เปรี้ยง!
หกดัชนีสุริยันเป็ทักษะยุทธขั้นปฐี ถึงแม้ว่าจะสำแดงเดชได้เพียงหนึ่งดัชนีสุริยัน พลังของมันเพียงพอทำให้ทุกคนตกตะลึง ไม่ว่ามันผ่านไปที่ใด อากาศได้ถูกเผาไหม้จนเกิดควันดำ ทำให้เกิดเสียงดังดุจสายฟ้าฟาด
"บ้าอะไรกันวะเนี่ย?!"
ชายแก่ที่กำลังเดือดจัดได้ะโออกมาด้วยความใในทันใด เขารู้สึกได้ถึงความอันตรายอย่างยิ่งยวดจากก้นบึงส่วนลึกของจิตใจของเขา ความเร็วของหนึ่งดัชนีสุริยันมันรวดเร็วมาก และเขาไม่อาจหลบพ้น ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ ชายแก่ผู้นี้เลือกที่จะปลดปล่อยพลังเข้าต้าน
เพล้ง!
ภายใต้ผลจากหนึ่งดัชนีสุริยัน พลังฝ่ามือที่เขาซัดไปราวกับฟองเต้าหู้ มันได้ถูกทำลายในทันที
ปัง!
หนึ่งดัชนีสุริยันได้เข้าชนร่างของชายแก่ผู้นี้อย่างจัง โลหิตได้ไหลโชกอาบทั่วไหล่ของชายแก่ และทุกคนได้เห็นว่าแขนของชายแก่ผู้นี้ได้ถูกฉีกขาดออกจากร่าง
อ๊ากกก!!
ชายแก่กรีดร้องออกมาด้วยความเ็ป ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาหวาดกลัวจริงๆ หากเมื่อครู่เขาลงมือช้ากว่านี้ และไม่เบี่ยงร่างหลบ พลังดัชนีนั่นคงไม่ได้แค่ฉีกแขนของเขา มันคงพรากชีวิตเขาไปแล้ว
"ทักษะยุทธนั่น ทรงพลังยิ่ง!"
"กระทั่งอากาศยังสั่นะเื ทักษะยุทธนี้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก...ข้าไม่เคยพบเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน"
"เจียงเฉินยังมีอะไรปิดบังอยู่อีก? เขาเป็เพียงผู้เชี่ยวชาญฉีจิงระดับเก้าเท่านั้น แต่เขาสามารถทำให้ผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ขั้นกลางได้รับาเ็หนักได้ นี่มันไม่น่าเชื่อ!"
"นี่มันน่าประหลาดเกินไปแล้ว หรือว่าเขาเป็เทพเซียนกลับชาติมาเกิดกันแน่?"
หลายๆคนต่างร้องออกมาด้วยความใ ทุกคนต่างหน้าซีดเซียว นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว ภาพที่พวกเขาได้เห็น ราวกับว่าพวกเขากำลังฝันอยู่ก็มิผิด
กระทั่งเจียงเจิ้นไห่ยังใจนปากอ้าค้าง ทักษะยุทธที่เจียงเฉินปลดปล่อยออกมานั่นมิใช่ทักษะยุทธของตระกูลเจียง ทักษะยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเจียงเป็เพียงทักษะระดับมนุษย์ขั้นกลางเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าทักษะที่เจียงเฉินใช้นั้นมีระดับสูงกว่าระดับมนุษย์
ร่างของเจียงเฉินเองก็โงนเงนเช่นกัน ใบหน้าของเขากลายเป็ซีดขาวและกระทั่งยืนเขายังยืนได้อย่างยากลำบาก ด้วยพลังขอบเขตฉีจิงระดับเก้าของเขาตอนนี้ปลดปล่อยทักษะระดับปฐีขั้นสูงนี่มัน กินพลังงานมากมายมหาศาลนัก ทำให้พลังงานที่เก็บสะสมภายในตระประทับัในจุดตันเถียนของเขาเริ่มเบาบางลง
ก่อนหน้านี้ที่เขาใช้กับมู่หรงฮ่าว เขาใช้พลังเพียงแค่เศษเสี้ยวของหนึ่งดัชนีสุริยัน แต่ครั้งนี้เขาได้ปลดปล่อยพลังของมันออกมาทั้งหมด
เจียงเฉินคว้าเม็ดยามนุษย์หยวนและกลืนมันเข้าไป จากนั้นเขาโคจรทักษะร่างแปลงัในทันทีเพื่อฟื้นฟูพลังของเขา
"เฉินเอ๋อร์"
เจียงเจิ้นไห่เป็เพียงคนเดียวที่ตอบสนอง เขาได้ะโขึ้นบนลานประลองและมาอยู่ตรงหน้าเจียงเฉิน
"ท่านพ่อ ฆ่ามัน"
ท่าทางเ็าเผยบนใบหน้าของเจียงเฉิน และน้ำเสียงที่เขาพูดออกมาก็เย็นะเืเช่นเดียวกัน
เจียงเจิ้นไห่มองไปยังชายแก่ที่สูญเสียแขนด้วยแววตาโเี้และหนักแน่น ในเมื่อพวกเขาล่วงเกินตระกูลหลี่แห่งเมืองชื่อแล้ว ในเมื่อบุตรชายตัดสินใจที่จำทำมัน เขาก็พร้อมที่จะสนับสนุน
"ได้"
พลังปราณฉีไห่ขั้นปลายของเจียงเจิ้นไห่ถูกปลดปล่อยออกมาทันที แค่เพียงย่างก้าวเดียวเจียงเจิ้นไห่ได้มาถึงตรงหน้าชายแก่ผู้นั้น ชายแก่ได้รับาเ็หนักจนไม่อาจขยับเขยื้อนได้แม้แต่ก้าวเดียว เจียงเจิ้นไห่ตบไปยังศรีษะของชายแก่ผู้นี้ ส่งเขากลับบ้านเก่าทันที
ผู้ชมต่างเงียบสนิท มีเพียงเสียงโลหิตไหลหยดลงมาจากลานประลอง กลิ่นของโลหิตทำให้ปลุกความหวาดกลัวของทุกคนขึ้น ทำให้ผู้คนต่างหนาวสะท้าน
ไอ้ หยา.....
ในที่สุดผู้คนก็เริ่มแตกตื่น ความตกตะลึงทั้งหมดได้ปะทุออกมาในครั้งเดียว ทุกคนต่างคาดว่าเมืองเทียนเซียงจะตกสู่ความวุ่นวายในเร็วๆนี้ และความวุ่นวายในครั้งนี้จะรุนแรงยิ่งกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์เมืองเทียนเซียง
เหี้ยมโหดยิ่ง โหดร้ายมาก สายตาของทุกคนตกไปยังชายหนุ่มอายุเพียงสิบห้าปี บนใบหน้าของเขาเผยท่าทางทรงอำนาจอย่างไม่อาจนำมาเปรียบได้ออกมา
ห้าวหาญ และไร้ความปรานี ด้วยวัยเพียงสิบห้าเท่านั้น หากว่าไม่ได้พบเห็นด้วยตาตนเอง ก็คงไม่มีผู้ใดเชื่อแน่
แววตาของเขาเย็นะเืดั่งน้ำแข็ง
กิริยาท่าทางของเขาสงบนิ่งดั่งสายน้ำ
ความคิดของเขาล้ำลึกดั่งมหาสมุทร
ความห้าวหาญของเขาไม่มีผู้ใดเทียบเคียง
ทั่วร่างของเขาแผ่กลิ่นอายของจอมราชันย์ออกมา ทำให้ผู้พบเห็นต้องสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าเหตุใดเขาถึงได้เปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้เลยว่าภายในร่างของเด็กหนุ่มวัยสิบห้า มีดวงิญญาของบรรพบุรุษยุคโบราณที่มีชีวิตอยู่มานับพันปีอยู่ภายในร่าง
ใบหน้าของคนตระกูลมู่หรงทุกคนได้กลายเป็ซีดขาว พวกเขาตระหนักได้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้ พวกเขาได้พบศพทั้งสองที่นอนกองโชกเือยู่บนพื้นนั้นเป็แขกรับเชิญของตระกูลมู่หรง พวกเขาได้ส่งคำท้าทายด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมและมาที่นี่ด้วยความฮึกเหิม แต่ไม่มีพวกเขาคนใดคาดคิดถึงผลลัพธ์ที่ออกมาเช่นนี้
"เจียงเจิ้นไห่ เจียงเฉิน พวกเ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเ้าฆ่าใครลงไป? นั่นนายน้อยของตระกูลหลี่แห่งเมืองชื่อเชียวนะ!"
มู่หรงเจิ้นแผดเสียงออกมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ต่อว่าพวกเขาด้วยน้ำเสียงดุดัน แต่ในใจของเขามีความสุขนัก เจียงเฉินได้สังหารหลี่ช่างหง ตระกูลหลี่ย่อมไม่ปล่อยเื่นี้ไปอย่างแน่นอน เมื่อตระกูลหลี่ลงมือแก้แค้น ตระกูลเจียงจะเป็ฝ่ายสูญเสียฝ่ายเดียว
"ฮึ่ม!"
เจียงเฉินมองไปยังมู่หรงเจิ้นอย่างไม่แยแส เขาสะบัดมือและปลดปล่อยเปลวเพลิงสีแดงชาดสองสายขึ้น เปลวเพลิงตกไปยังหลี่ช่างหงและชายแก่ตระกูลหลี่
ซู่ว์ ซู่ว์.....
เพลิงจากพยัคฆ์เพลิงอสูรนั้นทรงพลังมาก ศพทั้งสองได้ถูกทะเลเพลิงห้อมล้อมในทันที
เฮือก!
ในตอนนี้กระทั่งมู่หรงเจิ้นยังไม่อาจรับได้ เขาสูดหายใจเข้าลึก ชายหนุ่มผู้นี้ช่างโเี้นัก หลังจากที่สังหารทั้งสองแล้ว มิหนำซ้ำเขายังจุดไฟแผดเผาร่างทั้งสองอีก นี่ไม่ต่างจากการเจตนาล่วงเกินตระกูลหลี่
"ดี เ้าหนุ่มเจียงเฉิน ไว้ค่อยมาคิดบัญชีกับเ้าทีหลัง พวกเรากลับ!"
มู่หรงเจิ้นคิดจะนำร่างไร้ิญญาทั้งสองส่งกลับตระกูลหลี่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเ้าเจียงเฉินจะโเี้ขนาดเผาร่างพวกเขาทิ้งเช่นนี้
"หยุดก่อน!"
เจียงเจิ้นไห่ะโออกมา
"มู่หรงเจิ้น เ้าจะกลับไปทั้งอย่างนี้เรอะ? เ้าลืมสิ่งที่เดิมพันกันไว้หรือไม่?จากนี้ต่อไป ร้านขายโอสถตระกูลมู่หรงจะตกเป็ของตระกูลเจียงของข้า"
ใบหน้าคนตระกูลมู่หรงทุกคนได้กลายเป็ขาวซีด ร้านขายโอสถตระกูลมู่หรงเป็ร้านค้าที่ที่มีสำคัญมากที่สุด แม้ว่ากิจการใน่นี้จะค่อนข้างย่ำแย่ก็ตาม พวกเขาไม่อาจที่จะยกให้ใครได้ ที่สำคัญกว่านั้น มันยังเกี่ยวพันถึงชื่อเสียงพวกเขา
แต่ทว่าสาส์นท้าประลองเป็พวกเขาที่เขียนมันขึ้นมา และการเดิมพันพวกเขาเองก็เป็ผู้เสนอขึ้นมา เป็ไปไม่ได้ที่พวกเขาจะกลับคำต่อหน้าคนจำนวนมาก
"วางใจได้ ข้าไม่ลืมหรอก"
มู่หรงเจิ้นแค่นเสียงเ็า จากนั้นเขานำสมาชิกตระกูลมู่หรงทั้งหมดจากไป เช่นเดียวกับตอนที่พวกเขามารับตัวเ้าบ่าวที่คฤหาสน์เ้าเมือง คอตกกลับไป
ตระกูลมู่หรงมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าพวกเขาจะต้องชนะการประลองในวันนี้อย่างแน่นอน และพวกเขากระทั่งวางแผนล่วงหน้า แต่ไม่เคยคิดเลยว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเช่นนี้
บนลานประลอง เจียงเฉินนำเม็ดยามนุษย์หยวนออกมา และด้วยการโคจรทักษะร่างแปลงั ทำให้พลังหยวนของเขาได้ฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาในตอนนี้อย่าว่าแต่การใช้หกดัชนีสุริยันเลย ถึงแม้ว่าจะเป็หนึ่งดัชนีสุริยันมันยังกินพลังงานทั้งหมดของเขา
"เฉินเอ๋อร์ เ้าเป็อะไรมากไหม?"
เจียงเจิ้นไห่ถามขึ้นด้วยใบหน้าเป็กังวล
"ข้าไม่เป็ไร ท่านพ่อไปกันเถอะ"
รอยยิ้มจางเผยบนใบหน้าของเจียงเฉิน เขาะโลงมาจากลานประลองและเดินกลับไปยังคฤหาสน์เ้าเมือง บรรดาผู้คนตระกูลเจียงได้เดินตามหลังไป บนใบหน้าพวกเขาไม่มีร่องรอยแห่งความยินดี แต่กลับมีสีหน้าเป็กังวลอย่างมากแทน
พวกเขาไม่อาจหยุดเป็กังวลได้เพราะวันนี้เจียงเฉินได้สังหารนายน้อยตระกูลหลี่แห่งเมืองชื่อไป ข่าวนี้ไม่นานก็จะไปถึงเมืองชื่อและตระกูลหลี่ย่อมไม่ปล่อยเื่นี้ไปง่ายๆ แล้วตระกูลเจียงจะต้องป้องกันตัวเองอย่างไร?
"นายน้อยเฉินทรงพลังยิ่งนัก เขาสามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ได้ด้วยระดับการบ่มเพาะฉีจิงระดับเก้า เขาเป็อัจฉริยะไร้ที่เปรียบที่แท้จริง!"
"ตระกูลเจียง แม้ว่าจะได้รับชัยชนะกลับมา แต่กลับมีวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่เกิดขึ้น เชื่อว่าในเร็วๆนี้ ตระกูลหลี่จะเดินทางมาที่นี่"
"ใช่แล้ว ปัญหาใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นกับเมืองเทียนเซียง...ข้าล่ะสงสัยนักว่าใครกันที่จะสามารถยืนหยัดอยู่เป็คนสุดท้ายได้"
สายลมก่อตัวก่อนที่พายุจะเข้า ปัญหาอย่างหนึ่งสิ้นสุด อีกอย่างได้ตามมา ในฐานะเมืองชื่อเป็เมืองที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดา 28 หัวเมือง ตามปกติแล้วพวกเขาจะไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับเมืองอื่นๆ แต่ครั้งนี้ตระกูลหลี่จะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน
ณ ตระกูลมู่หรง
"ท่านผู้นำ ท่านจะยกร้านขายโอสถให้ตระกูลเจียงจริงๆหรือขอรับ? นี่มันเป็รากฐานของพวกเราเชียวนะ!"
ใครบางคนได้ถามขึ้นด้วยความไม่พอใจ
"แน่นอน กลัวว่าพวกมันจะไม่มีชีวิตอยู่ถึงตอนที่มีโอกาสได้ใช้มัน มู่หรงเทียน เ้าจงเดินทางไปยังเมืองชื่อเดี๋ยวนี้ แจ้งข่าวนายน้อยหลี่ถูกสังหารให้ตระกูลหลี่ทราบซะ"
มู่หรงเจิ้นมองไปยังาุโคนหนึ่ง
"ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้"
มู่หรงเทียนกุมมือและจากไปทันที
"คอยดูเถอะในเร็วๆนี้ตระกูลเจียงจะต้องหายไปจากเมืองเทียนเซียง เมื่อเวลานั้นมาถึง ร้านขายโอสถก็จะตกเป็ของพวกเรา เมืองเทียนเซียงจะอยู่ภายใต้การปกครองของข้าเพียงผู้เดียว"
ใบหน้าของมู่หรงเจิ้นเผยรอยยิ้มชั่วร้าย เป็การฆ่าคนโดยยืมมีดของผู้อื่น ช่างเป็การเคลื่อนไหวที่โหดร้ายนัก
อีกด้านหนึ่ง ทางตระกูลเจียง!
"ท่านเ้าเมือง ตระกูลหลี่ต้องตามมาล้างแค้นอย่างแน่นอน พวกเราจำเป็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม"
โจวเป่ยเฉินกล่าว
คิ้วของเจียงเจิ้นไห่ขมวดแน่น เขาไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับตระกูลหลี่ที่แข็งแกร่งนั่นอย่างไร เขาอดไม่ได้ที่จะหรี่ตามองเจียงเฉิน
"ให้ข้าจัดการเอง"
เจียงเฉินกล่าวออกมาเพียงสี่คำ 'ให้ข้าจัดการเอง' ทั่วร่างของเขาแผ่กลิ่นอายจอมราชันย์ออกมาจางๆ บนใบหน้าของเขาสงบนิ่งดุจผืนน้ำ เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
ความสงบเยือกเย็นของเขาทำให้รู้สึกราวกับแม้ฟ้าถล่ม เขาก็ยังคงสงบเยือกเย็นอยู่
ทุกคนต่างหันมองกันเอง ไม่รู้ว่านายน้อยของพวกเขาเอาความมั่นใจนั่นมาจากไหน กระทั่งคู่ต่อสู้เป็ถึงตระกูลหลี่แห่งเมืองชื่อ อย่างไรก็ตาม นายน้อยผู้นี้ได้แสดงปาฏิหารย์ให้พวกเขาได้ยลมาแล้ว
ท่าทางที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจของเจียงเฉิน ได้ส่งผลต่อทุกคน เขาเป็ดั่งผู้ที่เกิดมาเพื่อเป็าา ทำให้ผู้คนที่พบเห็น้าที่จะเคารพบูชา
ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่าตราบที่มีนายน้อยเจียงเฉินอยู่ ปัญหาทุกอย่างย่อมคลี่คลาย
ในเวลานี้ กระทั่งเจียงเจิ้นไห่ยังอดที่จะปฎิบัติต่อเจียงเฉินในฐานะเสาหลักของตระกูลมิได้
"ข้าเชื่อในสิ่งที่นายน้อยกล่าว เขาจะต้องมีแผนการอย่างแน่นอน พวกเราจะต้องจัดการเื่ของพวกเราให้เรียบร้อย สิ่งแรกที่ต้องทำคือยึดร้านขายโอสถของตระกูลมู่หรงมาซะ"
โจวเป่ยเฉินกล่าว
"ไม่จำเป็"
เจียงเฉินกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส
"ข้าจะปิดด่านฝึกตน ไม่อนุญาตให้ใครมารบกวน ยิ่งไปกว่านั้นท่านพ่อ ท่านช่วยรวบรวมกำลังคนตระกูลเจียงทั้งหมดด้วยขอรับ"
"รวบรวมกำลังคน?เฉินเอ๋อร์ เ้าตั้งใจจะทำอะไรรึ?"
เจียงเจิ้นไห่หรี่ตาลง ส่วนคนอื่นๆงุนงง
"ข้าไม่รู้หรอกนะว่าตระกูลหลี่แห่งเมืองชื่อมันเป็อย่างไร แต่ข้ารู้อย่างหนึ่ง วันนี้ตระกูลมู่หรงจะต้องหายไปจากเมืองเทียนเซียงแห่งนี้"
เจียงเฉินกล่าวออกมาจากนั้นเขาหันกลับออกไปและมุ่งสู่ตำหนักของตน เขาจะไม่ทำอะไรให้มันยืดเยื้อ เมืองเทียนเซียงจะต้องไม่มีพยัคฆ์อยู่ถึงสองเด็ดขาด
เขาแน่ใจว่ามู่หรงเจิ้นจะต้องยืมกำลังตระกูลหลี่เพื่อกำจัดตระกูลเจียง ดังนั้นมันจะเป็การได้รับชัยชนะโดยที่ไม่ต้องสูญเสียอะไร ในเมื่อนี่เป็ความตั้งใจของพวกมัน ดังนั้นเจียงเฉินจะทำลายตระกูลมู่หรงเสียก่อน หากว่าเจียงเฉินคิดว่าผู้ใดคือศัตรู มันผู้นั้นจะต้องถูกทำลาย
"ความหมายของนายน้อยคือ? คืนนี้จะเปิดากับตระกูลมู่หรงงั้นหรือ?"
โจวเป่ยเฉินมองไปยังแผ่นหลังของเจียงเฉินและกล่าวออกมา
"ทำตามคำพูดของเฉินเอ๋อร์เถอะ รวบรวมกำลังพลทั้งหมดของตระกูลเจียงซะ"
เจียงเจิ้นไห่ออกคำสั่งด้วยความฮึกเหิม
เมืองเทียนเซียงกำลังจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้ว่ามู่หรงเจิ้นจะเป็จิ้งจอกเฒ่า แต่ก็คงคาดไม่ถึงว่าเจียงเจิ้นไห่จะลงมือบุกใน่เวลานี้
