“ข้ามิรู้ว่าเ้าชอบทานสิ่งใด จึงเลือกคีบมาให้เ้าเพียงเล็กน้อย” ตอนทานข้าว ซ่งจื่อเฉินคีบอาหารให้จิ่นเซวียน นางประหลาดใจเล็กน้อย เขามิได้เป็คนเ็าหรอกหรือ?เขาคีบอาหารให้นางด้วย
“เด็กจื่อเฉินผู้นี้สุภาพมากจริงๆ ข้าเชื่อว่าเขาจะดีขึ้นเรื่อยๆ” สวี่ติ้งหรงทานอาหารไปพลางสังเกตซ่งจื่อเฉินไปด้วย นางรู้สึกว่าซ่งจื่อเฉินมิใช่คนที่จะยอมอยู่ในสภาพเช่นนี้ เขาต้องทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในสักวันแน่
“ท่านอาสะใภ้เล็ก ขอเพียงคนบ้านซ่งดีต่อเซวียนเซวียน ข้าก็พอใจแล้วเ้าค่ะ” ซย่าชุนอวิ๋นห่วงจิ่นเซวียนที่สุด เหล่าพี่สะใภ้ของซ่งจื่อเฉินนั้นมิได้นิสัยดีเลย
“เซวียนเซวียนของพวกเรามิใช่คนโง่ เ้ามิต้องกังวล หากคนพวกนั้นอยากรังแกจิ่นเซวียนก็ต้องผ่านพวกเราไปก่อน” สวี่ติ้งหรงรักจิ่นเซวียนเหมือนหลานสาวแท้ๆ ตราบใดที่จิ่นเซวียน้าความช่วยเหลือ นางจะช่วยเอง
“ท่านก็ทานด้วย” จิ่นเซวียนเห็นโจวซู่ซินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังมองมาที่พวกนาง นางเลยจงใจคีบอาหารให้ซ่งจื่อเฉิน
โจวซู่ซินและโจวซู่อิงรับหน้าที่เติมอาหารให้ทุกคน โจวซู่อิงจึงใช้ประโยชน์จากความอิจฉาของโจวซู่ซินมาเยาะเย้ยนาง “ญาติผู้พี่ ท่านมิคิดว่าพี่จื่อเฉินกับสะใภ้เล็กเหมาะสมกันมากหรือเ้าคะ?”
“พวกเขาเหมาะสมกันจริงๆ” โจวซู่ซินเก็บอาการเก่งยิ่งนัก แม้จะมิพอใจแต่ก็มิแสดงออกมา ยังคงยิ้มบางตักอาหารให้ทุกคน
“คนงามในชุดสีชมพูตรงนั้น นางเป็สหายของท่านหรือ?นางมองท่านตลอดเลย” จิ่นเซวียนได้ยินจากปากทุกคนว่าคนงามในชุดสีชมพูคือโจวซู่ซิน สาวงามของหมู่บ้านสกุลโจว ว่ากันว่าโจวซู่ซินกับซ่งจื่อเฉินเป็สหายสมัยเด็กกัน แต่นางคิดว่าพวกเขามิได้เป็เพียงแค่นั้น
“เ้าอย่าคิดไปเอง ข้ากับนางมิได้มีความสัมพันธ์กับนาง” ซ่งจื่อเฉินรีบแก้ตัวกับจิ่นเซวียนโดยมิรู้ตัว
“อีกครู่ ท่านถามท่านพ่อให้ข้าได้หรือไม่ว่าคนมาช่วยงานในวันนี้มีกี่คน ข้าจะได้เตรียมของขวัญให้พวกเขา” จิ่นเซวียนพอใจกับคำอธิบายของซ่งจื่อเฉิน
ซ่งจื่อเฉินคิดว่าจิ่นเซวียนหึงหวงเลยแอบดีใจ ั้แ่รู้ว่าจิ่นเซวียนคือเด็กสาวในฝัน เขาทั้งดีใจและน้อยเนื้อต่ำใจ
“เซวียนเซวียน เ้าแต่งให้บ้านซ่งแล้วต้องเคารพแม่สามี อย่าได้ทำให้ตระกูลซย่าของพวกเราขายหน้า” หลังทานอาหาร ฉิวจั่งกุ้ยขอตัวกลับก่อน ส่วนซย่าหลี่เจิ้งนั่งสอนจิ่นเซวียนว่าต้องปฏิบัติตนเป็สะใภ้ที่ดี และมีมารยาทอย่างไร
เขาเป็ผู้ใหญ่ พูดสิ่งใดมา จิ่นเซวียนก็ตอบกลับไปได้เพียงคำว่าเ้าค่ะ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ซ่งผิงและเฉียวซื่อเข้ามาเรียกญาติบ้านพ่อแม่ไปที่ห้องโถงหลัก
“ข้าจะส่งท่านกลับห้องก่อน” จิ่นเซวียนยื่นของขวัญที่ฉิวจั่งกุ้ยให้ซ่งจื่อเฉินถือไว้ แล้วช่วยประคองให้เขานั่งบนรถเข็นเตรียมพากลับห้อง
“ข้าจะไปส่งท่านอาเล็กกับเ้าก่อน” ซ่งจื่อเฉินเข้าร่วมงานแต่งมาหลายหนและเ้าสาวที่เขาเคยพบต่างก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น ยกเว้นจิ่นเซวียน เมื่ออยู่ที่บ้านพ่อแม่นางมิได้ร้องไห้ จนถึงครานี้ที่คนส่งตัวเ้าสาวจะกลับแล้วนางก็ยังมิร้องไห้อยู่ดี
ไม่เพียงซ่งจื่อเฉินที่สงสัย คนอื่นๆ ต่างก็สงสัยเช่นกัน
พวกเขากำลังคิดว่าจิ่นเซวียนเป็คนเช่นใดกันแน่ นางรู้สึกอย่างไรกับการแต่งงานนี้
โต๊ะสามตัวจัดวางอยู่ในห้องโถงใหญ่ หลังซ่งผิงเชิญทุกคนเข้ามานั่งก็วางจอกสุราลงบนโต๊ะ ทำการคารวะหนึ่งจอกในฐานะพ่อฝ่ายเ้าบ่าว
“ท่านพ่อ ข้านำของขวัญมาแล้วขอรับ” ซ่งหวาไปที่ห้องเก็บของ เพื่อเอาผ้ามาแจกจ่ายให้บ้านเ้าสาวคนละผืน
ซย่าหลี่เจิ้งพอใจนัก เมื่อเห็นอีกฝ่ายเตรียมผ้าต่วนสีน้ำเงินไพลินเอาไว้
ของขวัญนี้แม้จะให้เป็พิธี แต่ก็แสดงถึงความเคารพที่ฝ่ายชายมีต่อบ้านฝ่ายหญิง
“เซวียนเซวียน พวกเราจะกลับแล้ว เ้าดูแลตนเองด้วย” หลังจบพิธี ทุกคนกำลังจะกลับหมู่บ้านสกุลซย่า จิ่นเซวียนยังมิอยากแยกกับครอบครัว
นางเข้าไปกอดซย่าชุนอวิ๋น “ท่านอาเล็ก ข้าจะไปเยี่ยมท่านบ่อยๆ นะเ้าคะ”
“ข้าเองก็จะมาหาเ้าบ่อยๆ เช่นกัน” ซย่าชุนอวิ๋นน้ำตาคลอมองจิ่นเซวียน นางมิอยากแยกกับหลานสาว
“เซวียนเซวียน พวกเราคือครอบครัวของเ้าตลอดไป หากเ้ามิได้รับความเป็ธรรม อย่าเก็บมันไว้ผู้เดียว เ้ากลับมาบอกข้า อาเล็กจะช่วยเ้าจัดการเอง” หากมินับเื่ขาของซ่งจื่อเฉิน ซย่าหลี่เจ๋อพอใจในตัวเขามากทีเดียว
เขารู้ว่างานแต่งนี้จิ่นเซวียนตกลงไปแล้ว จึงช่วยสิ่งใดมิได้ สิ่งเดียวที่ทำได้มีเพียงช่วยดูแลนางเท่านั้น
“ท่านย่าเล็ก ท่านดูแลตนเองด้วยนะเ้าคะ” จิ่นเซวียนเข้าไปกอดสวี่ติ้งหรงและกระซิบว่า “เื่นั้นข้าพูดจริงนะเ้าคะ ท่านอย่าให้อาเล็กไปทำงานคุ้มกันเลย มันมิปลอดภัยเ้าค่ะ”
“เด็กดี พวกเราค่อยปรึกษาเื่นี้กันตอนที่เ้ากลับมาเยี่ยมก็แล้วกัน” แน่นอนว่าสวี่ติ้งหรงเชื่อจิ่นเซวียน นางเช็ดน้ำตาและเดินตามทุกคนไปอย่างมิเต็มใจ
“เซวียนเซวียน งานเลี้ยงแขกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เ้าต้องทำพิธีมอบของขวัญต่อ ของขวัญที่เ้าเตรียมไว้อยู่ที่ใดหรือ ข้าจะได้ยกมาจัดก่อน” เฉียวซื่อคิดว่าจิ่นเซวียนมิได้เตรียมของขวัญมาให้ทุกคน นางจึงจงใจพูดขึ้นมา
พิธีมอบของขวัญคือการเอาของขวัญออกมามอบให้คนในบ้านสามีต่อหน้าคนที่มาช่วยงาน
“ท่านพ่อท่านแม่มิต้องกังวล ข้าเตรียมของขวัญเอาไว้นานแล้วเ้าค่ะ” นางรู้ว่าเฉียวซื่ออยากเห็นนางโดนหัวเราะเยาะ
หึ คิดว่านางจะปล่อยให้ทำหรือ?
“จริงสิขอรับ ท่านพ่อ เซวียนเซวียนอยากถามท่านว่าคนมาช่วยงานมีเท่าใดขอรับ นางจะให้อั่งเปา” ซ่งจื่อเฉินมิชอบเฉียวซื่ออยู่แล้ว และมิชอบใจยิ่งขึ้นอีก เมื่อเห็นแม่เลี้ยงจะรังแกจิ่นเซวียน
“มีทั้งหมดยี่สิบห้าคน อั่งเปาส่วนนี้พวกเราควรเป็ผู้จัดการ จะรบกวนเ้าได้อย่างไร” ซ่งผิงดีใจที่จิ่นเซวียนกู้หน้าให้ซ่งจื่อเฉิน แต่เขามิอยากให้จิ่นเซวียนสิ้นเปลือง
“ท่านพ่อ ในเมื่อข้าแต่งเข้าบ้านซ่งแล้ว ข้าก็คือคนตระกูลซ่ง ผู้ใดเตรียมก็เหมือนกันเ้าค่ะ” ซ่งผิงมีใจปกป้องนาง นางค่อนข้างดีใจ
“เซวียนเซวียน ให้ข้าช่วยเ้าเอาของขวัญออกมาเถิด” ซย่าตงชิงกับจิ่นเซวียนถือเป็ลูกพี่ลูกน้องกัน นางอยากดึงจิ่นเซวียนมาเป็พวก จะได้ให้จิ่นเซวียนช่วยนางต่อกรกับเฉินซื่อและพานซื่อ
“เช่นนั้นข้ารบกวนพี่ตงชิงแล้วเ้าค่ะ” ซย่าตงชิงเป็ภรรยาของซ่งเหลียง นางมีลูกชายลูกสาวอย่างละคน ลูกสาวคนสุดท้องมีอายุสิบขวบ จิ่นเซวียนมิอาจเรียกพี่สาวของตนเองว่าพี่สะใภ้ได้ นางจึงเรียกพี่ตงชิงตามคนบ้านซ่ง
“พี่สะใภ้ห้า ข้าจะไปช่วยด้วยเ้าค่ะ” ซ่งเป่าจูเดินมาจากข้างนอกและเรียกจิ่นเซวียนว่าพี่สะใภ้ห้าด้วยรอยยิ้ม นางโตกว่าจิ่นเซวียนห้าปี จิ่นเซวียนจึงมิค่อยชินที่โดนเรียกว่าพี่สะใภ้ห้า
“กุญแจอยู่กับข้า เซวียนเซวียน เ้ารับไปเถิด” ซ่งผิงส่งกุญแจเรือนโม่อวิ้นเซวียนให้จิ่นเซวียน นางรับมาและกล่าวขอบคุณ แล้วเดินไปที่เรือนโม่อวิ้นเซวียนกับซ่งจื่อเฉิน ซย่าตงชิงและซ่งเป่าจู
“ภรรยา เ้ามิต้องสนใจข้า ไปทำธุระกับพวกพี่สะใภ้สองเถิด” ซ่งจื่อเฉินเดินมิได้ แต่เขาดูแลตนเองได้ เขาเก่งวรยุทธ์ยิ่งนัก แม้แต่เหล่ายอดฝีมือในยุทธภพยังมิอาจต่อกร แต่ที่เขาแสร้งทำตัวอ่อนแอต่อหน้าคนบ้านซ่ง เพื่อปิดหูปิดตาคน
“พี่ห้า กล่องในอ้อมแขนของท่านใช่ของขวัญที่ฉิวจั่งกุ้ยให้พี่สะใภ้ห้าหรือไม่ ท่านเปิดดูสิเ้าคะ” ซ่งเป่าจูมองกล่องในอ้อมแขนของซ่งจื่อเฉินด้วยความโลภ
“เซวียนเซวียน เ้าเปิดดูสิ ข้าเองก็สงสัยเช่นกันว่ามีสิ่งใดอยู่ข้างใน?” ซย่าตงชิงเองก็อยากเห็นว่าของขวัญคือสิ่งใด
“สามี ท่านเปิดเถิด” จิ่นเซวียนเรียกซ่งจื่อเฉินด้วยเสียงนุ่มนวลจนหัวใจของเขาอุ่นวาบ เขาชอบที่จิ่นเซวียนเรียกเขาว่าสามีเช่นนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้