ไทแรนโนซอรัสที่มีขนาดเท่าูเาขนาดย่อมล้มลงกับพื้น เกล็ดทั่วทั้งตัวแตกยับเยิน เืไหลออกมาจากรอยแผลนับไม่ถ้วนที่อยู่บนร่าง เ้าสัตว์ร่างมหึมานี้สิ้นใจในที่สุด
โจวเฉวียนท่าทางหวาดๆ พลางเดินเข้าไปใกล้ ยื่นมือออกไปแตะ รู้สึกเหมือนกับมันไม่ใช่ความจริง นี่มันไดโนเสาร์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์เชียวนะ ล้มกันง่ายอย่างงี้เลยเหรอ
“นี่ถ้าเอาไดโนเสาร์ตัวนี้ออกไปข้างนอก ได้ฮือฮากันทั่วโลกแน่!” โจวเฉวียนพูด
“เอ็นั!” หวงหนิวเขียนเตือน มันสนแต่เื่นี้ วนไปเวียนมาอยู่รอบไทแรนโนซอรัส แม้แต่ฉู่เฟิงก็ยังจดจ่อ อยากซ่อมคันศรฟ้าคำรามนั้นโดยเร็ว
กลิ่นคาวเืคละคลุ้งไปทั่วป่า แต่ให้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ก็ไม่มีสัตว์ร้ายอื่นใดกรายใกล้ ด้วยไม่กล้าย่างเหยียบเข้ามาในเขตต้องห้ามนี้ เพราะต่างก็เกรงกลัวความร้ายกาจของไทแรนโนซอรัส
ฉู่เฟิงนิ่งไป ครุ่นคิดถึงการต่อสู้ที่ผ่านมาเงียบๆ ใน่สุดท้ายเขากลับใช้เคล็ดวิธีหายใจออกมาอย่างไม่รู้ตัว
ระหว่างปากและจมูกของเขาตอนนี้มีสายควันสีขาวลอยวนเวียน กลางท้องฟ้า แสงอาทิตย์สาดส่องทะลุทะลวงความชื้นลงมาอาบร่างของเขา จนเรืองรองไปด้วยแสงสีทองบางเบา
ฉู่เฟิงรู้สึกว่า ทั่วร่างอบอุ่นขึ้น เมื่อครู่ที่ถูกหางไทแรนโนซอรัสฟาดนั้น เ็ปเหลือที่จะเอ่ยจนกระอักเืออกมา แต่ตอนนี้ ความเจ็บค่อยๆ บรรเทาเบาบางลง
“ได้ผลอย่างมหัศจรรย์ขนาดนี้เลยเหรอ?” เขาประหลาดใจ เคล็ดวิธีหายใจพิสดารลึกล้ำ ในเมื่อมีข้อดีถึงเพียงนี้ เรียกได้ว่าเป็วิชาล้ำค่าเลยทีเดียว ยังมีอะไรให้ค้นหาได้ไม่สิ้นสุด
จากนั้นไม่นาน ออร่าสีทองก็ซึมหายเข้าสู่ร่างกาย าแบนร่างฉู่เฟิงหายไปจนสิ้น ไม่เหลือซึ่งร่องรอย
ห่างออกไปไม่ไกล โจวเฉวียน หวงหนิวกำลังพยายามถลกหนังเ้าไทแรนโนซอรัส
“เกล็ดแข็งเป็บ้า ฉันว่าะุยังยิงไม่ทะลุเลยนะเนี่ย!” โจวเฉวียนกระฟัดกระเฟียด จะถลกหนังก็ถลกไม่ได้
หวงหนิวสิร้ายกว่า กระแทกกีบไปสองสามทีให้แผลบนตัวไทแรนโนซอรัสปริแยกมากกว่าเดิม ที่จริงมันอยากจะกระทืบตอนไอ้ตัวร้ายนี่ยังเป็ๆ มากกว่า
“ฉันเอง”
ฉู่เฟิงะโลงมาจากูเาไทแรนโนซอรัส ดึงกระบี่สั้นสีดำออกมา กรีดคว้านเปิดเกล็ดสีเงินนั้นอย่างง่ายดาย แล้วควานหาเอ็นของมัน
ต่อมาอีกครึ่งชั่วโมง เส้นเอ็นยาวอย่างยิ่งของเ้าสัตว์ร่างั์นี้ก็ถูกเชือดออกมา
“นี่น่ะเหรอเอ็นั? หนาเกินไปรึเปล่า?” โจวเฉวียนเกิดอาการหน้ามืด เส้นเอ็นมีลักษณะใส ส่วนที่บางที่สุดยังหนาขนาดลำแขนของผู้ใหญ่
“ต้องคัดเน้นๆ” หวงหนิวเขี่ยพื้นบอก เื่นี้มันมีประสบการณ์ ค่อยๆ ััเส้นเอ็นยาวสิบกว่าเมตรนี่อย่างช้าๆ เหมือนกับกำลังหาอะไรสักอย่าง
ในที่สุด มันก็ชี้หมับเข้าที่่หนึ่ง
ฉู่เฟิงพิจารณาโดยละเอียด มีบางอย่างจริงๆ ด้วย ตรง่กลางของเอ็นัเส้นนี้มีเส้นสีเงินบางๆ ซ่อนอยู่ตรงใจกลางของส่วนที่หนาที่สุดของเส้นเอ็นขาวใส
เขาใช้กระบี่สั้นสีดำผ่ามันออกมา
เอ็นัแข็งอย่างยิ่ง จัดการไม่ได้ง่ายเลย ยากกว่าตอนผ่าเกล็ดสีเงินที่เป็เกราะของเ้าไทแรนโนซอรัสอย่างมาก ใช้เวลาไปถึงสองชั่วโมงเต็มๆ พวกเขาถึงเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของสายสีเงินเส้นนี้
มันเป็ส่วนสำคัญที่สุดของเอ็นั สายสีเงินเส้นเล็กซ่อนอยู่กลางเส้นเอ็นใหญ่ ความยาวเกือบสองเมตร ยาวกำลังดีเหมาะที่จะทำเป็สายธนูอย่างยิ่ง
เพราะคันศรฟ้าคำรามมีความยาวหนึ่งเมตรห้าสิบเิเ
“กำลังดีเลย!”
เอ็นสีเงินเส้นนี้ ทั้งเล็กละเอียดทั้งเหนียว ฉู่เฟิงลองทดสอบดู เขามัดมันเข้ากับเขี้ยวอันใหญ่โตแล้วลากร่างของเ้าสัตว์ั์นี้ เส้นเอ็นกลับไม่มีท่าทางว่าจะขาดแต่อย่างใด
“ของดีนะเนี่ย อย่างนี้สิ สมบัติล้ำค่า!” ถึงโจวเฉวียนจะไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังพอมองออกถึงความพิเศษของเอ็นัเส้นนี้
ฉู่เฟิงเองก็เข้าใจในที่สุด ว่าทำไมคันธนูในยุคโบราณถึงใช้เส้นเอ็นจากสัตว์ขนาดั์มาทำเป็สายธนู มันมีที่มาอย่างนี้นี่เอง
“กลับไปถามจ้าวซานเหยียดีกว่า ว่าต้องทำอะไรกับเอ็นเส้นนี้เป็พิเศษหรือเปล่า” ฉู่เฟิงบอก
หวงหนิวส่ายหัวพรืด ดูท่ามันจะมีประสบการณ์เื่นี้ดี เขี่ยตอบว่า “สายธนูจากธรรมชาติ ไม่ต้องทำอะไร”
ฉู่เฟิงกลับไม่ฟังมัน ดึงดันว่ากลับไปแล้วค่อยขึงสายธนู
“รับนะ เอากลับไปลองชิมดู นี่เนื้อัเชียวนะเนี่ย” ฉู่เฟิงเฉือนเนื้อออกมาก้อนใหญ่ น้ำหนักกว่าห้าสิบกิโลกรัมโยนให้โจวเฉวียน
“ชัวร์ป้าบ!” โจวเฉวียนกลืนน้ำลายเอื๊อก นี่มันยุคไหนแล้ว แต่กลับมีโอกาสได้กินเนื้อไดโนเสาร์ มันเป็เื่ที่โคตรจะเหลือเชื่อ
ฉู่เฟิงเองก็เฉือนเนื้อก้อนใหญ่หนักร่วมร้อยกิโลกรัมกลับไปด้วย
“เขี้ยวั!” หวงหนิวเขียนบอก
มันบอกว่า นี่เป็วัสดุชั้นเลิศสำหรับทำปลายศร ทิ้งไปล่ะก็ เรียกได้ว่าไม่รู้จักของดี เสียของอย่างยิ่ง
ฉู่เฟิงเสียแรงไปอีกโขกว่าจะถอนเขี้ยวทั้งใหญ่ทั้งหนาพวกนั้นออกมาได้ ใช้เถาวัลย์มัดรวมเข้าไว้ด้วยกัน แล้วแบกขึ้นไหล่
พวกเขากลับตามทางเดิม ราบรื่นอย่างยิ่ง ไม่มีสัตว์ร้ายตัวไหนมาขวางทางพวกเขาเลย
ส่งโจวเฉวียนที่นอกอำเภอเมืองแล้ว ฉู่เฟิงกับหวงหนิวก็มองเขาเดินกลับเข้าเมืองไป จากนั้นก็เร่งความเร็วตลอดทาง มุ่งหน้ากลับเมืองชิงหยาง
ฉู่เฟิงหยิบคันศรฟ้าคำรามออกมา อีกมือถือห่อเนื้อไทแรนโนซอรัสห้ากิโลกรัม ออกเดินไปยังร้านทำอาวุธ
พอจ้าวซานเหยียเห็นเอ็นัสีเงินเส้นนั้นเข้า ลูกตาเขาแทบถลนอย่างกับเห็นผี เขาแทบไม่อยากเชื่อ ยุคนี้แล้วยังมีัอีกหรือ?
“เสียวฉู่ เธอได้มันมาได้ยังไงเนี่ย?” จ้าวซานเหยียถามตะกุกตะกัก รู้สึกอย่างกับตัวเองอายุถดถอยลงไปยี่สิบสามสิบปีเลยทีเดียว คึกคักกระชุ่มกระชวยอย่างยิ่ง
เขาอยากจะเห็นคันศรนี้คืนชีพ สำแดงพลานุภาพอีกครั้ง
ฉู่เฟิงรู้สึกหัวบวมขึ้นมาทันที จะอธิบายกับจ้าวซานเหยียยังไงดีล่ะ?
“มนุษย์พิเศษคนหนึ่งส่งมาให้ผมฮะ” เขาก็ได้แต่หน้าด้าน หยิบเอาเื่พวกมนุษย์กลายพันธุ์มาพูด ทั้งยังกำชับจ้าวซานเหยียให้เก็บเื่นี้เป็ความลับ
จ้าวซานเหยียพยักหน้าหงึกหงัก ถึงแม้จะรู้สึกว่ามันมีเงื่อนงำ หากก็ไม่ซักไซ้ไล่เลียง เขาพินิจดูเอ็นของสัตว์ร้ายนั่นอย่างถี่ถ้วน จากนั้นก็บอกว่าใช้ขึงสายได้เลย
ในที่สุด ภายใต้คำแนะนำของจ้าวซานเหยีย ฉู่เฟิงขึงเอ็นัเข้ากับคันศรอันใหญ่โต
ผึง!
เสียงสั่นไหวแ่เบา สายธนูถูกฉู่เฟิงดึงรั้ง พลันเกิดเสียงสัตว์ร้ายร้องคำรามอย่างน่ากลัว เสียงนกกรีดร้องแสบแก้วหู สุดท้ายคือเสียงฟ้าร้องเลื่อนลั่นปานฟ้าผ่า ดังกระหึ่มอยู่ในสวน
เสียงฟ้าผ่าทำให้กระจกในบ้านของจ้าวซานเหยียแตกร้าว
นี่ฉู่เฟิงแค่ดึงสายธนูเพียงเบาๆ เท่านั้นนะ หากรั้งเต็มเหนี่ยว คงแตกตื่นกันมากกว่านี้
“คันธนูมหัศจรรย์!” จ้าวซานเหยียเนื้อเต้น
“ซานเหยียฮะ ถ้าปู่ชอบ ผมคืนให้ปู่หลังใช้งานเสร็จแล้วนะฮะ” ฉู่เฟิงเอ่ย ตราบจนวันนี้ ธนูคันนี้กลายเป็สมบัติล้ำค่า เขาไม่อยากเอาเปรียบจ้าวซานเหยีย
“ไม่ต้อง บอกให้แล้วก็แล้วกันสิ นานๆ ทีก็ถือมาให้ปู่ชื่นชมสักหน่อยก็พอ” จ้าวซานเหยียเอ่ย
ฉู่เฟิงพยักหน้า เื่นี้ย่อมทำได้อยู่แล้ว ถ้าไม่เกิดศึกใหญ่ขึ้น ไม่มีเื่ปัจจุบันทันด่วนอะไร ธนูคันนี้เก็บไว้ที่บ้านของจ้าวซานเหยียเลยก็ยังได้
ก่อนลากลับ ฉู่เฟิงนำเอาลูกศรเหล็กกลับไปด้วยจำนวนหนึ่ง
ตอนที่เขากลับถึงบ้าน หวงหนิวก็รอจนแทบจะหมดความอดทนแล้ว
“ลองในบ้านไม่ได้ ไปบนเขาซี่!” ฉู่เฟิงเอ่ย เหตุที่เกิดเมื่อครู่ก็วุ่นวายมากพออยู่แล้ว ถ้าดึงคันธนูเต็มเหนี่ยว เขากลัวจะเกิดเื่ขึ้น
บนเขากลางป่าลึก ไร้ซึ่งผู้คน
ฉู่เฟิงทดสอบด้วยลูกศรเหล็ก รั้งคันศรเต็มเหนี่ยว วินาทีนั้น ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเสียงร้องคำรามะเืเลื่อนลั่นของส่ำสัตว์ อีกทั้งยังปรากฏเงาของนกล่าเหยื่อพุ่งทะยานสู่ฟากฟ้า
ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ เสียงฟ้าร้องสะท้านะเื มีสายฟ้าพุ่งผ่านออกไปอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน พร้อมกับที่ลูกศรเหล็กแล่นออกจากคันศร
ระหว่างนี้ หวงหนิวไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แม้แต่พลังทำลายของลูกศรก็ไม่สนใจ เหมือนกับว่ามันกำลังตั้งใจฟังอะไรบางอย่างสีหน้าสีตาเคร่งเครียด
ตึง!
ไกลออกไป ควันไฟะเิท่วมฟ้า
ฉู่เฟิงอ้าปากค้าง นี่มันแค่ลูกศรซะที่ไหนกัน ะเิชัดๆ ซัดจนหินั์หนักร่วมห้าตันที่อยู่ห่างออกไปแตกกระจาย
“ยิงอีก!”
หวงหนิวรีบเขียนบอก ท่าทางกังวล แต่ก็ตื่นเต้นไปในที มันเร่งให้ฉู่เฟิงยิงต่อ
ฉู่เฟิงพยักหน้า ดีเลย ถือโอกาสนี้หัดยิงไปในตัว เผื่อพรุ่งนี้อาจต้องใช้
ง้างคันศรครั้งที่สอง เสียงฟ้าร้องดังยิ่งกว่า แก้วหูแทบลั่น ต้นไม้ใบหญ้ารอบๆ เหมือนถูกพลังอันแปลกประหลาดดึงทึ้ง
ฟิ้ว!
ลูกศรเหล็กพุ่งออกไปพร้อมสายฟ้า ผาหินที่อยู่ห่างออกไปะเิในทันที หินก้อนใหญ่ั์หลายก้อนร่วงหล่นกระแทกพื้น น่าประหวั่นพรั่นพรึง
ระหว่างนี้ หวงหนิวก็ยังคงไม่สนใจพลังทำลายของลูกศร แถมยังเอาหูแนบเข้ากับคันธนูตั้งอกตั้งใจฟังอะไรบางอย่างอย่างไม่กลัวว่าเสียงฟ้าร้องจะทำให้หูดับ
ฉู่เฟิงเข้าใจในที่สุด ไอ้วัวบ้านี่มีวัตถุประสงค์แอบแฝง มิน่ามันกระตือรือร้นกว่าเขาเสียอีก เร่งเขายิกๆ ให้ออกล่าัเพื่อชุบชีวิตคันศรนี้
“ต่อเลย!”
หวงหนิวเร่ง หูแนบติดกับคันธนู ไม่ขยับเขยื้อน จดจ่ออยู่กับอะไรสักอย่าง
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ฉู่เฟิงทำตาม ไม่ไถ่ถามอะไรสักนิด ลูกศรดอกแล้วดอกเล่าถูกยิงออกไป พื้นที่ตรงนี้พลันเต็มไปด้วยสายฟ้าที่ฟาดลงมาไม่ขาดสาย
ต้นไม้ใบหญ้าโดยรอบถูกทำลายจนเหี้ยน พื้นดินเต็มไปด้วยใบไม้เผาไหม้หงิกงอ
ห่างออกไป ลูกศรดอกแล้วดอกเล่าพุ่งออกไปพร้อมสายฟ้าที่กรีดผ่านอากาศ ูเาเล็กๆ ลูกนั้นถูกทลายราบเป็หน้ากลอง มันน่าเขย่าขวัญเป็อย่างยิ่ง!
ในที่สุด ลูกศรเหล็กที่ฉู่เฟิงพกมาด้วยก็ถูกยิงออกไปจนหมด ฝีมือการยิงของเขาดีขึ้นมาก ล้วนเป็เพราะประสาทััอันว่องไวและสายตาอันเฉียบคม ที่ช่วยให้เขายิงออกไปได้อย่างใจ แม่นยำอย่างไม่มีอะไรเทียบ
ฝึกยิงธนูขั้นเริ่มต้น ผ่าน!
แต่ว่า หวงหนิวไม่สบอารมณ์อย่างมาก คว้าคันธนูมา กลับหัวพลิกหางดูจนทั่ว แต่กลับผิดหวังอย่างยิ่ง
“นายกำลังหาอะไร?” ฉู่เฟิงถาม
“เคล็ดหายใจแบบสุดยอด” หวงหนิวสารภาพ ใช้กีบเขี่ยพื้นไปมา แต่สายตายังจับจ้องอยู่ที่คันศรด้วยท่าทางหดหู่
หืม? ฉู่เฟิงสะดุ้งโหยง
เขาสามารถแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ ความสำเร็จส่วนใหญ่มาจากเคล็ดหายใจแบบพิเศษนั่น มันร้ายกาจกว่าหมัดปีศาจวัวหลายเท่าตัวนัก
เคล็ดหายใจที่เขาใช้อยู่ตอนนี้ก็นับได้ว่ามหัศจรรย์อย่างยิ่ง พิสดารอย่างยิ่งแล้ว อีกทั้งหวงหนิวเองยังเคยใช้เท้าหน้าข้างหนึ่งชี้ขึ้นฟ้า อีกข้างชี้ลงดิน เป็การยกย่องเคล็ดหายใจนี้ เห็นได้ชัดว่ามันไม่ธรรมดา
มาตอนนี้ มันดันพูดถึงเคล็ดหายใจแบบสุดยอด
“เจ๋งกว่าเคล็ดหายใจที่พวกเราฝึกกันอีกเหรอ?” ฉู่เฟิงถาม
“คล้ายกัน!” หวงหนิวเขี่ยให้สองตัว
“ก็ในเมื่อคล้ายกันกับเคล็ดหายใจแบบสุดยอด รู้เพียงวิธีเดียวก็น่าจะพอแล้วมั้ง?” ฉู่เฟิงปลื้มปริ่ม รู้สึกอิ่มเอมใจที่ได้รู้ถึงระดับของเคล็ดการหายใจนี้
“ถ้าหากได้เคล็ดการหายใจฟ้าคำราม ความแข็งแกร่งทางกายของทั้งนายและฉันจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว”
จากที่หวงหนิวพูด เคล็ดหายใจทั้งสองแบบมีข้อดีต่างกันไป ความหมายก็คือ เคล็ดหายใจแบบสุดยอดนั้นมีข้อดีเฉพาะตัวของมัน
ที่สำคัญก็คือ เคล็ดหายใจที่ฝึกอยู่ตอนนี้ ในแต่ละวันใช้เวลาไม่นาน ฝึกเพียงชั่วครู่ทุกเช้าเย็นก็พอแล้ว นานเกินไปก็ไม่มีประโยชน์
แต่ถ้าได้เคล็ดหายใจฟ้าคำรามมาล่ะก็ มันก็จะต่างกัน นอกจากนี้ เมื่อได้เคล็ดหายใจแบบสุดยอดมาเพิ่มอีก ก็เท่ากับว่ามีตัวช่วยประหยัดเวลาในการเพิ่มพูนความแข็งแกร่งทางกาย
“เคล็ดหายใจฟ้าคำราม ความพิเศษของมันอยู่ตรงไหน?” ฉู่เฟิงถาม
“ความรุนแรง!” หวงหนิวเขียนตอบ
ความรุนแรงทั้งหมดเกิดขึ้นในยามที่ใช้เคล็ดหายใจ เสียงฟ้าร้องที่เกิดขึ้นภายในร่าง ก่อให้เกิดการชำระล้างภายใน ช่วยให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
แต่มันย่อมมีข้อเสียอย่างแน่นอน ก็คือเมื่อความรุนแรงมากเกินไป จะทำให้ผู้ใช้าเ็สาหัส อย่างน้อยเมื่อเสียงฟ้าคำรามภายในร่างจะทำให้ชักอย่างรุนแรงจนสิ้นใจ
จากที่หวงหนิวบอก ถ้าหากฝึกเคล็ดหายใจแบบสุดยอด จะฝึกให้ร่างกายแข็งแกร่งทนทาน จากนั้นเมื่อฝึกเคล็ดหายใจฟ้าคำราม ก็จะช่วยป้องกันความรุนแรงนั้นได้
ฉู่เฟิงั์ตาเป็ประกาย เขาเข้าใจในที่สุดว่าทำไมหวงหนิวถึงให้ความสำคัญกับเคล็ดหายใจฟ้าคำรามนักหนา!
ว่าแล้วเขาก็ช่วยมันพลิกค้นคันศรั์นั่น!
จากคำบอกเล่าของหวงหนิว คันธนูแห่งเทพนั้นไม่ใช่เพราะถูกมานานปีด้วยผู้ที่สามารถใช้เคล็ดหายใจฟ้าคำรามได้ หากเพราะมันสะท้อนตามเคล็ดหายใจของผู้ จนซึมซับกลายเป็ชีพจรอันพิสดารเข้าสู่คันศร ดังนั้นธนูที่ถูกยิ่งออกไปจึงทรงพลังเหนือธรรมดา
เห็นได้ว่า เคล็ดหายใจฟ้าคำรามมีความรุนแรงถึงเพียงนี้ อาวุธกับผู้ในอดีตสะท้อนจังหวะการหายใจซึ่งกันและกัน จนกระทั่งการสั่นะเืซึมซาบลงสู่อาวุธจนกลายเป็ศาสตราวุธแห่งเทพ!
“ไม่ได้หลอมออกมาเป็อาวุธวิเศษแต่แรกหรอกเหรอ?” ฉู่เฟิงแปลกใจ
หวงหนิวถึงกับมองบน
ฉู่เฟิงยิ้มแหยแล้วขอความรู้ต่อ “เคล็ดหายใจทั้งหมดนี่ เป็การฝึกกำลังภายใน หรือไม่ก็เป็การฝึกพลังปราณใช่ไหม?”
หวงหนิวได้ยินก็เหยียดหยามทันควัน ี้เีตอบขึ้นมาทันที
ฉู่เฟิงหน้าม้าน เขารู้ว่าตัวเองมโนมากเกินไป เคล็ดการหายใจทั้งหมดนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับพลังภายในเลยสักนิด ที่เปลี่ยนไปคือร่างกายต่างหาก!