หลังจากพูดคุยกับฉินเฟิงเื่ตระกูลตงฟางและเื่งานฉินหวงก็นั่งอยู่ในความขุ่นมัวขณะจิบชา เขามีเื่ปวดหัวอีกเื่ซึ่งเป็ตระกูลหานของเมืองจิ้นเฉิง
ฉินหวงได้จัดการแต่งงานให้กับฉินเฟิงแล้วแต่หานอิ๋งอิ๋งก็ดันมาสนใจเขาด้วยเหมือนกันนี่มันค่อนข้างจะเป็ปัญหาและทำให้ฉินหวงรู้สึกรำคาญใจ
ลูกชายของเขาทั้งี้เีเสเพล และเ้าชู้ ทำไมถึงมีผู้หญิงสวยและฉลาดมาตกหลุมรักได้?
เมื่อเห็นว่าพ่อเงียบฉินเฟิงก็มีคำถามในใจ
ั้แ่ที่เขาได้เจอกับรหัสYในกรง 12 และได้ยินเื่ตระกูลฉินในเมืองหลวงเขาก็รู้สึกสนใจเกี่ยวกับพวกเขาขึ้นมา
แม้ว่าฉินเฟิงจะเป็ส่วนหนึ่งของตระกูลฉินแต่เขาเกือบจะไม่รู้อะไรเลยเขารู้แค่ว่าประมุขของตระกูลฉินในเมืองหลวงเป็ปู่ของเขา อย่างไรก็ตามั้แ่ที่เขาเกิดมา เขาก็ไม่เคยไปเยี่ยมตระกูลฉินที่เมืองหลวงหรือเจอกับปู่ที่ลึกลับของเขา
แต่ตระกูลฉินที่เมืองหลวงได้ติดต่อกับตระกูลฉินที่เมืองเว่ยเฉิงมาโดยตลอดตอนที่พวกเขาเจอหายนะก่อนหน้านี้ ตระกูลฉินที่เมืองหลวงก็ให้การช่วยเหลือทุกครั้งแค่อาศัยอิทธิพลของตระกูลฉินที่เมืองหลวงทำให้ฉินหวงสามารถก่อร่างสร้างฐานในเมืองเว่ยเฉิงขึ้นมาสำเร็จไม่มีใครกล้าหาเื่เขา
“พ่อ บอกผมเื่ตระกูลฉินในเมืองหลวงหน่อยได้ไหม?” ฉินเฟิงถามอย่างช่วยไม่ได้
เขาเห็นสีหน้าต่างๆโผล่ขึ้นมาบนใบหน้าของพ่อเขา ความโกรธ ความผิดหวัง ความภาคภูมิใจมันผสมปนเปด้วยกันเป็สีหน้าซับซ้อน แล้วค่อยๆ ลดลง
หลังจากถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ฉินหวงมองฉินเฟิงทันทีและเริ่มเล่าเื่ตระกูลฉินในเมืองหลวงด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่คุ้นเคย
“เฟิงเอ๋อ ในรุ่นปู่ของลูกมีสามพี่น้องพวกท่านล้วนฝึกศิลปะป้องกันตัวกันหมดใช้หมัดและเท้าสร้างอาณาเขตของตัวเองในเมืองหลวง พวกท่านแข็งแกร่งมากขึ้นๆและปู่ใหญ่ ปู่รองก็ถูกจับตามองโดยรัฐบาล หลังจากนั้นก็สูญเสียการติดต่อไป”
สายตาของฉินหวงเริ่มสลัวเหมือนกับว่าเขามองย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน“หลังจากนั้น รุ่นพ่อก็เกิดขึ้นมา รุ่นพ่อมีสี่พี่น้อง ในฐานะที่เป็คนโตสุดพ่อตั้งใจจะสืบทอดตำแหน่งประมุข แต่เพราะเหตุผลบางอย่างพ่อจึงต้องออกจากตระกูลฉินในเมืองหลวง และอารองของลูกก็ได้ขึ้นเป็ประมุข
“เพื่อที่จะป้องกันตระกูลฉินไม่ให้อ่อนแอลงปู่ของลูกจึงตั้งกฎประจำตระกูลขึ้นมาแต่ละรุ่นจะมีประมุขรุ่นเยาว์ที่ไม่ได้ถูกกำหนดไว้ตายตัว น้องๆทั้งหลายและพ่อได้ออกจากเมืองหลวง พบเมืองที่เป็เมืองของตัวเองและเริ่มสร้างครอบครัวของตัวเอง เมื่อลูกของเราที่เป็รุ่นหลานทั้งหมดได้อายุถึง 18ปีก็จะมารวมตัวในเมืองหลวงเพื่อเสาะหาประมุขรุ่นเยาว์คนใหม่
“ประมุขรุ่นเยาว์ของตระกูลจะยังคงอยู่ในตระกูลฉินที่เมืองหลวงต่อไปขณะที่คนอื่นๆ จะกลับเมืองตัวเองและรอคอยโอกาสในรุ่นถัดไป”
ตอนนี้ฉินเฟิงได้เข้าใจตระกูลฉินเป็ครั้งแรกเขาออกจะประทับใจระบบของปู่ ผู้ชนะคือาา นี่เป็กฎของธรรมชาติ
“พ่อ ไม่ใช่ว่าทุกคนในรุ่นผมถึง 18 กันหมดแล้วเหรอ?”หลังจากรู้ว่าเขาได้มีสิทธิ์สืบทอดตระกูลฉินในเมืองหลวงฉินเฟิงก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที
“ยังเหลืออีกเกือบปี ลูกชายของน้องสุดท้องคนที่สี่ของพ่อจะอายุ 18” ฉินหวงตอบขณะที่มองออกไปยังวิวยามค่ำคืนของเมืองเว่ยเฉิงจากหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศส
ในพริบตา20ปีก็ผ่านไปแล้ว สี่พี่น้องจะรวมตัวกันในเมืองหลวงใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น?
แน่นอนว่ามีบางเื่ที่ไม่ได้บอกกับฉินเฟิงเพื่อที่จะรักษาตำแหน่งประมุขไว้ สี่พี่น้องจะต้องตั้งต้นเป็ปฏิปักษ์กันเขาสงสัยว่านี่อาจจะเปลี่ยนไปหลัง 20 ปี
“เกือบปี? งั้นก็หมายความว่าผมจะได้ไปแข่งเพื่อตำแหน่งประมุขรุ่นเยาว์เร็วๆนี้สิ?” ฉินเฟิงค่อนข้างใ
เขารู้สึกได้ทันทีว่าพ่อของเขาไม่ค่อยสนใจเื่การแข่งกันเป็ประมุขรุ่นเยาว์สักเท่าไรไม่งั้นทำไมเขาถึงเพิ่งจะมาบอกเอาในวันนี้? ยิ่งฉินเฟิงเป็คนถามก่อนด้วยแล้ว
ฉินเฟิงสงสัยว่าพ่อของเขาอาจจะวางแผนที่จะบอกในวันอื่น
อย่างไรก็ตามฉินหวงจะไม่สนใจได้อย่างไร? ย้อนกลับไปตอนที่น้องรองของเขาได้ขโมยตำแหน่งด้วยแผนเล่ห์เหลี่ยมแม้ว่าเขาจะไม่พูดเกี่ยวกับเื่พวกนั้นมาหลายปีแต่เขาก็ยังรู้สึกทั้งโกรธและขมขื่น
การแข่งขันของตระกูลฉินเพื่อเลือกประมุขรุ่นเยาว์รุ่นต่อไปมีส่วนของศิลปะป้องกันตัวซึ่งเป็หนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุดแม้ว่าเื่ธุรกิจและการเงินของฉินหวงจะเหนือกว่าน้องๆ ของเขามันก็ยังไม่มีประโยชน์อะไรถ้าศิลปะป้องกันตัวของฉินเฟิงยังไม่ถึงขั้น
ตอนที่ฉินเฟิงเกิดมาฉินหวงถามผู้เชี่ยวชาญมาดูร่างกายของเขาหลังจากพบว่าร่างกายของฉินเฟิงไม่เหมาะกับการฝึกศิลปะป้องกันตัวฉินหวงก็ข่มความปรารถนาที่จะทวงคืนตำแหน่งในเมืองหลวงและไม่เคยบอกฉินเฟิงเกี่ยวกับเื่นี้
ทว่าความหวังอันนิดน้อยก็ได้ปรากฏขึ้นในใจของฉินหวงเมื่อเขาเห็นความแข็งแกร่งของฉินเฟิงที่เติบโตขึ้นทุกวันเขามองฉินเฟิงอย่างจริงใจและกล่าว “เฟิงเอ๋อการแข่งขันของตระกูลฉินในเมืองหลวงจะมุ่งเน้นในเื่ของความแข็งแกร่งมากที่สุดเป็การแข่งขันศิลปะป้องกันตัว ดังนั้นทำให้ดีที่สุดพ่อหวังว่าลูกจะสามารถคว้าตำแหน่งของประมุขรุ่นเยาว์มาได้”
“อย่างไรซะ แม้ลูกจะคิดว่าตระกูลฉินในเมืองเว่ยเฉิงนั้นค่อนข้างทรงพลังแต่ลูกจะพบว่าโลกที่ลูกรู้จักเป็แค่ยอดูเาน้ำแข็งเมื่อลูกได้เห็นตระกูลฉินในเมืองหลวงและกลายเป็ประมุขรุ่นเยาว์มีองค์กรและผู้คนที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อมากมายที่จะมาปรากฏต่อหน้าลูกเมื่อเวลานั้นมาถึง พ่อเชื่อว่าลูกจะแข็งแกร่งมากกว่านี้ลูกอาจจะเหนือกว่าพ่อและยืนอยู่บนจุดสูงสุด”
ฉินเฟิงประหลาดใจที่จู่ๆพ่อของเขาก็แสดงความรู้สึกออกมา อย่างไรก็ตามความรู้สึกมุ่งมั่นก็ผุดขึ้นมาในใจเมื่อได้เห็นสายตาที่ดูมีความหวังของพ่อ
แม้ว่าจะเป็เพียงแค่เพื่อพ่อฉินเฟิงก็ตั้งใจว่าจะชนะการแข่งขันใน 1 ปีและกลายเป็ประมุขรุ่นเยาว์รุ่นถัดไป
“พ่อไม่ต้องห่วงหรอก ผมจะไม่ให้คนอื่นหัวเราะเยาะพ่อในวันที่เป็ประมุขรุ่นเยาว์พ่อจะสามารถกลับเข้ามาสู่ตระกูลฉินในเมืองหลวงได้อย่างภาคภูมิและคว้าตำแหน่งประมุขที่เป็ของพ่อคืนมา”
ฉินเฟิงดูจริงจังและหนักแน่นซึ่งทำให้หัวใจของฉินหวงรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าเห็นได้อย่างชัดเจนเขาตระหนักว่าชื่อเสียงและความรุ่งโรจน์ทั้งหมดเป็แค่กลุ่มควันตราบใดที่ลูกชายของเขาอยู่ดีมีสุข เขาก็จะสามารถเผชิญหน้ากับซู่ซูในโลกหน้าได้
“พ่อ ในเมื่อพ่อบอกผมเื่ตระกูลฉินในเมืองหลวงแล้ว บอกผมเื่แม่ด้วยสิ”หลังจากลังเลสักครู่หนึ่ง ฉินเฟิงก็รวบรวมความกล้าถามขึ้นมา
ั้แ่ที่เขาเกิดมาเขาไม่เคยเห็นแม่ของเขาเลย เมื่อเขาถามเื่แม่ในอดีตพ่อของเขาก็จะตำหนิอย่างแรงและบ่นเขา เมื่อเขาโตขึ้นและถามอีกพ่อของเขาก็จะเปลี่ยนเื่
สุดท้ายแล้วฉินเฟิงจึงหยุดถามต่อบางทีคงจะยังไม่ถึงเวลาที่พ่อของเขาจะบอกเขา เมื่อเวลานั้นมาถึง พ่ออาจจะบอกเขาเอง
ตอนนี้เมื่อฉินหวงเริ่มเปิดใจบางทีเขาอาจจะพูดเื่แม่ของฉินเฟิงด้วยก็ได้
อย่างไรก็ตามรอยยิ้มบนใบหน้าของฉินหวงดูหม่นหมองทันที“นั่นคือเื่ทั้งหมดที่เราพูดกันในวันนี้ถ้าลูกอยากจะคว้าตำแหน่งประมุขรุ่นเยาว์ลูกต้องฝึกศิลปะป้องกันตัวให้หนักกว่านี้และแข็งแกร่งขึ้น ส่วนสำหรับแม่ของลูกพ่อจะบอกอีกทีเมื่อลูกได้กลายเป็ประมุขของตระกูลฉินที่เมืองหลวงแล้ว”
หลังจากพูดจบฉินหวงก็หันหลังและเดินออกไป
สำหรับวันที่เหลือฉินเฟิงค่อนข้างเบื่อและว่ายน้ำในสระว่ายน้ำตรงกลางของบ้านพักสิ่งที่น่าสนใจมีเพียงแค่หานอิ๋งอิ๋งที่ทำให้เขาอยู่ที่สระว่ายน้ำในตอนบ่าย
หานอิ๋งอิ๋งที่ใส่บิกินี่ดูยั่วยวนแบบสุดขั้ว แต่เมื่อรู้ว่าเธอเ้าเล่ห์แค่ไหน ฉินเฟิงจึงยอมแพ้ที่จะคิดหลับนอนกับเธอ
ผู้หญิงแบบนี้ไม่สามารถจะหลับนอนเล่นๆได้ ทำได้แค่ปราบเท่านั้น
เมื่อเริ่มมืดในที่สุดฉินหวงก็วานฉินเฟิงให้ไปที่บ้านจ้าวหลิงเซียนและเยี่ยมอาจ้าวเพราะว่าครั้งนี้อาจ้าวได้ใช้ความพยายามในการช่วยเหลือฉินเฟิงด้วยเช่นกัน
เมื่อคิดถึงน้องหลิงเซียนที่หยิ่งแต่น่ารักของเขาฉินเฟิงไม่ลังเลที่จะแต่งตัวและไปที่บ้านพักตระกูลจ้าว
ฉินหวงอยากจะให้ลุงฝูไปกับฉินเฟิงด้วยแต่ฉินเฟิงปฏิเสธ เขาพร้อมที่จะไปจู๋จี๋กับผู้หญิง บางทีถ้าน้องหลิงเซียนอารมณ์ดีเธออาจจะจูบเขาอีกครั้งก็ได้ ถ้าลุงฝูไปด้วยก็คงได้เป็แค่ก้างขวางคอ
เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงยืนกรานว่าไม่ให้ไปลุงฝูก็ทำตาม ไม่มีใครในตระกูลฮ่าวที่จะต่อกรกับพลังของเขาเว้นแต่ว่าพวกมันจะถามหาพวกจอมยุทธ์ให้ช่วย อย่างไรก็ตามการต่อสู้ที่ซ่อนเร้นระหว่างตระกูลฉินและตระกูลฮ่าวก็เริ่มเข้มข้นขึ้นและประมุขตระกูลฮ่าวคงจะหาจอมยุทธ์ไม่ได้สักระยะหนึ่ง
ฉินเฟิงขี่จักรยาน28นิ้ว ที่ไม่เด่นและถึงที่พักตระกูลจ้าวราวๆ 2 ทุ่มแน่นอนว่าเขาเลือกให้ถึงเวลานี้เพื่อว่าเขาจะได้หาข้ออ้างกินมื้อค่ำกับตระกูลจ้าวและใกล้ชิดกับน้องหลิงเซียนให้มากขึ้น
แม้ว่าเขาจะไม่มีภารกิจของจ้าวหลิงเซียนอีกต่อไปแล้วแต่หลังจากที่แลกจูบกันในห้องนอนของเธอ ฉินเฟิงก็อยากจูบเธออีกครั้ง
หลังกดกริ่งประตูก็เปิดออกและจ้าวหลิงเซียนก็ยืนอยู่ข้างหน้าเขา
เธอใส่เสื้อแจ็คเก็ตแขนสั้นหลวมๆและใส่สายเดี่ยวสีฟ้าข้างใน ไหล่ที่ขาวเนียนตกแต่งด้วยสายเดี่ยวสีฟ้าเป็อาหารตาของฉินเฟิง
รวมถึงกระโปรงสั้นสีฟ้าที่เธอใส่และขาอ่อนเรียวยาวที่มองเห็นได้เพียงแค่แวบเดียวก็จุดไฟจินตนาการนับไม่ถ้วน
สีหน้าของจ้าวหลิงเซียนเ็ามากและดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดีแต่เมื่อเธอเห็นฉินเฟิง ั์ตาของเธอก็ส่องประกายวูบเดียวก่อนที่จะกลับเป็ปกติอย่างรวดเร็วและถาม“นายมาทำอะไรที่นี่?”
“แน่นอน ก็ต้องมาเล่นกับน้องหลิงเซียนน่ะสิ” ฉินเฟิงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้