หลังจากชายหนุ่มกลับออกมา จวงอิงบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของหัวหน้าหมู่บ้านก็รีบพุ่งออกมาจากห้อง นางมองด้านหลังอันแข็งแรงของชายหนุ่มพลางแสดงสีหน้าเขินอาย
หัวหน้าหมู่บ้านจวงเมื่อเห็นบุตรสาวของตนมองตามเ้าหนุ่มอี้ซิงไป จึงถามนางด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เ้ามองตามเขาทำไม หรือว่ามีธุระกับเ้าหนุ่มบ้านย่าจวง”
จวงอิงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของบิดา
“ข้า..ไม่มีธุระอันใด เพียงแต่...ท่านพ่อให้ข้าไปทำงานในไร่ย่าจวงได้หรือไม่”
จวงต้าหลางมองบุตรสาวด้วยสีหน้าคลางแคลง ที่ผ่านมาตนไม่เคยให้นางต้องทำงานหนักในไร่สักครั้ง เพียงให้อยู่เฝ้าเรือนทำงานของสตรี เหตุใดวันนี้ถึงได้อยากทำงานหนักขึ้นมา
“เ้าหรือทำงานในไร่ จะทำไหวหรือ ต้องตากแดดทั้งวันขุดมันมิใช่งานเบาๆ”
จวงอิงเห็นบิดาเอ่ยเช่นนั้นนางก็กระทืบเท้าอย่างขัดใจ เหตุใดจะทำไม่ได้ นางเองก็โตแล้วทำงานเล็กน้อยจะเป็ไรไป
“ข้าไม่กลัว กลัวอันใดกันข้าเป็ลูกท่านพ่อไหนเลยจะกลัวความลำบาก”
“ก็ตามใจ อยากไปก็เตรียมตัวให้ดี”
จวงต้าหลางเห็นบุตรสาวแสดงท่าทีกระตือรือร้นแต่ก็มิได้สนใจ เพียงคิดว่านางคงจะอยากออกไปเที่ยวเล่นหรือพูดคุยกับเด็กสาวในวัยเดียวกันเท่านั้น ทว่ามิได้คิดเลยเถิดไปถึงเื่ที่นางอาจจะแอบรักชอบจวงอี้ซิงสักนิด
หลังจากที่คนในหมู่บ้านได้ข่าวว่าแม่เฒ่าจวง้าขุดมันเทศในไร่ของตน หลายคนที่ว่างจากการทำนาต่างก็มาที่เรือนของหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อฟังรายละเอียด
หลายคนที่รู้ว่าไม่ได้รับค่าตอบแทนเป็ตำลึงต่างก็หันหลังกลับ ทว่ายังมีอีกหลายครอบครัวที่ต้องพึ่งหัวมันสำหรับประทังชีวิต พวกเขาเหล่านี้ต่างเป็คนที่เชื่อข่าวลือเื่ภัยแล้งที่แม่เฒ่าจวงเคยพูดเอาไว้
ยังมีหญิงสาวในหมู่บ้านที่แอบชอบจวงอี้ซิงเข้าร่วมอีกหลายคน จวงอิงที่มองออกแสดงท่าทางไม่พอใจ แต่ตนเองก็ไม่สามารถขัดขวางพวกนางได้
“ยังเหลือมากเพียงนี้เชียว”
หัวหน้าหมู่บ้านมองสองสามครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน พวกเขามีที่ดินไม่มากทั้งยังต้องเช่าที่ของตระกูลหลี่เพื่อทำนา ไม่แปลกที่้ามันเทศเพื่อเป็อาหาร
แต่ที่น่าแปลกใจคือหญิงสาวครึ่งหมู่บ้านต่างก็อยู่ที่นี่ พวกนางเองก็้ามันเทศเหมือนกันหรือ หัวหน้าหมู่บ้านมองสตรีเ่าั้ด้วยสีหน้าสงสัย
“พวกเ้าที่อยู่ตรงนี้รู้ใช่หรือไม่ว่าค่าตอบแทนการทำงานคือมันเทศ มิใช่ตำลึง”
หัวหน้าหมู่บ้านถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ข้าไม่้าของตอบแทน เพียง้าช่วยงานบ้านย่าจวงเท่านั้นเ้าค่ะ นางอายุมากแล้วทั้งยังต้องดูแลเด็กเพิ่มอีกสองคน พี่อี้ซิงทำงานคนเดียวคงจะลำบาก”
หญิงสาวตระกูลสวีเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“เหอะ!! แสดงให้ใครดูกัน แค่ดูก็รู้ว่ามีจุดประสงค์ไม่ดีแอบแฝง”
จวงอิงที่ยืนอยู่ด้านหลังบิดาเอ่ยขึ้นลอยๆ
สวีไช่ไช่มองหน้าคู่กัดอย่างจวงอิงราวกับจะกินเืกินเนื้อ พลางชี้ไปยังหญิงสาวด้วยนิ้วอันสั่นเทา
“เ้า..จวงอิง เอ่ยวาจาอันใดของเ้า”
สวีไช่ไช่มองไปยังหมวกไม้ไผ่สานและเครื่องมือขุดที่อยู่ในมือนาง
“เหอะ!! กล้าว่าข้ามีจุดประสงค์แอบแฝง ตัวเ้าเองก็เถอะร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นทำงานในไร่นา วันนี้เหตุใดถึงเข้าร่วมด้วย”
เมื่อคราวถึงตนถูกย้อนถาม จวงอิงถึงกับตอบไม่ถูก
“ขะ..ข้า ข้าก็แค่อยากจะกินมันเทศ พี่อี้ซิงบอกว่าถ้าใครทำงานจะได้รับมันเทศเป็การตอบแทน”
“มันเทศซื้อที่ใดก็ได้ เหตุใดต้องเป็ของบ้านย่าจวง”
สวีไช่ไช่มองอย่างจับผิด ทว่าจวงอิงก็หาเหตุผลให้ตนเองจนได้
“แต่มันเทศบ้านย่าจวงสดใหม่กว่า ขุดขึ้นมาก็ทานได้เลย ช่างเถอะ เื่นี้ไม่เกี่ยวกับเ้า”
หญิงสาวเอ่ยตัดบท ก่อนจะลากเครื่องมือขุดดินออกจากเรือนไป
“ท่านย่าจวงข้ามาช่วยแล้ว”
จวงอิงส่งเสียงะโนำไปแต่ไกล หลังจากมองเห็นสามสี่คนกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ในไร่มันเทศ
“อ้อ มาแล้วหรือ เหตุใดหัวหน้าหมู่บ้านถึงได้ยอมปล่อยเ้ามาทำงานที่นี่ได้”
แม่เฒ่าจวงมองหญิงสาวะโโลดเต้นมาแต่ไกลด้วยสีหน้าเอ็นดู ในใจได้แต่นึกสงสัยว่าคนที่หวงบุตรสาวยิ่งกว่าจงอางหวงไข่อย่างจวงต้าหลาง เหตุใดวันนี้ถึงได้ยอมปล่อยให้นางมาทำงานนอกเรือน
“ข้าบอกท่านพ่อว่าข้าอยากทานมันเทศ ท่านเลยให้ข้ามาทำงานที่นี่เ้าค่ะ พี่อี้ซิงให้ข้าเริ่มขุดตรงไหนดี”
หญิงสาวเอ่ยตอบแม่เฒ่าจวงอย่างร่าเริง ก่อนจะหันไปถามบุรุษเพียงคนเดียวที่กำลังขุดดินอย่างขะมักเขม้น
“เ้าขุดร่องถัดจากหนิงเอ๋อไปก็แล้วกัน ระวังหน่อยอย่าให้โดนหัวมันเทศล่ะ”
“เ้าค่ะ ข้าจะระวัง”
จวงอิงลากที่ขุดดินไปยังรองมันเทศที่อยู่ถัดไป เมื่อสังเกตเห็นเด็กสองคนอยู่ใกล้ๆ นางจึงเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงเป็กันเอง
“สวัสดีเด็กๆ พวกเ้าทำงานในไร่เหนื่อยหรือไม่”
“ไม่เหนื่อยเ้าค่ะ พี่อาอิง”
หลี่อันหนิงเห็นหญิงสาวอัธยาศัยดีอย่างจวงอิงเอ่ยทักตน ก็รู้สึกดีกับนางไม่น้อย แต่ที่สำคัญคือความคิดในใจของนาง พี่สาวผู้นี้หลงรักพี่อี้ซิงนี่เอง
นอกจากจวงอิงแล้วยังมีสวีไช่ไช่และสตรีอีกหลายคนที่กำลังตรงมาที่ไร่ของแม่เฒ่าจวงที่มีความคิดเหมือนกัน หลี่อันหนิงมองไปยังชายหนุ่มเพียงคนเดียวของบ้านด้วยท่าทางอ่อนใจ
“เหนื่อยหน่อยนะที่เกิดมาหน้าตาดี”
เด็กสาวเอ่ยพึมพำกับตนเอง ทว่าเ้าตัวน้อยที่กำลังเล่นดินอยู่ไม่ไกลกลับเอ่ยถามขึ้น
“พี่ใหญ่หมายถึงใครหรือเ้าคะ ข้าหรือ ฮี่ฮี่ ข้ารู้ดีว่าตนเองนั้นงดงาม”
หลี่อันหนิงใช้นิ้วเปื้อนดินเคาะหน้าผากเด็กแก่แดด
“ข้าพูดถึงเ้าที่ใด พี่ชายของเราต่างหาก ดูเอาเถิดสตรีในหมู่บ้านเกินกว่าครึ่งมารวมตัวกันที่นี่ เ้าคิดว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น”
“อะไรหรือ”
หลี่อันหนิงแสดงท่าทีครุ่นคิด ก่อนเอ่ยเปรียบเทียบให้น้องสาวได้เข้าใจ
“อืมมม! คงจะเป็ากระมัง แต่อีกเดี๋ยวเ้าก็จะได้เห็นเอง ไม่รู้พี่ชายเราจะจัดการเื่นี้อย่างไร เพราะตัวเขาซื่อบื้อเพียงนี้ ถึงได้ยังไม่มีแม้แต่คู่หมาย”
หลี่ซางเป่าเกาหัวตนเองด้วยสีหน้างุนงง เพราะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่พี่สาวเอ่ยนัก
หลังจากที่ทุกคนลงมือทำงานหลี่อันหนิงและแม่เฒ่าจวงก็กลับเรือนไปเพื่อเตรียมอาหารเที่ยงสำหรับทุกคน คราแรกคิดว่ามีเพียงยี่สิบกว่าคนเท่านั้นรวมถึงพวกตนด้วย ทว่าบัดนี้คนที่ทำงานในไร่มันเทศมีถึงสี่สิบคนรวมหญิงสาวในหมู่บ้านที่มีใจให้จวงอี้ซิง อาหารเที่ยงคงต้องทำเพิ่มอีกมากโข
“พี่อี้ซิงท่านดื่มน้ำสักหน่อยนะเ้าคะ อากาศร้อนเพียงนี้ไช่เอ๋อกลัวว่าท่านจะเป็ลมแดดไปเสียก่อน”
สวีไช่ไช่เดินกรีดกรายมายังชายหนุ่มที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ที่ร่องมันเทศ
ทว่าจวงอิงที่แอบสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ เดินมาแย่งกระบอกน้ำไปจากมือของสวีไช่ไช่อย่างหน้าตาเฉย
“ขอบใจ ข้าเองก็กระหายน้ำเช่นกัน”
สวีไช่ไช่ที่ถูกแย่งกระบอกน้ำไปต่อหน้าต่อตา ชี้หน้าจวงอิงด้วยกายสั่นเทา
“นั่นเป็น้ำของข้าที่ยกมาให้พี่อี้ซิง มิใช่ของเ้า”
“น้ำท่านย่าจวงต่างหาก”