“ไม่ ... เ้าจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ...”
เจียงซืออี่ตัวสั่นไม่หยุด นางรู้สึกว่าสิ่งที่พูดไปก่อนหน้านี้มันเสียแรงเปล่า ิอวี่ไม่ได้สนใจคำขู่ของนางเลยแม้แต่นิดเดียว เขาจะลงมือกับนางจริงๆ หรือ!
แล้วด้านข้างก็ยังมีผู้หญิงอีกหลายคนนั่งอยู่ พอคิดว่าอีกเดี๋ยวิอวี่จะจับนางแก้ผ้าจนหมดแล้วทำเื่อย่างว่าต่อหน้าทุกคน เจียงซืออี่ก็รู้สึกอับอายจนแก้มแดง
ิอวี่มองไปที่เจียงซืออี่แบบมีเลศนัย เขาเชยคางของนางขึ้นมาอีกครั้งแล้วพูดประชดว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงที่สุขุมและมีศักดิ์ศรีจะเขินอายหน้าแดงด้วย ทำให้ข้าเปิดโลกใหม่เลยนะ”
“เ้า ... ิอวี่เ้าปล่อยข้าไปเถอะนะ ... ”
เดิมเจียงซืออี่อยากจะพูดจารุนแรงกว่านี้ แต่พอคำพูดออกมาจากปากแล้วกลับกลายเป็น้ำเสียงที่น่าสงสารและอ้อนวอน
“อย่างนั้นเ้ายังรู้สึกว่า ข้าเป็เด็กน้อยไม่ประสาที่น่าขำอย่างที่เ้าว่าอีกไหม?”
จากการแสดงออกก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น้ำเสียง สีหน้าท่าทาง หรือว่าคำพูดคำจาของเขาล้วนแต่ไม่ใช่เด็กเลย แต่เหมือนเป็พวกมากประสบการณ์ด้วยซ้ำ
เจียงซืออี่เองก็รู้สึกได้ถึงข้อนั้นนางเลยส่ายหน้าออกมา
“อย่างนั้นหรือ?”
ิอวี่ยิ้มมุมปาก เขากระซิบไปที่ข้างหูของเจียงซืออี่แล้วพูดว่า “ถ้าเช่นนั้น ไหนลองเรียนท่านพี่ให้ฟังหน่อย ไม่แน่ว่าพอข้าอารมณ์ดีแล้วอาจจะปล่อยเ้าก็ได้นะ”
“เ้า ... ”
เจียงซืออี่พอฟังจบแล้ว สีหน้าของนางก็ซีดลงทันที
ปีนี้นางอายุยี่สิบแล้ว แต่ิอวี่แค่สิบหกเอง ต่อหน้าิอวี่นางจะต้องเรียกเขาว่าท่านพี่ มันเหมือนกับคู่รักกำลังหยอกล้อกันอยู่เลยไม่ใช่หรือ?
หากเจียงซืออี่เรียกแบบนั้นจริงๆ มันก็เหมือนกับว่านางกำลังอ่อนข้อให้เขา แต่ว่า ... หากนางไม่เรียกแบบนั้น ิอวี่จะทำแบบนั้นกับนางจริงหรือเปล่า?
ในขณะที่ิอวี่กำลังจ้องหน้านางอยู่นั้น เจียงซืออี่พบว่านางกลับไม่กล้าสบตาของเขาเลย ทำได้แค่ก้มหน้าลง
อาจเป็เพราะ้าปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง หรืออาจจะเพราะยำเกรงิอวี่ถึงได้ตัวสั่น เจียงซืออี่มีอารมณ์สับสนอย่างมาก แม้แต่ตัวนางเองก็ไม่รู้ตัวเลย
เจียงซืออี่หลับตาลง นางกำหมัดแน่น เปล่งเสียงราวกับมดตัวเล็กขึ้นมา “ท่าน ... ท่านพี่”
“เสียงดังหน่อยสิ ข้าไม่ได้ยินเลย”
เสียงออกคำสั่งของิอวี่ดังเข้าหูของเจียงซืออี่
“ ... ท่านพี่”
ขณะที่เสียงของเจียงซืออี่ดังขึ้นอีกครั้ง นางก็รู้สึกเสียใจ พอคิดถึงเื่ที่ต้องมาเรียกิอวี่ว่าท่านพี่ นางก็รู้สึกอับอายมากจนอยากจะมุดหนีไปจากตรงนี้เลย!
... น่าอายชะมัดเลย!
หากมีคนอยู่ข้างๆ แล้วเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นคงใมากกว่านี้
ภาพเจียงซืออี่หญิงสาวขาวสะอาดบริสุทธิ์ที่ทุกคนเห็น กลับต้องยอมอ่อนข้อให้กับิอวี่แล้วยังเรียกเขาว่าท่านพี่อีก มันเป็ภาพที่เหลือเชื่อมาก และยากที่จะเชื่อด้วย!
ิอวี่มองไปที่เจียงซืออี่แล้วแกล้งพูดกลับไปว่า “เมื่อครู่ยังหวงตัวอยู่เลย เป็อะไรไป ตอนนี้ทำไมเชื่อฟังขนาดนี้แล้วล่ะ?”
ก่อนหน้านี้สีหน้าของเจียงซืออี่หยิ่งผยองมาก ราวกับเทพธิดาที่ไม่อาจแปดเปื้อนได้ แต่ตอนนี้นางกลับก้มหน้าลงเลือกที่จะยอมอ่อนข้อ แล้วยังพูดจาที่ทำให้คนรู้สึกอับอายอย่างมากด้วย!
“ฮือ ... ”
เจียงซืออี่จะไปมีอารมณ์ตอบได้อย่างไรกัน นางก้มหน้าลงแล้วสะอื้น
นางรู้สึกทรมานมากและรู้สึกน้อยเนื้อตำใจมากด้วย แต่ถึงอย่างนั้น สมองกลับบอกนางว่า ทำแบบนี้มันคุ้มแล้ว นางมีหน้าตางดงาม แต่ละวันมีผู้ชายที่คิดอะไรกับนางไม่รู้ว่ามากแค่ไหน ตอนนี้เจอคนที่มีอำนาจมากกว่า นางเลือกที่จะประนีประนอมก็ถือเป็ทางเลือกที่ฉลาด ขอแค่รักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้ กับคำพูดแค่นี้มันไม่เท่าไรเลย?
แต่ิอวี่กลับพูดว่า “แต่ข้ารู้สึกว่าเ้าเรียกแบบไม่จริงใจเลย ดังนั้น ข้าปล่อยเ้าไปไม่ได้”
ตู้ม!
คำพูดนี้เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจของเจียงซืออี่ ที่นางเรียกไปเมื่อครู่เหมือนเสียแรงเปล่า!
“เ้า! ฮือฮือ ... ”
เจียงซืออี่ร้องไห้ออกมารุนแรงมาก ส่วนผู้หญิงคนอื่นที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร พวกนางทั้งหมดเลยร้องไห้ออกมา
“ฮือฮือ ... ฮือฮือ ... ”
ตอนนี้พวกนางถึงเข้าใจแล้วว่าการอ้อนวอนมันไม่มีประโยชน์ ิอวี่ยังคงทำตามแต่ใจอยู่ดี!
พอคิดว่าิอวี่ต้องลงมือแน่นอน พวกนางแต่ละคนล้วนแต่เปรียบดั่งนางฟ้านาง์ มีสไตล์เป็ของตัวเอง หน้าตางดงาม ผู้ชายนับหมื่นอยากจะสยบใต้แทบเท้า อยากจะปราบความงาม ความสง่างามของพวกนางลงให้ได้
แล้วิอวี่อายุแค่สิบหก เขาทนต่อความเย้ายวนพวกนั้นได้อย่างไรกัน?
แต่พอคิดว่าอีกเดี๋ยวจะถูกิอวี่ทำอย่างว่าจริงๆ อารมณ์ของพวกนางก็ไม่ค่อยดีนัก แต่ละคนเริ่มน้ำตาไหล เห็นแล้วน่าสงสาร
เยี่ยซีที่อยู่ทางด้านซ้ายมือสุดน้ำตาเริ่มไหลออกมาแล้วเช่นกัน
หลังจากที่นางเห็นิอวี่สังหารประมุขตำหนักโยวิ นางก็เข้าใจจริงๆ ขึ้นแล้วว่าตนเองสู้ิอวี่ไม่ได้เลย
นางรู้จักิอวี่ดี เขาเป็คนบ้าอำนาจ ต่อให้นางพูดมากแค่ไหนิอวี่ก็จะทำตามที่ใจ้า ในพื้นที่เล็กและแคบแห่งนี้เขาก็จะต้องลวนลามนางแน่นอน
พอคิดได้แบบนี้ ในใจของเยี่ยซีก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว นางรักษาเนื้อรักษาตัวมากว่าสิบหกปีก็เพื่อให้ผู้ชายที่โดดเด่นมากที่สุดนะ!
เดิมอีกไม่นานนางก็จะมอบกายให้กับิเสวียนแล้ว ต่อให้ิอวี่จะร้ายกาจมากแค่ไหน อยู่ต่อหน้าิเสวียนเขาก็สู้ไม่ได้อยู่ดี แต่ตอนนี้นางกลับจะต้องถูกิอวี่ขืนใจ!
พอคิดได้แบบนี้เยี่ยซีก็ควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่ไหว น้ำตาไหลพรากออกมาจากสองตาและไหลอาบทั่วใบหน้า
เห็นสภาพหญิงสาวทั้งห้าคนน่าอนาถมาก ในใจของิอวี่ก็รู้สึกสะใจ
เขาไม่ทำอะไรแบบนั้นกับผู้หญิงพวกนี้แน่นอน แล้วก็ไม่ได้อยากทำอะไรด้วย เขาแค่อยากจะใช้คำพูดข่มขู่ให้พวกนางร้องไห้ เพราะมันสะใจมากกว่าลงมือทำอะไรพวกนางอีก
ในเวลานี้เอง แสงสีดำเส้นหนึ่งก็พุ่งออกมาจากหน้าอกของิอวี่ แล้วมายืนอยู่ด้านหลังของเขา
ิอวี่กำลังสนุกเลย แต่หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกว่าหลังหูด้านขวาของเขารู้สึกเจ็บ มีคนกำลังดึงหูของเขาอยู่
“เ้าิอวี่ตัวแสบ! เ้ากำลังทำอะไรอยู่นะ เ้านี่มัน ... ลามก ไร้ยางอายที่สุด ถ้าพลังของข้าไม่ฟื้นกลับมาบ้างแล้วแปลงเป็ร่างิญญาออกมาห้ามทัน เ้าคิดจะทำเื่น่าโมโหพวกนั้นจริงๆ ใช่ไหม!”
คนที่พูดก็คือเฮยจีนั่นเอง นางยื่นมือซ้ายขาวๆ ของนางออกมาแล้วดึงไปที่หูข้างขวาของิอวี่แล้วสอบถามเขา
เมื่อครู่นางรับรู้ทุกอย่างผ่านหยกโบราณ นางไม่ได้ส่งเสียงเพราะอยากจะรู้ว่าิอวี่คิดจะทำอะไรกันแน่?
เดิมเฮยจียังเชื่อในตัวของิอวี่ แต่ใครจะรู้ว่าเขากลับพูดแบบนั้นออกมา พอนางได้ยินก็โมโห โมโหอย่างมากด้วย!
ก่อนหน้านี้เพราะิอวี่นอนอยู่บนกองร่างของหญิงสาว เฮยจีก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมากแล้ว ตอนนี้จากการกระทำของิอวี่ เฮยจีก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้โมโหมากขนาดนี้
ตอนนี้เฮยจีจ้องมองมาที่ิอวี่เท่านั้น นางไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าตอนที่นางปรากฏตัวออกมา สีหน้าของผู้หญิงอีกห้าคนที่อยู่ข้างๆ ก็ตกตะลึงถึงขั้นสุด!
แสงของตะเกียงหิ่งห้อยทำให้ผู้หญิงทั้งห้าคนเห็นใบหน้าและรูปร่างของเฮยจีออกอย่างชัดเจน
ผมของนางยาวเลยบ่า ใบหน้าเรียวงาม ผิวพรรณขาวเรียบเนียน ดวงตาเป็ประกายกลมโต จมูกโด่ง ปากดูอวบอิ่มมาก
ในฐานะที่เป็ผู้หญิงเหมือนกัน ไม่เพียงมีความอ่อนไหวในเื่ของหน้าตาของตัวเองอย่างมากเท่านั้น แต่ใบหน้าของผู้หญิงคนอื่นทำให้อ่อนไหวยิ่งกว่าเพราะสามารถนำมาเปรียบเทียบได้ ที่จริงระหว่างพวกนางห้าคนก็มีแอบเทียบกันอยู่ แต่ก็ไม่มีใครยอมใครเลย เพราะใบหน้าของพวกนางแต่ละคนมีจุดที่น่าภูมิใจแตกต่างกันออกไป แต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของนางในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็จุดไหนก็หาที่ติไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว!
ทุกอย่างบนใบหน้าดูสมส่วนเป็ธรรมชาติ ทุกอย่างดูเข้ากันไปหมดในระดับที่ดีมาก ทำให้ใครก็ตามที่ได้เห็นก็อดตกเข้าสู่ภวังค์ไปไม่ได้เลย
มันไม่ใช่อาการหลง แต่มันเป็การชื่นชมความงดงามนั้นอย่างบริสุทธิ์ใจ!
ร่างกายล่ะ? ร่างกายล่ะเป็อย่างไร?
พวกนางห้าคนพยายามหาจุดถ่วงดุล กวาดสายตาไปที่เรือนร่างของเฮยจี แต่หลังจากที่มองไปแล้ว พวกนางกลับรู้สึกว่าไม่มองแต่แรกน่าจะดีกว่า
เพราะเรือนร่างของเฮยจีก็หาจุดบกพร่องไม่เจอเช่นกัน หน้าอกที่เต่งตึง ขาที่เรียวยาว เอวที่เล็กเข้ารูป ผิวที่ขาวเรียบเนียน รูปร่างสมบูรณ์แบบ ยังมีเล็บที่นิ้วเท้านั่นอีก แต่ละนิ้วสีอมชมพูทั้งหมด สวยหมดจรดถึงขั้นนั้น มันเกินไปแล้วไหม?
ปกติแล้ว ผู้หญิงที่สวยจะมีนิยามความงดงามในแบบของตัวเอง พวกนางรู้ดีว่าจุดเด่นในตัวของพวกนางนั้นอยู่ตรงไหน แล้วก็รู้วิธีปกปิดจุดบกพร่องที่จะไม่ให้คนอื่นได้เห็นด้วย
แต่ว่าบนตัวของเฮยจีไม่มี ใช่ มันไม่มีเลย ผู้หญิงห้าคนที่ตามหาความงามที่สมบูรณ์แบบในแบบที่ตัวเองคิด พออยู่ต่อหน้าเฮยจีกลับหาจุดบกพร่องของนางไม่เจอเลยแม้แต่นิดเดียว!
แม้นางจะสวมชุดสีดำธรรมดาอย่างมากแต่ก็ยังดูดีอยู่ ทำให้ใครที่ได้เห็นก็ต้องรู้สึกว่ามองอย่างไรก็ไม่พอเลย!
วันนี้พวกนางทั้งห้าคนถึงได้เข้าใจว่าอะไรคืองามทลายเมืองและไร้ที่ติ!
“โอ๊ย ... โอ๊ย เจ็บ เ้าปล่อยมือแล้วฟังข้าอธิบายก่อนได้ไหม?”
ิอวี่เอียงหัวข้างที่ถูกเฮยจีดึง แม้แต่ร่างกายแบบเขายังรู้สึกว่าเจ็บ แสดงว่าเฮยจีโมโหมากจริงๆ แล้วก็ออกแรงดึงจริงจังมากด้วย
เฮยจีพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า “ฮึ! ยังคิดจะอธิบายอะไรอีก ยังบอกให้พวกนางเรียกเ้าว่าท่านพี่ ไม่นานก็รับน้องสาวแล้วหรือ เ้ามันหน้าไม่อาย! นี่เหลือแค่จับได้คาเตียงเท่านั้นแล้ว เ้ายังคิดจะอธิบายอะไรอีก ข้าว่าเ้ามันบ้ากาม จิตใจหยาบช้า นิสัยไม่ดี เป็เ้าสารเลวที่ในหัวมีแต่เื่อย่างว่า!”
ิอวี่ถึงกับหมดคำพูด เขาทนเจ็บแล้วพูดว่า “พี่สาวคนสวยของข้า ฟังข้าอธิบายก่อนนะ ข้าไม่ได้จะทำอะไรจริงๆ ข้าแค่อยากสั่งสอนพวกนางเท่านั้นแหละ นานขนาดนี้แล้วเ้ายังไม่รู้จักข้าอีกหรือ? เ้าสวยขนาดนี้ข้ายังจะไปมองพวกนางได้อีกหรือ?”
ผู้หญิงชอบฟังคำชม เฮยจีเองก็เช่นกัน เมื่อได้ยินิอวี่ชมว่าสวยเฮยจีก็โกรธน้อยลงและค่อยๆ ปล่อยมือออก
แต่หลังจากนั้นเหมือนนางจะคิดอะไรได้ นางพูดว่า “ไม่สิ ความหมายของเ้าคือเ้าคิดไม่ซื่อกับข้าอย่างนั้นหรือ? บอกเ้าไว้ก่อนเลยนะ ข้าไม่ให้โอกาสเ้าแน่นอน เ้าฝันไปเถอะ!”
ถึงแม้จะพูดไปแบบนั้น แต่ก็ไม่รู้ทำไมเฮยจีกลับรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมา แม้แต่ลมหายใจเขา นางก็รู้สึกว่ามันหอมหวาน
“ ... เหอะๆ ข้าก็ไม่ได้อยากได้คนรุ่นทวดอย่างเ้าหรอก”
“เ้าว่าอะไรนะ ... ” ระหว่างที่พูดเฮยจีก็ดึงหูิอวี่อีกครั้ง
ตอนที่เฮยจีกับิอวี่กำลังเถียงกันอยู่ ผู้หญิงทั้งห้าคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็มองพวกเขาสองคนหยอกล้อกันไปมาราวกับคู่รักกำลังทะเลาะกัน