื่ยากแล้ว!
“ศิษย์คนนี้ เ้าชื่อ...” เ้าสำนักชื่อมองไปที่เซียวหลิงอวิ๋นด้วยสีหน้าที่เป็มิตร!
“เซียวหลิงอวิ๋น!” จ้าวเหวินจัวที่อยู่ใกล้ๆ ตอบแทนเซียวหลิงอวิ๋นทันที!
เ้าสำนักชื่อพูดไม่ออกอีกรอบ! เมื่อศิษย์พี่อ้วนจ้าวประกาศความเป็เ้าของอีกครั้ง!
“หลิงอวิ๋นงั้นรึ? เ้าช่วยแสดงให้ข้าและผู้าุโจ้าวให้เห็นอีกครั้งได้หรือไม่?”
เมื่อได้ยินเ้าสำนักเรียกผู้าุโจ้าวว่า ‘ศิษย์พี่’ กับ หูของตัวเอง รวมถึงการที่ผู้าุโจ้าวสามารถพูดเล่นไร้แก่นสารต่อหน้าเ้าสำนักได้เช่นนี้ จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าฐานะและพลังที่แท้จริงของผู้าุโจ้าว รวมถึงอำนาจที่หนุนหลังเขาอยู่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเ้าสำนักเลย การมีผู้าุโจ้าวคอยหนุนหลังเช่นนี้แล้ว ไม่มีอะไรต้องเสียทั้งนั้น! เซียวหลิงอวิ๋นคิดเช่นนี้ในใจ!
“ได้ขอรับ!” ทั้งสองท่านที่อยู่ตรงหน้าเขาต้องมีฐานะสูงที่สุดในสำนักิญญาเมฆาอย่างไม่ต้องสงสัย! หากเขาไม่รีบแสดงพลังให้เต็มที่เสียั้แ่ตอนนี้แล้ว ก็ไม่รู้จะเก็บไปใช้เวลาไหนอีก!
เืที่สูบฉีดหัวใจของเขาพลุ่งพล่านอย่างเต็มที่ ร่างกายเดือดพล่านไปด้วยจิติญญาแห่งการต่อสู้!
เซียวหลิงอวิ๋นทุ่มพลังเต็มศักยภาพของเขาใส่ลงไปในหมัดนี้!
“เปรี้ยง!” เสียงดังสนั่นก้องไปทั่วทั้งลานฝึกวิชา! ‘หนึ่งพันสองร้อยหกสิบเก้า’ ตัวเลขที่น่าตกตะลึงปรากฏอีกแล้ว! ที่น่าใขึ้นไปอีกคือความแรงเพิ่มขึ้นจากเดิมถึงห้าสิบแปดเมื่อเทียบกับรอบก่อน
สัตว์ประหลาด สัตว์ประหลาดชัดๆ! ความคิดคล้ายกันในใจของทุกคนเกิดขึ้นเมื่อได้เห็นภาพนี้!
ในหมู่พวกเขา ผู้าุโจ้าวรู้สึกตื่นเต้นและยินดีมากเป็พิเศษ!
ฮ่าๆๆ เ้าเด็กนี่สุดยอดจริงๆ พลังของเขาช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก! ฮ่าๆๆ ด้วยตำรับยาทั้งสาม รวมถึงตัวหลิงอวิ๋นที่เป็สุดยอดอัจฉริยะแล้ว คราวนี้แหละ ข้าจ้าวเหวินจัวคนนี้จะได้พลิกสถานะของตนเอง ท่านอาจารย์ลุง ในที่สุดข้าก็จะได้กลับไปหาท่านที่สำนักหลักแล้ว!
หลังจากนั้นผู้าุโผู้าุโทั้งสี่ท่านก็ตามศิษย์กลุ่มที่สิบเก้าไปยังรายการทดสอบต่อไปด้วย!
การทดสอบรายการที่สอง ทดสอบความเร็ว!
ตรงหน้าเป็ลู่วิ่งความยาวสองกิโลเมตร ระหว่างทางจะมีกับดักติดตั้งอยู่ห้าจุด สิ่งกีดขวางไม้ห้าจุด และผนึกอาคมโจมตีสิบจุด ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เปลี่ยนแปลงไปแบบสุ่ม!
จากกลุ่มใหญ่หนึ่งร้อยคนจะถูกแบ่งออกเป็สิบกลุ่ม ในแต่ละครั้งจะมีผู้เข้ารับการทดสอบสิบคน ผลการทดสอบจะถูกสรุปเมื่อคนผู้นั้นผ่านสิ่งกีดขวางในจุดสุดท้ายไปได้! ทุกครั้งที่ติดกับดัก ถูกโจมตีด้วยสิ่งกีดขวางไม้ หรือถูกโจมตีโดยผนึกอาคม เวลาที่ได้จะถูกหักออก
ดังนั้นคนประเภทบ้าพลังที่อาศัยร่างกายอันกำยำของตนเอง บุกตะลุยฝ่าสิ่งกีดขวางและผนึกอาคมไปจนถึงเส้นชัยสุดทาง ก็ใช่ว่าจะได้รับผลคะแนนที่ดีที่สุด!
การทดสอบนี้ไม่ได้วัดแค่ความเร็วเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทักษะความสามารถในการหลบหลีกด้วย!
ในบรรดาสิบคนแรก ผู้ที่ได้คะแนนดีที่สุดติดกับดักไปสอง รอบ ถูกสิ่งกีดขวางจุดแรกกระแทกไปหนึ่งรอบ และถูกผนึกอาคมโจมตีไปห้ารอบ หลังจากหักเวลาที่ได้แล้ว ผลสรุปเวลาที่ได้รับคือหนึ่งร้อยยี่สิบแปดชั่วอึดใจ! และผลสรุปเวลาที่แย่ที่สุดคือสามร้อยเจ็ดสิบหกชั่วอึดใจ!
ภายในเวลาไม่นานแปดกลุ่มแรกก็ทำการทดสอบเสร็จสิ้นผลสรุปเวลาที่ดีที่สุดอยู่ที่หกสิบห้าชั่วอึดใจ!
สถิติผลสรุปเวลาที่ดีที่สุดในการทดสอบนี้คือสิบหกชั่วอึดใจ! เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่สามารถผ่านกำแพงเวลาสามสิบชั่วอึดใจมาได้ ถือว่าเป็อัจฉริยะที่มีพร์ยอดเยี่ยมแล้ว!
เมื่อเห็นสมาชิกของกลุ่มที่เก้า รวมถึงเซียวหลิงอวิ๋นมายืนอยู่ตรงทางเข้าลู่วิ่งทดสอบแล้ว เหล่าผู้าุโรวมถึงศิษย์ทุกคนที่เข้ารับการทดสอบเสร็จแล้ว และศิษย์กลุ่มที่ยังไม่ได้เข้าร่วมในการทดสอบ ต่างก็พากันถ่างตาให้กว้างขึ้น!
หลิงอวิ๋นสู้ตาย! จ้าวเหวินจัวยังอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่นและเชียร์เซียวหลิงอวิ๋นอยู่ภายในใจ!
ในขณะที่สองถึงสามกลุ่มแรกเข้าร่วมการทดสอบ เซียวหลิงอวิ๋นจับตามองอย่างตั้งใจ เพื่อดูว่าตัวเขาจะสามารถหารูปแบบการโจมตีของกับดักได้หรือไม่ แต่หลังจากที่สังเกตการทดสอบของศิษย์ทั้งแปดกลุ่มแรกแล้ว เขาก็พบว่ากับดักในการทดสอบนี้มีรูปแบบการโจมตีโดยเปลี่ยนแปลงแบบสุ่ม ไม่มีกฎเกณฑ์ใดตายตัวเลย!
ทำได้แค่เพียงตอบสนองไปตามสถานการณ์จริงหลังจากที่เข้าสู่การทดสอบแล้วเท่านั้น!
“เริ่มได้!” สิ้นคำสั่งของอาจารย์ผู้สอน ศิษย์ทั้งสิบคนต่างก็ออกตัวพร้อมกัน พากันวิ่งไปข้างหน้า!
ทันทีที่เซียวหลิงอวิ๋นก้าวเท้าออกไป ตัวของเขาก็พุ่งทะยานไปข้างหน้า แต่ก็พุ่งออกไปได้แค่สิบเมตรเท่านั้น!
ทันใดนั้นเงาดำก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา!
ให้ตายสิ ท่อนไม้มาเร็วอะไรเช่นนี้! ดวงตาของเซียวหลิงอวิ๋นหรี่ลง ในขณะเดียวกันปลายเท้าของเขาก็เหยียดยันลงกับพื้น ก่อนที่ตัวของเขาจะลอยสูงขึ้นเหนือพื้นดิน ปล่อยให้เ้าท่อนไม้ที่หนาพอๆ กับชามข้าวกวาดลอดผ่านเท้าของเขาไป!
‘ตุบ’ หลังจากร่อนลงสู่พื้น เขากลับมาเร่งฝีเท้าอีกครั้ง! แต่ในขณะที่กำลังเร่งความเร็วอยู่นี้ จู่ๆ แสงสีแดงสว่างวาบก็แผดจ้าขึ้นตรงหน้า!
“เหวอ!” เซียวหลิงอวิ๋นสะดุ้งเล็กน้อย เบี่ยงตัวหลบฉากออกไปด้านข้าง! “ฟิ้ว” ผนึกอาคมวิ่งผ่านตัวเขาไปกระแทกเข้ากับผนังของลู่วิ่งที่อยู่ใกล้ๆ ทำให้กำแพงลู่วิ่งเกิดรอยแตกทันที! แม้ว่าพลังของผนึกอาคมนี้จะเบาบางและไม่เป็อันตรายต่อศิษย์เท่าไร แต่หากปะทะเข้ากับร่างกายแล้ว แรงกระแทกดังกล่าวอาจมากพอๆ กับลูกธนูหินที่ลบคมออกแล้วสามร้อยดอก
แรงกระแทกถึงเพียงนี้ย่อมทิ้งรอยช้ำเอาไว้บนร่างกายอย่างแน่นอน! ลำพังความเ็ปอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้ความเร็วของบรรดาศิษย์ลดลงอย่างมากแล้ว!
เมื่อความเร็วลดลง หรือว่าผ่อนคลายลงแม้เพียงเล็กน้อย การโจมตีครั้งต่อไปก็จะตามมา!
“อ๊าก โอ๊ย” เสียงร้องของศิษย์คนอื่นๆ ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่านี่เป็เพียงด่านเริ่มต้นเท่านั้น ทว่าศิษย์บางคนกลับพลาดท่าเข้าให้แล้ว!
เซียวหลิงอวิ๋นที่กำลังใช้สมาธิด้วยความสงบเยือกเย็นอยู่ ทำให้ตนกลายเป็คนหูหนวกไปชั่วขณะ และเริ่มตั้งสติอย่างเต็มที่ให้กับการทดสอบนี้ หลังจากหลบการโจมตีของผนึกอาคมมาได้ เขาก็ออกแรงไปที่เท้าอย่างเต็มที่อีกครั้ง และรีบวิ่งไปข้างหน้าทันที!
ทันใดนั้นลางสังหรณ์เตือนภัยพลันปรากฏขึ้นในหัว ร่างผอมเพรียวของเซียวหลิงอวิ๋นทะยานขึ้นไปในอากาศ ะโข้ามไปข้างหน้าเป็ระยะทางแปดเมตร ก่อนจะทิ้งตัวลงมากลิ้งกับพื้น ครั้นลุกขึ้นยืนได้ก็วิ่งไปข้างหน้าต่อ ส่วนสิ่งที่อยู่ข้างหลังเขาก็คือพื้นดินที่มีลักษณะเหมือนทรายดูด มันคือกับดักนั่นเอง!
ฟิ้วววว ตัวของเขาก้มต่ำลง จนตัวแทบจะไถลไปกับพื้นดิน พร้อมกับท่อนไม้อีกท่อนที่กวาดผ่านเหนือศีรษะของเขาไป
แทบจะทันทีหลังจากนั้น เซียวหลิงอวิ๋นออกแรงยันที่มือขวาลงกับพื้น ส่งตัวเองให้ลอยม้วนไปข้างหน้า! ”ฟิ้ว!” พลังของผนึกอาคมสีแดงพุ่งผ่านใต้ร่างของเขาไป!
--------------------------------------------
[1] อัลปาก้าหมื่นตัวกำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่ง (一万头草泥马奔) ใช้เปรียบเทียบกับอาการใถึงขีดสุด จนทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ
