“ท่านแม่ ทุกคนกำลังมองอยู่ ท่านอย่าไปเถียงกับนางเลยเ้าค่ะ” โจวซู่ซินเห็นว่าทุกคนกำลังมองมาที่พวกนาง นางจึงรีบห้ามหานซื่อ แม่ของนางก่อน
“ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ ภรรยาของพี่จื่อเฉินงดงามกว่าลูกสาวของท่าน ท่านจึงมิสบายใจใช่หรือไม่เ้าคะ หากท่านมิสบายใจ ก็ไปหาที่ร้องไห้เถิดเ้าค่ะ อย่ามาวุ่นวายกับข้าเช่นนี้”
“อิงจื่อ เ้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร ท่านแม่ของข้าจะอึดอัดใจได้อย่างไร พี่จื่อเฉินมีที่พักพิงที่ดี พวกเราทุกคนล้วนดีใจกับเขา” โจวซู่ซินแก้ต่างแทนแม่ของนางอย่างมีเหตุผล นางคิดว่าญาติผู้น้องตั้งใจยั่วโมโห เพราะโจวซู่อิงจงใจพูดฉีกหน้านางตลอด ั้แ่จิ่นเซวียนแต่งเข้าบ้านซ่ง ถึงนางจะมิได้ดีเลิศเท่าจิ่นเซวียน แต่นางก็ยังดีกว่าญาติผู้น้อง
ในบ้านของโจวซู่ซินนั้น ผู้ที่ท่านปู่ท่านย่ารักที่สุดคือนาง ส่วนท่านพ่อ พี่ชายและน้องรองของนางต่างอยู่ที่สำนักศึกษา มีครอบครัวของอารองเป็เครื่องมือหาเงินให้พวกเขาใช้ นางรู้สึกสบายยิ่งนัก
นางหวังว่าท่านพ่อและพี่ชายจะประสบความสำเร็จ เมื่อถึงเวลานั้น ซย่าจิ่นเซวียนจะได้รู้ว่าผู้ใดเหนือกว่ากัน
“คนบ้านเจียโย่ว ซู่ซินกับคุณชายหวังสนิทกันยิ่งนัก พวกเขาใกล้มีข่าวดีแล้วหรือยัง” แม่สื่อโจวเดินเข้ามาพูดคุยกับหยวนซื่อ แม่ของโจวซู่อิง และจงใจยกเื่คุณชายหวังมาพูดต่อหน้าทุกคน ทำเอาหานซื่อนั้นกลืนมิเข้าคายมิออก
“นี่เป็หนแรกเลยที่ข้าเห็นแม่นางที่งดงามยิ่งกว่านางฟ้า ได้เปิดหูเปิดตาแล้วจริงๆ!” หานซื่อกับลูกสาวที่ยังมิรู้จะตอบแม่สื่อโจวอย่างไร ก็มีคนพูดชมจิ่นเซวียนขึ้นมาอีก
เมื่อได้ยินทุกคนชื่นชมจิ่นเซวียน หานซื่อกับโจวซู่ซินมิค่อยสบายใจนัก “พวกเ้ามิสงสัยหรือ?คุณหนูซย่าโดดเด่นถึงเพียงนั้น เหตุใดนางถึงยอมแต่งงานกับซ่งจื่อเฉินเล่า” หานซื่อถามอย่างมิยอม
“เพราะคุณหนูซย่าเป็คนจิตใจดี ก่อนหน้านี้ข้ากลับบ้านพ่อแม่ ก็เคยเห็นนางตั้งหลายหน” หยวนซื่อคืออาแท้ๆ ของหยวนเฉิงหู่ นางเป็คนในหมู่บ้านเดียวกับจิ่นเซวียน นางเกลียดที่หานซื่อเอาแต่กดขี่พวกนาง แต่งเข้าบ้านโจวมา นางมิเคยอยู่ดีเลยสักวัน นางขอแยกบ้านมาหลายหน แต่ก็โดนพ่อแม่ของสามีขัดขวาง
“ใช่แล้ว คุณหนูซย่าเป็คนจิตใจดี แม่เลี้ยงของนางทำกับนางเช่นนั้น นางยังช่วยขอร้องแทนเลย สิ่งที่น่ายกย่องคือนางมีจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา” แม่สื่อโจวรู้ว่าหานซื่ออิจฉาจิ่นเซวียนถึงได้พูดเช่นนี้ แม้นางจะเป็เพียงแม่สื่อ แต่หากมีคนมาล่วงเกิน นางก็สามารถทำลายงานแต่งงานของพวกเขาด้วยคำพูดไม่กี่คำได้
“ข้าอยู่ที่หมู่บ้านสกุลโจวมาหลายสิบปี มิเคยเห็นสาวงามเช่นนี้มาก่อนเลย นางงดงามแล้วยังมิถือตัวเสียด้วย พวกเ้ามิได้เห็นเวลาที่นางดูแลจื่อเฉินหรือ หากเป็ผู้อื่นก็คงหนีไปนานแล้ว”
สตรีออกเรือนแล้วผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงสูงๆ นาง้าค่อนขอดโจวซู่ซินว่าเลือกปฏิบัติ ก่อนที่ซ่งจื่อเฉินจะประสบอุบัติเหตุ โจวซู่ซินขยันไปตีสนิทคนบ้านซ่งทุกวัน แต่พอเกิดเื่กับซ่งจื่อเฉินแล้ว นางกลับหนีห่าง
“ข้าเป็แม่สื่อมาหลายปี มิเคยเห็นคู่บ่าวสาวที่เข้ากันได้ดีถึงเพียงนี้ ข้าชอบเด็กน้อยเซวียนเซวียนยิ่งนัก ไม่แน่วันพรุ่งนี้จื่อเฉินอาจจะหายเลยก็ได้!” แม่สื่อโจวหวังให้จิ่นเซวียนช่วยเหลือนางในอนาคต นางจึงถือหางจิ่นเซวียนเช่นนี้ นางรู้สึกว่าจิ่นเซวียนมิใช่สาวบ้านไร่ธรรมดา
เรือนใหญ่บ้านซ่ง!
จิ่นเซวียนและซ่งจื่อเฉินอยู่ในห้องหอ นางมิรู้ว่าคนนอกพูดถึงนางอย่างไรและมิคิดสนใจสิ่งที่พวกเขาพูดด้วย
หลังนั่งพักอยู่ครู่หนึ่ง จิ่นเซวียนก็ไปที่ห้องฝั่งตะวันออก หยิบเสื้อผ้าของนางออกมา นางย้ายหีบใหญ่พวกนั้นผู้เดียวมิไหว จึงคิดว่าจะขอให้ซ่งเหมยมาช่วยนางย้ายภายหลัง
“ภรรยา ข้าจะช่วยเ้าพับผ้า” จิ่นเซวียนนำเสื้อผ้ามาน้อย มีเพียงแค่สี่ชุดเท่านั้น นางคิดว่าจะหาซื้ออีกทีตอนฤดูหนาว
“ค่ายาของข้าราคามิสูงมากนัก เ้าเอาเงินไปซื้ออาภรณ์มาเพิ่มเถิด อาภรณ์พวกนี้ดีๆ ทั้งนั้น หากต้องใส่ทำงาน มันมิคุ้มหรอก” ซ่งจื่อเฉินหยิบอาภรณ์บนเตียงมาพับให้จิ่นเซวียน แล้วส่งให้นางวางเอาไว้ในตู้เสื้อผ้า
“สามี อาภรณ์ของท่านอยู่ที่ใดหรือ ข้าจะไปช่วยท่านเอามาใส่ตู้เสื้อผ้า” ตู้เสื้อผ้ามีขนาดใหญ่ สามารถวางอาภรณ์ได้หลายสิบชุด นางจึงเอาผ้าพับที่บ้านซ่งมอบให้กับเครื่องประดับเงินมาใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้าด้วย
“อาภรณ์ของข้าอยู่ในห้องแรกทางฝั่งตะวันตก ข้าจะพาเ้าไปเอง” ซ่งจื่อเฉินชอบชีวิตที่อบอุ่นและเรียบง่ายเช่นนี้ยิ่งนัก เขารู้สึกดีที่มีภรรยาคอยเอาใจใส่
จากนั้นไม่นาน เขาก็ไปที่เรือนฝั่งตะวันตกกับจิ่นเซวียน
จิ่นเซวียนเปิดตู้เสื้อผ้าออกดูและพบว่าอาภรณ์ที่อยู่ข้างในนั้นเป็สีขาวทั้งหมด นางรู้สึกแปลกใจยิ่งนัก ความชอบของซ่งจื่อเฉินกับนางเหมือนกันมาก เพราะนางเองก็ชอบสีขาวเช่นกัน อาภรณ์สี่ตัวนั้นเป็ชุดสีขาวผ้าโปร่งไปแล้วสองตัว ตัวที่เหลือเป็สีชมพูทั้งหมด ยกเว้นชุดสีเขียวไผ่ที่ซย่าจิ่นอวิ๋นทำ
“ท่านชอบสีขาวหรือ?” จิ่นเซวียนพูดกับซ่งจื่อเฉิน หลังหยิบอาภรณ์ออกมา
ซ่งจื่อเฉินมีเสื้อผ้าค่อนข้างมาก ทั้งผ้าฝ้ายและผ้าต่วน เมื่อเทียบกับนางแล้ว เขาโชคดีกว่ามากที่อย่างน้อยก็ยังมีพ่อที่คอยรักและห่วงใย พ่อเฮงซวยของนางมิมีคุณสมบัติให้เทียบกับซ่งผิงเลยสักนิด
ลูกที่ภรรยาเดิมเหลือไว้ให้เหมือนกัน แต่ช่างแตกต่างกันยิ่งนัก
“ใช่ ข้าคิดว่าของสีขาวดูบริสุทธิ์มาก” ซ่งจื่อเฉินยิ้ม ตอนยิ้ม เขาช่างดูดีจริงๆ
“ข้าเองก็ชอบสีขาว ดูท่าพวกเราจะมีความชอบเหมือนกัน” จิ่นเซวียนวางอาภรณ์ลงในแขนของซ่งจื่อเฉินแล้วปิดประตูเรือนตะวันตก
“ภรรยา งานยิบย่อยพวกนี้ข้าทำเองได้” เสี้ยวหน้าของซ่งจื่อเฉินภายใต้แสงแดดส่องประกายงดงาม เพราะอยู่แต่ในบ้านตลอดปี เขามิได้ตากแดด ผิวของซ่งจื่อเฉินจึงขาวกว่าสตรีทั่วไป ยิ่งเขามีนิสัยเ็าเคร่งขรึม ทำให้น่าดึงดูดมากขึ้นไปอีก
“ได้ ท่านถือเสื้อผ้าเอาไว้ ข้าจะเข็นให้ท่านเอง” จิ่นเซวียนมิแย่งงานกับซ่งจื่อเฉิน นางรู้ว่าซ่งจื่อเฉินมิอยากให้คนคิดว่าเขาไร้ค่า เขามีศักดิ์ศรีของตนเอง นางเข้าใจความรู้สึกนี้ดี
“ภรรยา ความจริงแล้วข้าก็รู้วิชาแพทย์เช่นเดียวกับเ้า” หลังจากพวกจิ่นเซวียนเข้าห้องมาแล้ว ซ่งจื่อเฉินก็บอกจิ่นเซวียนว่าเขารู้วิชาแพทย์
“ท่านเรียนเองหรือ?” จิ่นเซวียนค่อนข้างประหลาดใจที่ซ่งจื่อเฉินเล่าเื่ของตนเองให้นางฟัง
สามีเ็าผู้นี้คงมิได้ชอบนางแล้วใช่หรือไม่
“ข้าป่วยมานานเลยกลายเป็หมอเสียเอง ข้าใช้ยาบำรุงรักษาร่างกายอย่างสม่ำเสมอ แม้ขาจะมิหาย แต่อย่างน้อยกล้ามเนื้อก็มิลีบ” ซ่งจื่อเฉินมิได้รู้เพียงวิชาแพทย์ เขายังรู้วรยุทธ์อีกด้วย
“สามี ก่อนที่อาจารย์ของข้าจะจากไป เขาให้น้ำศักดิ์สิทธิ์กับข้ามาขวดหนึ่ง เขาบอกว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ มิเพียงช่วยบำรุงความงาม ยังสามารถรักษาโรคได้ด้วย ข้ามิรู้ว่ามันจะได้ผลหรือไม่ หากท่านเชื่อข้า ข้าจะนำมาให้ท่านดื่ม” จิ่นเซวียนอยากรักษาซ่งจื่อเฉินให้หายดี หากสุขภาพของซ่งจื่อเฉินแข็งแรง มันก็จะดีสำหรับนางเช่นกัน
นางจะมีที่ยืนในบ้านหลังนี้ นอกจากตนเองแล้ว นางยังต้องพึ่งพาซ่งจื่อเฉิน
“ภรรยา ของที่อาจารย์ให้เ้า เ้าเก็บไว้เองเถิด ไม่แน่ว่าเ้าอาจจะได้ใช้ในวันข้างหน้า” ซ่งจื่อเฉินประทับใจในตัวจิ่นเซวียนอีกหน เขาบอกกับตนเองว่าเขาจะพยายามเพื่อตนเองและเพื่อนาง ไม่ว่านางจะชอบเขาหรือไม่ก็ตาม
“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก มิจำเป็ต้องใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์นี้” จิ่นเซวียนพูดพลาง ทำทีไปหยิบของที่เรือนฝั่งตะวันออกและแอบเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์ออกมา เมื่อคืนนี้นางเข้าไปในมิติพบว่ามีขวดกระเบื้องเคลือบเล็กๆ อยู่เต็มไปหมด นางจึงกรอกน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ขวดเพื่อจะได้หยิบใช้ได้ง่าย
“สามี น้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ช่วยขจัดรอยแผลเป็บนร่างของข้าได้หมดภายในหยดเดียว ข้ายังจะนำมันไปรักษาหน้าให้ท่านอาเล็กด้วย” จิ่นเซวียนเปิดฝาขวดน้ำศักดิ์สิทธิ์ในห้องหอ กลิ่นหอมสดชื่นเย็นสบายของน้ำศักดิ์สิทธิ์กระจายออกมาจนผู้ที่สูดดมรู้สึกปลอดโปร่ง
“หากเ้าเอามันมาให้ข้า แผลเป็ของท่านอาเล็กจะทำอย่างไรเล่า” ซ่งจื่อเฉินปิดฝาขวดแล้วส่งคืนให้จิ่นเซวียนเก็บไว้ให้ซย่าชุนอวิ๋น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้