ความเ็ปในจิติญญาค่อยๆ สลายหายไป ในที่สุดจูชิงก็ต้านทานได้สำเร็จ ทั้งที่ผ่านมันมาได้แล้วทว่าเขายังคงไม่อยากัักับความเ็ปนั้นอีกเป็ครั้งที่สอง ระหว่างที่จมอยู่ในความทรมาน มีหลายครั้งที่เขาอยากฆ่าตัวตายให้รู้แล้วรู้รอด
“คัมภีร์หลอมกายา เหตุใดถึงมีแค่คัมภีร์หลอมกายาล่ะ?” จูชิงเม้มปากแน่น ยามนี้ในจิตของเขาเห็นแค่ภาพประหลาดกับคัมภีร์หลอมกายาบนศิลาผนึกิญญาพิชิต์
“ตะกละตะกลามมากเกินไปใช่ว่าจะเป็เื่ดี ฝึกปรือคัมภีร์หลอมกายาให้สำเร็จก่อนเถอะ” เฒ่าปีศาจกลอกตา
จอมยุทธ์ใช้พลังฟ้าดินเป็ลมปราณหล่อหลอมกายา แก่นสำคัญก็คือการทำลายโซ่ตรวนเพื่อยกระดับตัวเอง
ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ พลังก็ยิ่งแกร่งกล้าเหลือล้ำมากขึ้นเท่านั้น!
ซั่งกวานจือหนิงมิได้สังเกตเห็นความผิดปกติของจูชิงเลยแม้แต่น้อย นางสำรวจบริเวณรอบๆ ครั้นเห็นผลไม้สีแดงเพลิงผลหนึ่ง ความปีติประจักษ์บนใบหน้า จากนั้นก็เอื้อมมือเด็ดเก็บผลไม้ผลนั้นไป
“แครก!” ซั่งกวานจือหนิงสะบัดฝ่ามือ ลูกธนูลอยทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า!
ผ่านไปหนึ่งก้านธูป ร่างเงาห้าร่างพลันปรากฏเบื้องหน้าซั่งกวานจือหนิง
“คุณหนู!” ครั้นเมื่อเห็นซั่งกวานจือหนิง พวกเขาก็รีบค้อมกายคารวะให้กับนางในทันที
จูชิงที่เห็นดังนั้นก็ยิ้มเจื่อน ลำพังแค่ซั่งกวานจือหนิงเพียงคนเดียวก็ยากเกินจะรับมือแล้ว นี่ดันมีลิ่วล้อเพิ่มมาอีกห้าคน เห็นทีคงหลุดพ้นจากเงื้อมมือของนางได้ยากยิ่งกว่าเดิม
“คนผู้นี้คือ...?” คนทั้งห้ายามหันมาเห็นจูชิงที่ถูกล่ามด้วยโซ่อยู่ก็ถึงกับผงะ
“ผลผลิตแรกของข้า ในตัวของเขามีสิ่งประหลาดบางอย่าง ข้าว่าจะเอากลับไปให้ท่านผู้าุโดูเสียหน่อย” ซั่งกวานจือหนิงตอบขณะมองจูชิง ในดวงตาคู่สวยสว่างวาบอย่างเย็นะเืครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหายไปในพริบตา
“เฒ่าปีศาจ มีคนมาอีกห้าคนแล้ว พวกเขาแข็งแกร่งหรือเปล่า?” จูชิงหดคอคุยกับเฒ่าปีศาจในดวงจิต แค่ซั่งกวานจือหนิงก็ทำเอาเขาทุกข์ทรมานจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว หากตอนนี้กลับมีเพิ่มมาอีกห้าคน โอกาสที่จะหนีสำเร็จช่างริบหรี่เหลือแสน
“ทั่วไป ขั้นบำเพ็ญเพียร อยู่ในขั้นเคลื่อนย้ายโลหิต!” เฒ่าปีศาจพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย สำหรับตาเฒ่าเช่นเขาแล้วไม่นับว่าเป็อะไร
“เคลื่อนย้ายโลหิต...ขั้นพลังขั้นที่สองมิใช่หรือ!” จูชิงใ
เขาเองยังมิได้ก้าวสู่ขั้นบำเพ็ญเพียร ยามนี้คิดที่จะหนีจากเงื้อมมือของจอมยุทธ์ ระดับความยากนั้นเหนือฟ้ายิ่งกว่ากระไรดี
“วิ้ง!” ระหว่างที่จูชิงกำลังตะลึงอยู่นั้น จู่ๆ เขาก็รู้สึกร้อนผ่าวที่กลางอก!
ซั่งกวานจือหนิงไม่ได้สังเกตเลยว่ากองเืของแรดดาบที่นางฆ่าตายก่อนหน้านี้หายไปแล้ว โลหิตของแรดดาบที่มิอาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากำลังรวมตัวกันที่หน้าอกของจูชิง
หินโลหิตสีแดงฉานกลางอกของจูชิงทอประกายแสงอ่อน พริบตาเดียวโลหิตบริสุทธิ์เข้มข้นของแรดั์ดึกดำบรรพ์ก็ผสานเข้าไปในร่างกาย!
จูชิงตัวสั่นเทิ้ม ความร้อนรุ่มดุจเปลวเพลิงไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ลมปราณเดือดพล่านเผาผลาญกายาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ใช้โลหิตกลั่นหลอมกายา เ้ามีของล้ำค่าที่หลอมโลหิตได้อย่างนั้นหรือ?” เฒ่าปีศาจตะลึงจังงัน
“ของล้ำค่าหลอมโลหิต?” จูชิงลูบหินโลหิตตรงกลางหน้าอกอย่างใจลอย
เดิมทีเศษเสี้ยวโลหิตนี้มิได้สำคัญอันใดกับจอมยุทธ์ ทว่าสำหรับมนุษย์อย่างจูชิงนั้น หินนี่เปรียบเสมือนกับฝนที่เทลงมายามแห้งแล้ง
《เคล็ดวิชา์าหลัวโหว》ทุกตัวอักษรของคัมภีร์หลอมกายาสลักลึกลงไปในจิติญญาของจูชิง ทันทีที่เศษเสี้ยวโลหิตหลอมรวม ประจักษ์ในร่างกายของเขา《เคล็ดวิชา์าหลัวโหว》พลันขับเคลื่อนด้วยตัวของมันเอง พลังฟ้าดินของเกาะหลัวโหวค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปในตัวของจูชิงทีละเล็กทีละน้อย
สรรพสิ่งต่างๆ ล้วนยากที่การเริ่มต้น ธรณีประตูด่านแรกของเส้นทางแห่งยุทธ์ก็คือการกลั่นหลอมโลหิต ไม่รู้ว่ามีคนตั้งเท่าไหร่ที่ถูกปิดกั้นอยู่นอกประตู ทำให้ไม่อาจเข้าร่วมเส้นทางแห่งยุทธ์ได้ชั่วชีวิต
เพราะเช่นนั้นจึงกล่าวได้ว่าหินโลหิตที่อยู่กลางอกของจูชิงนั้นสำคัญยิ่งยวด อย่างน้อยก็ช่วยจูชิงประหยัดเวลาได้มากถึงหนึ่งเดือน
“หินโลหิตนั่น...” เฒ่าปีศาจมองหินโลหิตด้วยความประหลาดใจ เขาพยายามนึกถึงความทรงจำบางอย่างในหัว หากทว่าพยายามนึกคิดเท่าใดก็ไม่อาจนึกออก
“เห็นทีคงหลับใหลไปนาน ความทรงจำบางส่วนก็เลยพร่าเลือน!” เฒ่าปีศาจถอนหายใจอย่างอดไม่ได้
ระหว่างนั้นจูชิงก็คอยควบคุมลมปราณที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายตาม《เคล็ดวิชา์าหลัวโหว》
ขณะที่จูชิงกำลังขับเคลื่อนลมปราณนั้น หินโลหิตที่ห้อยอยู่กลางอกก็เริ่มกลืนกินพลังฟ้าดิน ดูดกลืนพลังของสรรพสิ่งรอบด้าน แลหลังจากที่เปลี่ยนรูปแบบพลังงานเสร็จสิ้น มันก็ผสานเข้าไปในร่างกายของจูชิงโดยตรง
“หินนี่เป็ของล้ำค่าอย่างนั้นหรือ” จูชิงใมากที่หินโลหิตช่วยเขากลั่นหลอมลมปราณ ความเร็วในการฝึกปรือรวดเร็วยิ่งกว่าเดิมเป็เท่าตัว
“แม่นาง รอก่อนเถอะ เมื่อใดที่ข้าสำเร็จเป็จอมยุทธ์ ข้าจักเฆี่ยนก้นเ้าให้แดงแสบไปถึงทรวง!” จูชิงจ้องเขม็งมองซั่งกวานจือหนิง เขาถูกนางทรมานอย่างทุกข์ทน หากมีโอกาสเขาต้องเอาคืนอย่างสาสมแน่นอน
จูชิงดูดซับพลังฟ้าดินไม่ขาดสาย ขับสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย จากนั้นก็กลั่นหลอมอวัยวะภายใน กระดูก เืเนื้อโดยใช้ลมปราณบริสุทธิ์
ภายใต้การกลั่นหลอม แสงล้ำค่าชั้นหนึ่งเปล่งประกายออกมาจากร่างกายของจูชิง!
“มองอะไรของเ้า ถ้ายังไม่หยุดมอง ข้าจักควักลูกตาของเ้าออกมาซะ!” ซั่งกวานจือหนิงมีััทั้งห้าเฉียบคม เพียงแวบเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าจูชิงกำลังจับจ้องสายตามองมาที่ตนแม้ไม่ได้หันกลับมามองก็ตามที
ได้ยินคำขู่ดังนั้นจูชิงจึงรีบก้มหน้าพึมพำกับตัวเอง “นางรู้ได้อย่างไร นางมีตาอีกดวงที่หลังงั้นหรือ?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้