หลังจากที่โกหกพ่อแม่เจียงเสี่ยวฉิงเอาตัวรอดมาได้แล้ว ฉินหลางโล่งใจเพราะยังโชคดี จากนั้นเขากลับมายังโรงเรียน ซึ่งตอนนี้ทั้งประตูโรงเรียนและอาคารเรียนต่างก็ปิดสนิท แต่สำหรับฉินหลางแล้ว กลับไม่ใช่เื่ยากอะไร
ตอนที่ฉินหลางกลับไปถึงหอพัก ข้างในเงียบเป็เป่าสากแล้ว
หลังจากอาบน้ำแล้ว ฉินหลางก็ะโขึ้นไปบนที่นอน เขากลับยังไม่นอนพักผ่อน และกินยาพิษที่ตาเฒ่าพิษเตรียมไว้ให้ลงไปอีก 2 เม็ด
‘ถ่ายเืเพื่อรักษา’ ให้รั่วปิน ทำให้ฉินหลางสูญเสียลมปราณบริสุทธิ์ไปมากจริงๆ และนั่นทำให้ตาเฒ่าพิษโมโหมาก แต่ฉินหลางกลับพบกับปัญหาที่ตาเฒ่าพิษยังไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำ ร่างพิษไร้รูปของเขามีความสามารถในการดูดซึมยาพิษเพิ่มขึ้นแล้ว
เมื่อก่อนกินยาพิษแค่เม็ดเดียวฉินหลางก็รู้สึกได้ว่า ยาพิษส่งผลกระทบต่อร่างกายของเขาแล้ว แต่ตอนนี้กินติดต่อกันสามเม็ดก็ไม่มีปัญหาอะไร และการดูดซึมสารพิษจากยาพิษก็ดีมากขึ้นด้วย
แม้ว่าร่างพิษไร้รูปของฉินหลางจะมีมาแต่กำเนิด แต่ ‘วิชาพิษไร้รูป’ กลับต้องอาศัยการฝึกฝน สิ่งสำคัญที่สุดในการฝึกฝนวิชาพิษไร้รูปก็คือการกินยา ที่สำคัญต้องเป็ยาพิษ! และยาพิษที่กินต้องมีพิษร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย!
และเมื่อวิชาพิษไร้รูปเริ่มสำเร็จแล้ว นอกจากจะสามารถดูดซึมสารพิษทุกชนิดแล้ว ยังสามารถปล่อยพิษที่ลึกลับออกจากตัวได้อีกด้วย
แต่การฝึกวิชาพิษไร้รูป เบื้องต้นนั้นมี 2 ระดับ และก็คือการเข้าชาญฝึกทางจิต ดังนั้นทุกคืนหลังจากที่ฉินหลางกินยาพิษเข้าไปแล้ว ก็จะต้องเข้าชาญฝึกทางจิตเป็เวลานานมาก ดูเหมือนกำลังพักสายตา แต่ความจริงแล้วคือการฝึกวิชา
หลังจากกินยาพิษเข้าไป 2 เม็ด ฉินหลางเข้าฌานครั้งนี้ เผลอแป๊บเดียวก็ถึงเช้าเลย ในระหว่างนี้ ดูเหมือนฉินหลางกำลังหลับแต่ความจริงแล้วกลับไม่ได้หลับ แต่เมื่อกริ่งตื่นนอนดังขึ้น เขากลับรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามาก ราวกับตอนที่ยังไม่ได้ถ่ายเืให้รั่วปิน หรืออาจจะกระปรี้กระเปร่ามากกว่าตอนนั้นด้วยซ้ำ
ฉินหลางยืดเส้นยืดสาย รีบลุกจากที่นอน จากนั้นไปซ้อมฝูหลงจู้ และกระบวนท่า บนเขาเล็กๆ หลังโรงเรียนชีจงเหมือนเคย
ผ่านการฝึกฝนระยะนี้แล้ว ‘มีดและหมัดตั๊กแตน’ ของฉินหลาง มีทั้งรูปและจิตของกระบวนท่าแล้ว รูปคือกระบวนท่า จิตคือจิตของกระบวนท่า กระบวนท่าของมีดและหมัดตั๊กแตนง่ายมาก จะมีก็แต่ทิ่ม ปัก ฟัน กวาด ผลัก ฟัน แทงเพียงไม่กี่รูปแบบเท่านั้น แต่มีดและหมัดตั๊กแตนชุดนี้ สามารถเรียกได้ว่า ‘เปลี่ยนความซับซ้อนให้เป็ความเรียบง่าย และใช้งานได้จริง’
ไม่รู้ว่าเ้าตั๊กแตนสีเืเข้าใจวิชายุทธ์ที่ล้ำลึกขนาดนี้ได้ยังไง ทุกครั้งที่ฉินหลางสังเกตดู ก็จะได้ความเข้าใจในรูปแบบใหม่ๆ อยู่ตลอด และฉินหลางยังถ่ายเป็วิดีโอเก็บไว้โดยเฉพาะ เพื่อให้ง่ายต่อการสังเกตทุกท่าทางของเ้าตัวเล็กนี่ได้อย่างละเอียด
นอกจากนี้ ฉินหลางยังถ่ายวิดีโอ ‘โป๊’ ให้เ้าตั๊กแตนสีเืด้วย เป็วิดีโอที่เ้าหมอนี่ข่มขืนตั๊กแตนตัวเมีย ในนั้นไม่มีกระบวนยุทธ์อะไรทั้งนั้น มีเพียงความไร้ยางอายกับความหื่นกามเท่านั้น เ้าตัวเล็กนี่ช่างเป็ตั๊กแตนสารเลวที่ฟันแล้วทิ้งจริงๆ เลย
ตอนนี้ฉินหลางเพิ่งซ้อมฝ่ามือตั๊กแตนไป ก็เห็นตั๊กแตนสีเืที่นอนตากแดดอยู่บนกิ่งไม้กระพือปีก กล้ามเนื้อบริเวณขาก็ดูเหมือนจะเกร็งมากขึ้นแล้ว นั่นแสดงว่ามีอะไรบางอย่างดึงดูดความสนใจของมัน!
‘อย่าบอกนะว่าสัญชาตญาณดิบของมันเริ่มหยุดไม่อยู่อีกแล้ว?’ ฉินหลางแอบคิดในใจ
ฟิ้ว!
ตั๊กแตนสีเืกระพือปีกบิน เห็นเป็เส้นสีแดงพุ่งเข้าไปในป่า
ฉินหลางจ้องมองตาไม่กระพริบ และรีบตามมันออกไป
ั้แ่มีตั๊กแตนสีเืแล้ว ฉินหลางพบว่าสายตาของตัวเองดีขึ้นมาก นี่อาจจะเป็เพราะถูกกระตุ้นจากเ้าตั๊กแตนสีเื เพราะถ้าฉินหลางสายตาไม่ดีละก็ เขามองการกระทำของเ้าตั๊กแตนสีเืไม่ทันด้วยซ้ำ
ปัง!
เ้าตั๊กแตนสีเืบินไปตอกอยู่บนต้นไม้เร็วราวกับสายฟ้า มีดทั้งสองข้างของมันก็ชูขึ้น เป็ท่าพร้อมสู้รบ และห่างออกไปไม่ถึง 20 เิเมีแมงป่องสีดำที่มีลำตัวยาวกว่า 10 เิเ ขนาดหางของมัน ยังยาวกว่าลำตัวของตั๊กแตนสีเืซะอีก แมงป่องตัวดำสนิท กระดองของมันเปล่งประกาย ราวกับเป็ชุดเกราะสีดำ
ในก้ามข้างหนึ่งของเ้าแมงป่องขนาดใหญ่นี้ ยังมีตั๊กแตนที่โดนกินไปแล้วครึ่งตัว
ฉินหลางรู้ว่า ตั๊กแตนและแมงป่องล้วนเป็แมลงที่เป็นักล่าชั้นเยี่ยม เพียงแต่โดยปกติแล้วตั๊กแตนจะเหนือกว่าหน่อย แต่เห็นได้ชัดว่าแมงป่องตัวนี้ไม่ธรรมดา แมงป่องชนิดนี้น่าจะเป็แมงป่องทิเบต แมลงป่องชนิดนี้กระจายอยู่ทั่วไป ไม่ได้ซ่อนอยู่ใต้ดินเท่านั้น ทว่าแมงป่องที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ กลับพบเห็นได้ยากมาก
แต่สำหรับตั๊กแตนสีเืแล้ว ตัวใหญ่กว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย เ้าตั๊กแตนสีเืตัวนี้ของฉินหลางมักจะประลองกับสัตว์และแมลงที่ตัวใหญ่กว่ามันเสมอ ดังนั้นการปะทะกับแมงป่องสุดโหดตัวนี้ ตั๊กแตนสีเืไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว มิหนำซ้ำยังเป็ฝ่ายท้าทายคู่ต่อสู้ก่อนด้วย
แมงป่องสีดำเห็นจากแขนทั้งสองของเ้าตั๊กแตนสีเืว่ามันกำลังถูกท้าทาย มันกางก้ามออก ทิ้งร่างที่เหลือเพียงครึ่งของตั๊กแตนออก จากนั้นชูหางขึ้นเบาๆ เดินมาทางตั๊กแตนสีเืด้วยท่าทางโอหัง หัวแมงป่องกดลงต่ำ ยกหางขึ้นสูง ทว่ากลับเดินได้อย่างมั่นคง มองตั๊กแตนสีเืราวกับมันเป็ฝ่ายเหนือกว่า
ั้แ่สมัยโบราณ แมงป่องถูกยกให้เป็หนึ่งใน ‘พิษทั้งห้า’ ตาเฒ่าพิษก็เลี้ยงแมงป่องไว้ไม่น้อย ในสำนักหมื่นพิษ มียาพิษ และวิชาพิษไม่น้อยที่เกี่ยวข้องกับแมงป่อง เพียงแต่ ตาเฒ่าพิษไม่เคยสอนกระบวนท่าให้กับฉินหลาง ดังนั้นฉินหลางจึงไม่รู้ว่า ‘วิชาพิษแมงป่อง’ มันเป็ยังไงกันแน่
สิ่งเดียวที่ฉินหลางจำได้ดีก็คือ มีครั้งหนึ่งตาเฒ่าพิษเคยหลุดปากบอกว่า “จังหวะของแมงป่องมีความลึกลับมาก คนส่วนมากเคยได้ยินแต่ ‘เสือไต่ผนัง’ กลับไม่รู้ว่า ‘แมงป่องปีนย้อนกำแพง’ ร้ายกาจขนาดไหน”
ตอนนั้นฉินหลางยังไม่รู้จักเสือไต่ผนัง ยิ่งไม่รู้จักแมงป่องปีนย้อนกำแพงด้วย แต่ตอนนี้วรยุทธ์ของฉินหลางฝึกซ้อมมาถึงขั้นการฝึกจิตของกระบวนยุทธ์แล้ว ดังนั้นจึงเริ่มจะเข้าใจ ‘วิชายุทธ์’ ที่แอบแฝงอยู่ในท่าทางของสัตว์ และแมลงพวกนี้ได้บ้างแล้ว ฉินหลางมองว่า สัตว์และแมลงล้วนเข้าใจ ‘กระบวนยุทธ์’ อย่างถ่องแท้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ‘กระบวนยุทธ์’ ของสัตว์ และแมลงพวกนี้ ล้วนผ่านการขัดเกลาจากกาลเวลา มานานหลายร้อยหลายพันปี กว่าจะมาเป็กระบวนยุทธ์ อย่างเช่นแมงป่อง เ้าสัตว์ชนิดนี้ผ่านการวิวัฒนาการมานานกว่าสี่ร้อยล้านปี ดังนั้นการออกล่าหาอาหารและการจู่โจมของพวกมันจึงเป็ ‘กระบวนท่า’ ที่มีความประณีตมาก
เมื่อผู้คนเริ่มเรียนรู้และเข้าใจ ‘กระบวนท่า’ ในการป้องกันและการโจมตี ของสัตว์และแมลงเหล่านี้ ก็สามารถเรียกว่า ‘วิชายุทธ์’ ได้ อย่างเช่นกระบวนท่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง หมัดงู หมัดตั๊กแตน หมัดนกกระยางเป็ต้น ล้วนเกิดขึ้นมาจากผู้เชี่ยวชาญในศิลปะการต่อสู้บางท่าน สังเกต เรียนรู้และเข้าใจอย่างลึกซึกจากการสังเกตสัตว์ แมลง รวมถึงธรรมชาติ
แต่คนที่เข้าใจกระบวนยุทธ์จากการสังเกตแมงป่องนั้นมีไม่มาก ชาวยุทธ์ที่รู้จัก ‘วิชาพิษแมงป่อง’ ก็มีไม่มากเช่นเดียวกัน แต่ในสายตาฉินหลางตอนนี้ บนตัวแมงป่องสีดำตัวนี้ มีวิชายุทธ์ที่ลึกล้ำซ่อนอยู่จริงๆ
ตอนนี้เ้าตั๊กแตนสีเืไม่ขยับเขยื้อน ราวกับถูก stop เอาไว้ ราวกับว่ามันได้เข้าสู้ฌานสมาธิแล้ว ไม่ขยับเท่านั้น เมื่อไรที่ขยับเป็ต้องแลตะลึง แต่เ้าแมงป่องสีดำตัวนี้ กลับขยับอยู่ตลอด รุกทีถอยที ซ้ายทีขวาที ราวกับกำลังหาจุดอ่อนของเ้าตั๊กแตนสีเือยู่ เจอจุดอ่อนของคู่ต่อสู้เมื่อไร มันก็จะลงมืออย่างไม่ลังเล
ถึงแม้ว่าเ้าแมงป่องสีดำจะขยับตัวไปมา มันก็ยังคงกดหัวลงต่ำ ยกหางขึ้นสูงอยู่ตลอด เห็นได้ชัดว่ามันพร้อมที่จะจู่โจมคู่ต่อสู้ได้ทุกเมื่อ ตาเฒ่าพิษพูดถูก ‘จังหวะ’ ของแมงป่อง มีความล้ำลึกมากจริงๆ
หลังจากล่อลวงคู่ต่อสู้ไปพักหนึ่ง ในที่สุดแมงป่องสีดำก็เริ่มจู่โจมเ้าตั๊กแตนสีเื เหมือนว่าท่าทางของมันจะเชื่องช้ามาก ก้ามทั้งสองของมันค่อยๆ เข้าไปใกล้ตั๊กแตนสีเื จากนั้นก็จู่โจมอย่างกะทันหัน ก้ามทั้งสองพุ่งไปทางตั๊กแตนสีเืด้วยความรุนแรง และรวดเร็วราวกับสายฟ้า!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้