เจียงเฉินลงมือโดยใช้วิชาที่ทรงพลังที่สุดและเฉียบคมที่สุดเพื่อสังหารศัตรูหนึ่งคน หลังจากที่สังหาราุโเคราขาวด้วยขวานอัสนี เจียงเฉินใช้ปีกโลหิตและเคลื่อนย้ายมิติอีกครั้งทำให้ง่ายต่อการหลบหลีกการโจมตีของทั้งสามคน การโจมตีของทั้งสามได้ถูกเจียงเฉินสับเป็เสี่ยงๆเช่นกัน
"เฒ่าไป๋!"
หยินจงเฉินร้องออกมาด้วยปวดร้าว ดูเหมือนว่าเปลวเพลิงจะพุ่งออกจากดวงตาของเขา ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ทั้งสี่ได้ซุ่มโจมตีผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ตัวจ้อย แต่กลายเป็ว่าหนึ่งในพวกเขาถูกสังหารในทันที นี่มันเื่ตลกอันใด
"ทุกคนระวังตัว! เ้าเด็กนี่เป็สัตว์ประหลาดและตอนนี้มันได้ทะลวงเข้าสู่แก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางแล้วด้วย พลังยุทธของเขาเทียบเท่ากับระดับแก่นแท้์ขั้นต้น!นอกจากนี้ เขายังมียุทธภัณฑ์ระดับสูง อีกทั้งดันรู้จักใช้ทักษะยุทธประสานกับยุทธภัณฑ์ระดับสูง"
หยินจงเฉินพูดเตือน
"ลงมือพร้อมกันและกดดันเขาไว้!ไม่ว่าเขาจะเป็สัตว์ประหลาดแต่อย่างใด ก็ยังเป็เพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์อยู่ดี!จนถึงเมื่อกี้เขาได้ปลดปล่อยทักษะยุทธที่ทรงพลังออกมาถึงสองทักษะและยังโคจรใช้ยุทธภัณฑ์ระดับสูงอีก!ข้าไม่เชื่อว่าเขายังหลงเหลือพลังหยวนมากพอที่จะปลดปล่อยพลังของขวานนั่นอีกครั้ง!"
ตาเฒ่าอีกคนพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึมและเ็า าุโเคราขาวนั่นเป็สหายที่ดีที่สุดของเขา และเขาได้เห็นสหายของตนตายโดยเจียงเฉินผ่าเขาขาดครึ่ง มันทำให้ความเกลียดชังที่มีต่อเจียงเฉินพุ่งทะยาน
"ทลายศิลา!"
"สามวายุสะบั้น!"
"คมดาบล่องหนสี่สะบั้น!"
ทั้งสามไม่กล้าที่จะแสดงความประมาทออกมาอีก ในความคิดของพวกเขา เจียงเฉินมันเป็สุดยอดสัตว์ประหลาดที่ผิดปกติที่สุดผู้ที่ไม่อาจปฏิบัติต่อเขาเยี่ยงรุ่นเยาว์แก่นแท้มนุษย์ได้
ทั้งสามได้ปลดปล่อยกระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุดของตนออกมาพร้อมกัน การประสานระหว่างทักษะยุทธและยุทธภัณฑ์ของพวกเขาทำให้สำแดงพลังของผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ออกมาได้เต็มที่ คลื่นพลังจำนวนมากได้ทำลายมวลอากาศ
พลังอันมหาศาลได้ส่องแสงเจิดจ้า ดั่งสายรุ้งเจ็ดสี คลื่นพลังที่ตกลงมา ได้ทำลายยอดเขาแห่งหนึ่งทันที
การโจมตีประสานของผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ขั้นต้นมีพลังทำลายล้างสูงยิ่งนัก
"ฮ่าฮ่า จงแสดงพลังทั้งหมดของพวกเ้าออกมาซะ!ข้าเจียงเฉิน ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใด!"
เจียงเฉินหัวเราะเสียงดัง เขากำลังลอยอยู่กลางอากาศ มือของเขากำขวานอัสนี ผมดำของเขาปลิวไสวกับสายลม แสงสีทองอร่ามปกคลุมทั่วร่างของเขา การปรากฏตัวของเขาเหมือนดั่งจอมราชันย์ได้มาเยือนโลกนี้ ซึ่งร่างกายของเขามีกลิ่นอายอันน่ากลัวแผ่ออกมา
ใน่เวลานั้น หยินจงเฉิงและอีกสามคนรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอันน่ากลัวจากร่างของเจียงเฉิน ชายที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเหมือนจอมราชันย์ของโลกใบนี้ เขาราวกับไม่ใช่เด็กหนุ่มสิบกว่าปี แต่เป็สัตว์ประหลาดเฒ่าผู้ที่อยู่มากว่าสองถึงสามพันปี
ความรู้สึกเช่นนี้มันบ้าชัดๆ แต่ความรู้สึกนี่มันของจริง
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ทั้งสาม เจียงเฉินไม่มีความคิดที่จะถอยแม้แต่น้อย ความรู้สึกอันแรงกล้าจากภายในตัวเขาไม่อนุญาตให้เขาถอย เจียงเฉินจะไม่หนีเด็ดขาด ตอนนี้สิ่งที่เขา้าคือใช้พลังของเขาในตอนนี้เอาชนะผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ซึ่งๆหน้า สร้างปาฏิหารย์ขึ้นอีกครั้ง
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะๆ
ขวานอัสนีได้เกิดเสียงเปรี๊ยะๆ อีกครั้ง ขวานได้ปรากฎแสงสีทองขึ้น และได้มีเสียงัลึกลับคำรามออกมาจากร่างของเจียงเฉิน พลังหยวนได้ไหลเข้าสู่ขวานอัสนีบาตอย่างบ้าคลั่ง พลังหยวนของเขาเป็ดั่งมหาสมุทรไร้ก้นแล้วมันไม่มีวันเหือดแห้ง
ทักษะอัสนีบาตเป็ทักษะที่ทรงพลังอำนาจ เมื่อเจียงเฉินเป็ผู้ใช้มัน แม้แต่พลังปราณที่รุนแรงของมันสามารถทำลายูเาให้ราบได้
เปรี้ยง!
ท้องฟ้าะเื ตามด้วยเสียงะเิดังกึกก้อง เจียงเฉินยกขวานขึ้นสูง ขวานอัสนีบาตเปล่งแสงและกลายเป็ลำแสงสีทองพุ่งสู่ท้องฟ้า ในวินาทีต่อมา เจียงเฉินสับมันลงมาด้วยกำลังทั้งหมดของเขา
ขวานั์ทั้งสามได้ถูกสร้างขึ้นด้วยพลังอันรุนแรงของเจียงเฉิน ได้พุ่งทะลวงไปยังการโจมตีประสานของทั้งสาม ขวานสีทองแต่ละด้ามถือครองพลังอัสนีที่สามารถทำลายได้ทุกสิ่งที่ขวางทาง มันเป็พลังทำลายล้างอย่างแท้จริง
ตูม!
สู้กับศัตรูที่มีระดับการบ่มเพาะสูงกว่าเขาทั้งสามคนด้วยลำพังเพียงคนเดียว มันเป็การต่อสู้ที่หาได้ยากอย่างยิ่ง ทักษะยุทธ ยุทธภัณฑ์ ทั้งสองสิ่งถือเป็ตัวแทนของการทำลายล้าง ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างและพื้นที่แถบนั้นพังพินาศหมด
หยินจงเฉิงและอีกสองคนต่างได้รับาเ็จากผลกระทบที่มาจากขวานอัสนีบาต และพวกเขาได้ถอยหลังไปกว่าสิบจ้างก่อนที่จะพยุงตัวพวกเขาขึ้นได้ มองไปยังเจียงเฉินอีกครั้ง ทั่วร่างของเขาปกคลุมด้วยแสงสีทองและพลังปราณพวยพุ่งสู่์เช่นก่อน เขาเป็ดั่งผู้พิพากษาทุกสรรพสิ่ง ขวานที่อยู่ในมือของเขาสามารถควบคุมความเป็ความตายของผู้คนได้
"เป็ไปได้อย่างไร?เขาเป็เพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง เขาแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร?"
"เขาเป็ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางจริงๆรึ?เหตุใดมันถึงสามารถปลดปล่อยทักษะยุทธที่ทรงพลังเช่นนั้นได้?และพลังหยวนของเขาดูไร้ที่สิ้นสุด เขาดูไม่กลัวที่จะสิ้นเปลืองพลังจำนวนมาก!นี่มันน่าเหลือเชื่อนัก! "
" บัดซบ! พี่หยิน ปีศาจประเภทใดที่เ้าไปตอแยด้วยน่ะ?"
ทั้งสามแทบที่จะอาเจียนเป็เื ในฐานะผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ พวกเขาได้ปกครองพื้นที่พวกเขามาหลายปี และพวกเขาไม่เคยเข้าไปพัวพันการต่อสู้ที่ยากลำบากเช่นนี้
ตูม!
สิ้นสุดเสียง พวกเขาได้ยินเสียงะเิดังขึ้น เจียงเฉินกระพือปีก และสับขวานลงมาอีกครั้ง คมขวานที่มีประกายเย็นเยียบได้มาถึงเหนือหัวของหนึ่งในพวกเขาในพริบตา
เร็ว....นี่มันรวดเร็วมาก!แม้ว่าชายคนนั้นจะมีปฏิกิริยาที่รวดเร็ว แต่ไม่อาจที่จะป้องกันได้
"ไม่ดีแล้ว!"
ชายคนนั้นร้องออกมาด้วยความใ เขาไม่เคยคาดว่าหลังจากที่เจียงเฉินใช้กระบวนท่าที่ทรงพลัง จะสามารถโจมตีต่อได้ทันทีเช่นนี้
แต่น่าเสียดาย ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว ขวานรบไร้ความปราณี ได้ผ่าร่างเขาเป็สองซีก เืสาดกระเด็นไปทั่ว และเืได้กระเด็นไปโดนอีกสองคน ทำให้ทั้งสองคนสั่นสะท้าน
ฟ้าว!
จิตสังหารของเจียงเฉินพุ่งทะยาน โดยไม่มีการลังเล หลังจากที่ได้สังหารไปคนหนึ่ง เขาได้สับขวานไปยังอีกคนหนึ่งทันที
"วิ่ง!"
หยินจงเฉิงร้องเตือนจากนั้นเขาหันหลังและเริ่มหลบหนี ไม่มีเหตุผลที่จะต้องสู้ต่อ เจียงเฉินแข็งแกร่งเกินไป ดุร้ายและเหี้ยมโหดยิ่ง มันไม่มีทางที่เขาจะได้แก้แค้นอีกแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือเขาจะต้องรักษาชีวิตของตนเป็สำคัญและหากว่าเขายังอยู่ที่นี่ต่อ ถึงตอนนั้นพวกเขาจะไม่สามารถออกไปได้โดยยังมีชีวิตอยู่ เขาจะได้ตามรอยเท้าของาุโเคราขาวไป
หยินจงเฉิงเป็คนแรกที่เผ่นหนี ส่วนอีกคนหวาดผวาและมีเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผาก ได้หันกลับและพยายามที่จะหนี อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของเขาช้าเกินไป เพราะความหวาดกลัว ทำให้เขาสูญเสียความ้าที่จะสู้ทั้งหมด และได้ถูกเสียงเฉินสับขาดครึ่ง
ในการต่อสู้ ได้ตกตายไปสาม ใบหน้าเจียงเฉินไร้อารมณ์ ในดวงตาของเขามีประกายเย็นะเื เขาเงยหน้ามองไปยังหยินจงเฉิงที่เผ่นหนีไปไกลแล้ว ปีกโลหิตได้กระพือถี่และไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้หยินจงเฉิงได้หนีไป หวงต้าได้ไล่ตามเขาและได้ขวางเส้นทางเขา
"ไอ้หมาระยำ หลีกไป!"
หยินจงเฉิงไม่พูดอะไรให้มากความ เขาสับขวานลงมาใส่หวงต้าทันที เขาจำเป็ต้องหนีจากที่นี่ตอนนี้ หากเขาถูกไอ้ปีศาจนั่นจับตัวได้ จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
วิ้งๆ!
หวงต้าเปิดปากและปล่อยบอลพลังสีทองขนาดั์ออกมา เยี่ยนเฉินหยวี่สร้างม่านน้ำแข็งป้องกันการโจมตีของหยินจงเฉิง
ตูม!
เกิดการะเิของพลังงานขึ้น เพราะหวงต้าได้ขวางทางเขาทำให้หยินจงเฉิงได้ล่าช้าลง ในตอนนั้นเองเจียงเฉินก็ไล่ตามทันจากด้านหลังเขาแล้ว
ััได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรง เขามองไปยังเจียงเฉิน แล้วเขาเหลือบมองไปยังขวานอัสนีบาตในมือของเจียงเฉินอีกครั้ง ที่เปล่งแสงสีเหลืองอำพัน ใบหน้าของหยินจงเฉิงดูย่ำแย่มาก รู้สึกถึงความตายได้ห้อมล้อมเขาและที่เขารู้สึกตอนนี้คือความหวาดกลัว
"เจียง....เจียงเฉินอย่าฆ่าข้าเลย ปล่อยข้าไปเถอะ! ข้าให้สัญญาว่าข้าจะไม่มาสร้างปัญหาให้กับเ้าอีก!"
หยินจงเฉิงเริ่มร้องขอเมตตา
"คิดจะสังหารผู้ใดต้องเตรียมใจที่จะถูกสังหารได้เช่นกัน"
ใบหน้าเจียงเฉินดูน่ากลัวยิ่ง เจียงเฉินยกขวานขึ้นบนฟ้า
"หยินจงเฉิง เ้าควรจะรู้ไว้ การก้าวพลาดเป็สาเหตุของความเสียใจตลอดชีวิต ลองย้อนกลับไปวันนั้นที่เมืองหยินเยว่ เ้าไม่ควรมาตอแยข้า"
คำพูดของเจียงเฉินเป็คำพิพากษาให้ปะาชีวิต เขาเหมือนดั่งผู้พิพากษาจากนรกที่ตัดสินว่าผู้ใดสมควรตาย
เปรี้ยง!
ขวานรบได้ส่งเสียงดัง 'เปรี้ยง' ออกมา แล้วมันสับลงมาจาก้าด้วยความเร็วสูง
"ไม่!"
หยินจงเฉิงคำราม เขายกขวานในมือเขาขึ้นและพยายามป้องกันการโจมตีด้วยกำลังทั้งหมดของเขา แต่มันไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขาได้ สุดท้ายเขาตกตายอนาถภายใต้ขวานของเจียงเฉิน
ครั้งแรกสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ทั้งสี่ต่อเนื่อง และโคจรทักษะอัสนีบาตเรื่อยๆ มันกินพลังหยวนเป็จำนวนมาก สร้างความเหนื่อยหน่ายแก่เจียงเฉิน พลังหยวนในร่างของเขาถูกใช้ไปเป็จำนวนมาก และเขาไม่สามารถทำอย่างอื่นได้นอกจากกลืนเม็ดยามนุษย์หยวนเพื่อฟื้นฟูพลังของเขา
"เ้าหมอนี่ชักจะผิดปกติมากขึ้นทุกวันๆ!เ้าได้สังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ถึงสี่คน หากว่าคนอื่นได้รู้เข้าคงตายเพราะความหวาดกลัวเป็แน่!"
หวงต้าะโโลดเต้นด้วยความตื่นเต้นและความยินดี ใบหน้าของมันเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น
"พวกมันหาเื่ตายเอง"
เจียงเฉินแสยะยิ้ม เขาเก็บของพวกมันขึ้นมา และยุทธภัณฑ์ทั้งสามได้ลอยมาสู่มือของเขา เขานำพวกมันใส่แหวนเก็บของ
"รีบเดินทางต่อเถิด"
ปีกโลหิตของเจียงเฉินกระพือ และเขามุ่งไปยังทิศที่นิกายเซวียนอี้ตั้งอยู่ การต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ทั้งสี่ได้ทำให้เขาเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบัน การต่อสู้นี้ทำให้เขาได้รับประโยชน์มากมาย
นี่เป็จุดจบที่น่าเศร้าของหยินจงเฉิง เหมือนดั่งที่เจียงเฉินพูด ย้อนกลับไปที่เมืองหยินเยว่ เขาไม่ควรที่จะมาตอแยเจียงเฉิน และเขาไม่ควรที่จะยึดติดกับเจียงเฉินหลังจากที่ฮันหยานออกหน้า นี่เป็สิ่งที่ชักนำให้เกิดขึ้นในวันนี้
เจียงเฉินใช้วิธีที่เหี้ยมโหดที่สุดในการบอกถึงความจริง ว่ามีบางอย่างในโลกนี้ที่ไม่ควรไปตอแยด้วยและหากว่าได้ทำลงไป ผลที่ตามมานั้นหนักหนายิ่งนัก
นิกายเซวียนอี้ตั้งอยู่ที่ทางตอนเหนือของแคว้นฉี เป็พื้นที่โดดเด่นด้วยูเาและเทือกเขาสูง บนเขานั้นอุดมไปด้วยพลังหยวนฟ้าดิน ูเามีหมอกบางๆอยู่รอบๆตลอดปี สถานที่แห่งนี้ให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์และรู้สึกมีเกียรติ
ูเานี้จะเรียกว่า ูเาเซวียนอี้ ยอดเขานับไม่ถ้วนได้กระจายอยู่ทั่ว้าเขาเซวียนอี้
มันสามารถพูดได้ว่า ผู้บุกเบิกนิกายเซวียนอี้ได้ค้นพบชีพจรพลังงานใต้ดินที่นี่ ดังนั้นเขาจึงที่แห่งนี้และจัดตั้งนิกายเซวียนอี้ที่รุงโรจน์
ชีพจรพลังงาน นอกเหนือจากสามารถที่ให้สภาพแวดล้อมในการบ่มเพาะได้ดีที่สุดแล้วและยังมีพลังหยวนฟ้าดินอยู่รวมกันอีกด้วย และมันยังเป็ดั่งตัวแทนของโชคลาภอีกด้วย นิกายใหญ่ทั้งสี่ในแต่ละแห่งได้พื้นที่ที่มีชีพจรพลังงานอยู่ นี่เป็เหตุที่ว่าพวกเขาที่ได้รุ่งเรืองนิจนิรันดร์และได้ผลิตอัจฉริยะออกมานับไม่ถ้วน
ผ่านไปสองวัน ่บ่าย ในที่สุดเจียงเฉินและหวงต้าได้มาถึงนิกายเซวียนอี้ พวกเขาร่อนลงที่ตีนเขา
"ที่นี่ช่างงดงามยิ่งนัก!"
เยี่ยนเฉินหยวี่ชมทิวทัศน์ที่สวยงามที่เต็มไปด้วยหมอกบางๆ อดไม่ได้ที่นางจะชมเชย
"เป็สถานที่ที่ดีจริงๆ และมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ดีด้วยเช่นกัน"
เจียงเฉินผงกหัว แต่ปฏิกิริยาของเขาไม่ได้มากมายนัก ประสบการณ์ของเขานั้นมากมายกว่ามากเมื่อเทียบกับเยี่ยนเฉินยหวี่ นิกายเล็กๆอย่างนิกายเซวียนอี้ไม่สามารถเทียบกับระดับของทวีปศักดิ์สิทธิ์ได้
"ไปกันเถอะ ตอนนี้พวกเราเป็ศิษย์นิกายเซวียนอี้แล้ว ดังนั้นก่อนอื่นต้องไปรายงานว่ามาถึงที่แห่งนี้แล้ว"
เจียงเฉินเผยรอยยิ้ม เขาขยับเท้า และเขาเริ่มเดินขึ้นเขา
"ห้ามผ่านไปมากกว่านี้!"
เมื่อเจียงเฉินขึ้นไปได้ครึ่งเขาแล้ว เขาได้ยินเสียงะโออกมา และชายหนุ่มสามคนแต่งชุดสีขาวเดินมาหาพวกเขาด้วยท่าทางหยิ่งยโส
