เฟิ่งเฉี่ยนโมโหจนต้องหัวเราะออกมา นางไม่รู้เลยว่าความมีตัวตนของนางขัดหูขัดตาพวกเขาเพียงนี้
ท่านหญิงชิงเสียขมวดคิ้ว ราวกับคิดจะพูดอะไร มีศิษย์คนหนึ่งวิ่งเข้ามาจากด้านนอกในตอนนี้ “รองอาจารย์ใหญ่ แย่แล้วขอรับ! เกิดเื่กับสาขาเทพอาหาร! อาจารย์ใหญ่เชิญท่านไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ขอรับ!”
รองอาจารย์ใหญ่ประหลาดใจเล็กน้อย เขาใคร่ครวญแล้วกล่าวว่า “เช่นนี้เถิด ในเมื่อทุกคนต่างมีความเห็นแตกต่างต่อผลการสอบครั้งนี้ ไม่สู้นำเื่นี้ไปรายงานกับอาจารย์ใหญ่ ให้เขาเป็คนตัดสิน!”
คนทั้งหมดเ้ามองข้า ข้ามองเ้า สุดท้ายจึงพยักหน้าพร้อมๆ กัน เห็นด้วยกับความเห็นของเขา
“พวกเ้าทุกคนตามข้ามาเถิด” รองอาจารย์ใหญ่เดินนำพวกเขาทั้งหมดไปยังสาขาเทพอาหาร
หลังจากคนทั้งหมดออกไป หลันเยว่หรูปรบมือดีใจ “ข้ารู้อยู่แล้ว ท่านาุโฉินไม่มีทางนั่งดูอยู่เฉยๆ แน่! ไป พวกเราไปดูกัน!”
พูดแล้ว หลันเยว่หรูและฉินมู่ชวนก็ตามไปที่สาขาเทพอาหาร
สาขาหลักของสำนักศึกษาเทียนหงคือสาขาเทพยุทธ์ นอกจากนั้นยังได้แบ่งเป็สาขาวิชาอื่นๆ อีก อย่างเช่น สาขาวิชาแพทย์ สาขาวิชาปรุงโอสถ สาขาวิชาฝึกสัตว์ และสาขาวิชาเทพอาหารเป็ต้น...และในบรรดาสาขาต่างๆ ที่กล่าวมา สาขาเทพอาหารเป็สาขาที่อ่อนแอที่สุดของสำนักศึกษา และเป็สาขาที่ไม่น่าสนใจที่สุดเช่นกัน นับั้แ่ก่อตั้งสาขามาจนถึงตอนนี้เป็เวลาไม่เกินสามปี ระหว่างนั้นประสบปัญหาการถูกถอดถอนมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่มีอย่างอื่น สาเหตุมาจากบุคลากรในสาขามีน้อยเกินไป เฟ้นหาศิษย์ที่มีพร์และอาจารย์ที่โดดเด่นออกมาไม่ได้ ผนวกกับกฎเกณฑ์ของสมาคมเทพอาหารในเมืองตี้ตูที่เผด็จการเกินไป ขอเพียงมีกลุ่มและคนที่เกี่ยวข้องกับการทำอาหารเกิดขึ้น พวกเขาก็จะยื่นมือเข้ามาแทรกเพื่อจัดการควบคุม ทันทีที่มีคนไม่พอใจต่อต้านกับการจัดการ สมาคมก็จะเลือกใช้วิธีการต่างๆ นานามากดดันและสร้างความลำบากใจให้!
อย่างเช่นครั้งนี้ เพราะปีนี้สำนักศึกษาเทียนหงไม่อาจส่ง “ของบรรณาการ” ที่ถูกต้องตามเงื่อนไข พวกเขาก็เลยส่งคนมาเพื่อหาข้ออ้างในการยกเลิกสาขาเทพอาหารทันที!
ที่อาจารย์ใหญ่ให้รองอาจารย์ใหญ่รีบไปที่นั่นก็เพราะเื่นี้!
แน่นอนว่าเื่นี้เฟิ่งเฉี่ยนได้รวบรวมจากการเข้ามารายงานของศิษย์และสอบถามจากท่านหญิงชิงเสียจึงรู้ความเป็มา แค่สมาคมเทพอาหารเล็กๆ สมาคมหนึ่ง ถึงกับเลียนแบบฮ่องเต้ เรียกร้องเครื่องบรรณาการจากผู้อื่น ทั้งยังกำหนดคุณลักษณะของวัตถุดิบเทพชั้นเยี่ยม ช่างเป็การกระทำที่อวดดีเหลือเกิน!
“ไม่มีคนมาควบคุมพวกเขาหรือ?” เฟิ่งเฉี่ยนพูดด้วยโทสะ
ท่านหญิงชิงเสียส่ายหน้า “สมาคมเทพอาหารเป็สมาคมที่มีความพิเศษเฉพาะของมันเอง อาชีพเทพอาหารเป็อาชีพที่ได้รับความนับถือจากผู้คน กระทั่งฮ่องเต้ของซิงอวิ๋นตี้กั๋วก็ยังต้องรั้งให้พวกเขาสามส่วน”
“มิน่าจึงได้อวดดีเช่นนี้!” เฟิ่งเฉี่ยนบังเกิดความรู้สึกต่อต้านสมาคมเทพอาหารอย่างหาสาเหตุไม่ได้
ระหว่างที่สนทนากัน คนทั้งหมดมาถึงสวนเจินซิวซึ่งเป็ที่ตั้งของสาขาเทพอาหาร ทันทีที่ก้าวเข้ามาในสวน สิ่งที่เข้ามาในคลองจักษุก็คือแปลงปลูกวัตถุดิบเทพนานาชนิด มีลักษณะคล้ายคลึงกับแปลงวัตถุดิบที่นางเคยเห็นในจวนหานไท่ฟู่ แต่ก็มีส่วนที่แตกต่างกันออกไป วัตถุดิบเทพของที่นี่มีมากมายหลากหลายชนิดกว่า และมีขนาดใหญ่กว่า ทว่าคุณภาพของวัตถุดิบที่ปลูกออกมากลับมีคุณภาพสู้วัตถุดิบเทพที่หานไท่ฟู่ปลูกไม่ได้
เฟิ่งเฉี่ยนเดินชมมาตลอดทาง นางติดตามรองอาจารย์ใหญ่เดินผ่านแปลงวัตถุดิบเทพกระทั่งมาถึงเรือนหลังใหญ่หลังหนึ่ง
ภายในเรือนมีคนรออยู่แล้วไม่น้อย บรรยากาศดูประหลาดอยู่บ้าง แต่ละคนล้วนมีสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อเห็นพวกเขามาถึง ศิษย์และอาจารย์ของสำนักศึกษาเทียนหงต่างลุกขึ้นแสดงการคารวะ “รองอาจารย์ใหญ่ ท่านาุโทุกท่าน!”
รองอาจารย์ใหญ่หันไปพยักหน้าให้กับทุกคนอย่างสุภาพ กระทั่งเดินเข้าไปหยุดอยู่เบื้องหน้าผู้าุโผมและหนวดเคราสีขาวบริเวณหน้าอกของเขามีสัญลักษณ์ดอกเหมยสีทองห้ากลีบ จากนั้นประสานมือคารวะอย่างให้เกียรติ “อาจารย์ใหญ่ เกิดเื่อันใดขึ้น?”
เฟิ่งเฉี่ยนพิจารณาท่านาุโท่านนั้น ที่แท้เขาคืออาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาเทียนหง!
เขาไม่ได้มีหน้าตาเมตตาเช่นรองอาจารย์ใหญ่ และไม่ได้มีสีหน้าเ็าเช่นท่านาุโฉิน สีหน้าท่าทางของเขาเรียบเรื่อย ดูน่าเกรงขาม กลิ่นอายรอบกายของเขาคือความสุขุมมั่นคง ทันทีที่เห็นก็รู้ว่าเป็ยอดฝีมือ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ รอบกายของเขาเปล่งประกายความเสมอภาค ให้ความรู้สึกนับถือเลื่อมใสแก่ผู้คน ทำให้คนรู้สึกเชื่อและศรัทธาในตัวเขา เขามิได้ใช้อำนาจของเขากดขี่ผู้อื่น แต่ทำให้ผู้อื่นเชื่อด้วยบุคลิก ทำให้ผู้อื่นเกรงกลัวด้วยท่าที เห็นได้ว่าเป็คนที่มีโลกทัศน์กว้างไกลเพียงใด!
อาจารย์ใหญ่พูดเนิบๆ ว่า “ท่านาุโถง ท่านเป็ผู้ดูแลสาขาเทพอาหารมาโดยตลอด ตอนนี้มีตัวแทนมาจากสมาคมเทพอาหาร บอกว่าจะถอดถอนสาขาเทพอาหาร ท่านคิดเห็นอย่างไร?”
พูดแล้วเขาก็ผายมือไปที่หนึ่งคนชราหนึ่งคนหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รับแขกพร้อมกับแนะนำว่า “สองท่านนี้เป็ตัวแทนของสมาคมเทพอาหาร คุณชายน้อยของประธานสมาคม เฟิงชิงอวี่ และ เทพอาหารขั้นสี่ หลัวเจิ้นิ!”
รองอาจารย์ใหญ่หันไปพยักหน้าให้คนทั้งสองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ที่แท้เป็คุณชายน้อยเฟิง และเทพอาหารหลัว เลื่อมใสมานานแล้ว!”
สิ้นเสียง เ้าหนุ่มที่นั่งอยู่พูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ “คุณชายเฟิงก็คุณชายเฟิง เหตุใดต้องมีคำว่าน้อยด้วย พวกท่านรังแกข้าว่าอายุน้อย ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาใช่หรือไม่?”
เฟิ่งเฉี่ยนได้ยินเช่นนั้นจึงมองไป เห็นเพียงเด็กหนุ่มอายุราวๆ สิบสามสิบสี่ปีคนหนึ่งบนเก้าอี้ บนร่างของเขาสวมเครื่องแบบของสมาคมเทพอาหาร เสื้อคลุมนั้นดูใหญ่เกินไปอย่างชัดเจน ดูหลวมโพรกเมื่อสวมอยู่บนร่างของเขา ไม่ค่อยเหมาะกับเขานักทว่ายังคงไม่อาจบดบังความเย่อหยิ่งและความเป็ชนชั้นสูงที่ติดตัวมาแต่กำเนิดของเขาได้
หน้าตาของเขาค่อนข้างอ่อนเยาว์ทว่ากลับงดงาม ราวกับหินแกะสลักสีชมพู ริมฝีปากแดงฟันขาว องคาพยพทั้งห้าดูงดงามราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตัวหนึ่ง!
ในมือของเขามีนกแก้วขนสีเหลืองสว่างตัวหนึ่ง ที่เขาจะเล่นกับมันเป็พักๆ นกแก้วตัวนั้นมีลักษณะเหมือนเ้านายของมัน เย่อหยิ่งจองหอง และยังดื้อรั้นไร้เดียงสา!
ที่แท้เป็เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนหนึ่ง!
เฟิ่งเฉี่ยนยิ้มจนริมฝีปากโค้งขึ้น อิริยาบถเล็กๆ น้อยๆ ของนาง กลับถูกเ้าหนุ่มคนนั้นหันมาถลึงตาใส่ “เ้าน่ะใคร? เมื่อสักครู่เ้าหัวเราะเยาะข้าหรือ?”
เฟิ่งเฉี่ยนมุมปากแข็งค้าง กะพริบตาปริบๆ อย่างผู้บริสุทธิ์ นางตอบกลับไปว่า “เมื่อสักครู่ข้าไม่ได้หัวเราะนี่นา ข้าเพียงแต่ไม่ทันระวังมุมปากกระตุกเท่านั้น คุณชายน้อย ท่านมองผิดแล้วกระมัง?”
เฟิงชิงอวี่ตะคอกใส่นาง “ห้ามเรียกข้าว่าคุณชายน้อย!”
เฟิ่งเฉี่ยนพยักหน้าให้ความร่วมมืออย่างที่สุด “อ้อ ได้ คุณชายน้อย!”
“เ้า...” เฟิงชิงอวี่เกือบจะะโขึ้นมาจากเก้าอี้ เทพอาหารหลัวที่นั่งอยู่ข้างกายเขากดเขาเอาไว้ แล้วเอ่ยปาก “พวกเรากลับเข้าเื่สำคัญเถิด! สาขาเทพอาหารของสำนักศึกษาเทียนหงขาดแคลนอาจารย์ ไม่มีคุณสมบัติที่จะเปิดต่อไป สมาคมมีคำสั่งให้พวกเ้าถอดถอนสาขาเทพอาหารภายในสามวัน ต่อไปหากไม่ได้รับอนุญาตจากสมาคมก็ห้ามเปิดสาขาเทพอาหารขึ้นมาอีก!”
“อาศัยอะไร?” ศิษย์ของสาขาเทพอาหารคัดค้านอย่างไม่ยินยอม
เทพอาหารหลัวสีหน้าเคร่งขรึมก่อนจะหัวเราะเสียงเย็น “ก็อาศัยอาหารที่อาจารย์ขั้นสูงที่สุดในสาขาเทพอาหารของพวกเ้าทำออกมายังไม่ถูกปากสัตว์เลี้ยงของคุณชายน้อยพวกเราอย่างไรเล่า ดังนั้นอาจารย์ในสาขาเทพอาหารของพวกเ้ามีคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์!”
“ห้ามเรียกข้าว่าคุณชายน้อย!” เฟิงชิงอวี่ตวาดใส่เขาอย่างไม่พอใจ
เทพอาหารหลัวรีบเอาอกเอาใจเขา “ขอรับ ขอรับ ขอรับคุณชายเฟิง!”
คนทั้งหมดได้แต่งงงัน
เพียงเพราะอาหารที่อาจารย์ไช่ปรุงออกมาไม่ถูกปากสัตว์เลี้ยง จึง้าถอดถอนสาขาเทพอาหาร เหตุผลนี้มันเหลวไหลเกินไป!
พวกเขานับว่ามองออกว่า พวกเขามาหาเื่!
“เกินไปแล้ว!”
“เหตุใดจึงทำเช่นนี้?”
“หากสาขาเทพอาหารถูกถอดถอน พวกเราจะทำอย่างไร?”
“เหตุใดต้องหาข้ออ้าง มิใช่เป็เพราะปีนี้บรรณาการที่ส่งให้กับสมาคมไม่เพียงพอหรอกหรือ?”
“แต่พวกเราจะมีวิธีการใด? ระหว่างทางที่วัตถุดิบถูกส่งไปถูกคนปล้น นี่เป็อุบัติเหตุ ไฉนจึงกล่าวโทษพวกเรา?”
“อีกอย่างหนึ่ง สมาคมเทพอาหารแต่ไรมาไม่เคยให้ความช่วยเหลือใดๆ กับสาขาเทพอาหารของพวกเรา กลับ้าของบรรณาการจากพวกเราทุกปี นี่ไม่สมเหตุสมผล!”
“ใช่แล้ว! เผด็จการเกินไป!”
“...”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้