“เจี๋ยหลัว เ้าใจเย็นสักหน่อยเถอะ!!”
“ท่านาาปีศาจกำลังจะตาย เ้าจะให้ข้าใจเย็นได้อย่างไร!!”
บุรุษร่างสูงใหญ่กำยำขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำเต็มไปด้วยเส้นเื เขาชูขวานเล่มใหญ่หมายจะพุ่งตัวออกไปข้างนอก แต่กลับถูกบุรุษเผ่าอาร์โกเนียนสวมแว่นตาข้างเดียวขวางเอาไว้ รูปร่างของชาวอาร์โกเนียนผู้นี้ไม่นับว่าเตี้ย ทว่าเมื่อเทียบกับบุรุษร่างสูงใหญ่กำยำกลับตัวเล็กกว่าหนึ่ง่ศีรษะ มือทั้งสองข้างกางขวางอยู่หน้าประตู จ้องมองบุรุษร่างสูงใหญ่กำยำตรงหน้าด้วยสายตาดุดัน
“เพราะเหตุใดกันซีนั่ว…ข้าเพียงอยากไปช่วยท่านาาปีศาจเท่านั้น…”
หนึ่งหมัดหนักต่อยลงบนกำแพงอย่างรุนแรง ข้อศอกของบุรุษร่างกำยำค้ำยันกำแพงไว้ มิคาดบริเวณหางตากลับปรากฏประกายหยาดน้ำตา
“…เ้าก็รู้ คำสั่งสุดท้ายของท่านาาปีศาจคือการให้พวกเรารักษากองกำลังเอาไว้และมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ดี”
ชาวอาร์โกเนียนถอนหายใจ ดวงตาพยายามกดข่มความเ็ปและเศร้าโศก ทว่าน้ำเสียงกลับเด็ดเดี่ยวและหนักแน่นดังเดิม
“ในฐานะที่ข้าคือผู้บัญชาการกองทัพที่สอง มีอำนาจจะขัดขวางมิให้เ้าฝ่าฝืนคำสั่งของท่านาาปีศาจ”
บนอกของบุรุษร่างสูงใหญ่กำยำถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลสีขาว เพราะการกระทำภายใต้อารมณ์รุนแรงทำให้ปากแผลฉีกอีกครั้ง เืสีแดงสดไหลหยดออกมาจากรอยาแ มัดกล้ามบนแผงอกยังคงสั่นกระตุก เพียงมองดูก็ััได้ถึงความเ็ปรุนแรง บุรุษร่างสูงใหญ่กำยำมิได้พันแผลใหม่ในทันที กลับซบหน้าผากลงบนไหล่เล็ก สะอื้นไห้มิต่างกับเด็กน้อยที่ไม่ได้รับความเป็ธรรม
ชาวอาร์โกเนียนฝืนส่งยิ้มออกมาก่อนตบบ่าของบุรุษร่างสูงใหญ่เบาๆ
“อามู่ยอมแลกชีวิตเพื่อช่วยชีวิตเ้ากลับมา ถือเสียว่าทำเพื่อเขา เ้าจะบุ่มบ่ามไปตายอีกมิได้แล้ว…”
“ปัง!!”
หมัดหนักชกลงบนกำแพงดินอีกครั้ง ดินเหนียวผสมแผ่นไม้ไผ่ล่อนหลุด ภายในดวงตาของเจี๋ยหลัวคล้ายมีเปลวเพลิงลุกโชน เส้นเืฝอยคดเคี้ยวเต็มไปเด้วยความโกรธเกลียดเคียดแค้น
“ท่านาาปีศาจปฏิบัติต่อปู้ไหลเต๋อด้วยความจริงใจ กระทั่งตำแหน่งทางการทหารยังให้เขาอยู่เหนือคนนับหมื่น เป็รองเพียงคนผู้เดียว มินึกว่าเขาจะกล้าหักหลังท่านาาปีศาจ…”
ซีนั่วผู้เป็ชาวอาร์โกเนียนมิเอ่ยสิ่งใด เขากลับไปนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางเหนื่อยล้า
ในฐานะเสนาธิการของท่านาาปีศาจ ตนเคยคิดสงสัยว่าในกองทัพจะต้องมีหนอนบ่อนไส้ ทว่ากลับมิเคยคิดว่าคนผู้นั้นจะเป็ผู้บัญชาการกองทัพที่หนึ่งอย่างปู้ไหลเต๋อ ปู้ไหลเต๋อกับท่านาาปีศาจสนิทสนมไร้ช่องว่างต่อกันมาแต่ไหนแต่ไร ถึงขั้นที่าาปีศาจยังถ่ายทอดเคล็ดลับวิชาศิลปะการต่อสู้ให้กับปู้ไหลเต๋อ ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ตนยังยอมรับในใจว่าหัวหน้าทั้งสองเป็คู่รักที่รักมั่นต่อกัน
ทว่าท่ามกลางสนามรบครั้งสุดท้าย หากมิใช่เพราะเจี๋ยหลัวกับอามู่ฝ่าเส้นทางสายเืเข้าไป เห็นเองกับตาว่าปู้ไหลเต๋อเป็ผู้ลงมือใช้มีดแทงหน้าอกของท่านาาปีศาจด้วยตนเอง ตนคงมิมีทางเชื่อแน่ว่าปู้ไหลเต๋อที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากท่านาาปีศาจจะเป็ผู้ทรยศ
*****ความทรงจำ*****
“ปู้ไหลเต๋อ เ้าชั่ว เ้าทำอันใดท่านาาปีศาจ!!”
ภายใต้ความรู้สึกใระคนโกรธเคือง เจี๋ยหลัวผู้เป็ชายร่างใหญ่สะบัดอัศวินมิกี่คนออก ควงขวานรบสังหารศัตรูเพื่อฝ่าไปข้างหน้า ทว่าปู้ไหลเต๋อที่ใบหน้านิ่งขรึมกลับมิเอ่ยสิ่งใด ท่าทีคล้าย้าแสดงให้เห็นถึงชัยชนะ เขาดึงกริชคมออกดัง ‘ฉึก’ ต่อหน้าต่อตาเจี๋ยหลัว
“….อึกอ๊ากกก!…ปู้ไหล…เต๋อ”
าาปีศาจกัดฟันแน่นส่งเสียงร้องด้วยความเ็ป บนหน้าผากมีเหงื่อเม็ดใหญ่ซึมออกมา าแบริเวณซี่โครงซ้ายของาาปีศาจทะลุเข้าไปในทรวงอก เสี้ยวนาทีที่ดึงกริชออก เืสีแดงสดพลันพุ่งทะลักมิต่างกับน้ำพุ สาดกระเซ็นใส่ใบหน้าอันไร้ซึ่งความรู้สึกของปู้ไหลเต๋อ
ขวานในมือเจี๋ยหลัวฟันลงทันใด สร้างรอยแผลใหญ่ไว้บนต้นขาของผู้ร้ายที่อยู่ตรงหน้า ปู้ไหลเต๋อที่ได้รับความเ็ปล้มตัวลงไปด้านข้าง เจี๋ยหลัวอ้าปากค้างพลางเบิกตามองาาปีศาจที่เืไหลทะลัก บุรุษร่างใหญ่ที่เคยผ่านมากว่าร้อยสนามรบถึงกับมือเย็นเฉียบฉับพลัน เข้าสู่สภาพเลื่อนลอย กระทั่งปู้ไหลเต๋อผู้าเ็ที่ขาค่อยๆ ลอบหนีไปก็ยังมิอาจรับรู้
ในความทรงจำของตน นี่เป็เพียงครั้งที่สองที่ท่านาาปีศาจผู้องอาจตนนี้ได้รับาเ็ แม้นี่จะเป็เพียงการาเ็ครั้งที่สอง กลับนึกมิถึงว่าจะน่าหวาดกลัวจนอาจถึงขั้นเป็อันตรายถึงแก่ชีวิต…
“เจี๋ยหลัว? เจี๋ยหลัว!! เ้ามัวทำอันใดอยู่! พวกอัศวินไล่ตามมาแล้ว!!”
อามู่ที่อยู่ด้านข้างร้อนใจจนดวงตาแดงก่ำ เขาส่งเสียงร้องไปทางชายร่างใหญ่จนสุดเสียง เจี๋ยหลัวคุกเข่าลงกับพื้นอย่างมิรู้จะทำเช่นไร ยามนี้ชายร่างใหญ่ที่มิถนัดใช้ความคิดเป็ทุนเดิมมือเท้าลุกลน หากมิห้ามเืให้ทันเวลา ท่านาาปีศาจจะต้องตายภายในไม่ช้าแน่ ทว่าเสียงฝีเท้าของเหล่าอัศวินดังใกล้เข้ามาแล้ว ผู้ที่มือเท้าโง่เขลาเช่นตนมิอาจห้ามเืและปกป้องร่างกายของาาปีศาจไปพร้อมๆ กันได้
“อามู่ เ้ามาช่วยห้ามเืให้ท่านาาปีศาจ ข้าจะช่วยไปขวางอัศวินเ่าั้เอาไว้!!”
“ได้ ข้าจะ…ระวังข้างหลัง! เจี๋ยหลัวระวังหลัง!!”
“…? อึก…!”
หอกซัดสีเงินด้ามหนึ่งกรีดผ่านอากาศ พุ่งแทงลงบนสีข้างของชายร่างใหญ่อย่างแรง ความเ็ปทำให้เจี๋ยหลัวที่กำลังกัดฟันถึงกับสูดอากาศเย็น มือใหญ่เปี่ยมพลังคว้าด้ามหอกเอาไว้ ร้องคำรามด้วยความเดือดดาล ก่อนจะดึงหอกออกจากร่างของตน
“…แค่กๆ…อึก อ๊ากกก!”
“…เจี๋ยหลัว…ไม่ มิต้อง…สนใจข้า…”
เมื่อเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาทำร้ายตนเองอย่างน่าเวทนาอยู่ตรงหน้า าาปีศาจผู้อ่อนแอจนลมหายใจรวยรินยกมือสั่นเทาขึ้นคว้าข้อมือของเจี๋ยหลัวเอาไว้อย่างอ่อนแรง
“ท่านาาปีศาจ จวนจะถึงหมู่บ้านขี้เถ้าแล้วขอรับ พวกเราจะคิดหาวิธีฝ่าวงล้อมออกไป!”
เจี๋ยหลัวเหลือบมองอามู่ที่หอบหายใจอยู่ด้านข้าง ตามด้วยเหลือบมองไปทางทัพทหารม้าของกองอัศวินที่อยู่มิไกล ถึงแม้ในใจรู้ว่าโอกาสสำเร็จที่จะฝ่าออกไปด้วยกันมีน้อยนิด ทว่าตนก็มิอาจทิ้งาาปีศาจไว้เพียงลำพัง
“…ผู้ที่..พระวิหาร…้าคือ…ข้า…พวกเ้า…รีบหนีไป…”
น้ำเสียงโรยแรงของาาปีศาจเผยให้เห็นถึงความจริงใจไร้ซึ่งสิ่งใดเปรียบ ดวงตาที่วิสัยทัศน์เริ่มพร่าเลือนเปี่ยมด้วยจิติญญาอันแรงกล้า
“ไม่! ข้าทำมิได้!!”
บุรุษร่างใหญ่แทบตะเบ็งเสียงร้อง น้ำตาเอ่อคลอรอบดวงตา
“…พวกเ้า…พาข้าไปด้วย…มีแต่จะตายกันหมด…กำลังเสริม…ของกองอัศวินแห่งพระวิหาร…มาถึงแล้ว…”
ลมหายใจของาาปีศาจติดขัดยิ่งกว่าเดิม ดวงตาของเจี๋ยหลัวเบิกโพลงทันใด มือทั้งสองข้างกำแน่นด้วยความปวดร้าว
“…นี่คือ…คำสั่ง…แค่กๆๆ…พวกเ้าต้อง…รักษากองกำลังเอาไว้…ใช้ชีวิตต่อไป…ให้ดี…”
“ผลัวะ!!”
“……อึก!!”
อัศวินที่คุกเข่าอยู่แนวหน้าสุดแกว่งโล่หนักฟาดร่างผอมบางของอามู่จนล้มลงกับพื้น ภูตแห่งความมืดส่งเสียงร้องในลำคอ กลิ้งออกไปหลายตลบก่อนจะยันตัวขึ้นมาอีกครั้ง ใช้สนับข้อมือชำรุดทำจากหนังเช็ดเืสีสดตรงมุมปาก เห็นได้ชัดว่าร่างกายมิอาจหยัดยืนได้อย่างมั่นคงเสียแล้ว
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์โดยรวมถูกกำหนดแล้ว เหล่าอัศวินที่ไล่ตามมาทีหลังต่างพากันเผยรอยยิ้มราวกับชัยชนะอยู่ใกล้แค่เอื้อมออกมา หอกเงินอันแหลมคนนับสิบพุ่งตรงมาทางาาปีศาจ อามู่ฝืนตัวขวางเอาไว้ส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกไม่กี่ด้ามแทงลงบนแผ่นหลังไร้เกราะป้องกันของชายร่างใหญ่จนเืสาดกระเซ็น
จบสิ้นแล้วหรือ…
ในใจของอามู่กับเจี๋ยหลัวบังเกิดความสิ้นหวังขึ้นพร้อมกัน
ทันใดนั้นธาตุมืดบนอากาศก็เริ่มเคลื่อนไหวและมารวมตัวกันอย่างช้าๆ ผู้นำของอัศวินแห่งพระวิหารตื่นตระหนก พลันรับรู้ได้ว่ากำลังเสริมของเผ่าปีศาจกำลังจะมาถึงในมิช้า จึงรีบออกคำสั่งให้เหล่าอัศวินจับตัวาาปีศาจทันที
ธาตุมืดหนาแน่นรวมตัวกันจนเกิดเป็ลมพายุขนาดใหญ่หมุนอยู่กลางอากาศ เศษฝุ่นเศษดินลอยสูงขึ้นภายในเวลาเพียงชั่วอึดใจ กั้นทั้งสองฝ่ายที่กำลังต่อสู้ออกจากกัน เหล่าอัศวินแห่งพระวิหารต่างพากันดึงอาวุธออกมาเพื่อเตรียมตั้งรับ
ซีนั่วแห่งเผ่าอาร์โกเนียนย่ำสายลมลงสู่พื้น ถึงแม้จะมีอาการหอบหายใจเพราะเหนื่อยเหลือทน กระนั้นใบหน้ากลับยังคงฉายแววยินดีเมื่อเห็นว่าตนยังมาทัน
ทว่าทันทีที่สายตาของซีนั่วสังเกตเห็นาาปีศาจนอนจมกองเื ั์ตาพลันเล็กหรี่ลงทันใด