“มานั่งกับข้า!” เสียงเรียกของจิวอี้ซิง ทำให้หวางฟางเฟยชะงักนิ่ง แล้วเลื่อนสายตาไปยังอาจารย์กั๋วเจี้ยน
“เ้าทำข้อสอบเสร็จแล้ว ข้าอนุญาต” สิ้นเสียงของอาจารย์ทำให้หวางฟางเฟย เดินเข้าไปนั่งด้านข้างของจิวอี้ซิงอย่างว่าง่าย ก่อนเขาเอ่ยถามนางเบา ๆ
“รีบทำข้อสอบเช่นนี้ มีแผนการอะไรอีก” เขาทำสีหน้าไม่ไว้ใจ ก่อนนางจะยิ้มกว้างแล้วตอบกลับ
“รอดูต่อไปเ้าค่ะ” นางไม่ตอบ หากแต่จับจ้องไปยังเยี่ยนหวาง พร้อมเอื้อมไปหยิบอาหารของจิวอี้ซิง ใส่ปากหน้าตาเฉย นั่นทำให้พระสนมไม่อาจทนมองต่อไปได้ นางสะบัดหน้ากลับไปพร้อมกำมือแน่นด้วยความคับแค้นใจ
อยู่ ๆ เยี่ยนหวางรู้สึกเหมือนท้องไส้ปั่นป่วน อุปกรณ์การเขียนล่วงออกจากมือ ก่อนจะยกมือขึ้นกุมศีรษะ
“อาจารย์ ข้าขอพักการสอบก่อนได้หรือไม่” เมื่อรู้ตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติกับร่างกาย ทำให้เยี่ยนหวาง รีบลุกขึ้นแล้วเอ่ยขอความช่วยเหลือ
“การสอบเริ่มแล้ว ในบทบัญญัติ จะไม่มีการพักการสอบใด ๆ ทั้งสิ้น หากพลาดการสอบในครั้งนี้ จะต้องทำการสอบใหม่ในปีหน้า” ยาที่ค่อย ๆ ออกฤทธิ์ทำให้เยี่ยนหวางไม่อาจควบคุมตัวเอง ต่อไปได้ นางกวาดทุกอย่างบนโต๊ะทิ้งแล้วเดินโซเซไปยังอาจารย์กั๋วเจี้ยน
“นางเป็อะไร”
“ท่าทางคล้ายคนเมาเลย” เสียงกระซิบของเหล่าบัณฑิต ทำให้เยว่หลิว ที่มองเหตุการณ์อยู่ถึงกับทิ้งพู่กันในมือ แล้วนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ พร้อมหันมองไปยังหวางฟางเฟย ที่ไม่มีอาการของพิษเมาแสดงออกมา กลับกันอาการทั้งหมดเกิดขึ้นกับเยี่ยนหวางเพียงคนเดียวเท่านั้น
ทำให้เยว่หลิวรับรู้ทันทีว่าแผนการผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง นางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ แล้วก้มหน้าไม่สบสายตาผู้คน ขณะที่เยี่ยนหวางยกมือชี้หน้าอาจารย์กั๋วเจี้ยนแล้วกล่าวเสียงอ้อแอ้
“เหตุใดจึงหยุดการสอบไม่ได้ ข้าเป็ถึงคุณหนูสกุลหวัง เป็น้องสาวของพระสนมที่ฮ่องเต้ทรงโปรดปราน แก่แล้วก็อย่าโง่”
“หยุดนะเยี่ยนหวาง!” พระสนมลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยห้ามน้องสาวในทันที
“ไม่ให้ข้าสอบ ข้าไม่สอบก็ได้ ผู้ใดจะง้ออาจารย์แก่ ๆ เช่นเ้า!” นางกล่าวจบ ก็เดินโซเซออกจากลานสอบไปพร้อมกับใบหน้าแดงก่ำ ก่อนคนของสถานศึกษาจะรีบจับตัวนางไว้
จิวอี้ซิงหันขวับกลับมายังหวางฟางเฟยที่นั่งตาแป๋วอยู่ด้านข้าง
“ฝีมือเ้างั้นเหรอ สกปรกเกินไปหรือไม่” เขาถามพร้อมใบหน้าบึ้งตึง
“ในเมื่อขวดยาอยู่ที่ท่าน ข้าจะเอายาที่ไหนให้นางกิน หากไม่ใช่ฝีมือของเยว่หลิว” ชายหนุ่มเลื่อนสายตาไปยังน้องสาวต่างมารดา ที่นั่งก้มหน้าไม่สบตาผู้ใด พร้อมมือสั่นเทาอย่างมีพิรุธ ก่อนหวางฟางเฟยจะหันมองไปยังเขา แล้วเลิกคิ้วท้าทาย พลันหยิบอาหารว่างของเขาใส่ปากอย่างไม่สะทกสะท้าน
“เป็แบบนี้แล้ว เยี่ยนหวางจะสอบได้อย่างไร เช่นนั้นนางต้องแพ้พนันให้กับหวางฟางเฟยเป็แน่”
“หากนางแพ้พนัน เท่ากับว่าต้องออกจากสถานศึกษา!” สิ้นเสียงของหยางลี่ และซันซัน ทุกคนในที่นั้นหันมองมายังพวกนางเป็จุดเดียวกัน
“พวกเ้าว่าอะไรนะ!” พระสนมเถียนหลันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นไหว ก่อนหยางลี่และซันซันจะตัดสินใจลุกขึ้น พลันน้อมกายลงอธิบาย
“ตอนที่พวกเรากำลังไปกินข้าว คุณหนูเยี่ยนหวางใช้ให้พวกข้าสองคนเป็พยาน ในการท้าพนันกับหวางฟางเฟย ว่าหากผู้ใดแพ้การสอบครั้งนี้ ผู้นั้นต้องออกจากสถานศึกษา นางเป็คนท้าเองแท้ ๆ เหตุใดจึงเป็เช่นนี้” หยางลี่พูดพึมพำ พลางก้มหน้าลงเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจ
ก่อนจิวอี้ซิงจะเข้าใจเหตุการณ์ทุกอย่างในเวลารวดเร็ว เขาหันขวับกลับมายังหวางฟางเฟยที่กำลังเคี้ยวอาหารเต็มปาก ก่อนนางจะชะงักนิ่งแล้วเม้มปากเล็กน้อย
“มิน่า เหตุใดจึงรีบทำข้อสอบเสร็จเร็วนัก เป็เช่นนี้เอง” เขาอยากจะขย่ำหญิงสาวที่ก่อเื่ตรงนั้น หากต้องข่มอารมณ์ไว้แล้วปั้นหน้านิ่ง ในขณะที่หวางฟางเฟยเหลือบตามองเขา พลันยกชาขึ้นดื่ม รับรู้ถึงความโกรธของเขาที่แผ่ซ่านออกมาเป็ระยะ
พระสนมเถียนหลันได้ยินดังนั้น ด้วยความฉลาดของนางทำให้ปรับสีหน้าแล้วหันมายังหวางฟางเฟย
“ที่แท้ เพราะพวกเ้าพนันกันหนักหนาถึงเพียงนี้ ข้ารู้แล้วว่าอาการของแปลก ๆ ของเยี่ยนหวางเกิดจากสาเหตุใด” นางกล่าวจบ จึงหันไปยังอาจารย์กั๋วเจี้ยนที่กำลังอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“อาจารย์กั๋วเจี้ยน ข้าคิดว่าน้องสาวข้าเป็เช่นนี้ เพราะมีคนจงใจกลั่นแกล้ง วางยาให้นางแพ้พนัน” จิวอี้ซิงได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นในทันที
“พระสนมอย่าพึ่งวู่วามตัดสิน” นางหันมายังอดีตคนรักแล้วเอ่ยขึ้น
“ท่านเป็มือปราบเป็คนสนิทของฮ่องเต้ เหตุการณ์นี้มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ปกติ เยี่ยนหวางเป็เช่นนี้ เพราะมีการพนันเกิดขึ้นในสถานศึกษา ยังไงก็ต้องสอบความทุกคน หากพบว่าใครทำผิด คนผู้นั้นต้องถูกออกจากสถานศึกษา! และรับโทษทัณฑ์ตามกฎ” คำพูดตั้งมั่นของพระสนมเถียนหลันทำให้เยว่หลิวมือสั่นรัว นางเอาแต่ก้มหน้าไม่สบสายตาผู้ใด
ก่อนหวางฟางเฟยจะลุกขึ้นยืน แล้วน้อมกายเคารพพระสนมด้วยกิริยาอ่อนน้อม ไร้ซึ่งแววตาหวั่นเกรงใด ๆ
“หม่อมฉันเห็นด้วยเพคะ อาการของเยี่ยนหวางผิดปกติคล้ายกับโดนวางยา การสอบความจะทำให้เสียเวลา มิสู้ให้คนของสถานศึกษา บุกค้นหาหลักฐานไม่ดีกว่าเหรอเพคะ” พระสนมเถียนหลัน มองตรงมายังหวางฟางเฟยแล้วเอ่ยขึ้นในทันที
“เ้ากล้าท้าทายข้าด้วยงั้นเหรอ?” น้ำเสียงเย็นเยียบทำให้หวางฟางเฟยยิ้ม แล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม