ในดินแดนต้าหลง ตัวตนอันมีอำนาจสูงสุดเบ็ดเสร็จคือองค์จักรพรรดิั รองลงมาคือเหล่าจอมพลผู้เกรียงไกร ถัดมาคือนายพลสิบดาวทั้งเก้าคน ตามด้วยนายพลเจ็ดถึงเก้าดาวสิบแปดคน แม่ทัพสี่ถึงหกดาวสามสิบหกคน และแม่ทัพหนึ่งถึงสามดาวเจ็ดสิบสองคน
เหล่าแม่ทัพผู้ทรงอำนาจเหล่านี้เป็รากฐานโครงสร้างหลักของพลังรบทางการต่อสู้ของดินแดนต้าหลง
"แกถูกขับไล่ออกจากตระกูลเฉินั้แ่สิบเก้าปีก่อน แกรู้สถานะและยศศักดิ์ของฉันได้อย่างไร?"
สีหน้าเฉินหู่เริ่มมีความตึงเครียด เมื่อได้ยินเฉินเฟิงไล่ทั้งตำแหน่งยศถาบรรดาศักดิ์ทั้งหมดของเขา
แต่ในแววตานั้นกลับเต็มไปด้วยความโเี้!
แม้แต่ในบรรดาสมาชิกทั้งหมดของตระกูลเฉิน พวกเขาก็รู้เพียงเฉินหู่เป็ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งเขตป้องกันและแม่ทัพหกดาว ไม่มีใครรู้ว่าเฉินหู่เป็ผู้ดูแลโรงงานผลิตอาวุธลับ
ปืนพกปรับแต่งพิเศษในมือของเขาเป็อาวุธล้ำยุคที่มีพลังทำลายล้างสูง ซึ่งได้รับการพัฒนาจากคลังแสงลับ แต่ปืนพกกระบอกนี้ได้รับการพัฒนายังไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์
เฉินหู่ไม่คาดคิดว่า เพียงเฉินเฟิงเห็นปืนกระบอกนี้ เขาจะรู้ลึกไปถึงขนาดเขาเป็ผู้ดูแลโรงงานผลิตอาวุธลับ
พลังลมปราณของเฉินเฟิงแผ่กระจายไปทั่วร่าง ในขณะที่เขาเตรียมจะอธิบายอีกครั้งเพื่อให้ลุงรองผู้โง่เขลาเข้าใจ
ทว่าหลี่ชินหลวนกลับพูดแทรกขึ้นด้วยท่าทางไม่รู้อีโหน่อีเหน่
"เหตุใดนายน้อยแห่งหุบเขาจึงรู้ยศถาบรรดาศักดิ์ของแกงั้นหรือ แกไม่คู่ควรตั้งคำถาม! หัวหน้าของแกคือจอมพลเก้าดาวฟู่เจียเหรินสินะ เป็ท่านรองสำนักเสียมากกว่า ที่ควรจะถามเขาเื่ความผิดพลาดในการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา!"
ประโยคของหลี่ชินหลวนทำให้เฉินหู่ตกตะลึงอย่างมาก
มีเพียงคนไม่กี่คนที่รู้จักนามของจอมพลเก้าดาวฟู่เจียเหริน
แม่ทัพหกดาวมีอำนาจระดับมณฑล ส่วนจอมพลเก้าดาวมีอำนาจระดับกระทรวง
นายพลระดับหกดาวเฉินหู่มีหัวหน้าผู้บังคับบัญชาเป็จอมพลเก้าดาวฟู่เจียเหรินจริง
"เป็ไปไม่ได้ พวกเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างพวกแกจะรู้จักชื่อจอมพลเก้าดาวได้อย่างไร? ถ้าพวกแกยังไม่หยุดพูดจาส่งเดช ฉันจะยิงพวกแกทั้งสามทิ้งเดี๋ยวนี้แหละ"
เฉินหู่ส่ายหัวด้วยความโกรธ ในที่สุดก็ปลดเซฟตี้ปืน แล้วเตรียมเหนี่ยวไกยิงพวกเขาทั้งสาม
"เฉินหู่ วันนี้แกเป็แค่ผู้นำตระกูลเฉิน กลับมาเพื่อเข้าร่วมงานแต่งงานของลูกชายแกเสีย เฉินฝู ที่นี่ไม่ใช่เขตป้องกันชายฝั่งทะเลมณฑลฝูเจี้ยนของแก แกไม่มีสิทธิ์ใช้อาวุธปืนที่นี่ จากตอนที่แกชักปืนขู่พวกเราต่อหน้าสาธารณะ แกก็นับได้ว่ากลายเป็คนตายแล้ว ตอนนี้แกยังกล้าปลดเซฟตี้ปืน ถ้าแกคิดจะฆ่าพวกเราจริงๆ ชีวิตลูกชายแกก็จบลงด้วยเช่นกัน!"
จ้าวเสี่ยวเยว่ไม่พอใจที่ถูกหลี่ชินหลวนแย่งซีน เมื่อเห็นเฉินหู่ปลดเซฟตี้ปืน เธอจึงรีบฉวยโอกาสพูดก่อน
เฉินฝูเคยแทะโลมคุกคามทั้งจ้าวเสี่ยวเยว่กับหลี่ชินหลวนมาก่อน ถึงขนาดพยายามล่วงละเมิดพวกเธอ!
เช่นนั้นหลังจากจ้าวเสี่ยวเยว่พูดจบ เธอจึงหันไปมองเฉินฝูที่นอนอยู่บนพื้นด้วยสายตาเด็ดขาด
ก่อนหน้านี้ จ้าวเสี่ยวเยว่ยังคำนึงถึงสถานะเทพธิดาเพลงรักและยังเกรงใจเย่ชิงโหรวอยู่บ้าง จึงไม่ลงมือกับเฉินฝู
แต่ตอนนี้ ในเมื่อโอกาสมาถึงแล้ว เป็โอกาสที่เฉินหู่ส่งมอบให้เธอเอง เธอต้องคว้ามันไว้!
"ฉัน..."
เฉินเฟิงถูกศิษย์พี่สองคนแย่งพูดจนอึดอัด
พี่สาวสองคนนี้แย่งพูดกันเก่งเหลือหลาย ทำให้เขาแทบไม่มีตัวตนอยู่เลย
เฉินหู่ได้ยินน้ำเสียงจ้าวเสี่ยวเยว่ ััได้ถึงความตั้งใจเอาชีวิตลูกชายสุดที่รักของเขา นั่นทำให้เขาใจนเซถลาไป
อย่างไรเสีย จ้าวเสี่ยวเยว่ก็เคยคิดจะฆ่าพ่อของเขา แต่โชคไม่เข้าข้าง กลายเป็ท่านปู่เฉินโช่วเป็ผู้ลงมือให้เอง
ในคฤหาสน์ของตระกูลเฉิน ครอบครัวอันดับหนึ่งของเมืองเจียงเฉิงนี้ สองสาวที่เป็เพียงลูกน้องของเฉินเฟิงกลับสามารถคุยโม้โอ้อวดได้ ทั้งยังเอ่ยปากจะฆ่าลูกชายของเขาได้เช่นนี้
นี่จะไม่ทำให้เฉินหู่กลัวได้อย่างไร?
ส่วนชีวิตของเขาเอง พวกเธอน่าจะเก็บไว้ให้ท่านรองเ้าสำนักเฉินเฟิงเป็คนจัดการด้วยตัวเอง
'ว่าแต่ เฉินเฟิงเอาชนะชีพจรเก้าหยางและมีชีวิตรอดมาได้อย่างไรใน่หลายปีที่ผ่านมา? เขาเข้าร่วมหุบเขาลวงโลกไร้สาระอะไรนั่นและกลายเป็รองเ้าสำนัก? ขนาดสองสาวที่เป็เพียงลูกน้องยังรู้จักชื่อของจอมพลเก้าดาวฟู่เจียเหริน?'
ความสงสัยมากมายเกิดขึ้นในใจเฉินหู่ เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าตัวเขาเกือบจะล้มลงเพราะความหวาดกลัวแล้ว
'ไม่มีทาง ฉันต้องรีบระดมกำลังทั้งหมดจากมณฑลฝูเจี้ยนมาจึงจะปลอดภัย ในฐานะแม่ทัพหกดาวและผู้บัญชาการเขตป้องกัน การแต่งงานของลูกชายฉัน เฉินหู่ผู้นี้ย่อมต้องมีหน้ามีตา'
เฉินหู่ตัดสินใจครั้งสำคัญ แล้วพยายามหาข้ออ้างให้กับความไร้ความสามารถและความกลัวของเขา
"พวกแกเป็ใครกันแน่? มีสถานะอะไรกันแน่?"
เมื่อตัดสินใจแล้ว เฉินหู่ก็ไม่เกรงกลัวอีกต่อไป เขากำปืนพกแน่น กัดฟันตั้งคำถามกับจ้าวเสี่ยวเยว่และเฉินเฟิง
บัดนี้ เฉินเฟิงเห็นเย่ชิงโหรว เพื่อนเ้าบ่าว และแขกผู้มีเกียรติเดินเข้ามาจากประตูบ้านในที่สุด
ทันใดนั้นเอง เขาใช้มือเปล่าเข้าปะทะและแย่งปืนพกจากมือเฉินหู่ไปทันใด ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“ปลดเซฟตี้ไปก็เท่านั้น ต่อหน้าความแตกต่างของพลังอันยิ่งใหญ่ แม้ว่าแกจะถือปืนยิงจรวด ฉันก็ไม่กลัว! ฉันเดินไม่เปลี่ยนชื่อ นั่งไม่เปลี่ยนสกุล นายน้อยแห่งหุบเขาหมอยาะ เฉินเฟิง และในขณะเดียวกัน เมื่อสิบเก้าปีก่อน ฉันถูกตระกูลเฉินของแกขับไล่ไสส่งอย่างไร้เยื่อใย และละทิ้งตำแหน่งทายาทไป ทายาทตระกูลเฉินคนก่อน”
เย่ชิงโหรวคาดการณ์ไว้ก่อนแล้วว่าเฉินเฟิงมีภูมิหลังไม่ธรรมดาจากบทสนทนาั้แ่อยู่นอกบ้าน
แต่ทั้งคู่หย่าร้างกันแล้ว เธอไม่้าให้ภารกิจการแต่งงานกับตระกูลเฉินต้องล่มหลังจากเธอขึ้นสู่อำนาจ
ดังนั้นเย่ชิงโหรวจึงวิ่งเข้าหาพวกเขาด้วยความขุ่นเคืองใจและถามกับเฉินเฟิงจากด้านหลัง
“เฉินเฟิง คุณ้าบ้าอะไรกันแน่? พวกเราหย่ากันั้แ่เมื่อวาน คุณไม่ใช่ลูกเขยตระกูลเย่ และความสัมพันธ์ของเราก็สิ้นสุดลงแล้วนะ!”
เฉินเฟิงหันกลับไปมองทันทีที่ได้ยินเสียง เขามองเย่ชิงโหรวตรงๆ และพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มเยาะ
“ผมก็เป็แค่อดีตสามีเก่าจะทำอะไรได้? ไม่ใช่ว่าภารกิจของคุณ หลังจากที่ผมช่วยให้คุณขึ้นสู่อำนาจในตระกูลเย่ได้คือ แต่งกับทายาทตระกูลเฉินหรอกเหรอ งั้นผมก็แค่เอาตำแหน่งทายาทตระกูลเฉินที่ผมรังเกียจนักรังเกียจหนากลับคืนมาอีกครั้ง เมื่อผมทวงตำแหน่งทายาทกลับคืนมาอีกครั้ง จะทำให้ผมเหมาะสมกับผู้นำตระกูลเย่! ผมเคยพูดไว้ก่อนหย่า คุณจะต้องเสียใจ… ผมจะทำให้คุณเสียใจ!”
พูดจบ เฉินเฟิงกระทืบเท้าลงบนของรักของหวงเฉินฝูทันที พร้อมก้มมองและมอบรอยยิ้มเฉยชาให้
“ทายาทคนปัจจุบัน แกเห็นด้วยไหม?”
ั้แ่มือข้างหนึ่งของเฉินฝูถูกทำลาย สมองเขาตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน เขาไม่ได้ยินบทสนทนาใดๆ ทั้งนั้น
จู่ๆ การที่ถูกเฉินเฟิงกระทืบของรักของเขาอีกครั้ง ส่งผลให้เกิดความเ็ปอย่างรุนแรงอย่างถึงขีดสุด กระตุ้นเส้นประสาทความเ็ปของเขาที่ใกล้จะถึงขีดจำกัดอีกครั้ง
เฉินฝูเค้นเสียงะโด้วยความเ็ป
“เฉินเฟิง แก ตายแน่…”
แล้วเขาก็สลบไปเพราะความเ็ปอีกครา
“เมื่อวานซืน คุณไม่ได้ทำตัวแบบนี้…”
เย่ชิงโหรวรู้สึกหลงทาง
“ผมเคยตกอยู่ในฝันร้าย ต้องทนเป็ลูกเขยต่ำต้อยไร้ค่าของตระกูลเย่อย่างยาวนานถึงห้าปี ยามนี้ผมตื่นแล้ว คนที่เคยกลั่นแกล้งผม ผมจะชำระแค้นเรียงตัว”
เฉินเฟิงพูดอย่างเรียบๆ แสดงออกถึงความไร้ปรานี
