“ั้แ่ที่ท่านหายตัวไป ฮ่องเต้ก็สั่งให้เผยแพร่เื่การตายของท่าน ประชาชนที่เคารพรักท่านเริ่มอยู่กันอย่างหวาดกลัวเป็อย่างยิ่ง เขาจึงถือโอกาสนี้เรียกขวัญกำลังใจให้กับประชาชนและออกหน้าเอง”
“เมื่อเขาทำสำเร็จ ขุนนางที่เคยเป็กลางก็เห็นแก่ประชาชน จึงเริ่มพากันให้การสนับสนุนเขา”
“ต่อมามีขุนนางผู้หนึ่งที่ให้การสนับสนุนองค์ชายใหญ่จงใจใช้เื่ที่ท่านหายตัวไปมาเล่นงานเขา ทำให้เขาทำอันใดไม่ถูกต่อหน้าเหล่าขุนนาง ไม่นานขุนนางผู้นั้นก็ถูกฆ่าล้างโคตรทั้งตระกูล ไม่ว่าจะแก่หรือเด็กล้วนไม่มีผู้ใดเล็ดรอดไปได้”
“ผลการตรวจสอบจากสำนักราชทัณฑ์บอกว่าเขาถูกปล้นฆ่า แต่ทุกคนต่างทราบถึงเหตุผลที่แท้จริง ด้วยเหตุนี้เส้นสายขององค์ชายใหญ่ภายในราชสำนักจึงไม่กล้าต่อต้านหรือทักท้วงใดๆ”
“แม่ทัพต้านในเื่...หลังจากที่ท่านหายตัวไป ผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านก็พากันไม่สนใจเื่บ้านเมืองอีก หลายคนกลับไปใช้ชีวิตตามยถากรรม”
ต้วนจิงเย่พูดถึงสถานการณ์คร่าวๆ จ้าวต้านขมวดคิ้วและมีสีหน้าอึมครึม
“แม่ทัพต้าน ที่ข้ามาครานี้ก็เพื่อเป็เหมินเค่อให้ท่าน ข้าจะวางแผนและปกป้องพาท่านกลับไปถึงเมืองหลวง หากท่านไม่รีบกลับไป เกรงว่าคนขององค์ชายใหญ่จะต้องยอมสยบให้ฮ่องเต้แน่ขอรับ”
“ก่อนจะกลับเมืองหลวงคงต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย” จ้าวต้านกล่าวอย่างใจเย็น
“เพราะเหตุใดขอรับ?” ต้วนจิงเย่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“คนในเมืองหลวงล้วนเป็คนของฮ่องเต้ ข้าจำเป็ต้องติดต่อคนของข้าให้ได้ก่อน มิเช่นนั้นกลับไปก็ตายเปล่า”
“เช่นนั้นข้าจะอยู่ที่นี่กับท่านแม่ทัพและค่อยกลับไปพร้อมกัน”
“ได้ ท่านไม่มีทักษะการต่อสู้ ข้าจะคอยให้จ้าวซานประกบ ดูแลเื่ความความปลอดภัยของท่าน”
“ขอบคุณท่านแม่ทัพมากขอรับ”
“ต่อไปเรียกข้าว่าคุณชายจ้าวก็พอ”
“ขอรับ คุณชายจ้าว”
หลังจากที่ทำความเข้าใจกันสั้นๆ แล้ว จ้าวต้านยังมีเื่ที่ต้องทำอีก เขาจึงออกจากร้านเครื่องหอมไปทันทีหลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ขณะนั้นเวินซียังนึกถึงตำราหมื่นพิษ เมื่อทานเสร็จแล้วนางจึงไปนั่งใต้ต้นไม้ที่สวนหลังเรือน แล้วนั่งลงท่องตำราเงียบๆ
ต้วนจิงเย่หยิบหนังสือไปนั่งที่ทางเดินตรงข้ามนาง อ่านหนังสือเงียบๆ เงยหน้าขึ้นมองนางเป็ครั้งคราวด้วยสีหน้าอ่อนโยน
“คุณหนูเวินซี ข้าทำเสร็จแล้วเ้าค่ะ”
ทันใดนั้นเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันก็ทำลายความเงียบสงบของสวนหลังเรือนไป
ถันถั่นะโโลดเต้นมาหานาง มอบถุงหอมไว้ตรงหน้าราวถวายของล้ำค่า
เวินซีมองดูนางด้วยใบหน้าที่มีความสุข ริมฝีปากโค้งขึ้นพลันลูบศีรษะนางด้วยความเอ็นดู
“คุณหนูเวินซีชอบหรือไม่เ้าคะ?” ถันถั่นเอ่ยถามด้วยดวงตาที่เป็ประกาย
“สวยมาก ข้าชอบมาก ผูกให้ข้าสิ” เวินซีพูดด้วยรอยยิ้ม
“เ้าค่ะ” ถันถั่นยิ้มกว้างขึ้นอีก
นางรีบผูกถุงหอมให้เวินซีที่เอว และถอยออกไปมองดูถุงหอมที่อยู่บนร่างของเวินซี
“คุณหนูเวินซีงามมากเลยเ้าค่ะ”
“ถันถั่นก็งามเช่นกัน”
“คุณหนูเวินซี ข้าได้ให้ถุงหอมกับท่านแล้ว ข้าไม่รบกวนแล้วเ้าค่ะ ข้าขอตัวก่อน ยังต้องปักถุงหอมให้ท่านพี่อีกเ้าค่ะ” หลังจากที่พอใจแล้ว ถันถั่นก็เอ่ยลา
เวินซียิ้มให้นางด้วยความอ่อนโยน แล้วพยักหน้า “ไปเถิด”
“เ้าค่ะ” ถันถั่นอ้าแขนราวกับเด็กแล้วจากไปอย่างมีความสุข
เวินซีหยิบตำราหมื่นพิษขึ้นมาอีกครา ในตอนที่กำลังจะอ่าน ก็มีร่างหนึ่งเดินมาชนนาง นางเงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อเห็นว่าเป็ต้วนจิงเย่ก็รีบปิดตำราลงและลุกขึ้น
“คุณชายต้วน มีเื่อันใดหรือเ้าคะ?” เมื่อเผชิญหน้ากับบุรุษผู้สง่างามอย่างเขา น้ำเสียงของเวินซีก็อ่อนโยนขึ้นโดยพลัน
“ข้าเห็นว่าเด็กคนนั้นหน้าตาคุ้นๆ น่ะขอรับ จึงเดินมาดู มิได้เป็การรบกวนคุณหนูเวินซีใช่หรือไม่?”
“ไม่รบกวนเ้าค่ะ คุณชายต้วนเคยเจอถันถั่นจริงๆ หรือเ้าคะ?” มีความแปลกใจในสายตาของเวินซี
“ข้าน่าจะเคยได้เจอขอรับ”
“ที่ใดหรือเ้าคะ?”
“ที่เมืองหลวง นางเคยปรากฏตัวพร้อมกับหลานเยว่เฉิง”
หลานเยว่เฉิง...
เวินซีลดสายตาลงและมองดูพื้นด้วยสีหน้าครุ่นคิด
ถันถั่น... หลานเยว่เฉิง...
พวกเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์กันจริงๆ
หลานเยว่เฉิงตั้งใจส่งนางมา หรือว่าเป็เพียงเื่บังเอิญ?
เื่ที่ได้รับรู้อย่างกะทันหันทำให้เวินซีมีจิตใจว้าวุ่น นางมองดูถุงหอม ถอดมันออกมาลูบในมือ
แต่ความไร้เดียงสาของถันถั่นนั้นเสแสร้งออกมามิได้ นางไม่อยากจะสงสัยถันถั่นเช่นนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องระวังตัวไว้
“คุณหนูเวินซี ข้าก็แค่พูดไปน่ะขอรับ อย่าได้ใส่ใจเลยนะขอรับ ไม่แน่ว่าข้าอาจจะมองผิดไปเอง” เมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของนาง ต้วนจิงเย่ก็เอ่ยปากพูดปลอบ
“ทราบแล้วเ้าค่ะ คุณชายต้วน ข้ายังมีธุระ ข้าขอตัวก่อน”
เวินซีเหลือบมองไปหาเขาแล้วรีบเดินไปที่ห้องถันถั่น
ขณะนั้นประตูห้องของถันถั่นได้แง้มไว้ นางจงใจย่องเข้าไปใกล้
นางกวาดสายตามองในห้อง เห็นถันถั่นนั่งปักถุงหอมอีกใบอย่างจดจ่อ โดยเข็มทิ่มเข้ามือของนาง นางพลันขมวดคิ้ว อมนิ้วไว้ในปาก เมื่อความเจ็บลดลงจึงเริ่มปักต่อ
เวินซีไม่เห็นว่านางมีความผิดปกติใด จึงผลักประตูเข้าไป
“คุณหนูเวินซีมีอันใดหรือเ้าคะ?” เมื่อได้ยินความเคลื่อนไหว ถันถั่นก็มองไปที่เวินซี วางผ้าในมือลงและเดินไปหา
“ข้ามาถามเ้าเื่พี่ชาย หากรู้อันใดมากขึ้นเราจะได้หาเขาเจอได้ง่ายขึ้น” เวินซีพูดเปิดประเด็น สายตาของนางคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าของถันถั่น
“ท่านพี่หรือเ้าคะ? ได้สิเ้าคะ คุณหนูเวินซีนั่งก่อนเ้าค่ะ ท่านอยากรู้เื่ใดถามมาได้เลยเ้าค่ะ ข้าจะตอบทุกอย่าง” ถันถั่นชะงักไปในตอนแรก จากนั้นก็ตอบ
นางพยุงเวินซีไปนั่งที่โต๊ะ ส่วนตนเองก็นั่งลงตรงข้าม
“คุณหนูเวินซี ถามได้เลยเ้าค่ะ”
“ได้ ข้าถามเลยนะ ถันถั่น เ้าเป็คนจากที่ใด?”
“จากเมืองหลวงเ้าค่ะ” ถันถั่นตอบตามความจริง
“เ้ากับพี่ชายแยกกันั้แ่เมื่อใด?”
“พี่ชายของข้าถูกคนใหญ่คนโตผู้หนึ่งเรียกไปใช้งานเ้าค่ะ ต้องอยู่ข้างกายเขาตลอด เพราะว่าเขาผู้นั้นต้องออกจากเมืองหลวงไปบ่อยๆ ข้าจึงได้เจอท่านพี่น้อยนัก”
“คนใหญ่คนโต? ผู้ที่เ้าหมายถึงคือหลานเยว่เฉิงหรือ?” เวินซีคาดเดาได้อย่างคลุมเครือในเื่ตัวตนของถันถั่น
“คุณหนูเวินซีรู้จักคุณชายหลานด้วยหรือเ้าคะ?” ถันถั่นพูดด้วยความประหลาดใจ
เวินซีมองดูนางแล้วพยักหน้าเล็กน้อย นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปาก “ถันถั่น ข้าว่าข้าเคยได้เจอพี่ชายเ้าแล้วล่ะ”
“จริงหรือ? คุณหนูเวินซีเคยเจอเขาที่ใดเ้าคะ?” ถันถั่นลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้น
“เ้าก็เคยเจอเขาเช่นกัน”
“ข้า...เคยเจอเขาหรือเ้าคะ?” ถันถั่นสับสนมากขึ้นไปอีก
“เขาน่าจะเป็สืออี ถันถั่น ข้าจะพาเขามาให้พวกเ้าได้เจอกัน เราจะได้รู้ความ”
“สืออี...ทหารลับคนนั้นหรือเ้าคะ?” ถันถั่นมีความทรงจำเกี่ยวกับเขาหลงเหลืออยู่บ้าง
“เ้าบอกข้าได้หรือไม่ว่าเหตุใดถึงออกจากเมืองหลวงมา? เพราะจะมาหาพี่ชายหรือ? พี่ชายกับเ้ามิได้เจอกันมานานเท่าใดแล้ว?”
“เราไม่เจอกันสี่ปีแล้วเ้าค่ะ ข้าหนีออกมาเพราะคิดถึงท่านพี่ รวมถึงในตอนนั้นมีคนตั้งใจจะตามฆ่าข้า” ถันถั่นระงับอารมณ์ของตน แล้วพยายามตอบคำถามของเวินซี
เวินซีเอามือจับศีรษะ มองดูนางด้วยแววตาที่จริงจังมากขึ้น
“เมื่อเ้าปักถุงหอมเสร็จข้าจะพาเ้าไปเจอสืออี”
“เ้าค่ะ ขอบคุณคุณหนูเวินซี ขอบพระคุณเ้าค่ะ”
ถันถั่นไปหยิบผ้าแล้วเริ่มปักถุงหอมอีกครา นางดีใจจนมือสั่นไปหมด
เวินซีอยู่เป็เพื่อนนางในห้องอยู่สักพักก็ลุกขึ้นเดินออกมา
เมื่อกลับมาที่โถงหน้าก็เริ่มอ่านตำราอีกครา
ยามนี้สืออีได้หายตัวไป จึงทำได้เพียงรอให้เขากลับมาเอง ขอเพียงแค่เขายังรับใช้หลานเยว่เฉิง ย่อมได้เจอเขาในไม่ช้าก็เร็ว
......
ในตอนที่จ้าวต้านกลับเข้ามา ด้านนอกก็มืดสนิทแล้ว ข้างหลังเขามีทหารหลายคนที่แต่งตัวเป็คนรับใช้ เมื่อเวินซีเข้าไปใกล้ถึงได้รู้ว่าพวกเขาล้วนเป็ทหารลับที่นางเคยได้เห็นมาก่อน
ทหารลับรับคำสั่งมาแล้ว ทันทีที่พวกเขาเข้าประตูไปก็จะวิ่งไปที่สวนหลัง เพื่อพาคนในร้านเครื่องหอมออกมาอยู่ที่โถงหน้า
จ้าวต้านมองดูการเคลื่อนไหวของพวกเขาด้วยสีหน้าจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน