ท่านเทพธิดา พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะรบกวน ข้าหวังว่าท่านเทพธิดาจะยกโทษให้ข้าด้วย ซีเว่ยขอคาราวะ ! ข้าหวังว่าท่านจะพ้นจากความโศกเศร้าและปล่อยวางได้ ” เถียนซีเว่ย ผู้รู้สึกประทับใจอย่างยิ่งได้คุกเข่าลงและคำนับต่อเทพธิดา
ซีเว่ย ลุกขึ้นเถอะ ข้าเชื่อว่าเทพธิดาจะไม่ตำหนิพวกเรา โจวเย่กล่าวขึ้น
เถียนซีเว่ย พยักหน้าและเช็ดน้ำตาจากมุมตาของเธอ
แต่ในขณะที่เถียนซีเว่ยลุกขึ้น แสงสีม่วงสดใสก็ปรากฏขึ้นในถ้ำอันเงียบสงบ และแหล่งที่มาของแสงสีม่วงก็มาจากผนึก!
พี่เย่ อะไรนะ...เกิดอะไรขึ้น? ท่านเทพธิดากำลังตำหนิพวกเราใช่ไหม?” เถียนซีเว่ยถามด้วยความหวาดกลัว
ไม่ต้องกังวล รัศมีพลังไม่ได้มีเจตนาร้าย !" โจวเย่ขมวดคิ้ว แม้ว่าพลังนี้จะไม่มีเจตนาร้าย แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ขณะที่พวกเขาทั้งสองสับสนและแอบกังวล พวกเขาก็เห็นตัวอักษรยาวหนึ่งประโยคปรากฏบนผนึกที่เปล่งแสงสีม่วงสดใส
พี่เย่ ดูสิ นี่คืออะไร?” เถียนซีเว่ย ถามด้วยความประหลาดใจโดยดูข้อความบนผนึก
โจวเย่ มองดูแถวตัวอักษรด้วยความใและพูดว่า นี่ดูเหมือนจะเป็ทักษะดาบ!"
โจวเย่ยิ้มและกล่าวว่า "ซีเว่ย ความจริงใจขของเ้า ได้ััไปถึงจิตใจของเทพธิดา นี่คือมรดกของเทพธิดา เทพธิดา้าถ่ายทอดทักษะดาบและความรู้ตลอดชีวิตของนางให้กับเ้า"
ส่งต่อให้ข้าเหรอ? เถียนซีเว่ยใและไม่อยากจะเชื่อ
ขณะที่เถียนซีเว่ยยังคงตกตะลึง ทันใดนั้นแสงสีม่วงก็ยิงเข้าที่กลางคิ้วของเถียนซีเว่ย และข้อมูลจำนวนมากก็ส่งเข้ามาในหัวของเธอ
เถียนซีเว่ย ผู้ได้รับข้อมูล ภาพในหัวของเธอ มันเป็ฉากของเทพธิดาร่ายรำดาบ เทพธิดาร่ายรำดาบด้วยความโศกเศร้า ราวกับเธอร่ายรำดาบเพื่อเฝ้ารอใครบางคนอยู่
ทุกการเคลื่อนไหวััหัวใจ และก่อนที่เธอจะรู้สึกตัว น้ำตาของเถียนซีเว่ยก็ไหลออกมา รอยยิ้มและความเศร้าของเื่ราวต่างๆที่เทพธิดาได้พบเจอ ปรากฏบนหน้าที่สวยงามของเถียนซีเว่ย
สาวน้อยเ้าช่างมีจิตใจที่ดีนัก โจวเย่ถอนหายใจ และอดไม่ได้ที่จะนึกถึงหงเยว่ในใจ
หลังจากเวลาผ่านไปนาน โจวเย่ก็ค้นพบว่าเขาคิดถึงหงเยว่มาก
โจวเย่ เหลือบมองเถียนซีเว่ยและเดินออกมา เขาไม่ยากรบกวนเถียนซีเว่ยในการรับสืบทอดมรดก
บ่มเพาะ ! หลังจากเดินออกมาโจวเย่ก็สูดอากาศและพูดเบา ๆ
โจวเย่ะโขึ้นไปบนหินที่สูงหลายเมตรและนั่งลงเพื่อฝึกฝน เขาหยิบผงิญญาสามสีและยาวายุปราณออกมาแล้วกลืนมันลงไป แล้วโคจรเคล็ดวิชาร่างอสูราทันที
พลังแห่ง์และโลก ของหุบเขาหนาแน่นมาก ความเร็วในการฝึกฝนของโจวเย่นั้นยอดเยี่ยมมาก และพลังแห่ง์และโลกจากทุกทิศทางก็มากันที่เขาอย่างบ้าคลั่ง
เวลาผ่านไปสามชั่วโมง หลังจากที่ท้องฟ้ามืด พลังชีวิตที่แข็งแกร่งก็พัดออกมาจากในถ้ำ
ช่างเป็พลังชีวิตที่ทรงพลังจริงๆ! โจวเย่ที่ััได้ ได้ลืมตาขึ้น
ระดับที่หกของอาณาจักรนักยุทธ์ !
ระดับที่เจ็ดของอาณาจักรนักยุทธ์ !
ระดับที่แปดของอาณาจักรนักยุทธ์ !
โจวเย่ในขณะนี้ ตกตะลงกับการเลื่อนระดับของเถียนซีเวย เเละพลังชีวิตที่พัดออกมาจากในถ้ำก็ค่อยๆสงบลงแล้ว
โจวเย่สูดลมหายใจระงับความใ หากเถียนซีเว่ย ทะลวงอีก เขาต้องใจนเป็บ้าแน่ๆ
เดิมทีเถียนซีเว่ยมีพลังยุทธ์อยู่ในระดับที่ห้าของอาณาจักรนักยุทธ์เท่านั้น การมาที่นี่ของเถียนซีเว่ย ทำให้เธอได้รับผลประโยชน์เป็อย่างมาก
ไม่นานหลังจากนั้น เถียนซีเว่ย ก็เดินออกจากถ้ำพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
ซีเว่ย เป็ยังไงบ้าง?” โจวเย่ถามอย่างรวดเร็ว
พี่เย่ ท่านเทพธิดา ส่งต่อสิ่งที่ท่านได้เรียนรู้มาตลอดชีวิตมาให้ข้าแล้ว แต่ระดับการฝึกฝนในปัจจุบันของข้าอ่อนแอเกินกว่าจะฝึกฝนได้ แต่ก็มีบางอย่างที่ข้าพอจะฝึกฝนมันได้ในตอนนี้ เถียนซีเว่ยกล่าวอย่างตื่นเต้น
ซีเว่ย ยินดีด้วย ! ” โจวเย่ ยิ้มเล็กน้อย
เถียนซีเว่ย ยิ้มและพูดว่า "ขอบคุณพี่เย่
ซีเว่ย เ้าก็หาที่นั่งบ่มเพาะเถอะ ! ข้าจะบ่มเพาะต่อล่ะ โจวเย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
โจวเย่ยังคงบ่มเพาะต่อไป และในไม่ช้า ภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง พลังแห่ง์และโลกได้มาร่วมกันที่โจวเย่และได้ครอบคลุมร่างของโจวเย่
เถียนซีเว่ย ซึ่งกำลังวางแผนที่จะบ่มเพาะ ตกตะลึงและจ้องมองไปที่โจวเย่ ้าด้วยความใ
พี่เย่ ท่านเป็ใครกันแน่ ? ท่านควรจะเป็ศิษย์อัจฉริยะของที่ไหนสักแห่ง !” เถียนซีเว่ย อุทานในใจด้วยความประหลาดใจ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เธอสนใจในตัวของโจวเย่ ยิ่งขึ้นไปอีก
หลังจากนั้นไม่นาน เถียนซีเว่ยก็หาที่นั่งลงบ่มเพาะ
เมื่อเวลาผ่านไป พลังยุทธ์ของทั้งสองก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน
หลังจากนั้นหนึ่งเดือน ด้วยความช่วยเหลือจากพลังแห่ง์และโลก เถียนซีเว่ย ได้ทะลวงผ่านระดับที่เก้าของอาณาจักรคุรุยุทธ์
ในเดือนที่ผ่านมานี้ เถียนซีเว่ยใช้เวลาเกือบทั้งหมดด้วยความตกตะลึง แม้ว่าเธอจะได้เคล็ดวิชาบ่มเพาะมาจากเทพธิดาและมีความก้าวหน้าอย่างมากในการฝึกฝน แต่ความเร็วในการฝึกฝนของเธอยังเปรียบเทียบกับของโจวเย่ไม่ได้เลย
หลังจากการฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งเป็เวลาหนึ่งเดือน โจวเย่ก็ทะลวงสองระดับไปได้ภายในหนึ่งเดือน และความเร็วของการฝึกฝนที่น่ากลัวนี้อยู่นอกเหนือการเข้าใจของเถียนซีเว่ยโดยสิ้นเชิง
ระดับที่แปดของอาณาจักรนักยุทธ์ไม่เลวเลย ที่นี่มันเป็ขุมทรัพย์สำหรับการฝึกฝนจริงๆ” โจวเย่พึมพำกับตัวเองและหัวเราะ เขาสามารถทะลวงผ่านสองระดับในหนึ่งเดือน เขามีความสุขมาก
ความแข็งแกร่งของโจวเย่ ได้รับการเปลียนแปลงอย่างมากและอีกไม่นานเขาจะไปถึงอาณาจักรคุรุยุทธ์แล้ว
ลูกบาศก์โบราณ ก็เปลียนแปลงไปมากเช่นกันมันเกือบกลายเป็สีดำสนิทแล้ว มันอาจจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หากข้าทะลวงผ่านอาณาจักรคุรุยุทธ์ โจวเย่แอบคาดเดา
พี่เย่ ความเร็วการฝึกฝนของท่านน่ากลัวเกินไป ท่านทะลวงสองระดับในหนึ่งเดือน ถ้าข้าไม่ได้เห็นมันด้วยตาของตัวเอง ข้าคงไม่เชื่อเลย” เถียนซีเว่ย กล่าวอย่างบูดบึ้ง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น โจวเย่ก็ค่อยๆ ยืนขึ้นและพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ ซีเว่ย เ้าเองก็ทะลวงสีระดับในหนึ่งเดือน ตอนนี้พลังยุทธ์ของเ้าอยู่ในระดับที่เก้าแล้ว และมันอยู่เหนือกว่าข้า
พี่เย่ ! มันแตกต่างกันออกไป ข้าทะลวงสามระดับเพราะได้รับมรดกของเทพธิดา ถ้านับเวลาจากการฝึกฝนแล้วข้าทะลวงเพียงระดับเดียวเท่านั้น เถียนซีเว่ยพูดและมุ่ยปากของเธอ
หลังจากหยุดครู่หนึ่ง เถียนซีเว่ยก็ถามต่อว่า พี่เย่ ท่านใช้วิธีอะไรกัน ทำไมความเร็วในการฝึกฝนถึงยอดเยี่ยมมาก หรือท่านเป็ศิษย์อัจฉริยะของนิกายนภา์?” เถียนซีเว่ยถามอย่างสงสัย เธอถามเพราะว่าพร์ของเธอก็ไม่ได้แย่ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับโจวเย่ เธอรู้สึกว่าพร์ของเธอยังห่างกันเกินไป
โจวเย่ส่ายหัวและกล่าวว่า "ข้าไม่ใช่ศิษย์ของนิกายนภาสรรค์ และข้าไม่ได้อยู่ในนิกายใด ๆ พร์จิติญญาการต่อสู้ของข้้าเป็เพียงระดับที่สองเท่านั้น