ถ้ำที่เคยคึกคักก่อนหน้านี้ กลับเงียบสงัดลงในทันทีที่ชายชราสะบัดมือ
เงียบมากจนน่ากลัว!
หลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจ ร่างของจี๋เล่อน้อยเข้ามาถึงที่นี่เป็คนแรก
เขายังดูเหมือนมีอายุสิบเจ็ดสิบแปดปีไปตลอดกาล หลังจากเข้ามาถึงที่นี่แล้ว หอกเหล็กเนื้อดีที่แทงอยู่บนผนังดึงดูดสายตาของเขาในทันที
เขาเหาะไปทางหอกเหล็กเนื้อดีที่โผล่ออกมาเพียงส่วนเดียวด้วยความระมัดระวัง กลัวว่าอาจเกิดอะไรขึ้นอีก จากนั้นเขาก็ใช้นิ้วมือััหอกนั้นเบาๆ แล้วเขาก็ต้องตื่นใเพราะมันยังมีคลื่นพลังจางๆ แผ่กระจายออกมา
หลังจากััได้ถึงพลังภายในหอกเล่มนั้น เขาจึงหันมองไปบนผนังอีกครั้ง และยังพบร่องรอยการต่อสู้หลงเหลืออยู่ที่พื้นด้วย ทำให้เขาเข้าใจบางอย่าง
มีคนเข้ามาถึงที่นี่ก่อนหน้านี้และเกิดการต่อสู้ขึ้นอย่างดุเดือด แน่นอนว่าคลื่นพลังก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าที่นี่เคยมีคนต่อสู้กัน
จากคลื่นพลังที่หลงเหลืออยู่ในอากาศ อีกฝ่ายต้องมีพลังยุทธ์ขั้นราชันเป็อย่างต่ำ
“จบแล้วหรือ”
ขณะนั้น ซูเหยียนวิ่งตามเข้ามาด้วยเหงื่อเต็มหน้า เขามองทุกอย่างที่นี่ด้วยสีหน้าประหลาดใจ
ขณะที่ผ่านอาณาเขติญญาเข้ามาถึงที่นี่ เขาได้รับาเ็ไม่น้อย เดิมทีคิดว่าจะได้ส่วนแบ่งอะไรจากที่นี่ไปบ้าง คิดไม่ถึงว่าจะมาช้าเกินไป
“ทุกอย่างหายไป ไม่ได้ออกไป”
จี๋เล่อน้อยหลับตาลงเล็กน้อย ะโขึ้นไปกล่าวบนแท่นหิน
“หายไป?”
ซูเหยียนะโขึ้นไปบนแท่นหินเช่นกัน แล้วเขาก็หมอบลงฟังเสียงลมหายใจบนแท่นหิน ในการฟังนี้ทำให้เขาพบเจอบางอย่างที่ต่างออกไป
“ที่นี่มีไอพลังของผู้เฒ่าจี๋เล่อ และยังมีกลิ่นของโลงศพอีกด้วย”
ที่เขาััได้ถึงไอพลังของผู้เฒ่าจี๋เล่อ เพราะก่อนหน้านี้าามารทิศเหนือมอบศาสตราวิเศษให้เขาชิ้นหนึ่ง เป็ศาสตราวุธที่ผู้เฒ่าจี๋เล่อเคยใช้มาก่อน ส่วนไอพลังของโลงศพไม่ใช่เื่ยากสำหรับเขาเลย
จี๋เล่อน้อยไม่ได้กล่าวอะไร แต่เขาลอยตัวขึ้นไปราวเก้าฉื่อเพื่อตามหาร่องรอยของมิติ
แต่ไม่ว่าเขาจะตามหาอย่างไรก็ไม่เจออะไรเลย
ทว่าขณะนั้นก็มีคนอีกสามคนเข้ามาถึงที่นี่ เมื่อเห็นจี๋เล่อน้อยอยู่ที่นี่ด้วย ต่างคนต่างแสดงสีหน้าระแวดระวังออกมา
จี๋เล่อน้อยไม่ค่อยคบค้าสมาคมกับใครและยังมีพลังแข็งแกร่งมาก พบเจอเขาภายนอกยังต้องเดินผ่านไปอย่างระมัดระวัง พอต้องมาเจอเขาที่นี่ก็ยิ่งแล้วใหญ่
หากสังหารพวกเขาตายไปทั้งหมดก็ไม่มีใครรู้ ถึงรู้แล้วจะทำอะไรได้
แต่จี๋เล่อน้อยกลับไม่สนใจพวกเขาเลย
ตราบใดที่คนอื่นไม่หาเื่เขา เขาจะไม่โจมตีใครก่อน
เบื้องหน้ามืดมิดไปหมด เสิ่นเสวียนและหุ่นเชิดทั้งสองคนอยู่ในมิติเล็กๆ แห่งหนึ่ง
เสิ่นเสวียนลองััสิ่งของที่อยู่ข้างๆ
ดำ เย็นเฉียบ และทำจากไม้
“นี่คือโลงศพสีดำหรือ”
เสิ่นเสวียนกล่าวขึ้น
“ฉลาดจริงๆ”
ร่างจิติญญาของผู้เฒ่าจี๋เล่อลอยอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา กำลังกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ท่านพาข้ามาในนี้ทำไม”
ผู้เฒ่าจี๋เล่อลึกลับยิ่งกว่าคนชุดดำมาก ระหว่างที่สะบัดมือส่งเขาเข้ามาในนี้ เขาไม่ทันได้ออกแรงต่อต้านเลย
“ด้านนอกมีคน ข้าจึงพาเ้ามาอยู่ในโลงจริงๆ ของข้า”
เสียงของผู้เฒ่าจี๋เล่อดังขึ้นอย่างล่องลอย เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ตลอด
“โลงศพของจริง?”
เสิ่นเสวียนเข้าใจแล้ว โลงศพก่อนหน้านี้ไม่ใช่โลงศพของเขา โลงศพสีดำนี้เป็เพียงของปลอม ส่วนของจริงซ่อนอยู่ที่อื่น
“ท่านทิ้งอุบายไว้จริงๆ ด้วย!”
“แน่นอนอยู่แล้ว ข้าเปิดสุสานเพื่อให้พวกเ้าเข้ามาตามหาของล้ำค่า ข้าต้องเตรียมวางแผนเอาไว้อย่างแน่นอน คนเหล่านี้อยากขุดโลงศพของข้าขึ้นมา ข้าจำเป็ต้องป้องกันไว้”
ผู้เฒ่าจี๋เล่อกล่าวไม่ผิด คนที่มาถึงที่นี่้าเอาโลงศพของเขาไป หากเจอโลงศพของเขาจริงๆ จะต้องเปิดโลงเพื่อแย่งชิงของล้ำค่ากันอย่างแน่นอน หรือกระทั่งอาจเอาร่างไร้ิญญาของเขาไปด้วยก็ได้ เพราะร่างของจอมยุทธ์ขั้นศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งมีมูลค่ามหาศาล
ตึง!
เสียงดังขึ้นเหมือนโลงศพสีดำพุ่งเข้าชนบางอย่าง ทำให้มันหยุดนิ่งลง
“พวกเราถึงแล้ว”
เสียงของผู้เฒ่าจี๋เล่อดังออกมา ตามมาด้วยเสียงดังแอ๊ด ฝาโลงศพ้าค่อยๆ เปิดออก เผยให้เห็นบรรยากาศ้า
สิ่งที่มองเห็นก็คือภาพแกะสลักบนเพดานทรงโค้ง มีทั้งเซียนล่องลอย หมอกปกคลุมราวกับความฝัน และยังมีบ้านเรือนเรียงราย ูเาสูงทะลุเมฆ
“นี่ไม่ใช่อาณาจักรเซียนหรอกหรือ”
เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่บนเพดานโค้ง เสิ่นเสวียนจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย
เขาที่เคยอยู่ในร่างเซียนพเนจรเก้าด่านเคราะห์ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรมานานหลายพันปี แม้จะไม่เคยเข้าไปในอาณาจักรเซียนมาก่อน แต่เขาเคยเห็นภาพบรรยากาศของอาณาจักรเซียนมาแล้วหลายครั้งจากประตู์ทิศใต้ ภาพ้านี้ก็คืออาณาจักรเซียน
“เอ๋? เ้ารู้ด้วยหรือว่านี่คือที่ไหน”
ร่างจิติญญาของผู้เฒ่าจี๋เล่อได้ยินคำของเสิ่นเสวียนก็เหาะไปอยู่ข้างตัวเขาทันที แววตาที่มองเสิ่นเสวียนเปี่ยมไปด้วยความประหลาดใจ
“ข้าเคยไปครั้งหนึ่งในความฝัน”
เสิ่นเสวียนคิดหาเหตุผลก่อนจะกล่าว เขามิอาจบอกอีกฝ่ายได้ว่าตนเองทะลวงมิติมาที่นี่
“ท่านวาดสิ่งที่ข้าเห็นในฝันได้อย่างไร”
เสิ่นเสวียนถามอีกฝ่ายกลับไป
“ฝัน...”
ผู้เฒ่าจี๋เล่อมองเสิ่นเสวียนอย่างไม่อยากเชื่อ นี่เป็เื่ที่จะฝันเห็นได้อย่างนั้นหรือ เขาฝึกฝนมานานขนาดนี้แล้ว สุดท้ายต้องทะลวงผ่านขีดจำกัดของตนเองออกมา จึงมองเห็นภาพนี้เลือนราง เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งเขาก็วาดมันขึ้นมาทันที
อาณาเขตนั้น ภาพวาดนั้น คือความเป็ไปในโลกอย่างแท้จริง ทว่าเขาเพิ่งเคยได้ยินคำว่าอาณาจักรเซียนเป็ครั้งแรก
“นี่คือภาพที่ข้าได้เห็นหลังจากทะลวงเลื่อนขั้นในตอนนั้น มันน่าจะมีอยู่จริงแต่ห่างไกลจากที่นี่มาก ข้ามิอาจไปถึงได้” ผู้เฒ่าจี๋เล่อกล่าวพลางมองตรงไป เขาอยากไปที่นั่นมากแม้เป็เพียงความฝันก็ตาม
“อยู่ห่างไกลมาก ไปไม่ได้”
เสิ่นเสวียนกล่าวพึมพำตามเบาๆ
ดูเหมือนที่นี่จะต่างจากโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรมาก อย่างน้อยที่โลกแห่งการบำเพ็ญเพียรก็อยู่ใกล้กับอาณาจักรเซียน แต่ที่นี่เหมือนจะห่างไกลมาก
“อย่างนั้นท่านตายแล้วหรือยัง”
เสิ่นเสวียนถามผู้เฒ่าจี๋เล่ออีกครั้ง
“นับว่าตายไปแล้วกระมัง ร่างเนื้อของข้าไร้พลังชีวิตแล้ว เก็บไว้ก็ไร้ประโยชน์ เหลือเพียงร่างจิติญญาร่างนี้ก็นับว่าไม่เลว”
ผู้เฒ่าจี๋เล่อกล่าวอย่างภาคภูมิใจ เขาสามารถเก็บรักษาร่างจิติญญาในทวีปหลิงโซ่วได้นานนับพันปีเช่นนี้ นับว่าหาได้ยากมากแล้ว
เสิ่นเสวียนเข้าใจอีกฝ่ายเช่นกัน ที่นี่ไม่ได้เน้นการฝึกฝนจิติญญา จิติญญาของอีกฝ่ายอยู่ในระดับนี้ได้นับว่าน่าอัศจรรย์มากแล้ว หากอยู่ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร ร่างจิติญญาขั้นหยวนก่อกำเนิดจะเก็บรักษาไว้ได้หลายร้อยปีโดยไม่แตกสลายไป แต่เพราะโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรมีจอมยุทธ์ชั่วร้ายเป็จำนวนมาก เมื่อพบเจอร่างจิติญญาไร้เ้าของอาจโดนจับไปใช้ประโยชน์ได้
“เ้าบอกข้าได้ไหม ว่าเ้าฝันถึงสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร”
ผู้เฒ่าจี๋เล่อยังคงซักไซ้เสิ่นเสวียนต่อไป
“ข้าจำไม่ค่อยได้แล้ว ข้าเคยฝันถึงตอนที่ข้ายังเด็กมากๆ หลังจากนั้นข้าก็ไม่เคยฝันถึงอีกเลย อาจเป็เื่บังเอิญก็ได้”
“บังเอิญ... อาจเป็ไปได้ ข้าเคยฝันถึงอยู่หลายครั้ง ได้เห็นถึงความอัศจรรย์ของสถานที่แห่งนี้”
ผู้เฒ่าจี๋เล่อพยักหน้ายอมรับในสิ่งที่เสิ่นเสวียนบอกเล่า เพราะต่อให้เด็กคนหนึ่งแข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางแข็งแกร่งได้เท่าเขา
“ท่านมาหาข้า คงไม่ใช่แค่หารือเื่นี้หรอกใช่ไหม”
เสิ่นเสวียนกล่าวเข้าประเด็นทันที
“แน่นอนว่าไม่ใช่ ในเมื่อเป็เช่นนี้ ข้าเข้าเื่เลยแล้วกัน”
ผู้เฒ่าจี๋เล่อปรายตามองเสิ่นเสวียน จากนั้นจึงเหาะไปด้านข้าง กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ข้า้ารับเ้าเป็ศิษย์ หากเ้ายินยอม ข้าสามารถช่วยให้เ้าเลื่อนไปถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์ได้”
เสียงของเขาเบามาก ทว่ากลับส่งผลอย่างรุนแรง