“อ้อ? มาหาข้าโดยเฉพาะ?” เย่ชิงหานยกคิ้วขึ้นแสดงความประหลาดใจ “แม่นางชิงเฉิง ครั้งนี้น่าจะเป็ครั้งที่สองที่พวกเราพบกัน ข้าคิดว่าไม่น่าจะมีเื่พิเศษอะไรที่ถึงกับทำให้แม่นางต้องลำบากมาพบข้าโดยเฉพาะขนาดนี้กระมัง?”
เยว่ชิงเฉิงยังไม่ได้พูดจาสิ่งใด เพียงแต่ยืนหันข้างมองไปยังทะเลสาบแห่งความเงียบสงบที่ไม่เคยเงียบสงบนั้น คิ้วบางบนหน้าผากขมวดขึ้นเล็กน้อย พูดออกมาด้วยความอึดอัดคับข้องใจ “ในเมื่อเป็ครั้งที่สองที่พบกัน ไม่ทราบว่าชิงเฉิงทำผิดอะไร? ทำไมคุณชายเย่ถึงได้รังเกียจชิงเฉิงนัก?”
“รังเกียจ? ทำไมแม่นางถึงได้กล่าวเช่นนั้น?” เย่ชิงหานรู้สึกใเล็กน้อยและไม่เข้าใจ ในเวลาเดียวกันก็ส่งกระแสเสียงไปหาเสี่ยวเฮยให้ไปเล่นข้างๆ เขาไม่อยากให้เยว่ชิงเฉิงเห็นไพ่ตายของเขา ไพ่ตายที่เป็ไพ่ตายได้ก็เพราะว่าคนอื่นไม่รู้ว่ามีอยู่
ดวงตาคู่ราวกับไข่มุกดำของเยว่ชิงเฉิงมองด้วยสายตาค้อน มีทั้งตำหนิทั้งโกรธเคือง อากัปกิริยาของนางไม่ได้ทำให้นางน่ามองน้อยลงแต่อย่างใด แต่กลับทำให้นางที่ดูงดงามสดใสอยู่แล้วยิ่งดูซุกซนและน่ารักมากขึ้น ทำเอาเย่ชิงหานหวั่นไหวไปไม่น้อยเช่นกัน
เยว่ชิงเฉิงรู้สึกลังเลขึ้นมา ความจริงแล้วหากว่ากันตามฐานะนางไม่ควรที่จะมาที่นี่ และไม่ควรพูดประโยคที่น่าอับอายนั้นออกไป เพียงแต่...ั้แ่ที่เย่ชิงหานขึ้นเกาะมาก็ไม่เคยแสดงท่าทีว่าอยากที่จะจีบนางเลย ประกอบกับการประพฤติตัวที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ที่หอมรกต มันกระตุ้นจิตใจสาวน้อยของนางที่อยากจะเอาชนะขึ้นมา
ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเยว่แต่ละยุคล้วนกุมจิตใจบุรุษทั่วหล้าให้ลุ่มหลงอยู่ในกำมือ แต่ธิดาศักดิ์สิทธิ์รุ่นก่อนหน้ากลับถูกสยบอยู่ใต้ชุดคลุมของเย่เตา ทำให้ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเยว่รู้สึกอับอายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และตอนนี้ลูกชายของเย่เตาก็เป็เช่นนี้อีก นางไม่สามารถทำใจยอมรับให้เป็เช่นนี้ได้ ดังนั้น เมื่อได้ยินว่าเย่ชิงหานเดินเล่นอยู่เพียงคนเดียวจึงรีบเร่งมาทั้งที่ยังไม่ทันได้คิดไตร่ตรองให้ดี
เพียงแค่สนทนาด้วยประโยคเดียว ถูกคำถามที่เย่ชิงหานถามกลับมา เยว่ชิงเฉิงจึงไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี มองดูใบหน้าของเย่ชิงหานที่ไม่รู้ว่าไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าแกล้งไม่เข้าใจกันแน่ เยว่ชิงเฉิงกัดริมฝีปากแล้วพูดออกมาอย่างโกรธเคือง “ตอนที่คุณชายเย่เพิ่งขึ้นมาบนเกาะและพูดกับคุณชายทั้งสี่ชิงเฉิงได้ยินหมดแล้ว ส่วนการกระทำที่แตกต่างจากคนอื่นของคุณชายเย่ที่หอมรกตชิงเฉิงก็รู้ สิ่งเหล่านี้ที่แสดงออกมาไม่ใช่ว่าคุณชายเย่รังเกียจชิงเฉิงหรอกรึ?”
“อ้อ!” เป็อย่างที่คิดไว้จริงๆ เย่ชิงหานลอบคิดภายในใจ ที่แท้เด็กสาวคนนี้ขุ่นเคืองที่ท่านพ่อทิ้งธิดาศักดิ์สิทธิ์ในปีนั้น ทำให้พวกเขาขายขี้หน้าเป็อย่างมากก็เลยอยากจะมากู้หน้าคืนกับข้า? ฝันไปเถอะ! เมื่อเข้าใจในต้นสายปลายเหตุของเื่ราวทุกอย่างเย่ชิงหานจึงยิ้มขึ้น ยิ้มอย่างเจิดจ้าแบบไม่มีสิ่งใดๆ แอบแฝงแล้วพูดขึ้น “เื่นั้นหรอกรึ? แม่นางชิงเฉิงเื่พวกนั้นข้าอธิบายได้”
“ยินดีรอรับฟังอย่างละเอียด!” เยว่ชิงเฉิงหันหน้ามาสายตาปรากฏแววยินดีรอรับฟังอย่างตั้งใจ
“แหะๆ! แม่นางชิงเฉิง ความจริงแล้วแม่นางเข้าใจผิด ความจริงมันคือ...แผนการ!” เย่ชิงหานหัวเราะแหะๆ ออกมาอย่างได้ใจ ส่งคำพูดประโยคเด็ดออกไปก่อน เมื่อเยว่ชิงเฉิงเริ่มสนใจขึ้นมาจึงพูดต่อ
“ความจริงข้าชมชอบแม่นางชิงเฉิงดุจดั่งดวงจันทร์และดวงดาราที่อยู่บนท้องนภา ดุจดั่ง...กระแสนทีในแม่น้ำฉางเจียงที่ไหลอยู่ไม่ขาด พูดง่ายๆ ก็คือรักจนจะเป็จะตาย รักจนท้องทะเลจะแห้งหินผาจะมลาย รักจนชั่วฟ้าดินสลาย รักจนฟ้าถล่มดินะเื...เพียงแต่ว่าแม่นางชิงเฉิงมีคนตามจีบมากมาย หน้าตาของข้าสู้ฮวาเฉ่าที่งดงามราวกับกะเทยก็ไม่ได้ ความหล่อเหลาสู้ไอ้โง่หลงสุ่ยหลิวก็ไม่ได้อีก ยิ่งบุคลิกท่วงท่าสู้เสว่อู๋เหินสุภาพบุรุษจอมปลอมคนนั้นยิ่งไม่ได้อีก มัดกล้ามเนื้อบนร่างกายก็ห่างชั้นกับไอ้เฟิงจื่อคนบ้านั่นอีก ส่วนพลังฝืมือก็ด้อยกว่าอีกนิดหน่อย”
“ดังนั้นข้าจึงคิดๆๆ คิดว่า...ข้าจะทำอย่างไรดีถึงจะโดดเด่นขึ้นมาจากคนจำนวนมากที่ตามจีบแม่นางอยู่? ครั้นแล้วข้าจึงคิดแผนออกอยู่แผนหนี่งซึ่งก็คือ...กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับ! เ้าดูสิข้าทำได้สำเร็จสามารถดึงความสนใจให้แม่นางมาหาข้าด้วยตัวเองเลย แม่นางชิงเฉิงที่งดงามหยาดเยิ้มเ้าต้องเชื่อข้าน่ะว่าข้ามีความรักและจริงใจต่อแม่นางจริงๆ...”
เมื่อเริ่มฟังแรกๆ เยว่ชิงเฉิงยังพอสนใจฟังอยู่บ้าง แต่พอเริ่มฟังไปถึง่หลังๆ ภายในดวงตาคู่ไข่มุกสีดำของนางเริ่มดำมืดลง คำพูดที่พูดออกมาแม้เป็คนโง่ก็ยังฟังออกว่ากำลังพูดเพื่อให้ตนเองรู้สึกดี รอจนเย่ชิงหานพูดจบนางนิ่งเงียบไปเนิ่นนาน จากนั้นถอนหายใจอย่างหนักหน่วงออกมาทีหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นด้วยความโกรธเคือง “คุณชายหานไม่ชอบชิงเฉิงก็พูดออกมาตรงๆ ไม่ต้องเสียเวลามาพูดยกยอเพื่อปลอบใจชิงเฉิง ขอโทษที่มารบกวน ชิงเฉิงขอลา...”
มองดูเงาร่างของเยว่ชิงเฉิงที่มีอาการหงอยเหงาและเปล่าเปลี่ยวเล็กน้อยค่อยๆ เลือนหายไปในท่ามกลางป่าไผ่ที่เขียวขจี เย่ชิงหานลูบคางไปมาด้วยสีหน้าเหยเกพร้อมกับครุ่นคิดว่าตนเองทำเกินไปหรือไม่? ไปทำร้ายจิตใจของสาวน้อยนางหนึ่งที่ไม่ได้มีความโกรธแค้นอะไรต่อกันมาก่อน คิดไปคิดมาก็รู้สึกผิดเหมือนกัน
.................................
กลางคืนค่อยๆ คืบคลานเข้ามา แสงจันทร์ที่อ่อนโยนและนุ่มนวลเริ่มจะสาดส่องไปทั่วทั้งทวีปัเพลิง สาดส่องจนสว่างไปทั่วทั้งเกาะแห่งทะเลสาบแห่งความเงียบสงบ
ตระกูลเยว่เริ่มจะคึกคักขึ้นมาั้แ่อาทิตย์เริ่มจะตกดิน ผู้คนจำนวนมากเดินทางออกมาจากสวนทางด้านตะวันตกและด้านเหนือเพื่อทำการจัดตกแต่งสนามหญ้าที่กว้างใหญ่บริเวณด้านหน้าสวนที่พักใหญ่ทั้งสาม วันนี้เป็วันสำคัญของตระกูลเยว่ วันสำคัญที่จะมีขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบสิบห้าปี ดังนั้นจึงต้องทำอย่างพิถีพิถันและอย่างยิ่งใหญ่
ลานสนามหญ้าถูกตัดอย่างสวยงามและเป็ระเบียบเรียบร้อยงามตา ค่ายพักกลางแจ้งที่ใหญ่โตมโหฬารถูกจัดตั้งขึ้น บริเวณใจกลางมีกองไฟที่โชติ่เรียงรายอยู่แถวหนึ่ง ด้านข้างรอบกอบไฟทั้งสองด้านถูกปูไว้ด้วยผ้าแพร บนผ้าแพรเรียงรายไปด้วยโต๊ะไม้ดึกดำบรรพ์ขนาดไม่ใหญ่นัก บนโต๊ะไม้เ่าั้เต็มไปด้วยผลไม้และเหล้าจัดวางไว้อย่างเพียบพร้อม และ้าของกองไฟวางเรียงรายไปด้วยลูกหมูและลูกแกะสีเหลืองอร่ามที่กำลังถูกย่างส่งเสียงดังเปรี๊ยะๆ ขึ้น
คุณชายทั้งห้ามาถึงในเวลาไม่เช้าและไม่สาย นอกจากเย่ชิงหานที่ยังใส่ชุดสีดำอยู่ คุณชายอีกสี่ท่านล้วนแต่งตัวกันมาอย่างเต็มที่ ทำเอาเย่ชิงหานที่เดินอยู่ด้านหลังของพวกเขากลายเป็เด็กรับใช้ผู้ติดตามไปฉันนั้น รัศมีดับไปไม่น้อย
บนพื้นลานกว้างของสนามหญ้ามีกลุ่มคุณชายและนายน้อยทั้งหลายนั่งอยู่ั้แ่เนิ่นๆ พวกเขาล้วนเป็ลูกหลานระดับหัวกะทิของตระกูลต่างๆ ที่อยู่ภายในเขตปกครองเทพา แต่ว่าตระกูลของพวกเขาเทียบไม่ได้กับทั้งห้าตระกูลใหญ่ ดังนั้นจึงไม่ได้มีอภิสิทธิ์อย่างพวกเย่ชิงหานทั้งห้าคน เมื่อถึงเวลาเริ่มงานถึงได้ถูกตระกูลเยว่รับขึ้นมายังเกาะและนำมาร่วมงานเลี้ยงกองไฟโดยตรง ส่วนสาวงามมากมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วลานกว้างล้วนเป็ลูกหลานของตระกูลเยว่ พวกนางล้วนเป็เป้าหมายของเหล่าคุณชายและนายน้อยที่นั่งเรียงรายอยู่ในลานกว้างแห่งนี้
คุณชายส่วนมากที่อยู่ในที่นี้ล้วนเป็ลูกหลานของตระกูลที่อยู่ภายใต้สังกัดห้าตระกูลใหญ่ ดังนั้นเมื่อเห็นพวกเย่ชิงหานเดินเข้ามาจึงรีบลุกขึ้นในทันที จากนั้นเดินเข้ามาทำการทักทายขึ้น
“หลิวเส้าคารวะนายน้อยเสว่ นายน้อยเสว่หน้าตามีสง่าราศี วันนี้คงได้กอดสาวงามกลับบ้านเพียงผู้เดียวอย่างแน่นอน!”
“พี่จื่อ ข้าคือเฉาเพ้ย พี่จื่อสู้ๆ! แย่งแม่นางเยว่ชิงเฉิงกับไปเมืองซีเฟิงให้ได้...”
“นายน้อยฮวา ข้าเป็ลูกพี่ลูกน้องของหลานชายของท่านลุง รู้สึกเป็เกียรติมากที่ได้เจอนายน้อย!”
“นายน้อยหลง นายน้อยหลง! โอ้ว...ได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของท่านมานาน ในที่สุดวันนี้ก็ได้พบเจอตัวจริงของท่านเสียที ข้าน้อยรู้สึกตื่นเต้นเป็อย่างมาก...”
นายน้อยทั้งสี่ยิ้มออกมาทักทายผู้ที่รุมล้อมเข้ามาทักตนเอง ทั้งสี่ยิ้มออกมาอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างภาคภูมิใจ จากนั้นชายหางตากลับไปมองเย่ชิงหานคล้ายกับว่าอยากจะอวดถึงชื่อเสียงและฐานะของตนเอง เนื่องจากคนที่เข้ามาทักทายล้วนเดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งสี่คน แต่กลับไม่มีใครสนใจเย่ชิงหานที่เดินรั้งท้ายอยู่แม้แต่คนเดียว
ั้แ่ที่มาถึงตระกูลเยว่พวกเขาล้วนถูกเย่ชิงหานกดทับรัศมีมาโดยตลอด วันนี้มีโอกาสข่มเย่ชิงหานบ้างพวกเขารู้สึกยินดีและดีใจเป็อย่างยิ่ง ปกติเข้าร่วมงานเช่นนี้พวกเขาไม่เคยสนใจที่จะเก็บเื่เล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้มาใส่สมอง แต่ครั้งนี้พวกเขาให้ความสนใจเป็อย่างมาก
เย่ชิงหานยิ้มออกมาจางๆ ไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด เดินไปนั่งยังโต๊ะตัวหนึ่งแล้วรินน้ำชาขึ้นมาดื่มเงียบๆ โดยลำพัง
“ไม่ทราบว่า?” ในเวลานี้เอง คุณชายห้าคนเดินตรงมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของเย่ชิงหาน จากนั้นถามขึ้นด้วยความเคารพนอบน้อม ด้วยความตื่นเต้น และหวาดกลัวเล็กน้อย
“หืม?” เย่ชิงหานเงยหน้าขึ้นด้วยความใ คิ้วขมวดขึ้นมองดูคุณชายแปลกหน้าทั้งห้าที่อยู่ตรงหน้าด้วยความแปลกประหลาดใจ ส่วนพวกเสว่อู๋เหินสี่คนที่อยู่ด้านข้างแม้จะกำลังพูดคุยกับผู้ที่เข้ามาทักทายอยู่ แต่ก็หันมองมาด้วยความสนใจ เหมือนกับว่ารู้สึกแปลกใจที่มีคนรู้จักเ้าคนบ้านนอกคนนี้ด้วย?
ส่วนคุณชายคนที่เอ่ยขึ้นเห็นเย่ชิงหานขมวดคิ้วเล็กน้อยจึงโค้งตัวลงต่ำยิ่งกว่าเดิม น้ำเสียงที่พูดออกมาสั่นเครือเล็กน้อยและแสดงความเคารพนอบน้อมยิ่งกว่าเดิม “ ไม่ทราบว่าท่านก็คือผู้ที่ทำลายวรยุทธ์เย่ชิงขวง สังหารเย่หรง ทำให้เย่เจี้ยนถูกกักบริเวณ...นายน้อยเย่ชิงหานผู้นั้นใช่หรือไม่?”
“อืม!”
เสียงพูดเพิ่งจบลง ทั่วทั้งลานสนามหญ้าเงียบสงัดลงในทันที!
พวกเสว่อู๋เหินนายน้อยทั้งสี่อ้าปากค้างร่างสั่นเทิ้มเบาๆ ภายในใจราวกับคลื่นั์ที่พัดกระพือโหมซัด แต่ชั่วครู่ก็กลับคืนสู่อาการสงบ ่ก่อนพวกเขาได้ยินข่าวจากทางตระกูลว่าตระกูลเย่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เย่เจี้ยนถูกกักบริเวณ เย่ชิงขวงถูกทำลายวรยุทธ์ ผู้าุโของตระกูลเย่หรงเสียชีวิต แต่ในข่าวไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมาก ตอนนี้กลับได้ยินว่าเื่ทั้งหมดเป็การกระทำของเย่ชิงหาน สิ่งแรกที่พวกเขารู้สึกไม่ใช่ตื่นตระหนกใแต่เป็ตลกขบขัน แต่ไม่ว่าอย่างไรในเวลาเดียวกันก็เริ่มครุ่นคิดพิจารณาถึงระดับของความเป็ไปได้จากสิ่งที่ได้ยิน
ส่วนพวกคุณชายทั้งหลายที่อยู่ข้างๆ ต่างก็อยู่ในอาการครึ่งสงสัยครึ่งตื่นตระหนกใ พวกเขาคิดว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเป็ผู้ติดตามเสียอีก คิดไม่ถึงว่าจะมีความเป็มาที่ไม่ธรรมดาและมีประวัติที่ดุดันเหี้ยมเกรียมถึงเพียงนี้ ครั้นแล้วแววตาของพวกเขาที่มองไปยังเย่ชิงหานล้วนเปลี่ยนแปลงไปเป็เคารพและระมัดระวังขึ้น ไม่ว่าเื่ที่ได้ยินจะเป็การกระทำของเขาจริงหรือไม่ แต่วันนี้เขาสามารถมานั่งอยู่ตรงนี้เป็ตัวแทนของตระกูลเย่มานั่งอยู่ที่นี่ ลำพังเพียงเท่านี้ก็บ่งบอกถึงท่าทีบางอย่างของตระกูลเย่แล้ว และท่าทีของตระกูลเย่...คือสิ่งที่ต้องให้ความเคารพ
สาวงามทั้งหลายของตระกูลเยว่ที่อยู่รอบๆ ต่างก็มองมาที่เย่ชิงหานอย่างแปลกประหลาดใจ แม้จะรู้ั้แ่แรกแล้วว่าหนุ่มน้อยร่างซูบผอมเสื้อดำที่หน้าตาและบุคลิกไม่มีอะไรพิเศษคนนี้คือ นายน้อยที่โด่งดังที่สุดของตระกูลเย่ในขณะนี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนางได้ยินข่าวลือว่าแม้กระทั่งธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลเยว่ เยว่ชิงเฉิง เขาก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย
แต่เื่ที่เพิ่งได้ยินเมื่อสักครู่ พวกเขากลับเพิ่งเคยได้ยินเป็ครั้งแรกว่าผู้ที่กระทำเื่ใหญ่เช่นนี้คือที่แท้ก็คือเย่ชิงหาน เย่เจี้ยน เย่หรงและเย่ชิงขวงล้วนเป็ผู้มีชื่อเสียงของเขตปกครองเทพา แต่กลับถูกเด็กหนุ่มที่ดูธรรมดาคนนี้ทำลายวรยุทธ์และฆ่า ทันใดนั้นดวงตาของพวกนางเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็น่าลุ่มหลงขึ้นมาแทนและมองส่งสายตาไปยังเย่ชิงหานอยู่เนืองๆ...
“อาหารทานมั่วได้ แต่คำพูดพูดมั่วไม่ได้ ข้าก็คือเย่ชิงหาน มีธุระอะไร?” เย่ชิงหานรู้สึกมีโทสะ สายตามองไปยังเ้าตัวโง่งมทั้งห้าอย่างตำหนิ เื่เช่นนี้นำมาพูดมั่วซั่วในที่แห่งนี้ได้อย่างไร?
“ตงฟางเตา หนานกงเชียง ซือหมาฝู่ เซี่ยโหวกง ตู๋กูเจี้ยน คำนับเ้านายน้อย!” ทั้งห้าไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก แต่คุกเข่าทั้งสองข้างลงต่อหน้าเย่ชิงหาน ภายในดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาที่เร่าร้อน แสดงฉากละครที่ดูราวกับว่าในที่สุดก็ตามหาผู้เป็นายที่แท้จริงจนพบเจอ
“พวกเ้ากำลังทำอะไร ลุกขึ้น มันเื่อะไรกันอธิบายมาให้ข้าเข้าใจด้วย?” เย่ชิงหานรู้สึกประหลาดใจ ลุกขึ้นยืนด้วยคิ้วที่ขมวดอยู่
“เอ่ออ...!”
นายน้อยทั้งสี่มองอย่างตกตะลึง เย่ชิงหานถึงกับเล่นใหญ่ขนาดนี้เลย นี่มันแย่งซีนกันเห็นๆ เลยนี่นา แต่เมื่อมองดูอาการของเย่ชิงหานที่ไม่เหมือนกับกำลังแสดงละคร จึงนั่งมองดูอยู่เงียบๆ ต่อไป พี่ชายทั้งห้านี้พวกเขาต่างรู้จักและมีการคบหากันอยู่บ้าง เป็คุณชายที่อยู่ในระดับเดียวกันกับพวกเขาอยู่ในระดับสูงหมดทั้งห้าคน ไม่ว่าจะเป็พลังฝีมือ พร์และสติปัญญาล้วนจัดอยู่ในระดับยอดเยี่ยม แต่ตอนนี้กลับยอมรับเ้านายต่อให้คนจำนวนมาก ต้องเข้าใจว่าการยอมรับเ้านายไม่ใช่เื่ล้อเล่น เพราะต้องติดตามผู้เป็เ้านายไปทั้งชีวิต
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้