เหล่าศิษย์สำนักแม่มดเพลิงร้อนพากันเงียบกริบลงทันที ไม่มีใครคาดคิดว่าการประลองรอบแรกจะจบลงด้วยชัยชนะของอีกฝ่ายที่พวกเขาพูดประชดประชันเอาไว้ก่อนหน้านี้!
ยิ่งนึกถึงคำพูดของตัวเองที่พูดเอาไว้ก่อนเริ่มการประลองแล้ว หลิ่วเฉิงิ่กับซูเหม่ยจากสำนักแม่มดเพลิงร้อนก็รู้สึกว่าใบหน้าของตนร้อนผ่าว และคำพูดของตัวเองที่ยังคงดังก้องอยู่ในหู กลับกลายเป็การตบหน้าตัวเองอย่างรวดเร็วและเ็ปจนเกินไป!
อยู่แค่ในระดับผู้ใช้พลังิญญา แต่จ้าวหนีอิ่งกลับสามารถใช้เพลงดาบสะบั้นสายลมเจ็ดท่าได้อย่างชำนาญแล้ว กล้าพูดได้เลยว่าไม่มีในที่นี้สามารถต้านทานได้! ต่อให้เป็ตัวเซียวหลิงอวิ๋นเองก็ยังต้องถอยหนีอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าเผชิญหน้าตรงๆ!
เยี่ยหนานลากเท้าหนักๆ ของตัวเองกลับมายังกลุ่มของตนเอง มีความละอายใจปรากฏบนใบหน้าอันงดงามของนาง “ข้าขอโทษ!”
หลงเฮ่อตบไหล่ของเยี่ยหนานแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ไม่ใช่ความผิดของเ้าหรอก ใครจะไปรู้ว่าอีกฝ่ายจะมีไพ่ตายเช่นนี้ซุกซ่อนอยู่ แม้แต่ข้าเองก็ไม่สามารถต้านทานกระบวนดาบนี้ของนางได้!”
“จริงด้วย ศิษย์พี่หญิง การที่อีกฝ่ายสามารถเข้าถึงเจตจำนงดาบได้ ดูจากกระบวนท่าแล้ว ก็ไม่น่าใช่แค่หนึ่งหรือสองส่วนด้วย แต่น่าจะเป็เจตจำนงดาบสายลมสักสามถึงสี่ส่วน นี่ถือเป็ท่าไม้ตายขั้นสุดยอดที่คงไม่มีใครในระดับผู้ใช้พลังิญญาต้านทานได้แล้ว!”
“ขอศิษย์พี่หญิงอย่าได้โทษตัวเองเลย เด็กสาวคนนั้นคงใช้กระบวนดาบนั้นได้แค่เพียงครั้งเดียว กระบวนดาบเมื่อครู่ได้ดึงเอาพลังิญญาของนางไปใช้จนหมดสิ้นแล้ว การชนะของฝ่ายนั้นมาจากความคาดไม่ถึงของฝ่ายเรา หากเจอกันคราวหน้าศิษย์พี่หญิงจะต้องเอาชนะนางได้อย่างแน่นอน!” หลิ่วเฉิงิ่กล่าวปลอบโยนอีกฝ่ายด้วยคำพูดยาวเหยียด
แต่ก็เป็เื่จริง แม้ว่าจ้าวหนีอิ่งจะบรรลุและเปิดขดพลังิญญาขดที่สามได้สำเร็จ แต่ก็สามารถใช้เจตจำนงดาบห้าส่วนได้แค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
จ้าวหนีอิ่งก้าวเดินอย่างอ่อนแรงกลับมารวมกลุ่มของตนเอง นางไม่มีแรงเหลือแม้แต่จะพูด ด้วยร่างกายที่อ่อนปวกเปียกจึงรีบนั่งลงกับพื้น นั่งขัดสมาธิแล้วเริ่มฟื้นฟูพลังิญญาของตัวเองทันที พร้อมกับเริ่มทำให้ขดพลังิญญาขดที่สามที่เพิ่งเปิดใหม่นี้มีความมั่นคงและแข็งแรงขึ้น
ทุกคนต่างก็รู้ดีถึงเื่นี้ ไม่มีใครส่งเสียงรบกวนออกไป
แม้ว่าจะมีสหายอยู่รอบตัว และไม่มีสัตว์อสูรปรากฏตัว แต่หม่าิฮุ่ยกับถานหย่าก็ยังคงยืนประกบอยู่ทั้งทางซ้ายและขวาของจ้าวหนีอิ่งเพื่อทำหน้าที่คอยคุ้มกัน
เซียวหลิงอวิ๋นหันไปยิ้มให้กับฉินหรูเยียนที่อยู่ด้านหลัง “ศิษย์พี่หญิง รอบสุดท้ายให้เป็หน้าที่ของท่าน ข้าจะออกไปสู้ในรอบที่สองเอง”
เมื่อเห็นเซียวหลิงอวิ๋นปรากฏตัว เลี่ยวเคอก็ตบมือแล้วลุกขึ้นยืน
“เคอจื่อ ทุ่มสุดตัวนะ!” เสียงของหลงเฮ่อดังมาจากด้านหลัง!
“อืม!” เลี่ยวเคอพยักหน้าตอบอย่างหนักแน่น!
...
“เ้าหนู พลังกายของเ้าแข็งแกร่งนัก เอาเป็ว่าในคราวนี้พวกเราจะประลองกันด้วยหมัดกับพลังิญญา เ้าจะว่าอย่างไร?” เจตจำนงดาบสายลมของจ้าวหนีอิ่งเมื่อสักครู่นั้นน่ากลัวมาก จนทำให้เลี่ยวเคอไม่กล้าใช้อาวุธวิเศษ เพราะกลัวว่าเ้าเด็กหนุ่มตรงหน้าเข้าอาจจะเข้าถึงเจตจำนงดาบหรือเจตจำนงดาบอีก ถ้าหากเป็เช่นนั้นตัวเองคงได้กลายเป็ฝ่ายพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
จากการปะทะสั้นๆ ก่อนหน้านี้ เลี่ยวเคอก็รู้แล้วว่าพลังกายของเซียวหลิงอวิ๋นนั้นน่าทึ่งมาก ดังนั้นจึงพูดออกมาราวกับว่าตัวเขาจะเลือกเอาจุดแข็งของอีกฝ่ายออกมาบดขยี้อย่างชัดเจน
เซียวหลิงอวิ๋นก็ยิ้มอย่างเย็นะเื “ได้สิ!”
“เช่นนั้นก็จงรับมือ!” แววตาของเลี่ยวเคอฉายแววปีติยินดี แล้วร่างกายผอมสูงของเขาก็พร่ามัวทันที นั่นคือภาพลวงตาที่เกิดจากการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ดวงตาจะมองเห็นได้
ในชั่วขณะต่อมา ร่างของเลี่ยวเคอก็ปรากฏขึ้นทางด้านซ้ายของเซียวหลิงอวิ๋น ฝ่ามือที่แห้งกร้านของเขาฟาดไปที่ซี่โครงซ้ายของเซียวหลิงอวิ๋นอย่างรวดเร็ว!
วิชาตัวเบา กระบวนท่าของอีกฝ่ายรวดเร็วมาก แต่กลับไร้ซึ่งเสียงแหวกผ่านอากาศเหมือนอย่างผู้ใช้พลังิญญาทั่วไป พลังทั้งหมดนั้นถูกกักเก็บเอาไว้ภายในโดยไม่มีการรั่วไหลออกมาแม้แต่นิดเดียว!
แต่ถึงอย่างนั้น พลังฝ่ามือที่กักเก็บเอาไว้นี้ หากถูกเป้าหมายก็จะะเิพลังออกมาและสร้างความเสียหายที่รุนแรงได้!
วิชาตัวเบารวดเร็วมาก!
อีกทั้งกระบวนฝ่ามือก็ยังแปลกประหลาดมากอีก!
ทั้งอูเสี่ยวหมิน ถังเซียว และคนอื่นๆ ที่เฝ้าดูอยู่รอบๆ ต่างก็รู้สึกใจเต้นแรง!
เซียวหลิงอวิ๋นก้าวเท้าหลบไปไปอีกด้าน แล้วตัวของเขาก็เคลื่อนไหวอย่างล้ำลึกไปทางด้านข้างสามฉื่อ มือขวาก็เรียงชิดเป็ฝ่ามือแล้วปะทะเข้ากับดาบฝ่ามือของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ!
“เปรี้ยง!”
เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น
ตามมาด้วยลมพัดแรงกระโชกจากพลังฝ่ามือที่แผ่ออกมาจนหิมะปลิวว่อน
ร่างของเซียวหลิงอวิ๋นเกิดสั่นะเื และต้องไถลไปตามพื้นน้ำแข็งเป็ระยะทางถึงสิบกว่าหมี่ ทิ้งเป็รอยยาวถึงสิบห้าหมี่ลึกถึงหนึ่งชุ่นไว้! ในขณะที่ร่างสูงผอมของเลี่ยวเคอเพียงแค่สั่นไหวเล็กน้อย ลงมายืนบนพื้นได้โดยไม่ถอยหลังแม้แต่ก้าวเดียว
การเผชิญหน้าในครั้งนี้ เลี่ยวเคอได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด
สถานการณ์นี้ตรงกันข้ามกับการปะทะกันก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้เลี่ยวเคอถูกกระแทกจนตัวลอย เป็เพราะเซียวหลิงอวิ๋นโจมตีใส่เขาด้วยแรงโมโห อีกทั้งเลี่ยวเคอก็ต่อสู้ด้วยในสภาพที่ร่างกายอ่อนล้า
การต่อสู้ในเวลานี้ ทั้งพลังกายและพลังิญญาของเลี่ยวเคอได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งร่างกายและจิตใจล้วนอยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด
ในเวลานี้เซียวหลิงอวิ๋นเองก็ไม่ได้ใช้วิชากายค้อนสำริดหรือใช้วิชาิญญาระดับสูงใดๆ! ใช้แค่เพียงพลังกายล้วนๆ เท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ แน่นอนว่าสถานการณ์ย่อมเกิดการกลับตาลปัตร
แววตาของเลี่ยวเคอเป็ประกาย “เ้าหนู อย่าได้คิดที่จะออมแรง ต่อสู้กับข้า หากไม่ทุ่มสุดตัวแ เ้าได้แพ้แบบดูไม่จืดแน่!”
เซียวหลิงอวิ๋นขยับนิ้วทั้งห้าของมือขวาอย่างคล่องแคล่วแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เ้ามีวิชาอะไรก็งัดออกมาให้หมดเถอะ!”
“เป็ดตายแล้วก็ยังปากแข็งสินะ!” เลี่ยวเคอพูดประชดประชัน เริ่มขยับตัวเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ชั่วขณะต่อมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นทางด้านขวาของเซียวหลิงอวิ๋นราวกับผี พร้อมกับสับฝ่ามือลงมา!
วิชาตัวเบาของเ้าหนุ่มนี่ช่างน่าแปลกเสียจริง?
สองครั้งติดต่อกัน ที่เซียวหลิงอวิ๋นยังไม่สามารถมองวิชาตัวเบาที่แปลกประหลาดนี้ออกได้อย่างชัดเจน
ถ้าอย่างนั้นก็ตั้งใจดูอีกรอบ ไม่เชื่อหรอกว่าจะมองวิชาตัวเบาของเ้าหนุ่มนี่ที่อยู่แค่ในระดับผู้ใช้พลังิญญาไม่ออก!
‘ฝ่ามือเพลิงแดงเข้ม’
เมื่อเผชิญกับฝ่ามือของอีกฝ่ายที่สั่งสมพลังิญญาเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว เซียวหลิงอวิ๋นจึงใช้วิชาิญญาวิชาที่สี่ที่เขาเพิ่งฝึกฝนเมื่อไม่นานมานี้ออกมาเป็ครั้งแรก… ‘ฝ่ามือเพลิงชาด’
ฝ่ามือเพลิงชาด วิชาิญญาระดับเหลืองขั้นสูงสุด! เป็วิชาฝ่ามือที่มีเพียงสี่กระบวนท่าเท่านั้น
ฝ่ามือเพลิงแดงเข้มคือกระบวนท่าแรก!
เมื่อเผชิญกับฝ่ามือเพลิงแดงเข้มของเซียวหลิงอวิ๋น แววตาของเลี่ยวเคอก็ปรากฏความดูถูก “เ้าหนู เ้าลืมชื่อสำนักศักดิ์สิทธิ์เพลิงร้อนของพวกเราไปแล้วหรืออย่างไร? ถึงคิดใช้วิชาธาตุไฟมาสู้กับข้าเช่นนี้!”
จากการเผชิญหน้ารอบก่อนทำให้เลี่ยวเคอมีความมั่นใจมากขึ้น ดาบฝ่ามือก็ฟาดฟันลงมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง
เขา้าใช้พลังที่รุนแรงที่สุดเพื่อเอาชนะอีกฝ่ายอย่างหมดรูป เพื่อแสดงให้เหล่าศิษย์สำนักิญญาเมฆาที่อยู่อีกฝั่งต้องรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างตนกับพวกเขา
“เปรี้ยง!”
เกิดเสียงดังสนั่น
ตัวของเซียวหลิงอวิ๋นกระเด็นถอยไปข้างหลังอีกครั้ง ทำให้เกิดหลุมตื้นๆ สองหลุมขึ้นบนพื้นน้ำแข็ง มือขวาของเขาสั่นเล็กน้อย พลังที่ะเิออกมาอย่างรุนแรงของอีกฝ่ายนั้น ทำให้แม้แต่เซียวหลิงอวิ๋นก็ยังประสบความลำบาก
ทางด้านเลี่ยวเคอแม้จะมีร่างกายผอมสูง แต่เท้าของเขายังคงยึดแน่นติดกับพื้นน้ำแข็ง มองไปที่อีกฝ่ายที่ลื่นไถลไปข้างหลัง มุมปากของเขามีรอยยิ้ม กำลังจะพูดเสียดสี
แต่ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที สูดเสียงขึ้นจมูกเบาๆ ใบหน้าบางๆ กลายเป็สีแดงขึ้นมาทันที พลังิญญาไฟไหลเข้าสู่มือขวาของเขาอย่างรวดเร็ว จนเกิดเป็ลูกไฟเล็กพุ่งออกมาจากฝ่ามือ
‘ฉ่า’ พร้อมด้วยเสียงหนึ่งที่ดังขึ้น ปรากฏหลุมลึกบนพื้นน้ำแข็ง ลูกไฟลูกนั้นหายไปแล้ว แต่เลี่ยวเคอที่อยู่ใกล้ๆ กลับได้ยินเสียง ‘ฉ่า’ เบาๆ ดังมาจากในหลุมลึกอย่างชัดเจน เห็นได้ชัดว่าลูกไฟนั้นไม่ได้ดับลงทันทีหลังจากที่ตกลงไปบนพื้นน้ำแข็ง
เป็พลังไฟที่รุนแรงอะไรเช่นนี้
ใบหน้าของเลี่ยวเคอมืดดำขึ้นมาทันที แววตาของเขาฉายแววเอาจริงเอาจังขึ้นมาเป็ครั้งแรก!
หนอยแน่ะ จริงๆ แล้วเ้าหมอนั่นจงใจปล่อยลูกพลังไฟที่บริสุทธิ์ใส่เข้ามาในฝ่ามือของเราตอนที่ฝ่ามือปะทะกันเมื่อสักครู่นี้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะเรามีพลังธาตุไฟถึงระดับสี่แล้ว เ้าพลังไฟนั่นคงแทรกซึมเข้าร่างกายของเราและะเิออกมาในชั่วขณะวิกฤติแน่ เมื่อถึงเวลานั้น...
เซียวหลิงอวิ๋นมองดูอีกฝ่ายบังคับให้พลังเพลิงไฟนั้นออกมา แล้วก็แอบชมอีกฝ่ายในใจ ไม่เลว ปฏิกิริยาและการรับรู้ค่อนข้างไว
“เก่งมากเ้าหนู! ไม่เลวเลย!” เลี่ยวเคอมองไปที่เซียวหลิงอวิ๋น แววตาของเขาฉายแววกระหายการต่อสู้ออกมา ในเวลานี้ตัวเขาถือว่าอีกฝ่ายเป็คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขึ้นมาจริงๆ แล้ว
‘เปรี๊ยะ’ ท่ามกลางหิมะที่ปลิวว่อน ตัวของเลี่ยวเคอก็กลายเป็เงาอีกครั้ง ก่อนจะปรากฏตัวจากทางด้านซ้ายหลังของเซียวหลิงอวิ๋นราวกับภูตผี! ฝ่ามือที่ผอมแห้งราวกับมือผีก็ยื่นออกมาจากความว่างเปล่า คว้าไปที่คอของเซียวหลิงอวิ๋น!
