นี่เป็เื่ราวของสตรีนางหนึ่งที่โชคชะตาพลิกผันจากหงส์โบยบินบนฟากฟ้าร่วงลงสู่พื้นปฐีกลายเป็ทาสหญิงที่น่าเศร้าใจ มีนามว่าท่านหญิงเฟิงมี่
เฟิงมี่เดิมทีเป็ท่านหญิงในจวนที่โอ่อ่าของชินอ๋องแห่งต้าลู่ แต่เพราะเหตุขัดแย้งภายในจวนฝ่ายในทำให้ทุกอย่างพลิกผันชินอ๋องผู้เป็บิดาโปรดปรานจินฟูเหรินมารดาของเฟิงมี่เป็อย่างมาก ด้วยฐานะต้อยต่ำเป็เพียงฟูเหริน (อนุชายา) เท่านั้นชินอ๋อง้ายกนางขึ้นมาเป็ชินหวังชื่อเฟย (พระชายารอง แต่แล้วชินหวังเฟย (พระชายาเอก) รู้ข่าวเข้าก็ไม่พอใจ จึงส่งคนไปสังหารจินฟูเหรินและเฟิงมี่ในขณะที่เดินทางไปวัดนอกเมือง
นักฆ่าล้อมรถม้าของจินฟูเหริน และได้ต่อสู้กับองครักษ์อย่างดุเดือดในจังหวะชุลมุน มีองครักษ์กลุ่มหนึ่งพาจินฟูเหรินและเฟิงมี่หนีเข้าไปในหมู่บ้าน หวังจะอาศัย่ชุลมุนเพื่อหลบหนี ก่อนพวกนักฆ่าจะตามมาทัน จินฟูเหรินสั่งให้แยกเป็ 2 กลุ่ม โดยให้เฟิงมี่ไปกับแม่นมเฝิง และองครักษ์ฝีมือดี 1 คนไปหลบซ่อนตัว ส่วนจินฟูเหรินนำกลุ่มองครักษ์หวังล่อพวกนักฆ่าไปอีกทาง แต่โชคร้ายพวกนักฆ่าตามมาทัน นักฆ่าใช้ดาบแทงที่หน้าท้องของจินฟูเหริน นางใช้กำลังเฮือกสุดท้ายดึงผ้าปิดหน้านักฆ่าออก คนนั้นที่เห็นคือองครักษ์เถาคนสนิทของชินหวังเฟย หลังจากนั้นเขาลงมือสังหารมารดาของเฟิงมี่ตายอย่างทรมาน ประโยคสุดท้ายที่จินฟูเหรินะโพูดว่า
“หนีไปให้ไกล อย่าได้กลับมาจวนอ๋องอีก”
เฟิงมี่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดซึ่งมองจากจุดที่พวกนางหลบซ่อนอยู่ แม่นมเฝิงจับตัวท่านหญิงไว้แน่นไม่ให้วิ่งออกไป พร้อมเอามือปิดปากไม่ให้ส่งเสียงเพื่อปกป้องนาง เหตุการณ์สุดะเืใจนี้ทำให้เฟิงมี่จากแม่นางน้อยวัย 13 ปี น่ารักสดใส ไร้เดียงสา กลายเป็สตรีที่มีั์ตาขุ่นมัวที่แฝงไปด้วยความโศกเศร้า น้ำตาไหลหนองเต็มหน้า และสายตามีแต่ความเครียดแค้น
การกระทำที่อุกอาจทำให้ชาวบ้านแตกตื่น นักฆ่าพยายามมองหาเฟิงมี่ เพราะเป้าหมายคือต้องฆ่าทั้งแม่และลูก แต่ชาวบ้านพยายามะโเรียกเรียกทางการ ทำให้พวกนักฆ่าหวั่นเกรง จึงแยกกันออกตามหา
แม่นมเฝิง และองรักษ์พาเฟิงมี่หนีสุดชีวิต เพื่อเดินทางสะดวกจึงหารถม้านั่งไป แต่ก็ถูกแกะรอยได้ หนีไปหลายวันแต่ก็โดนตามล่าไม่เลิก โดนไล่ต้อนไปไกลจนถึงเมืองชั้นนอกคือเมืองเถี่ย ซึ่งในนั้นมีอำเภอเจี้ยนค่อ เป็อำเภอที่มีเหมืองแร่เหล็กขนาดใหญ่จะมีทาสทำงานอย่างหนักอยู่ในเหมือง และแร่เหล็กส่วนใหญ่จะถูกนำมาตีดาบและอาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อทำา
ทั้ง 3 คนเปลี่ยชุดเป็ชุดชาวบ้านเพื่อแฝงตัวจึงสลัดพวกนักฆ่าหลุดพ้นไปได้ ส่วนของมีค่าและเครื่องประดับถูกขายไปจนหมด พกเป็เงินติดตัวแทน
พวกเขาค่อยข้างมั่นใจมั่นใจว่าชินหวังเฟยเป็ผู้ที่อยู่เื้ั เพราะองครักษ์เถาผู้ที่จะสั่งเขาได้มีเพียงแค่ชินหวังเฟยเท่านั้น ซึ่งเขาเป็องครักษ์เก่าแก่ที่ติดตามชินหวังเฟยมาจากบ้านเดิมของพระนาง คือจวนเสนาบดี
“ท่านองครักษ์จ้ง ท่านหญิงคงกลับจวนอ๋องไม่ได้แล้ว กลับไปนางต้องโดนชินหวังเฟยฆ่าตายแน่ๆ” แม่นมเฝิงพูด ด้วยความกลัว
“เราจะทำอย่างไรดีแม่นม” องครักษ์จ้งถาม
“ข้าเอ็นดูท่านหญิงยิ่งนัก ข้าเลี้ยงนางั้แ่เล็ก ข้าจะพานางกลับบ้านเกิดที่เมืองหลิ่ง ท่านจะไปส่งพวกข้าได้หรือไม่” แม่นมเฝิงพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
“ได้! ข้ายินดีไปส่งพวกท่าน” องครักษ์จ้งตอบรับ
“พอท่านส่งพวกข้าเสร็จ ท่านค่อยกลับจวนอ๋อง และนำข่าวไปบอกชินอ๋องว่า ท่านหญิงอยู่กับข้า เพราะยังไงก็คือบุตรีธิดาของท่านอ๋อง ต้องให้ท่านอ๋องตัดสินใจ” แม่นมเฝิงพูด
“ข้าเชื่อว่าท่านอ๋องต้องมารับท่านหญิง และจะปกป้องนางได้” องครักษ์จ้งพูดอย่างเชื่อมั่น
ในขณะนั้นเองเหล่าทาสในเหมืองฝ่าหนีออกจากเหมืองเหล็ก หนีกันกระจัดกระจาย บางคนหนีไปได้ บางคนถูกจับ แต่ในการหนีของทาสครั้งนี้หนีไปได้หลายคน ทำให้ขาดคนขุดแร่เหล็กเพื่อตีดาบซึ่งในขณะนี้มีากับพวกชนเผ่าอูลาน ส่วนขุนนางผาง ขุนนางคุมเหมืองกลัวว่าจะขุดแร่เหล็กไม่ทันตามที่ราชสำนัก้าแล้วจะเป็ภัยแก่ตน จึงสั่งจับชาวบ้านยากจนมาขุดแทน
ทหารฟังคำสั่งจากขุนนางเลว จับคนชาวบ้านยากจนตามสั่ง ในขณะนั้นพวกท่านหญิงแต่งกายเป็ชาวบ้าน ระหว่างทางพวกทหารผ่านมาเห็นพอดี จึงยกพวกตรงดิ่งมาจับองครักษ์จ้งทันที แม่นมเฝิงและท่านหญิงพยายามช่วยแต่ก็โดนจับไปด้วย ที่ท่านหญิงโดนจับด้วยเพราะท่านหญิงอายุได้ 13 ปีแล้ว จึงถือว่าโตแล้ว ในสมัยนั้นอายุ 13 ปี บางคนแต่งงานแล้วก็มีให้เห็น
มาถึงเหมืองแร่ในบริเวณเหมืองจะมีรั้วไม้ขนาดใหญ่ล้อมรอบ ด้านในจะมีหมู่บ้านทาสเล็กๆ อยู่หลายหลัง ตอนนี้พวกทหารจับชาวบ้านมารวมกันในเหมืองแล้ว โดยมีทหารผู้คุมใช้หอกปลายแหลมจ่อบังคับชาวบ้านให้นั่งลง
“ฟังนะ พวกชาวบ้านชั้นต่ำ ถ้าพวกเ้าช่วยกันขุดแร่เหล็กให้ทันตามราชสำนัก้าได้ ข้าจะปล่อยพวกเ้าไป” ขุนนางผางกล่าว ด้วยหน้าตาดูเ้าเล่ห์ เขาเป็ชายวันกลางคน ตัวใหญ่และอ้วน
“ข้าคือท่านหญิงเฟิงมี่ แห่งต้าลู่ ใครกล้าจับ” เฟิงมี่ลุกขึ้น และพูดอย่างหนักแน่น ทั้งที่ใส่ชุดชาวบ้านอยู่ ทำให้ไม่มีใครเชื่อ
“โถ! ท่านหญิงเฟิงมี่ ฟังชื่อก็รู้แล้วว่าเป็ชื่อหญิงชาวบ้าน สตรีสูงศักดิ์ใดจะชื่อว่าน้ำผึ้ง” ขุนนางผางกล่าวด้วยอารมณ์ขัน
“บังอาจ! ข้าเป็ถึงเสี้ยนจู่ (ท่านหญิงขั้นสอง) แห่งจวนชินอ๋อง มารดาของข้าคือจินฟูเหริน้าให้ข้าชื่อเฟิงมี่เพราะไม่้าให้ไปชิงดีกับใคร” เฟิงมี่พูดอย่างหนัแน่เพื่อเน้นย้ำอีกครั้ง
“อะไรนะ ฟังไม่ชัด ท่านหญิงทาส” ขุนนางผางพูดเยาะเย้ย
“บังอาจ เ้ากล้าหยามเกียรติข้า” เฟิงมี่กล่าว
“นั่งลงเดี๋ยวนี้ นางท่านหญิงทาส” ขุนนางผางสั่ง หลังจากนั้นทหารเอาหอกจี้นางเอกทันทีบังคับให้นั่งลง
“ทุกคนฟัง ผู้ชายให้ไปทำงานหนักเป็คนขุด ส่วนผู้หญิงทำงานคัดแยกแร่และงานจิปาถะ ใครขัดขืนข้าจะตีตรารอยทาสที่ตัวให้ผู้นั้น แต่ถ้าใครเชื่อฟังและทำงานขุดสำเร็จ ข้าจะปล่อยตัวไป” ขุนนางผางกล่าว
“ข้าจะเชื่อท่านได้อย่างไร” องครักษ์จ้งถาม
“ข้าพูดคำไหน คำนั่น” ขุนนางผางให้คำมั่น
พวกท่านหญิงและเหล่าชาวบ้านจำใจต้องอาศัยอยู่ในหมู่บ้านทาสในเหมือง และทำงานอย่างหนักเพื่อแลกกับอาหารทุกวัน หวังว่าวันหนึ่งจะสามารถออกไปจากเหมืองนรกนี้ได้ จนในที่สุดสามารถขุดแร่เหล็กได้จำนวนตามที่ทางราชสำนัก้าสำเร็จ แต่ขุนนางผางก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยตัวไป
เฟิงมี่สตรีตัวเล็กแต่จิตใจกล้าหาญไม่ต่างกับชายชาตรี ปลุกระดมชาวบ้านที่ถูกจับตัวมา ให้ทวงคำมั่นสัญญาที่ขุนนางผางเคยให้ว่าจะปล่อยตัวไป
“ทำไมได้แร่เหล็กตาม้าแล้ว ยังไม่ปล่อยพวกข้าไป! ” พวกชาวบ้านที่โดนจับตัวมาประท้วง
“เพราะทางราชสำนัก้าแร่เหล็กเพิ่มอีก มีาพวกเ้าทุกคนทำงานให้ดี จนกว่าทางราชสำนักจะส่งนักโทษมาเป็ทาสเพิ่ม ข้าจึงจะปล่อยพวกเ้าไป แยกย้ายได้ ไม่งั้นข้าจะลงโทษพวกเ้า” ขุนนางผางกล่าว พร้อมให้ทหารไล่ให้พวกชาวบ้านให้แยกย้าย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้