หัวหน้าหมู่บ้านได้ยินว่ามีคนมา ทั้งยังมาหาเจียงเหล่าต้า
ความคิดนับไม่ถ้วนหมุนวนในหัวเขา
เขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้า แต้มน้ำมันทาผมเพื่อจัดผมให้เรียบร้อยแล้วจึงวิ่งออกไป
“โอ้ นี่มันหยางเซียนเซิงไม่ใช่หรือ ขออภัยที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับ ขออภัยจริงๆ” สวีฝูเดินเข้าไปต้อนรับ เขาเคยเจอเ้าหน้าที่จัดการเอกสารหยางตอนไปหาลูกชาย
แต่เ้าหน้าที่เอกสารหยางกลับไม่รู้จักเขา ปกติคนที่พวกเขาติดต่อด้วยมีเพียงหัวหน้าตำบล ไม่ใช่หัวหน้าหมู่บ้าน
“เ้าเป็กระไรกับเจียงหงหย่วน?” ตอนเ้าหน้าที่เอกสารหยางถูกส่งลงมาทำงาน ท่านใต้เท้าจู่ปู้บอกเขาว่าเจียงหงหย่วนรูปร่างสูงใหญ่มาก ดังนั้นบุรุษชราที่เข้ามาคุยด้วยย่อมมีโอกาสเป็ญาติผู้ใหญ่ของเจียงหงหย่วน
“นี่คือหัวหน้าหมู่บ้านพวกเรา ลูกชายเขาเป็มือปราบอยู่ในอำเภอ นามว่าสวีเต๋อเซิ่ง!” เ้าหน้าที่เอกสารหยางเพิ่งเอ่ยปากถามก็มีชาวบ้านขานตอบ
“โอ้ ที่แท้ก็พ่อของสวีเต๋อเซิ่งนี่เอง” เ้าหน้าที่เอกสารหยางมองสวีฝูอย่างพินิจพิจารณา ใบหน้ามีรอยยิ้มสามส่วน ดูไม่ออกว่าใช่ความรู้สึกที่แท้จริงหรือไม่
นักการสองคนที่ตามเขามาหันไปสบตากันเช่นกัน แววตามีความเหยียดหยามและดูถูก แต่พวกสวีฝูกลับมองไม่ออก
สวีฝูลูบจอนผม พูดด้วยรอยยิ้มภูมิใจ “ข้าเป็หัวหน้าหมู่บ้านเค่าซาน นามว่าสวีฝู สวีเต๋อเซิ่งเป็ลูกชายข้าเอง ปกติได้รับความดูแลจากใต้เท้าทุกท่านไม่น้อย ทั้งสามท่านช่วยให้เกียรติมาทานข้าวที่บ้านข้าตอนเที่ยงได้หรือไม่? ข้าสั่งให้ภรรยาออกไปซื้อเนื้อกับเหล้าแล้ว!”
“แน่นอน แน่นอน!” เ้าหน้าที่เอกสารหยางประสานมือให้สวีฝู นักการสองคนนั้นประสานมือตาม ทั้งสามมุ่งหน้าสู่บ้านเจียงหงหย่วน
สวีฝูตามมาด้านข้าง ถามด้วยรอยยิ้มว่า “หยางเซียนเซิงมาทำสิ่งใดที่นี่หรือ เจียงหงหย่วนละเมิดกฎหมาย ประกอบอาชญากรรม พวกท่านเลยมาจับเขาใช่หรือไม่? หยางเซียนเซิง เจียงหงหย่วนผู้นี้เป็นายพราน มีเรี่ยวแรงมหาศาล เกรงว่าพวกท่านจะจับตัวไว้ไม่อยู่ แต่หยางเซียนเซิงโปรดวางใจเถิด ถึงพวกท่านจะมีกำลังคนไม่พอ แต่คนในหมู่บ้านยินดีให้พวกท่านเรียกใช้ขอรับ”
คราวนี้รอยยิ้มบนหน้าเ้าหน้าที่เอกสารหยางเพิ่มขึ้นเป็สิบส่วน
สวีฝูเห็นเขายิ้มเช่นนี้ย่อมได้ใจ มั่นใจแล้วว่าเจียงหงหย่วนต้องทำผิดกระไรเป็แน่
คนตระกูลหลินเดินตามอยู่ใกล้ๆ เช่นกัน เห็นท่าทางแล้วจิตใจเบิกบานมีความสุข
หลินซย่าจื้อรู้สึกว่าความแค้นในใจสลายหายไป ไอ้คนแซ่เจียง กล้าล่วงเกินข้าดีนัก คราวนี้ซวยแล้วล่ะสิ!
ข้ายังไม่ได้ลงมือด้วยซ้ำ!
ไม่ได้การล่ะ นางต้องรีบกลับไปวางแผน ได้ยินว่าเจียงหงหย่วนขายสัตว์ที่ล่ามาได้ ในบ้านต้องมีเงินเป็แน่ ต้องอาศัยเื่นี้มาหลอกหลินหวั่นชิวเอาเงินกลับคืนมา
หากเจียงหงหย่วนล้ม นังแพศยาหลินหวั่นชิวย่อมไม่มีใครให้พึ่งอีก ถูกนางขูดรีดตามใจชอบเช่นเมื่อก่อน!
“ข้าเห็นเจียงหงหย่วนออกจากหมู่บ้านไปั้แ่เช้า สามพี่น้องบ้านตระกูลเจียงไปกันหมด เกวียนของลุงทงเป่าไปส่ง”
“ไอ๊หยา คงไม่ได้หนีเพราะกลัวความผิดใช่หรือไม่!”
“ไม่แน่นะ พาน้องชายสองคนไปด้วย ได้พาภรรยาไปด้วยหรือไม่?”
“ไม่เห็นนะ ไม่ได้พาภรรยาไปด้วย”
“ไม่ใช่กระมัง เขาทะนุถนอมภรรยาตัวเองอย่างกับกระไรดี กล้าโยนคนลงบ่อมูลเพื่อนางด้วยซ้ำ!”
มีคนพูดประโยคนี้ ทุกคนมองไปทางหลินซย่าจื้อกับบรรดาสตรีที่ถูกเจียงหงหย่วนสั่งสอนด้วยสายตาเยาะเย้ย
ทำเอาพวกนางอับอาย
“จะผายลมกระไรนักหนา เจียงเหล่าต้าทำสิ่งใดให้? เขาล่วงเกินพวกเ้าหรือไร ยืนนินทาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ถ้าอยากลิ้มลองรสชาติบ่อมูลนักก็ะโลงไปเสียเอง ไม่ต้องรอให้เจียงเหล่าต้ากลับมาลงมือ!”ป้าสองจ้าวทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป ะโออกมาด่า
คนปากมากพวกนั้นเงียบปากทันที เจียงหงหย่วนน่ากลัวจริงๆ กลัวเขากลับมาแล้วจะมาเอาคืน
“คิดจะขู่ให้ผู้ใดกลัวกัน? เขาเป็คนกระทำผิด กล้าสมคบคิดกับโจรูเาเช่นนี้ อีกประเดี๋ยวต้องกินข้าวคุกแล้ว ท่านะโออกมาปกป้องเขาเช่นนี้ มีความสัมพันธ์ใดกับเขา หรือเป็พวกเดียวกัน?”
หลินซย่าจื้อด่า
ป้าสองจ้าวไม่ยอมแล้ว ะโเข้าไปกระชากตัวหลินซย่าจื้อ “ข้าจะฉีกปากเ้าเสีย วันนั้นคงยังกินมูลวัวไม่มากพอสินะ งั้นข้าจะหามาเพิ่มให้!”
เ้าหน้าที่เอกสารหยางคิดไม่ถึงว่าคำพูดไม่กี่ประโยคจะกลายเป็เช่นนี้
ดูถูกในใจว่าชาวบ้านพวกนี้หยาบคายไม่มีมารยาท พร้อมตำหนิว่า “หยุด! หัวหน้าหมู่บ้านสวี นี่น่ะหรือชาวบ้านในหมู่บ้านเค่าซานของท่าน? ช่างหยาบคายสิ้นดี ปกติท่านสอนกันอย่างไร!”
เ้าหน้าที่เอกสารหยางแสดงอำนาจขุนนางออกมา (แม้เ้าหน้าที่เอกสารจะไม่ใช่ขุนนาง แต่ในสายตาชาวบ้านธรรมดา คนที่มาจากที่ว่าการอำเภอล้วนเป็ขุนนางทั้งนั้น และยังน่ากลัวมากด้วย)
พวกหลินซย่าจื้อใจนตัวสั่น ป้าสองจ้าวปล่อยมืออย่างไม่วางใจ แต่นางข่วนหน้าหลินซย่าจื้อไปแล้ว รู้สึกพอใจอยู่บ้าง ไว้ประเดี๋ยวไปพูดให้หลินหวั่นชิวฟัง อีกฝ่ายจะได้รู้สึกดีกับตัวเอง
ไม่แน่ว่าจะให้เนื้อบ้านพวกนางกินอีก!
“เมื่อวานเจียงหงหย่วนไปซื้อที่ดินหกสิบไร่จากในอำเภอ วันนี้พวกข้าจึงมาวัด หากบ้านเขาไม่มีผู้ใดอยู่ พวกเ้าช่วยเป็พยานให้ย่อมได้เช่นกัน อย่างไรเสียก็ทำโฉนดที่ดินเสร็จแล้ว”
วันนี้แค่จะกำหนดอาณาเขตให้ชัดเจน ใต้เท้าจู่ปู้ยังบอกเขาด้วยว่าเป็ที่รกร้าง ให้เขาผ่อนมือเสียหน่อย
เขารู้สึกว่าหากเจียงหงหย่วนทำให้ท่านจู่ปู้พูดเช่นนี้ได้ เช่นนั้นก็ต้องมอบประโยชน์ให้ท่านจู่ปู้ไม่น้อยเป็แน่ พวกเขามาที่นี่ด้วยความดีอกดีใจ คิดว่าครั้งนี้ต้องได้ค่าน้ำชากลับไป
แต่หลังจากได้ยินว่าเจียงหงหย่วนพาพี่น้องออกไปั้แ่เช้าแล้วกลับรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
หากที่บ้านไร้ผู้คน พวกเขาจะได้ประโยชน์จากที่ใดกัน?
ไม่มีผลประโยชน์แล้วยังจะให้ผ่อนมืออีก?
ฝันไปเถิด!
ส่วนท่านจู่ปู้ แค่โกหกไปก็สิ้นเื่ ไม่มีทางมาตรวจสอบด้วยตัวเองอยู่แล้ว
คนในหมู่บ้านไม่รู้ว่าเ้าหน้าที่เอกสารหยางกำลังคิดสิ่งใด เพราะทุกคนกำลังใกับคำพูดเขากันอยู่
อย่างไรกัน?
นายพรานยาจกซื้อที่รกร้างไปหกสิบไร่?
เขาเอาเงินมากเช่นนั้นมาจากที่ใด?
หรือจะเป็โจรูเาจริงๆ?
ทุกคนพากันแสดงความเห็น
พวกเขามองข้ามคำว่า ‘ที่รกร้าง’ ไปโดยสิ้นเชิง มีคนอิจฉา ริษยา…พูดจาน่าเกลียดไม่น่าฟังมากขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะพวกหลินซย่าจื้อที่หน้าดำทะมึนกัน คำพูดคำจาสกปรกเหมือนแช่ในน้ำมูล
แต่ป้าสองจ้าวพูดเสียงสูงว่า “มี บ้านพวกเขามีคนอยู่ ภรรยาเขารออยู่ที่บ้าน มีคนไปบอกให้แล้ว”
สีหน้าพวกเ้าหน้าที่ดีขึ้นเมื่อได้ยินดังนี้ ในเมื่อที่บ้านมีคนอยู่และรู้จักมอบผลประโยชน์ให้ท่านจู่ปู้ เช่นนั้นคงจะฉลาด ต้องเตรียมผลประโยชน์ไว้ให้พวกเขาเป็แน่
คิดถึงตรงนี้ ทั้งสามคนก็เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
ป้าสองจ้าวคอยตามไปพูดอยู่ด้านข้าง “จะว่าไปแล้วเจียงหงหย่วนช่างมีความสามารถเสียจริง ขึ้นเขาแต่ละทีล่าได้ทั้งหมูป่าเอย กวางเอย สัตว์ตัวใหญ่ต่างๆ ทั้งสามท่านอาจไม่รู้ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเขาล่าเสือได้ด้วย!”
ขณะที่พูด นางไม่ลืมมองไปทางชาวบ้านที่ชอบพูดจาทางลบพวกนั้นไปด้วย เจตนาชัดเจนมาก นั่นคือบอกพวกเขาให้ชัดเจนว่าเจียงหงหย่วนเอาเงินมาจากที่ใด
