“ถั่วขนแดงน้อย?” กู้เจิงยังไม่ทันได้กินก็ถูกชื่อถั่วชนิดนี้ดึงดูดเข้าก่อนถั่วลิสงในมือของนางมีขนาดเล็กพอๆ กับเซียงเฝ่ยที่ปาเม่ยเคยนำมาให้ชิมผิวเปลือกภายนอกเป็หลุมขรุขระ ทว่าััแล้วให้ความรู้สึกเกลี้ยงเกลาเป็มัน “ทำไมถึงเรียกว่าขนแดงน้อยหรือเ้าคะ?”
ป้ารองปอกเปลือกถั่วลิสงและชี้ไปที่เปลือกผิวด้านในสีแดง “แดง หมายถึงชั้นผิวภายในที่เป็สีแดง ส่วนคำว่าขนเป็เพราะเวลาถั่วลิสงดึงออกมาจากดินจะมีรากฝอยจำนวนมาก”
“เปลือกด้านในของถั่วลิสงแดงขนาดนี้เชียว” เป็ครั้งแรกที่กู้เจิงได้เห็นเปลือกถั่วลิสงที่แดงสวยงามเช่นนี้นางลองปอกเปลือกแล้วกินเข้าไปเม็ดหนึ่ง บอกได้คำเดียวว่า หอม หอมมาก
“หากมีถั่วลิสงนี่กินกับสุราข้าสามารถดื่มสุราข้าวได้ทุกวันเลยทีเดียว” ลุงรองว่าพลางหัวเราะ
“พี่รอง พี่สะใภ้รองเย็นนี้อยู่กินข้าวที่บ้านข้าเถอะอีกเดี๋ยวพี่สะใภ้ใหญ่ก็เรียกพี่ใหญ่มาที่นี่ด้วย” นายหญิงเสิ่นหันไปพูดกับสามีว่า “ท่านไปเรียกพี่สามกับพี่สะใภ้สามมาด้วยสิเ้าคะ”
“ได้สิ” นายท่านเสิ่นพยักหน้า
“โอ๊ย เ้าคิดจะกินข้าวฉลองปีใหม่เสียวันนี้เลยหรือ” ป้าใหญ่เก็บขนมมันเทศที่เอามาตากเรียบร้อยแล้ว “ข้าไม่เอาด้วยนะ เดี๋ยวสิ้นปีพวกเรายังต้องมากินข้าวที่บ้านเ้าอีก”
ทุกคนหัวเราะ ป้ารองกล่าวว่า “วันนี้บ้านข้าไม่กินแล้ว คราวที่แล้วครอบครัวฝั่งพ่อตาแม่ยายของอากุ้ยเอาของมาให้เยอะวันนี้ยังต้องเตรียมของให้อากุ้ยส่งเป็ของขวัญกลับไปในวันพรุ่งนี้อีก”
“บ้านข้าก็ไม่กินแล้วเหมือนกัน เสี่ยวเหมายังเฝ้าร้านอยู่เลยตอนนี้พี่สามกับพี่สะใภ้สามก็คงกำลังยุ่งอยู่กับร้านเต้าหู้ข้าเดาว่าคงไม่มีเวลามาหรอก” ป้าใหญ่แบ่งขนมมันเทศสองตะกร้าไว้ตรงหน้านายหญิงและป้ารอง “นี่ของพวกเ้า”
“ขอบคุณพี่สะใภ้ใหญ่เ้าค่ะ” นายหญิงให้ลูกชายหิ้วขนมมันเทศเข้าไปเก็บในห้องครัว
กู้เจิงเดินตามสามีเข้าไปชิมขนมมันเทศด้วย พี่น้องตระกูลเสิ่นรักใคร่กลมเกลียวกันดีแม้แต่ของกินสำหรับปีใหม่ก็ยังแบ่งงานกันทำ ขนมเข่งกรอบจากบ้านเราป้าใหญ่ทำขนมมันเทศ ส่วนของป้ารองเป็ถั่วลิสง ตอนนี้ป้าสามดูแล้วยังไม่มีแต่เต้าหู้ที่นางทำนั้นอร่อยจริงๆ
วันรุ่งขึ้น ครอบครัวตระกูลเสิ่นก็ตื่นกันแต่เช้าตรู่
วันนี้เป็วันที่เสิ่นเยี่ยนจะไปรายงานตัว นายหญิงกับกู้เจิงรวมถึงชุนหงตื่นนอนมาก็เริ่มห่อเกี๊ยว
“อากาศหนาวขนาดนี้นึกไม่ถึงว่าคุณหนูจะลุกจากเตียงได้แต่เช้านะเ้าคะ” ชุนหงพูดยิ้มๆ ขณะห่อเกี๊ยวไปด้วย
“วันนี้เป็วันแรกของการรับตำแหน่งของท่านพี่แน่นอนว่าข้าจะพลาดไม่ได้” กู้เจิงมองเกี๊ยวที่ตัวเองห่อถึงแม้จะไม่ได้สวยเหมือนของแม่สามี แต่ก็พอทนดูได้
“วันนี้ท่านบุตรเขยใส่ชุดขุนนาง ดูแล้วมีสง่าราศีจริงๆเ้าค่ะ” ชุนหงเอ่ยชมเมื่อเห็นเสิ่นเยี่ยนเดินเข้ามา
กู้เจิงหมุนตัวไปมอง วันนี้เสิ่นเยี่ยนสวมชุดสีน้ำเงินเข้มร่างกายสูงใหญ่ดูองอาจ ริมฝีปากเขายกยิ้ม ดูออกว่าอารมณ์ดีทีเดียว
“ท่านพี่ ดูดีจริงๆ ด้วยเ้าค่ะ” กู้เจิงเดินเข้าไปหาเขาและพูดอย่างอ่อนโยนอีกว่า “เป็บุรุษที่รูปงามที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมาเลยเ้าค่ะ”
เสิ่นเยี่ยน “...” ได้ฟังคำชมหวานหูแต่เช้าตรู่เชียว
นายหญิงกับชุนหงมองหน้ากันแล้วหัวเราะเบาๆ
“คุณหนูมักจะปากหวานเสมอจ้าค่ะ” ชุนหงเอ่ยล้อเลียนกู้เจิง
นายท่านเสิ่นเดินเข้ามาในครัว เขาตบไหล่ทักทายบุตรชายเบาๆ “เ้าลูกชาย จงตั้งใจทำงานให้ดีจากนี้ไปเ้าจะต้องก้าวหน้าในหน้าที่การงานแน่นอนไม่แน่ว่าอาจจะได้เป็ถึงอัครเสนาบดีก็ได้นะ”
กู้เจิงตาเป็ประกาย อัครเสนาบดีเชียวนะ เป็ขุนนางใหญ่ขั้นหนึ่งนางรีบส่งสายตาคาดหวังให้สามี
เสิ่นเยี่ยนเอานิ้วจิ้มหน้าผากกู้เจิงอย่างเอ็นดู
“เกี๊ยวเสร็จแล้ว อาเจิง ชุนหง รีบหยิบชามมาเร็วเข้า” นายหญิงเสิ่นเอ่ยเรียก
“ได้เ้าค่ะ” กู้เจิงกับชุนหงรีบหยิบชามออกมาตักอาหาร
เสิ่นเยี่ยนจัดแบ่งตะเกียบให้ทุกคน
เกี๊ยวของนายหญิงเสิ่นห่อเป็ชิ้นเล็กพอดีคำกู้เจิงชิมเกี๊ยวอย่างเอร็ดอร่อย
ชุนหงเห็นคุณหนูของตนกินอย่างมูมมามนางเห็นกู้เจิงตักเกี๊ยวเข้าปากคำโตโดยไม่สนใจมารยาทสักนิดนางจึงแอบใช้เท้าสะกิดเตือนคุณหนูที่ใต้โต๊ะ
กู้เจิงก้มลงมองก็เห็นชุนหงเอาเท้าสะกิดนางนางจึงจำต้องสำรวมอาการลงเล็กน้อย
ท่าทางของสองนายบ่าวอยู่ในสายตาของเสิ่นเยี่ยนมาโดยตลอด เพียงแต่เสิ่นเยี่ยนกลับมองว่าท่าทางภรรยาของเขาเวลากินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยนั้นดูน่าเอ็นดูไม่น้อย
หลังจากทานหารเช้ากันเสร็จ กู้เจิงก็มายืนมองส่งสามีที่หน้าบ้านจนรถม้าลับสายตาไป
“คุณหนู เข้าบ้านกันเถอะเ้าค่ะ” ชุนหงโบกไม้โบกมือตรงหน้าคุณหนู
งานของนางในวันนี้คือการเย็บหมอนให้เสร็จและนางก็คิดจะปักถุงเงินลายน่ารักให้กู้เหยาด้วย
เมื่อพูดถึงกู้เหยา กู้เจิงก็นึกถึงซู่เหนียง นางรู้สึกว่าเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อวานเว่ยซื่อไม่ได้โกรธเคืองซู่เหนียงมากนักไม่เหมือนเมื่อก่อน
“อาเจิง ข้ากับสามีจะไปช่วยพวกลุงสามดูห้องเช่า เ้าอยากไปกับเราไหม?” นายหญิงเสิ่นเข้ามาถามกู้เจิงในห้อง
“ไม่ไปเ้าค่ะ วันนี้ข้าจะปักหมอนให้น้องสามให้เสร็จ”
“ได้” นายหญิงเสิ่นตอบรับ
กู้เจิงรีบถามต่อว่า “ท่านลุงสามถูกใจร้านในตรอกไหนหรือเ้าคะ?”
“เป็ตรอกเดียวกับร้านหนังสือของเ้านั่นแหละร้านที่ให้เช่าก็อยู่ใกล้ๆ กับร้านหนังสือ”
นายท่านเสิ่นที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องนอนเขาถอนหายใจก่อนกล่าวว่า “คิดว่าพี่สามคงไม่คิดจะจากที่นี่ไปอีกแล้วถ้าท่านพ่อท่านแม่รู้ว่าพี่สามกลับมาตั้งรกรากที่บ้านแล้ว ไม่รู้จะดีใจแค่ไหน”
นายหญิงเสิ่นพยักหน้าเห็นด้วย
พอพ่อแม่สามีจากไป ในบ้านก็เงียบลง ชุนหงที่ทำงานบ้านเสร็จแล้วจึงไปเอาชุดของคุณหนูมาซัก
กู้เจิงปักลวดลายบนสะดึงได้เกินครึ่งแล้วนางทำเพิ่มอีกสักหน่อยก็จะเสร็จแล้ว นางเริ่มเลือกสีด้ายอย่างจริงจัง แต่จู่ๆหางตาของนางก็เหลือบไปเห็นชุนหงแอบมองนางแล้วทำหน้ายิ้มๆ
“ทำไมหรือ เ้าหลงเสน่ห์ในหน้าตาของข้าแล้วหรือยังไง?” กู้เจิงหยอกล้อ
“บ่าวชอบคุณหนูในตอนนี้เ้าค่ะ”
กู้เจิงมองตาใสแจ๋ว “ข้าก็ชอบเ้าเหมือนกัน”
ชุนหงหน้าแดงในใจนางรู้สึกอบอุ่นยิ่งนักนางรีบหมุนตัวออกจากห้องไปทำงานต่อนางคิดในใจว่าตลอดชีวิตนี้นางจะไม่มีวันทำลายความไว้วางใจที่คุณหนูมีต่อนางอย่างแน่นอน
เมื่อชุนหงซักเสื้อผ้าเสร็จแล้ว นางก็เริ่มลงมือตากผ้า
กู้เจิงปักหมอนอย่างตั้งใจ แต่ทันใดนั้น จู่ๆก็มีเสียงจุดประทัดดังกึกก้องไปทั่ว สองนายบ่าวกรีดร้องด้วยความใขึ้นพร้อมกัน
มีเสียงหัวเราะสนุกสนานของเด็กๆ ดังขึ้นที่หน้าประตู
“เ้าเด็กบ้าพวกนี้" ชุนหงที่ใจนมือไม้อ่อนไปหมดนางโมโหจนต้องออกไปดูที่หน้าบ้าน
กู้เจิงก็ใมากเหมือนกันนางออกจากห้องตามไปดูที่หน้าบ้านด้วยเช่นกัน แต่พอถึงที่หน้าประตูก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเ้าพวกเด็กซุกซนชุนหงหันมาเห็นคุณหนูของนางตามออกมา
“คุณหนู ท่านไม่ได้ใกลัวใช่ไหมเ้าคะ?” ชุนหงเห็นคุณหนูมีท่าทางอกสั่นขวัญหาย
“ข้าไม่เป็ไร”
“ครั้งหน้าอย่าให้บ่าวเจอตัว จะจับตีทีละคนเลย” ชุนหงเอ่ยอย่างมาดหมาย
กู้เจิงยิ้มขำ
ยามที่พ่อแม่สามีกลับมาในตอนเที่ยงพวกเขาได้นำเต้าหู้ที่ป้าสามทำกลับมาด้วย
กู้เจิงและชุนหงรีบช่วยกันจัดเตรียมถ้วยชาม เพื่อเตรียมกินอาหารนายหญิงเสิ่นเอาเต้าหู้ที่ได้มานำมาทำอาหารด้วย
“อาเจิง รีบมากินเต้าหู้ตอนที่ยังร้อนๆ เถอะ” นายหญิงเสิ่นเรียกให้กู้เจิงรีบทานข้าว
“อร่อยเ้าค่ะ” ชุนหงกินนำไปก่อนแล้ว
กู้เจิงมองชุนหงอย่างหมั่นไส้ถ้าเป็เื่กินไม่มีของอะไรที่ไม่ถูกปาก กู้เจิงลองตักเต้าหู้มาชิมคำหนึ่งดวงตานางพลันส่องแสงแวววับ กลิ่นหอมของเต้าหู้และรสหวานให้รสชาติที่แปลกใหม่อร่อยมากจริงๆ