ถ้อยคำนี้ราวกับเป็การเปิดบทสนทนา คนอื่นๆ ต่างพากันพูดถึง
"ข้าเองก็ได้ยินเหมือนกัน นายช่างย่อมเป็หลานชายของป้าหวังแน่นอน เขาเองก็เป็นายช่างฝีมือดี ซ่งอวี้มอบหมายงานทุกอย่างให้เขาทำ ช่างไว้วางใจเขายิ่งนัก" อีกคนหนึ่งคล้ายอิจฉาตาร้อน คำพูดที่กล่าวออกมาเคล้าไปด้วยกลิ่นเหม็นเปรี้ยว
ผู้ใดบ้างที่จะไม่อิจฉาตาร้อนกับความร่ำรวยของซ่งอวี้ เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็มีเงินสร้างบ้านปลูกเรือน ทั้งยังมีรถม้ามาที่เรือนทุกสิบวัน คนบนรถม้าต่างให้ความเคารพนาง
ทุกคนอิจฉาริษยามานานแล้ว แค่ว่าซ่งอวี้เป็หมอเพียงคนเดียวของหมู่บ้านเสี่ยวหนิว คนส่วนมากยังต้องให้นางรักษา ไม่อาจพูดอย่างเปิดเผยได้ แต่ลับหลังพวกเขามีความคิดมากมาย ทุกคนต่างพูดบ่นสงสัยกันว่าระยะที่ผ่านมานี้นางหาเงินได้เท่าใด
"อิงเหนียง เ้าคงไม่ได้อิจฉาตาร้อนกระมัง? ฮ่าๆๆ ข้าได้ยินว่าเดิมทีน้องชายของสามีเ้าหมั้นหมายกับนาง แต่น่าเสียดาย พวกเ้ารังเกียจที่นางเป็หญิงกำพร้า จึงเชิญผู้าุโมาเป็พยานเพื่อยกเลิกการหมั้นไปนานแล้ว ความมั่งคั่งนี้แม้พวกเ้าจะอิจฉาตาร้อนเพียงใดก็ไม่อาจได้แม้แต่น้อย"
สตรีงดงามคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มคนคือไป่หลิงที่เพิ่งแต่งงานมาที่หมู่บ้านเสี่ยวหนิว นางเคยเป็มิตรสหายของอิงเหนียง แต่น่าเสียดายคล้ายว่าก่อนแต่งงานพวกนางมีปัญหากัน หลังจากนั้นจึงไม่ได้ไปมาหาสู่กันอีกเลย พบเจอกันเป็ครั้งคราวก็พูดจาประชดประชันกัน เย้ยหยันกัน
ครั้งนี้ไป่หลิงอาศัยเื่ของซ่งอวี้ หัวเราะเยาะอิงเหนียง
อิงเหนียงหน้าบูดบึ้ง นางรู้สึกว่าทุกคนกำลังหัวเราะเยาะนางในใจ
อิงเหนียงแต่งงานแล้วย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านเสี่ยวหนิวเมื่อสองปีก่อน หลังจากมาที่นี่นางก็กตัญญูต่อพ่อแม่สามียิ่งนัก คอยดูแลงานบ้านงานเรือนถือเป็สะใภ้ที่ดีคนหนึ่ง แม้หยิบยกมาเปรียบเทียบกับผู้อื่นก็ไม่ได้ด้อยกว่าใคร ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของนางคือเป็คนค่อนข้างวางมาด
ในอดีต หลังจากที่นางรู้ว่าน้องชายของสามีหมั้นหมายกับซ่งอวี้ ก็ดูแคลนชาติกำเนิดของซ่งอวี้อย่างมาก รู้สึกว่านางเป็เด็กกำพร้า ไม่มีครอบครัวคอยสนับสนุน เช่นนั้นย่อมไม่อาจช่วยเหลือตระกูลของพวกนางได้ ทั้งยังอ่อนแอ ทำให้คนไม่ชอบยิ่งนัก
ด้วยเหตุนี้ นางจึงคะยั้นคะยอสามีให้ไปบอกแม่สามีว่าซ่งอวี้ไม่ใช่สะใภ้ที่ดี หากเพื่อชื่อเสียงเพียงชั่วคราวของตระกูลทำให้ลูกชายของตนมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความทุกข์ นั่นคือต้องจมอยู่ในความทุกข์ตลอดชีวิต
แม่สามีของอิงเหนียงเห็นแก่ผลประโยชน์ เมื่อได้ยินเช่นนี้จึงกัดฟันตอบตกลง
หลังจากยกเลิกการหมั้น อิงเหนียงก็ชมน้องสาวของตนเองต่างๆ นานา บอกว่าน้องสาวของนางเป็กุลสตรี ทั้งยังขยันขันแข็ง ทำงานในไร่ได้ ดูแลงานในเรือนดี ทำอาหารเก่ง แม่สามีของอิงเหนียงได้ฟังเช่นนี้ จึงหวั่นไหวยิ่งนัก ลอบสืบครู่หนึ่งแล้วไปทาบทามทันที
เดิมทีก็ไม่เป็เช่นไร ถึงอย่างไรซ่งอวี้ก็ขึ้นชื่อว่าเป็สตรีอ่อนแอและรังแกง่ายของหมู่บ้านเสี่ยวหนิว แม้จะมีหน้าตาสะสวยแล้วอย่างไร ไม่มีข้อดีอื่น ก็ไม่มีชายใดยอมแต่งงานกับนาง
ในตอนหลังซ่งอวี้เปลี่ยนไป กลายเป็คนมีความกล้าหาญและมีความรู้ มากไปกว่านั้นยังมีวิชาแพทย์ติดตัว ช่วยคนในหมู่บ้านเสี่ยวหนิวจำนวนไม่น้อย ด้วยเหตุนี้ลมจึงเปลี่ยนทิศ ไม่มีผู้ใดบอกว่าซ่งอวี้เป็นางจิ้งจอกเ้าเล่ห์ยั่วยวนสามีผู้อื่นแล้ว และไม่มีผู้ใดกล้าบอกว่านางอ่อนแอรังแกง่ายอีก ยามเอ่ยถึงซ่งอวี้ โดยมากล้วนชื่นชมว่าวิชาแพทย์ของนางเก่งกาจ เป็คนดี รักษาผู้อื่นโดยไม่เก็บเงิน
เริ่มแรกอิงเหนียงไม่ได้นำมาใส่ใจ ทั้งยังถึงขั้นดูแคลนในใจ
เป็แค่เพียงสตรีคนหนึ่งแต่กลับเป็หมอ ได้ยินว่ายามรักษาผู้คนต้องจับชีพจร ยามฝังเข็มต้องถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ ช่างผิดศีลธรรมยิ่งนัก
ไม่ใช่แค่อิงเหนียงเท่านั้นที่คิดเช่นนี้ คนทั้งตระกูลของนางก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน ถึงขั้นไม่ค่อยออกจากเรือน เพื่อไม่ให้ผู้อื่นนินทาว่าร้ายตระกูลของพวกเขา
ทว่าเื่ไม่ได้เป็ไปตามที่พวกเขาคาดคิด
ไม่มีผู้ใดกล่าวว่าการเป็หมอของซ่งอวี้ผิดศีลธรรม ข่าวลือและคำนินทาเดียวที่มีคือเื่ระหว่างนางกับผู้ใหญ่บ้าน แต่ผู้คนโดยมากต่างรู้ดีว่านั่นเป็เพียงข่าวลือเท่านั้น แค่พูดคุยกันยามเบื่อหน่าย พูดไปตามผู้อื่น คล้ายกับพูดล้อเล่นเท่านั้น ไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย
ตอนที่อิงเหนียงเจตนาชักนำบทสนทนามายังทิศทางนี้ สายตาของทุกคนที่มองไปทางนางก็เปลี่ยนผัน ราวกับกำลังมอง...คนโง่เขลา
ถูกต้อง คล้ายกำลังมองคนโง่ อำเภอที่หมู่บ้านเสี่ยวหนิวอยู่ใกล้ที่สุดก็ต้องเดินประมาณหนึ่งชั่วยามกว่าจะถึง ไม่ง่ายเลยกว่าในหมู่บ้านจะมีหมออยู่ประจำเช่นนี้ แต่นางกลับบอกว่าการเป็หมอของซ่งอวี้ผิดศีลธรรม นี่คือคนโง่เขลาไม่ใช่หรือ?
อิงเหนียงโง่เขลาหรือ? ไม่โง่ มิเช่นนั้นนางจะควบคุมสามีของนางได้อย่างไร แต่นางจะทำอย่างไรได้? หากมีคนชื่นชมซ่งอวี้มากขึ้นเรื่อยๆ มีคนเข้าใจว่าซ่งอวี้หาเงินเก่ง มีความรู้ด้านวิชาการแพทย์ ได้รับความเคารพจากผู้อื่น เช่นนั้นแม่สามีของนางจะมองนางอย่างไร?
เพราะการคะยั้นคะยอของนางทำให้ต้องเสียว่าที่ลูกสะใภ้ ทำให้งานแต่งงานพังทลาย เวลานี้ก็แต่งงานกับชายอื่นแล้ว เป็ภรรยาของชายอื่นแล้ว เช่นนั้นเงินทองที่นางหามาได้ ทรัพย์สินของนาง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับพวกเขา
คนบ้านนอกตรงไปตรงมายิ่งนัก เมื่อมีเื่เช่นนี้เกิดขึ้นแล้วจะไม่เข้าใจความคับแค้นใจของนางได้อย่างไร เวลานี้นับวันนางก็ยิ่งกลัวว่าผู้อื่นจะพูดถึงซ่งอวี้ต่อหน้านางโดยเฉพาะตอนที่ไป่หลิงอยู่ด้วย ไป่หลิงต้องพูดให้นางอับอายก่อนจึงจะเลิกราเช่นเดียวกับเวลานี้
อิงเหนียงกำลังเย็บพื้นรองเท้า คำพูดของไป่หลิงมีอิทธิพลกับนางทำให้สติของนางหลุดลอยไปครู่หนึ่ง จึงโดนเหล็กหมาดทิ่มนิ้วมือตัวเอง เืสีแดงสดรินไหลออกมา
"อิงเหนียง มือเ้าเืออก รีบกลับไปล้างมือที่เรือนเถอะ ซ่งอวี้บอกว่าหลังจากาเ็ต้องใช้น้ำสะอาดล้างมิเช่นนั้นจะเน่าเสียเอาได้"
คนที่นั่งอยู่ข้างอิงเหนียงคือเพื่อนบ้านของนาง ทั้งสองไปมาหาสู่กันบ่อยๆ สนิทสนมกัน เวลานี้เห็นอิงเหนียงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วทำให้ตนเองเจ็บตัวเช่นนี้ จึงรีบแนะนำให้นางกลับเรือน แค่ว่า
"โอ๊ย เ้าพูดถึงซ่งอวี้ให้นางฟังทำไม นางไม่อยากจะได้ยินชื่อนี้อีก ข้าว่าเพราะนางกำลังคิดถึงความร่ำรวยของซ่งอวี้ในเวลานี้จึงอิจฉาตาร้อน จึงเผลอปล่อยให้เหล็กตำมือ ไม่ได้เป็หญิงสาวที่เพิ่งฝึกเย็บพื้นรองเท้าเสียหน่อย แค่เื่นี้ก็ไม่อาจทำให้ดี"
ไป่หลิงคว้าโอกาสนี้ด่าทออีกรอบ อิงเหนียงทนฟังต่อไปไม่ได้แล้ว จึงเก็บข้าวของกลับเรือนทันที แค่ว่าย่างก้าวที่สาวเดินอย่างรวดเร็วนั้นเพียงมองก็รู้แล้วว่าจิตใจของนางไม่นิ่งสงบเท่าใดนัก
"เ้ายังกล้ากลับมาด้วยหรือ!”
อิงเหนียงสาวเท้ากลับถึงเรือนเพิ่งก้าวเข้าไปในโถงหลัก ชามขนาดใหญ่ก็ลอยมา เฉียดหน้านางไป
ขาของนางอ่อนแรงทันที ล้มลงบนพื้น สีหน้าซีดขาว หากชามเมื่อครู่เฉียงอีกเพียงเล็กน้อย ฃก็จะฟาดมายังศีรษะของนาง
ยังไม่รอให้นางปรับอารมณ์จากความหวาดกลัวที่เกิดขึ้น แม่สามีของนางก็เดินออกมาจากห้องช้าๆ หน้านิ่วคิ้วขมวด
"ท่าน ท่านแม่สามี..." อิงเหนียงมองเพียงปราดหนึ่ง ก็รู้แล้วว่าหายนะกำลังมาเยือน
หลายวันมานี้แม่สามีของนางหน้าบูดบึ้งตลอดเวลา ทุกครั้งที่ออกนอกเรือนมีคนหัวเราะเยาะนางเสมอ หัวเราะเยาะที่นางทิ้งแตงโมเก็บเมล็ดงา [1] ปล่อยแม่ไก่ที่ออกไข่เป็ทองคำหลุดมือ
นี่คือความปวดใจของนาง สุดท้ายถูกคนนำมาพูดซ้ำๆ นางจะไม่แค้นใจได้อย่างไร
แต่ในอดีตนางเป็คนยอมตกลงให้ยกเลิกงานแต่งงานด้วยตนเอง เชิญผู้าุโมาเป็พยาน เวลานี้นางไม่รู้ว่าควรจะเกลียดแค้นผู้ใด คิดอยู่นานสุดท้ายจึงโยนความผิดไปให้อิงเหนียง
เชิงอรรถ
[1] ทิ้งแตงโมเก็บเมล็ดงา หมายถึง เพื่อคว้าสิ่งไร้ค่า ทำให้พลาดสิ่งล้ำค่า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้