คำพูดของชิงอีทำให้เ้าแมวใเป็อย่างมาก
บัญชีเกิดตายของมนุษย์...
หากสิ่งในปรโลกข้างล่างหายไป คงโกลาหลอลหม่านไปทั่วแน่ๆ
“ท่าน้าบัญชีเกิดตายของมนุษย์ไปทำไมกัน เราไม่จำเป็ต้องไปสนใจความเป็ความตายของฮ่องเต้เหยียนนั่นเลยนะ”
“ข้าสั่งให้ไปก็ไปสิ จะพูดพร่ำอะไรอีกล่ะ?” ชิงอีกลอกตา
เ้าแมวอ้วนฉีกยิ้ม “ข้าจะไป...แต่ท่านก็ต้องข้าก่อนว่าทำไม?”
“ข้าสงสัยว่าแม่ของฉู่จื่ออวี้อาจจะยังไม่ตาย”
เ้าแมวอ้วนใเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ยังไม่ตายงั้นหรือ?!
“ยังไม่ตาย? ไม่สิ แม้ว่ายังไม่ตาย เราก็หามันไม่พบในบัญชีเกิดตายของมนุษย์ของปรโลกเราหรอก” เ้าแมวอ้วนคิดเกี่ยวกับมันครู่หนึ่ง “ท่านคิดว่าตอนนั้นเป็ผู้อื่นที่ตายใช่ไหม? เลย้าจะหาว่าคนผู้นั้นเป็ใคร? ทว่า เหตุใดท่านถึงต้องสงสัยเื่นี้ด้วยล่ะ?”
“ใช่ว่าจะเป็ผู้อื่นที่ตายไป แต่รวมไปถึงคนที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วย ข้าสังเกตเห็นว่าฮ่องเต้เหยียนนั่นก็เป็คนของเซวียนเหมินเช่นกัน” รอยยิ้มบนใบหน้าของชิงอีเ็าเล็กน้อย “เพียงทว่าเขาเรียนรู้มาแค่ผิวเผินเท่านั้น จึงไม่สามารถมองออก ก่อนหน้านี้ชายผู้นี้เกือบตายแล้ว ดังนั้นร่างของเขาจึงไม่มีพลังหลิงชี[1]ใดๆ ทว่า ในตอนนี้เขาก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว และสิ่งเ่าั้ก็ฟื้นคืนขึ้นมาเช่นกัน”
"ฮ่องเต้เฒ่าก็ฝึกฝนวิชาเซวียนเหมินด้วยงั้นหรือ? ตาแก่นั่นอยากจะเป็ะงั้นหรือ?” เ้าแมวอ้วนเบิกตากว้าง ั้แ่สมัยโบราณมีฮ่องเต้หลายคนเรียนรู้สิ่งเ่าั้เพื่อที่จะมีชีวิตเป็ะ อย่างไรก็ตาม หากเป็อย่างที่ว่ามา ชิงอีก็ไม่น่าจะอยากตรวจสอบบัญชีเกิดตายของมนุษย์ขนาดนี้
“บนตัวของเขามีมนต์ดำอยู่ ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่ามันเป็วิชามารซานหุนของเขาที่ถูกแช่ในน้ำมันศพ แต่ดูจากวันนี้แล้ว มนต์ดำนั่นอยู่ในร่างกายของเขามาเป็เวลานาน และมันก็กลืนกินอายุขัยของเขาอยู่ตลอด” ดวงตาของชิงอีเต็มไปด้วยความลังเล “บางทีมันอาจจะเป็มนต์โลหิตเปลี่ยนชีวิต เป็มนต์ดำที่นำอายุขัยของตนเองส่งต่อไปยังผู้อื่น”
เ้าแมวอ้วนเบิกตาโพลง “ดังนั้นท่านเลยสงสัยว่า...ฮ่องเต้เหยียนสละชีวิตของตนเองเพื่อ...”
ชิงอีพยักหน้า “บางทีเราทุกคนก็อาจผิดพลาดกันได้ ไม่ใช่ไทเฮา แล้วก็ไม่ใช่คนชั่วที่สมรู้ร่วมคิดของตระกูลตู้ ทว่า เป็คนโง่เง่านั่นที่เข้าไปอยู่ในกลอุบายของคนชั่วั้แ่แรก”
นางบอกว่าในเมืองหลวงแห่งนี้ มีพลังัคอยปกป้องอยู่ ทว่า เหตุใดิญญาร้ายเ่าั้ถึงได้ดึงิญญาของฮ่องเต้ออกมาได้อย่างง่ายดาย หากเป็ตัวเขาเองที่ไปหาถึงที่ เช่นนั้นมันก็สมเหตุสมผลอยู่
มีรายละเอียดบางอย่าง ที่ชิงอีี้เีเกินกว่าจะพูดไร้สาระออกมา
เช่น แม้ว่าฮ่องเต้เหยียนจะส่งเ้าของร่างคนเดิมไปยังเมืองหย่งเย่ ทว่าจริงๆ แล้ว พระองค์ได้ส่งองครักษ์เงามาเฝ้าดูทุกย่างก้าวของลูกสาว
อีกตัวอย่างหนึ่ง คือ ลายเส้นสมรสสีดำเชื่อมต่อกับปลายนิ้วก้อยบนฝ่าพระหัตถ์ของฮ่องเต้เฒ่านั้นถูกคนตัดออกไปนานแล้ว
ต้องรักมากเพียงใด ถึงได้ยอมสละอายุขัยของตนเองเพื่ออีกฝ่ายได้เช่นนี้?
เป็ไปได้หรือไม่ว่าการที่ตาแก่ผู้นี้ส่งเ้าของร่างคนเดิมไปยังเมืองย่งเหย่ เพื่อปกป้องลูกสาวของตนเอง?
ชิงอีอดไม่ได้ที่จะกลอกตาเมื่อคิดถึงเื่นี้ ช่างเป็ละครน้ำเน่าเสียจริง! สู้ให้นางไปตื่นเต้นกับละครในตอนแรกนั่นเสียดีกว่า
“ในเมื่อฮ่องเต้เฒ่านั่นก็เป็คนในเซวีนเหมินครึ่งหนึ่งเหมือนกัน เช่นนั้นเขาไม่สงสัยในตัวตนของท่านเลยหรือไร?” เ้าแมวอ้วนอดที่จะถามไม่ได้ เมื่อได้ยินชิงอีพูดว่าตาเฒ่านั่นรู้ทุกอย่างที่เกิดในวังหลวงในหนึ่งปีที่ผ่านมา และแน่นอนว่าต้องรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็หลังมือของนางเช่นกัน
“แน่นอนว่าต้องสงสัยอยู่แล้ว เพียงแต่เขาไม่มีหลักฐานที่จะมายืนยันได้” ชิงอีอ้าปากหาว “ถึงตาแก่นั่นจะเป็คนฉลาด อย่างไรก็ตามเขาก็ยังโง่เง่าในสายตาของข้าอยู่ดี เ้าแค่ไปเอาบัญชีเกิดตายของมนุษย์มา และตามหาฮองเฮาผู้นั้นก่อน เ้าโง่นั่น คิดจริงๆ หรือว่ามนต์โลหิตนั่นดีจริงๆ?”
เ้าแมวอ้วนพยักหน้า แค่เกรงว่าจนกระทั่งถึงตอนนี้ ฮ่องเต้เหยียนผู้นั้นยังไม่รู้ตัวว่า มนต์โลหิตเปลี่ยนชีวิตได้พาคนที่ตัวเองรักที่สุดส่งเข้าปากเสือเสียแล้ว
“คราวหน้าหากเจอชายออกสาวนั่นอีก ข้าผู้นี้จะต้องเด็ดหัวเขาให้ได้!” ชิงอีทุบเตียงอีกครั้ง แม้กระทั่งเื่เช่นนี้ก็สังเกตไม่ได้ จื่อโตวนั่นยังเป็เทพพิพากษาในยมโลกอยู่หรือไร ออกไปแล้วไปเป็เทพขัดห้องน้ำเสียเถอะ!
เ้าแมวอ้วนอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน สิ่งที่ทำให้นางมารร้ายหงุดหงิดที่สุดคือการที่งานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง แล้วก็ยังเป็เื่ที่ยุ่งยากอีก
ตอนนี้สิ่งต่างๆ ทั้งยุ่งยาก ทั้งทำไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร อย่างไรก็ตาม นางก็ยังต้องดูแลจัดการเื่นี้ คนชั่วที่อยู่เื้ันั่นกับตราประทับการจุติต้องเกี่ยวข้องกันแน่ๆ เพียงแต่ต้องหาฮองเฮาผู้นั้นให้เจอก่อน จึงจะสามารถหาเบาะแสและจับคนที่อยู่เื้ัได้
“มีอะไรอีกล่ะ” เ้าแมวอ้วนมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าเหตุผลที่ทำให้ชิงอีหงุดหงิดขนาดนี้ มันมีมากกว่านั้น
ั์ตาของนางสั่นไหว พร้อมกับเบะปาก จากนั้นก็มองไปยังแหวนจื่อจินที่หยิบขึ้นมาอีกครั้ง “แล้ว... เขาก็ถามว่าข้าจะแต่งงานกับเซียวเจวี๋ยหรือไม่?”
เออ...
แน่นอนว่านี่คือประเด็นสำคัญเลยล่ะ
“แล้วท่านจะแต่งหรือไม่แต่งล่ะ” เ้าแมวอ้วนหรี่ตาลง
“แน่นอนว่าไม่แต่งอยู่แล้ว!” ชิงอีตบไปที่ต้นขาและพูดตะคอกว่า “ตอนนั้นข้าปฏิเสธไปแล้ว เข้าใจไหม!” แปลกจริงๆ
ความจริงแล้วนางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดออกไปว่าข้าจะลองคิดดูแล้วกัน
ในเวลานี้ เมื่อคิดกลับไปนางก็รู้สึกละอายใจที่พูดออกไปว่า ‘ลองคิดดู’
เพียงแต่...
เ้าหนุ่มน้อยนั่นเป็เ้าของของแหวนจื่อจินวงนี้ พลังของนางก็อยู่ในร่างกายเขา และทุกครั้งที่ใช้พลังจนหมด นางก็้าฟื้นฟู ก่อนที่จะไขปริศนาวิธีการใช้แหวนจื่อจินได้ การแต่งงานกับเขา...ก็ถือว่าสะดวกสำหรับนางที่จะเติมพลังให้เต็มสูบ
ชิงอียังคงหาเหตุผลและข้อแก้ตัวสำหรับตัวเอง ยิ่งคิดถึงเื่นี้มากเท่าไร ก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น คลุมโปงนอนดีกว่าจะได้ไม่ต้องคิดถึงมันอีก
เมื่อเ้าแมวอ้วนเห็นเช่นนี้ มันก็ไปทำงานที่ได้รับมอบหมาย เฮ้อ คิดไม่ถึงว่าผู้พิพากษาในชุดแดงผู้สง่างามกำลังจะเป็ขโมยในบ้านของตนเอง ขอแค่ให้ไม่โดนพวกผีเฒ่าเ่าั้จับได้ก็พอ
...
ไม่นานหลังจากที่เ้าแมวอ้วนออกไป ชิงอีก็เตะผ้าห่ม ลุกขึ้นจากเตียงและผลักประตูเปิดออกไป
เถาเซียวและต้านเสวี่ยที่กำลังจะเคาะประตู พอเห็นนางเปิดออกมาก่อนก็อดใไม่ได้
องค์หญิงคงไม่ได้มีพลังที่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าหรอกใช่หรือไม่?
ชิงอีมองไปยังชายหนุ่มในลานตำหนัก รูปลักษณ์สง่างามสะอาดสะอ้าน ชุดราชสำนักนั่นยิ่งทำให้เขาดูหล่อมากเป็พิเศษ รวมไปถึงท่าทางและผิวพรรณดี
นางรู้สึกสับสนเล็กน้อยอีกครั้ง
หญิงผู้สง่างามแห่งวังชิงอีเตี้ยน ต้องมาก้มหัวให้เพื่อพลังงั้นหรือ?
ช่างขายหน้าเสียจริง!
“ท่านมาที่นี่ทำไม?” แม้ในใจจะรู้สึกรำคาญ ทว่า บนใบหน้ากลับไม่ได้แสดงความตื่นตระหนกใดๆ ออกไป ชิงอีเดินก้าวไปหาเซียวเจวี๋ย
เซียวเจวี๋ยเหลือบมองรอยที่มาจากการนอนบนใบหน้าของนาง ไม่รู้เช่นกันว่านางไปนอนทับอะไรมาถึงได้ขึ้นเป็รอยแดงเช่นนี้
ทันใดนั้น เขาก็ละสายตาและพูดเบาๆ ว่า “ข้ามีเื่จะปรึกษา องค์หญิงไปกับข้าที่ศาลาในสวนได้หรือไม่?”
โดยปกติแล้วชิงอีคงจะไล่เขาออกไปในทันที ทว่าตอนนี้...
“ไปกันเถอะ”
ทั้งยังไปเพียงผู้เดียว โดยไม่ให้ชิวอวี่และคนอื่นๆ ตามไป
ทั้งสองออกจากตำหนักเชียนชิว
เถาเซียงและคนอื่นๆ ที่มองอยู่ข้างหลัง กำหมัดเล็กๆ แน่น
“ท่านอ๋องเสด็จมาหาองค์หญิง เพื่อหารือเื่การอภิเษกสมรสใช่หรือไม่?”
“ตอนนี้ที่ฝ่าาทรงฟื้นแล้ว ว่ากันว่าวันอภิเษกสมรสของทั้งคู่ถูกกำหนดไว้แล้วด้วย!”
“เยี่ยมไปเลย ตำหนักเชียนชิวของเราจะมีข่าวดีแล้วล่ะสิ!”
ชิวอวี่มองดูสาวน้อยสองคนที่มีความสุข พร้อมกับส่ายหน้า สัญชาตญาณของชายหนุ่มของเขาบอกว่าเื่มันไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้นหรอก!
ในสวน ณ ศาลาชุนชิว
ชิงอีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าเซียวเจวี๋ยจะพาตัวเองมาที่นี่จริงๆ
นางเหลือบมองไปยังสระน้ำสีเขียวขจีใต้ศาลา ในตอนนั้นร่างของตู้ิเยวี่ยนั่นตายที่นี่พร้อมเสาเหย้า
ชิ สกปรกจริงๆ!
จะคุยกันก็หาที่ที่มันมีทิวทัศน์ดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไร
“พูดมาสิ ท่าน้าจะคุยเื่อะไรกับข้า?”
“องค์หญิงคิดว่าการหมั้นหมายระหว่างข้ากับท่านให้มันจบลงเช่นนี้ ท่านคิดเห็นเช่นไร?”
*****************
[1] พลังหลิงชี คือ เป็พลังที่รู้สึกได้หรือััได้ถึงสิ่งพิเศษหรือสิ่งเร้นลับ
