กวนฮุ่ยเอ๋อจะไม่ฟังคำพูดของคนอื่นก็ได้ ทว่าสำหรับสามีที่ร่วมเรียงเคียงหมอนกันมายี่สิบกว่าปีแล้ว โจวกั๋วปินไม่แสดงความคิดเห็นกับเื่ในบ้านง่ายๆ เช่นนี้ เมื่อเขาเอ่ยปาก กวนฮุ่ยเอ๋อจึงต้องพิจารณาคำพูดของเขาอย่างถี่ถ้วน
ได้ เธอจะพยายามอย่างเต็มที่ในการใช้ทัศนคติที่เป็ธรรมมองคนรักคนแรกของโจวเฉิง
ผลสอบเกาเข่าออกแล้วยังไม่เข้าบ้าน หรือว่าจะรอรับจดหมายตอบรับเข้าเรียนก่อนค่อยเข้าบ้านกันนะ?
----------------------------------------
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่สามารถรับรู้ความคิดเห็นของมารดาโจวเฉิงได้ ความจริงแล้วเธอแค่ยังไม่มีแผนจะเข้าพบผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ด้านบ้านโจวจินตนาการไปเองต่างๆ นานาเองเสียแล้ว
คังเหว่ยมาเยือนหยางเฉิงในวันที่ 21 กรกฎาคม บินตรงจากปักกิ่งถึงสนามบินหยางเฉิงไป๋อวิ๋น โดยหนีบเส้ากวงหรงผู้ไม่เสียเงินซื้อตั๋วเครื่องบินมาด้วย ในชาตินี้ เซี่ยเสี่ยวหลานไปสนามบินไป๋อวิ๋นเป็ครั้งแรก สนามบินไป๋อวิ๋นในปี 1984 ดูไม่ค่อยสมบูรณ์นัก บนลานจอดมีเครื่องบินไม่กี่ลำ เส้นทางบินก็น้อยนิดยิ่งนัก ทั้งปักกิ่งและหยางเฉิงคือเมืองใหญ่ของประเทศ ถึงได้มีเที่ยวบินระหว่างกันและกัน ในหลายสถานที่เองก็เริ่มมีสนามบินพลเรือนแล้ว ทว่ายังคงยึดหลักการเดิม สถานะไม่พอก็นั่งเครื่องบินไม่ได้
คังเหว่ยกับเส้ากวงหรงมีหน่วยงานเป็หลักแหล่งทั้งคู่ และหน่วยงานของทั้งสองไม่กระจอกเสียด้วย นี่คือเหตุผลที่พวกเขาสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินได้
เส้ากวงหรงประสบกับการ ‘ใช้เงินต่างเศษดิน’ ของคนมีเงินอีกครั้ง ตั๋วเครื่องบินหนึ่งใบสามารถไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคาร ‘แม็กซิม’ บนถนนฉงเหวินเหมินได้แล้ว!
เส้ากวงหรงยังคงสงบใจไม่ได้ แม้รู้ว่างานที่บ้านเส้าจัดหาให้นั้นดีมาก เงินเดือนและสวัสดิการนั้นยอดเยี่ยมยิ่งนักเมื่อเทียบกับผู้อื่น อนาคตข้างหน้าก็ยาวไกล... แต่ชายหนุ่มโปรดปรานความสนุกสนาน ควงสาวต้องใช้เงิน เลี้ยงอาหารมิตรสหายต้องใช้เงิน งานอดิเรกเล่นรถจักรยานยนต์เล็กๆ น้อยๆ ก็ต้องใช้เงิน แม้เงินเดือนและเงินพิเศษจะเพียงพอต่อการกินดื่มได้อย่างไม่ต้องกังวล ทว่าขัดสนในด้านอื่นๆ
เขาอายุ 22 ปีเข้าไปแล้ว จะขอเงินจากที่บ้านตลอดเวลาก็ไม่ดี
เส้ากวงหรง้าอนาคตในหน้าที่การงาน และ้าต้าถวนเจี๋ยสำหรับการเพลิดเพลินไปกับความสุข ณ ตอนนี้ด้วย คังเหว่ยบอกว่าเขาโลภมากไปแล้ว เส้ากวงหรงเองก็ยอมรับ
แต่การมีอิสระทางการเงินเฉกเช่นคังเหว่ยนี้ มันช่างน่าอภิรมย์เหลือเกิน!
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นเส้ากวงหรง แต่ไม่ได้แสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้ง เ้าตัวตลกรายนี้น่าขันยิ่งกว่าอะไรดี เจอหน้าก็ะโ ‘พี่สะใภ้รุ่งเรือง’ ทันที ประจบสอพลอราวกับขันทีหนุ่ม เซี่ยเสี่ยวหลานเดาว่าอีกฝ่าย้ากำลังอะไรบางอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้เลขาโหวเพิ่งช่วย ‘หย่วนฮุย’ จัดการเื่คุณสมบัติงานและการจดทะเบียนบริษัท มีน้ำใจครึ่งหนึ่งที่เซี่ยเสี่ยวหลานจดจำไว้ในฐานะของเส้ากวงหรง ดังนั้นเธอไม่มีทางหวงใบหน้ายิ้มแย้มแก่เขาแน่นอน
ชายหนุ่มสองคนนี้ยังไม่ทันได้แสดงความยินดีที่เซี่ยเสี่ยวหลานคว้าตำแหน่งบัณฑิตเกาเข่า ก็มองเห็นเฝือกที่อยู่บนมือของเธอเสียก่อน
“พี่สะใภ้ นี่คือ?”
“อ๋อ หกล้มน่ะ! ยังไม่ได้บอกโจวเฉิงเลย พวกเธอสองคนก็อย่าหลุดปากเชียวล่ะ”
เซี่ยเสี่ยวหลานมีท่าทีที่เป็ธรรมชาติมาก คังเหว่ยกับเส้ากวงหรงดูไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย
เซี่ยเสี่ยวหลานพาคังเหว่ยไปชมสถานที่จริงสำหรับทำธุรกิจโดยตรง
ตลาดสินค้าเบ็ดเตล็ดค่อนข้างสะเปะสะปะทีเดียว ร้านค้าแผงลอยต่างๆ ตั้งอยู่กลาดเกลื่อน ที่มาที่ไปของลูกค้านั้นหลากหลายมาก มีทั้งชาวประมง ทั้งคนงานหญิงที่ทำงานในโรงงานต่างชาติ และยังมีคนงานก่อสร้างที่มาเผิงเฉิงเพื่อช่วยงานสร้างอาคารด้วย ตลาดสินค้าเบ็ดเตล็ดมีการจำหน่ายสินค้าทุกประเภท หนึ่งเดียวที่ยังไม่มีคือวัสดุตกแต่งภายใน จู่ๆ เซี่ยเสี่ยวหลานจะเปิดในอาคารขนาดเล็กสี่ชั้นที่มีขนาดเกิน 1200 ตารางเมตรทันที คังเหว่ยจึงคิดว่าขนาดของธุรกิจนี้ใหญ่ไปสักหน่อย
ไม่ใช่ว่าคังเหว่ยไร้ประสบการณ์ แต่นอกจากห้างสรรพสินค้าแล้ว จะไปหาร้านปลีกใหญ่ขนาดนี้จากที่ไหน?
ปัจจุบันไม่มีตลาดเฉพาะ ไม่มีห้างเฉพาะ บ้านเรือนของคนทั่วไปมีขนาดเพียงห้าถึงหกสิบตารางเมตร อาคารสี่ชั้นรวมเนื้อที่มากกว่า 1200 ตารางเมตร สามารถจัดให้ 20 กว่าครัวเรือนอาศัยได้ ถูกต้อง ไม่ใช่ 20 กว่าคน แต่เป็ 20 กว่าครัวเรือน! สถานที่ใหญ่โตขนาดนี้ คลายความสงสัยที่เซี่ยเสี่ยวหลาน้าดึงคนร่วมลงทุนด้วยทันที เม็ดเงินที่ผ่านมือทุกเดือนตอนคังเหว่ยขายบุหรี่เก็งกำไรนั้นมีจำนวนเยอะกว่าธุรกิจเสื้อผ้าของเซี่ยเสี่ยวหลานแน่นอน ทว่าของที่เขาขายนี้หากำไรจากส่วนต่างราคาในการขายต่างสถานที่ ไม่ต้องจำเป็ต้องมีหน้าร้านจริงด้วยซ้ำ
อย่างมากก็แค่เช่าบ้านใกล้สถานีรถไฟสักหลังเป็โกดังสินค้า สำหรับร้าน 4 ชั้น คังเหว่ยไม่รู้เช่นกันว่าต้องจัดการอย่างไร
เซี่ยเสี่ยวหลานดึงเขานั่งลงเพื่อสนทนาธุระสำคัญ ปลายเดือนกรกฎาคมอากาศร้อนอบอ้าวเหลือทน บนชั้นสี่ตั้งโต๊ะใหญ่หนึ่งตัว เก้าอี้หลายตัว และวางกระดาษอีกหนึ่งกอง ภายในอาคารต่อไฟฟ้าชั่วคราว ตั้งพัดลมสองตัวชั่วคราว มันส่ายไปมาส่งเสียงดังกึงกัง พยายามสร้างลมหมุนเวียนสุดชีวิต... อันที่จริงไม่มีประโยชน์สักเท่าไร เพราะว่าอากาศมันร้อนเหลือเกิน ลมที่สร้างขึ้นจึงเป็ลมร้อน
ผ่านไปครู่เดียวคังเหว่ยและเส้ากวงหรงก็ร้อนจนเหงื่อไหลโทรมกาย
ธุรกิจนี้เป็การร่วมลงทุนระหว่าง 3 คนคือเซี่ยเสี่ยวหลาน ไป๋เจินจู และคังเหว่ย ทว่าผู้ฟังไม่ได้มีเพียงเส้ากวงหรง ยังมีหลิวหย่งด้วยอีกคน
อย่างน้อยหลิวหย่งเคยทำงานตกแต่งภายในมาก่อน ด้วยโชคชะตานำพา กระทั่งคำสั่งงานของบ้านพักรับรองมูลค่ารวมหลักล้านหยวนก็รับทำมาแล้ว เขามีประสบการณ์พอจะรู้ว่าต้องใช้วัสดุตกแต่งภายในชนิดใดบ้างอย่างเป็รูปธรรม
เซี่ยเสี่ยวหลานชี้กระดาษและปากกาบนโต๊ะ
“วันนี้จะประชุมหารือกัน ทุกคนสามารถเสนอความคิดเห็นออกมาได้ทั้งหมด พวกเราจะพิจารณาต่อหน้าทุกคนอย่างยุติธรรม อันดับแรกพวกเราต้องตัดสินใจว่าในร้านควรขายอะไร!”
ขายอะไร?
คังเหว่ยนึกถึงงานตกแต่งภายในของบ้านตัวเอง เขาว่ากันว่าเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นขาดแคลน อันที่จริงเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ใช่ของที่หาซื้อยากที่สุด
ของที่ซื้อได้ยากคือสีทาผนัง
ในประเทศยังคงนิยมการทาสีขาวล้วน ซึ่งเป็สีชนิดน้ำมัน ส่วนสีอะคริลิคที่หลิวหย่งใช้ในงานตกแต่งบ้านของเขานั้นสามารถผสมสีได้ เนื่องจากเมื่อก่อนไม่มีตลาดที่้า ภายในประเทศจึงไม่มีโรงงานผลิตเลย คังเหว่ยต้องใช้เส้นสายถึงจะสามารถซื้อสีอะคริลิคที่ผลิตโดยประเทศญี่ปุ่นมาได้บางส่วน
“สีอะคริลิค วอลเปเปอร์ด้วย สองอย่างนี้ต้องมี”
ผนังสีขาวสะอาดดูดีสบายตา ถ้า้าตกแต่งให้เกิดความเป็เอกลักษณ์บ้าง ต้องมีสีสันประดับประดาอีกเล็กน้อย ในเวลานี้มีวอลเปเปอร์แล้ว คนอังกฤษเริ่มใช้เครื่องจักรผลิตวอลเปเปอร์พิมพ์ลายทีละจำนวนมากั้แ่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 เทคโนโลยีนี้พัฒนามาจวบจนทุกวันนี้ จนมีวอลเปเปอร์ลายนูนเป็ที่เรียบร้อย อันที่จริง ‘ลายนูน’ ก็คือการพิมพ์ลายนูนต่ำ พื้นผิวของวอลเปเปอร์ประเภทนี้จะให้ััไม่สม่ำเสมออย่างชัดเจน ััละมุนมือ และให้ผลลัพธ์สามมิติที่ดีมาก... ข้อเสียคือกันน้ำกันชื้นได้ไม่ดีนัก สามารถขึ้นราได้ง่าย
สีอะคริลิคยังพอไหว แต่สำหรับวอลเปเปอร์ จะจำหน่ายในเผิงเฉิงเป็หลัก เซี่ยเสี่ยวหลานเขียนปรัศนีไว้
ไป๋เจินจูจะเสนออะไรได้บ้าง เธอเคยไปดูสถานที่ก่อสร้างจริงของบ้านพักรับรอง เธอแค่คิดว่ากระเบื้องปูพื้นสวยดีเท่านั้น
“ทำความสะอาดง่าย สวยกว่าพื้นซีเมนต์ เงาแวววาว เพียงแต่ต้องระวังลื่นล้ม”
อันตรายแฝงอย่างการลื่นล้มสามารถแก้ไขได้เช่นกัน เพราะตอนนี้จุดประสงค์การใช้งานหลักของกระเบื้องเซรามิคที่โรงงานมากมายผลิตขึ้นคือใช้ตกแต่งผนัง ต้องมีความเงาวาว ถึงจะดูสวยงามภายใต้แสงอาทิตย์ เป็กระเบื้องเหมือนกัน เพียงแบ่งประเภทระหว่างกระเบื้องพื้นกับกระเบื้องผนังก็พอ ในอนาคตก็เป็แบบนี้ กระเบื้องพื้นปูกำแพงได้ ทว่ากระเบื้องกำแพงไม่เหมาะกับการปูพื้น
เดิมทีกระดานปูพื้นนั้นดี กันลื่นมากกว่ากระเบื้องพื้น แต่ชั้นอาคารที่ไม่สูงพอก็ไม่เหมาะเช่นกัน หุยหนานเทียน [1] ของเผิงเฉิงชื้นเกินไป การปูกระดานไม้ในชั้นอาคารเตี้ยเป็สิ่งที่ร้ายแรงมาก หลักการเดียวกันกับวอลเปเปอร์ลายนูน
หลิวหย่งคิดว่าไฟตกแต่งนั้นสำคัญมาก ต่อให้แต่งบ้านสวยขนาดไหน หากอุปกรณ์ไฟไม่เข้ากันก็ไร้ประโยชน์ การเลือกใช้โคมไฟอย่างเหมาะสมสามารถสร้างผลลัพธ์ทางบรรยากาศที่ดีได้ หลิวหย่งยังไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ เจาะจงคือยังอยู่ระหว่างการศึกษา หลังจากปรึกษาหารือกันมานาน ขั้นแรกกำหนดว่าชั้นหนึ่งจำหน่ายวัสดุตกแต่งเกี่ยวกับผนัง รวมทั้งสีและวอลเปเปอร์ ชั้นสองจำหน่ายกระเบื้องและกระดานปูพื้น รวมถึงวัสดุตกแต่งพื้นประเภทพื้นยางที่ราคาย่อมเยากว่า ชั้นสามคือผลิตภัณฑ์โลหะสำหรับห้องครัวห้องน้ำ ทุกคนคิดว่าชั้นสี่สามารถนำไปใช้จำหน่ายไฟตกแต่งได้ ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานมีแผนที่แตกต่างเล็กน้อย เธอเก็บไว้กับตัวก่อน
“ฉันคิดว่าพวกเธอคงสนใจเื่สัดส่วนในการร่วมหุ้นลงทุนของทุกคนมากกว่าสินะ? แม้แต่พี่น้องร่วมท้องยังต้องทำบัญชีให้โปร่งใส [2] ถ้าทุกคนเหนียมมอายที่จะคุยเื่เงินในตอนนี้ จะเกิดปัญหาขึ้นในภายหลังแน่!”
เชิงอรรถ
[1]回南天 หุยหนานเทียน คือ สภาพอากาศชนิดหนึ่งในทางใต้ของประเทศจีน มักบ่งชี้ถึงปรากฏการณ์ที่อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นและระดับความชื้นเพิ่มสูงอีกครั้งกะทันหันในฤดูใบไม้ผลิ
[2]亲兄弟明算账 แม้แต่พี่น้องร่วมท้องยังต้องทำบัญชีให้โปร่งใส หมายถึง ต่อให้เป็คนที่มีความสัมพันธ์สนิทชิดใกล้มากขนาดไหน ก็ต้องมีความโปร่งใสในเื่เงิน