เทียนพี่หยุดหัวเราะ แต่ยังอดยิ้มกว้างไม่ได้ยามเห็นฮวาชีเยว่จ้องมองเขา “ทำไม ข้าหล่อเหลาเสียจนเ้าลืมหายใจเลยใช่หรือไม่?”
“ลืมหายใจหรือ?”
ฮวาชีเยว่หัวเราะเบา “อาจารย์ ท่านมีหางหรือไม่เ้าคะ?”
“ทำไมกัน?”
“เพราะท่านเหมือนดังคำพังเพย ‘ยกหางตัวเอง’[1] เลยเ้าค่ะ!” ฮวาชีเยว่ตอบโต้ ทำให้เทียนพี่เดือดขึ้นมา
“เ้าเด็กร้ายกาจ…”
“ท่านเลือกจะตีข้าหรือฆ่าข้าดีเ้าคะ ข้าไม่ว่าหรอกเ้าค่ะ” ฮวาชีเยว่นั่งลงอีกครั้งด้วยท่าทีไม่หวั่นเกรง เริ่มฝึกโคจรลมปราณได้แล้ว
เทียนพี่ได้แต่พูดไม่ออก
เมื่อดวงจันทร์ลอยกลางฟ้า ฮวาชีเยว่ก็ออกจากน้ำเต้าหยก นางจึงได้ใเมื่อเห็นเทียนซีนั่งเงียบๆ อยู่ข้างเตียง จ้องมองนาง
ฮวาชีเยว่ใ รีบลุกขึ้นทันที “เทียนซี เ้ามาทำอะไรที่นี่?”
ลู่ซินเอ่ยอย่างกระอักกระอ่วน “คุณหนู นายน้อยไม่ยอมไปกับพวกบ่าวเ้าค่ะ บ่าว้าพาท่านไปห้องข้างแต่ท่านยังจับแขนเสื้อท่านแน่นไม่ยอมไปไหน”
ดวงใจฮวาชีเยว่บีบรัดอีกครั้ง เด็กคนนี้ผ่านเื่ราวมามากจนไม่กล้าละทิ้งคนที่ใจดีกับตน เขาคงกลัวว่าหากไม่มีนางแล้วจะเป็อันตรายอีกครั้ง
เขามองนางด้วยสายตาอ้อนวอน คิดว่าฮวาชีเยว่อยากส่งเขาออกไป
ฮวาชีเยว่รู้สึกคล้ายน้ำตาจะเอ่อคลออีกครั้ง นางกอดเทียนซีอย่างอ่อนโยน “ลู่ซิน คืนนี้เ้ากับคนอื่นๆ ไปพักเถอะ คืนนี้ข้าจะนอนกับเทียนซี อ้อ ใช่ พรุ่งนี้สั่งช่างไม้ให้ทำเตียงนอนอีกหลังหนึ่งด้วย”
โหย่วชุ่ยรีบโบกไม้โบกมือกล่าว “คุณหนู เช่นนี้ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งนะเ้าคะ...ท่านยังไม่ได้แต่งงาน…”
สีหน้าฮวาชีเยว่ครึ้มลง โหย่วชุ่ยเกรงว่าชื่อเสียงนางจะย่ำแย่หากมีเื่นี้ลือออกไป ยามนี้นางเกิดใหม่แล้ว ย่อมไม่ใส่ใจชื่อเสียงอีกต่อไป ชื่อเสียงมีไว้เพื่ออะไรเล่า? ทานได้หรือไม่? ช่วยชีวิตนางได้หรือไม่?
เทียนซีเพิ่งจะหกขวบปี เด็กคนหนึ่งจะรู้เื่อะไรไม่เหมาะสมกัน?
ยิ่งกว่านั้นเขายังได้รับาแทางใจเสียจนไม่อาจนอนเพียงลำพัง นางยังต้องดูแลจนกว่าจะดีขึ้น
“ไม่จำเป็ต้องเกลี้ยกล่อมข้าอีก เทียนซีเป็บุตรบุญธรรมของข้า จะเป็ลูกชายข้าไปชั่วชีวิต...เหตุใดข้าจึงต้องให้ลูกชายข้าอยู่อย่างหวาดกลัวด้วย?”
โหย่วชุ่ยและลู่ซินเห็นนางตั้งมั่นแล้วก็ได้แต่ออกจากห้องไปอย่างไร้ทางเลือก
“เทียนซีไม่ต้องกังวล แม่จะดูแล้วเ้าให้ดี ไปกันเถอะ แม่จะพาเ้าเข้าห้อง” ฮวาชีเยว่จุมพิตหน้าผากเขาอย่างอ่อนโยน เทียนซีเหม่อลอย การกระทำเช่นนี้เขาคุ้นเคยยิ่ง เป็สิ่งที่มารดาเขามักทำอยู่เสมอ…
ทว่าบิดาเขาบอกว่ามารดาถูกโจรสังหารไปแล้ว เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดบิดาไม่เคยฝังศพมารดา ทุกครั้งที่เขาถามถึง บิดาก็จะทุบตีเขาอย่างรุนแรง…
เทียนซีตัวสั่นเมื่อคิดถึงโจวจื่อเฉิง ดวงตากลมโตใสกระจ่างเปี่ยมด้วยความหวาดกลัว
“เทียนซีอย่ากลัวเลย แม่จะอยู่ข้างเ้าเสมอ ไม่ยอมให้เ้าพบอันตรายใดอีกแล้ว”
ฮวาชีเยว่จับมือเขาไว้ในมืออุ่นนุ่มของตน นางนำเขาเข้าห้อง อุ้มเขาขึ้นเตียงแล้วปลดม่านลง ภายนอกห้อง ดวงจันทร์ส่องกระจ่างบนฟากฟ้าเอื่อยเฉื่อย
เทียนซีเอาหน้ามุดแขนนางแล้วจึงผล็อยหลับไป
เขาเหนื่อยมากเกินไป
ฮวาชีเยว่มิคาดว่าเทียนซีจะรอคอยนางกระทั่งดึกดื่น นางรู้สึกผิดเหลือเกินที่ปล่อยให้เขารอถึงสองชั่วยาม
นางปิดตาลง เข้าไปในน้ำเต้าหยกอีกครั้ง นางวางสมุนไพรหายากลง จากนั้น ขณะที่เทียนพี่เฝ้ามอง นางก็เริ่มฝึกตนอีกครั้ง
เช้าวันต่อมา ฮวาชีเยว่ค้นความทรงจำตนเองและนึกถึงหมอชื่อดังแห่งเมืองหลวงนามหนานอ๋องขึ้นมา แต่เดิมเขาชื่ออวิ๋นสือโม่มาจากอาณาจักรฉางจิง เติบโตจากครอบครัวยากจน ในครอบครัวมีเพียงมารดา เขาเรียนรู้ด้วยตนเองจนมิได้เป็เพียงนักหลอมยาแต่ยังเป็แพทย์ที่โดดเด่น
ไม่ว่าจะอาการย่ำแย่เพียงใดเขาล้วนแต่สามารถรักษา ทำให้ผู้ป่วยกลับมาแข็งแรงดีได้
ปัญหาก็คือ ท่านหมอชื่อดังผู้นี้มีอัตลักษณ์ของตนเอง อัตลักษณ์ของเขาคือไม่ว่าผู้ใดที่้าเข้าหาและให้เขารักษาจำต้องเขียนกวีบทหนึ่ง เขายอมรับเพียงผู้ป่วยที่เขียนกวีได้พอใจเขาเท่านั้น
เมื่อเทียนพี่ไม่อาจรักษาเทียนซี หนานอ๋องก็เป็ความหวังเดียวของนางแล้ว นาง้าพาเทียนซีไปที่จวนหนานอ๋องั้แ่พรุ่งนี้เช้า
“คุณหนู ท่านจะเรียกหาหนานอ๋องจริงหรือเ้าคะ?” ลู่ซินตกตะลึงเมื่อได้ยินว่าฮวาชีเยว่จะพาเทียนซีเข้าพบหนานอ๋อง เหตุใดคุณหนูของนางจึงกล้าหาญขึ้นมาเล่า? ก่อนหน้านี้นางยังเคยขี้ขลาดเสียจนไม่กล้ากระทั่งสบตาคนในครอบครัว
ฮวาชีเยว่ยิ้มตอบ “ลู่ซิน ข้าต้องรักษาเทียนซีให้ได้”
ลู่ซินไม่อาจเอ่ยตอบอะไรได้อีก เพียงแต่เงียบเท่านั้น
โหย่วชุ่ยเตรียมรถม้า และฮวาชีเยว่อุ้มเทียนซีขึ้นรถม้า ระหว่างทางนางได้ยินผู้คนพูดกันด้วยเื่เดิมๆ
“ได้ยินว่าองค์หญิงฮุ่ยเจินไปไหนมาไหนกับโจวจื่อเฉิง ชิ ไม่น่าเชื่อว่าองค์หญิงผู้หยิ่งยโสเช่นนั้นจะตกหลุมรักคนเช่นเขา”
“จริงแท้ สกุลโจวเป็เพียงชาวบ้านเท่านั้น ชิ องค์หญิงตกหลุมรักเขานับว่าปาฏิหาริย์โดยแท้”
---------------
[1] เล่นคำมาจากต้นฉบับ ซึ่งในต้นฉบับนางเอกเล่นกับสำนวนว่า "หวงผ่อขายเมล็ดแตง" ซึ่งตรงกับสำนวนยกหางตัวเอง หมายถึงคนหลงตัวเอง พูดจาโอ้อวดชมตัวเองในภาษาไทย