สามารถปลอมแปลงร่างคนอื่นได้ กินยาเซียนตันเหมือนเป็ลูกอม แล้วยังเปลี่ยนเป็ลมได้อีก ที่สำคัญสุดคือกินคนได้ด้วย!
แม้ไม่รู้ว่าหลิงเซียวทำได้ยังไง แต่โหยวเสี่ยวโม่เชื่อแล้วว่าเขากลืนกินความทรงจำพร้อมกับร่างกายในคราวเดียวกัน เขารู้สึกว่าตัวเองเข้าใกล้ความจริง แต่ไม่ว่าจะคิดยังไง ก็คิดไม่ออก
เมื่อดูดกลืนความทรงจำผู้าุโเจียงเสร็จ ในสมองหลิงเซียวก็มีแผ่นอะไรบางอย่างลอยขึ้นมา แผ่นนั้นเก็บความทรงจำของผู้าุโเจียงไว้
นี่เป็หนึ่งในความสามารถของเขา เมื่อดูดกลืนความจำของผู้คนแล้ว เพื่อกันความสับสน เขาจะเก็บความจำของแต่ละคนแยกไว้ ความจำของหลินเซียวก็เช่นเดียวกัน เมื่อถึงคราวต้องใช้ เขาก็จะดึงภาพความจำของคนนั้นออกมาใช้
หลิงเซียวลืมตาขึ้น โหยวเสี่ยวโม่จ้องเขาตาปริบๆ เขายิ้มมุมปาก “กลัวรึเปล่า?”
“เอ๋?” โหยวเสี่ยวม่ำกำลังเหม่อ จู่ๆ ก็ได้ยินคนพูด ได้สติแล้วหันมามองหลิงเซียวที่มองเขาอยู่ ดวงตาดำขลับนั้นยากแท้หยั่งถึง จึงเอ่ยถาม “เมื่อครู่นั่นคืออะไรหรือ?”
หลิงเซียวเห็นความฉงนสงสัยบนใบหน้าเขา ดึงสายตากลับมาพร้อมเอ่ย “ไม่มีอะไร ก็แค่ความสามารถจากร่างจริงของข้า”
ร่างจริง? โหยวเสี่ยวโม่รู้สึกแปลกใจกับสิ่งที่เขาพูด
“ใช่สิ ผู้าุโเจียงใช่พวกเดียวกันกับลั่วซานนั่นที่เผ่าปีศาจส่งมาสอดแนมในสำนักเทียนซินใช่มั้ย?”
“อืม ผู้าุโเจียงแฝงตัวอยู่ในสำนักเกือบร้อยปีแล้ว เดิมทีนั้นมีชายหนุ่มแซ่เจียงจริงๆ ทว่าคนผู้นั้นไม่ทันได้มาถึงสำนักก็ถูกผู้าุโเจียงในตอนนี้แทนที่ซะก่อน ร้อยปีที่ผ่านมาเขานิ่งเงียบมาก ไม่เคยเผยพิรุธอะไร ครั้งนี้หากไม่ใช่คำสั่งจากเบื้องบน เขาก็คงไม่เสี่ยงกำจัดข้า” หลิงเซียวเอ่ยอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก
“ทำไมพวกเขาต้องกำจัดท่านด้วยล่ะ?” โหยวเสี่ยวโม่สงสัย
เผ่าปีศาจถึงขั้นยอมเสียหมากตัวสำคัญในสำนักเทียนซินเพื่อกำจัดเขา เห็นได้ว่าพวกเขานั้นหมายหัวหลิงเซียวไว้ในระดับที่ปล่อยเอาไว้ไม่ได้
หลิงเซียวยิ้มมุมปาก “เ้าเดาสิ?”
โหยวเสี่ยวโม่มองเขาแวบนึงก่อนจะเอ่ยอย่างลังเล “หรือเพราะท่านข้าลั่วซาน?”
“ใกล้แล้ว” หลิงเซียวพยักหน้ายิ้ม หน้าตาหล่อเหลาหาใครเทียม
ใกล้แล้ว? โหยวเสี่ยวโม่นึกย้อนอย่างละเอียด ตอนนั้นหลิงเซียวฆ่าลั่วซานต่อหน้าคนมากมาย จากนั้นเพราะเหตุการณ์นี้จึงทำให้คนของเผ่าปีศาจที่แฝงตัวถูกจับได้หลายคน หรือเพราะเหตุนี้?
โหยวเสี่ยวโม่กล่าวอย่างไม่แน่ใจ “หรือเป็เพราะว่าท่านทำลายแผนการใหญ่ของพวกเขา?”
“ใกล้แล้ว” หลิงเซียวพยักหน้ารัว แต่ไม่ยอมบอกคำตอบเสียที
“งั้นข้าก็เดาไม่ออกแล้ว” เดาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่ถูก โหยวเสี่ยวโม่นึกไม่ออกจริงๆ
“เ้าซื่อบื้อ ไม่มีความอดทนซะเลย!” หลิงเซียวเอ่ยเบาๆ สีหน้ากลับชื่นอกชื่นใจ “ที่เผ่าปีศาจสั่งผู้าุโเจียงมาปลิดชีพข้า เพราะพวกเขาคิดว่าข้ากุมความลับวิธีการแยกลักษณะของเผ่าปีศาจไว้ ดังนั้นจึงอยากกำจัดข้าให้เร็วที่สุด”
พูดถึงเื่นี้ โหยวเสี่ยวโม่นึกออกแล้ว
จริงอยู่ ตอนนั้นท่าทีของหลิงเซียวราวกับว่ารู้อยู่ก่อนแล้วเื่ลั่วซานเป็ปีศาจ อีกอย่างหากมนุษย์ครึ่งปีศาจจะสำแดงตัวตน ก็ขึ้นอยู่กับความ้าของตัวเอง จากสถานะลั่วซาน ไม่มีทางเผยตัวตนต่อหน้าผู้คนมากมายแน่ ดังนั้นเผ่าปีศาจถึงนึกว่าหลิงเซียวเป็ผู้ที่บีบบังคับให้ลั่วซานแปลงกาย เท่านี้ ก็หมายความว่าหลิงเซียวอาจจะมีวิธีแยกลักษณะของมนุษย์ปีศาจจริงๆ เผ่าปีศาจถึง้ากำจัดเขา
“ศิษย์พี่หลิง ทีนี้เราควรทำไง? แม้ผู้าุโเจียงจะเป็มนุษย์ครึ่งปีศาจ แต่ถ้าเราบอกเื่ตัวจริงของเขาออกไป พวกเราก็ต้องถูกสงสัยด้วย”
เมื่อคิดถึงจุดนี้ โหยวเสี่ยวโม่ก็นึกเป็ห่วงแทนหลิงเซียว ผู้าุโเจียงเป็พิธีกรบนเวที หากว่าพรุ่งนี้หายตัวไป เ้าสำนักต้องตามหาตัวแน่ และหากพบว่าเขาตายอยู่ที่นี่ ไม่ว่าตัวตนเขาจะถูกเปิดเผยหรือไม่ ทุกคนก็ต้องตกเป็ผู้ต้องสงสัย
“เื่นี้เ้าไม่ต้องห่วง ปล่อยให้ข้าจัดการ” หลิงเซียวกล่าว ไม่ได้นึกกังวล
โหยวเสี่ยวโม่จ้องเขาอยู่ครู่นึง จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นมา “หรือท่านจะให้ใครปลอมตัวเป็ผู้าุโเจียงงั้นหรือ?”
ได้ยินเช่นนี้ หลิงเซียวสายตาปราดเปรียวมองเขาอย่างแปลกใจ ซักพักก็หัวเราะขึ้น “ศิษย์น้องเล็ก วิธีนี้ของเ้าไม่เลว แต่ว่า…เราจะหาคนมาปลอมตัวเป็ผู้าุโเจียงจากไหนดีล่ะ?”
โหยวเสี่ยวโม่ได้ยินประโยคเกือบจะดีใจแล้ว แต่โดนหยุดไว้ด้วยประโยคที่แกมประชดกลับมา จึงหุบยิ้ม “งั้นศิษย์พี่หลิงจะทำยังไงล่ะ?”
“เ้ารู้หรือเปล่า ทำไมการประลองคู่แรกเมื่อวานถึงเป็ข้ากับโจวเผิง?” หลิงเซียวไม่ได้ตอบเขาทันที แต่เดินวนรอบกองเสื้อผ้าของผู้าุโเจียงรอบนึง จู่ๆ ก็ใช้เท้าเขี่ยผ้าออก ทันใดก็มีแผ่นป้ายหยกหล่นออกมาอันนึง
“หรือว่า เขาอยากทดสอบฝีมือท่าน?”
“ถูกต้อง” หลิงเซียวนั่งลงเก็บแผ่นป้ายหยกนั่นขึ้นมา “หลินเซียวคือศิษย์เอกแขนงการต่อสู้ของสำนักเทียนซิน มีชื่อเสียง แต่สองปีมานี้ เขาเอาแต่เก็บซ่อนพลังที่แท้จริงของตนเอง ผู้าุโเจียงพูดคุยกับเขาน้อยมาก เพราะเหตุนี้จึง้าแน่ใจว่าจะฆ่าหลินเซียวได้ เขาจึงเตรียมทดสอบหลินเซียวในการประลอง แต่ถูกโจวเผิงขัดขวางซะก่อน จึงต้องหาโอกาสอื่นลงมือ”
โหยวเสี่ยวโม่คิดไม่ถึงว่าเื่ราวจะซับซ้อนเพียงนี้ พอคิดๆ ดูก็รู้สึกแปลกอยู่ดี “ผู้าุโเจียงจะฆ่าท่าน แล้วเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย? แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าข้าจะออกไปกับเจียงหลิวตอนเย็น”
หลิงเซียวถูจมูก พลันละสายตาออกจากใบหน้าเขา
“ผู้าุโเจียงแอบได้ยินพวกทังอวิ๋นฉีคุยกันเื่แผนการเล่นงานเ้า จึงซ้อนแผน รอทังอวิ๋นฉีล่อเ้าออกไป แล้วก็ลักพาตัวเ้า จากนั้นโยนความผิดเื่เ้าหายตัวไปให้พวกนั้น อืม น่าจะประมาณนี้แหละ”
“ไม่ใช่สิ ท่านหมายความว่า ข้านั้นพลอยซวยด้วยงั้นหรือ?” โหยวเสี่ยวโม่ตะลึง ทีแรกนึกว่าไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจเข้า
“ก็ประมาณนั้น” หลิงเซียวเอ่ยปนละอายใจ แต่โหยวเสี่ยวโม่ไม่ทันดูออก
โหยวเสี่ยวโม่หดหู่ “ดูท่าว่าข้าคงไม่ถูกกับสายกลาง!”
ที่จริง หลิงเซียวยังพูดออกมาไม่หมด เพราะว่าผู้าุโเจียงเห็นพวกเขาอยู่ห้องเดียวกัน อีกทั้งวันถัดมาโหยวเสี่ยวโม่ยังใส่เสื้อหลิงเซียว ก็เดาได้ว่าทั้งคู่น่าจะเป็คู่รัก ดังนั้นจึงคิดว่าหากโหยวเสี่ยวโม่หายตัวไป เขาต้องกระสับกระส่าย และนั่นคือโอกาสดีที่จะลงมือ ดังนั้นนี่ต่างหากคือความจริงทั้งหมด
ที่ไม่ได้บอกโหยวเสี่ยวโม่ไป ก็เพราะคำว่า คู่รัก
ยอมรับว่า สองคำนี้ราวกับจุดไฟความคิดให้เขา ความรู้สึกไม่ชัดเจนที่เขามีต่อโหยวเสี่ยวโม่ทันใดก็กระจ่างชัดขึ้นมา ที่แท้ การที่เขาชอบแกล้งแหย่โหยวเสี่ยวโม่ ก็เพราะเขาชอบโหยวเสี่ยวโม่?
ท่านใต้เท้าหลิงเซียวนึกไม่ออก ก็เพราะว่าไม่เคยมีความรักมาก่อน ใครจะรู้ว่ามีความรักเป็แบบไหน!
ทว่าจากความคิดเช่นนี้ของผู้าุโเจียง สายตาที่หลิงเซียวมองไปยังโหยวเสี่ยวโม่ก็ไม่ใช่การแกล้งเย้าแหย่อย่างเดียว แต่เพิ่มเติมด้วยความซับซ้อน เขาคิดว่าตัวเองคงโดนเวทมนต์เข้าแล้ว!
“ออกจากที่นี่ก่อน แล้วค่อยว่ากันเถอะ” หลิงเซียวเก็บแผ่นป้ายหยกไว้ในเสื้อ
แผ่นป้ายหยกนี้มีเพียงผู้าุโสำนักเทียนซินถึงจะมี เพราะเป็ตราประจำตัว ดังนั้นจึงมีแค่หนึ่งเดียว ้ายังมีชื่อผู้าุโเจียงสลักอยู่ เพียงแค่ต้องสร้างเื่การปลอมตัวของเขา แล้ววางแผนเื่เวลาของพวกเขาให้ไม่ตรงกัน เท่านี้ก็ไม่มีใครสงสัยพวกเขาแน่นอน
“ได้ เอ๊ะ แต่เดี๋ยวก่อน ข้าพึ่งนึกขึ้นได้เื่นึง ท่านรอข้าก่อน”
โหยวเสี่ยวโม่ก็อยากออกไปจากที่นี่เร็วๆ แต่ตอนที่ซ่อนตัวอยู่ เขาเหมือนเห็นอะไรบางอย่างเข้า
หลิงเซียวยืนมองโหยวเสี่ยวโม่ที่วิ่งไปทางที่ซ่อนตัวเมื่อครู่ ขมวดคิ้วแล้วเดินตามไป โหยวเสี่ยวโม่กำลังหรี่ตามองยังก้อนน้ำแข็งแกะสลักอย่างจดจ่อ เพียงก้อนน้ำแข็งเยือกเย็น มีอะไรน่าดู?
“ศิษย์พี่หลิง ท่านช่วยข้าดูหน่อยสิ น้ำแข็งนี่มีอะไรแช่อยู่ด้านใน?”
โหยวเสี่ยวโม่เห็นหลิงเซียวที่มายืนอยู่ข้างๆ รีบโบกมือเรียก สายตาแวววาวเป็ประกาย
หลิงเซียวชำเลืองมองใบหน้าชมพูระเรื่อด้วยความตื่นเต้นของเขา จู่ๆ ก็รู้สึกว่าใบหน้าที่ปกติไม่เห็นจะน่ามองกลับทำให้ใจเต้นขึ้นมาได้ พลันรีบละสายตา “ดูจากลักษณะเหมือนจะเป็ต้นหญ้าเซียน แต่น้ำแข็งนี่ดูแปลกนิดหน่อย ราวกับถูกลงอาคมอะไรไว้ กั้นพลังของนักฝึกตนไว้ หญ้าเซียนต้นนี้ยังถูกฝังอยู่ด้านล่างสุด หากไม่สังเกตก็จะไม่เห็น”
“พอจะมีวิธีนำมันออกมาได้มั้ย?” โหยวเสี่ยวโม่จ้องหลิงเซียวสีหน้าคาดหวัง
ไม่ทันตั้งตัวกับสายตาของเขา หลิงเซียวรีบหลบตา ทนไม่ไหวก่นด่าในใจ เ้าหมอนี่ทำไมยิ่งดูยิ่งน่ารักนะ?
------------------------------------------