“เื่มันมีอยู่ว่า ช่างเถอะ ไม่อยากจะเล่าเลยเล่าแล้วมันยาวและเ็ป
เอาเป็ว่าฉันที่เคยเป็ผู้ช่วยแม่ครัวย้ำว่าผู้ช่วยแม่ครัวไม่ได้เป็ช๊งเป็เชฟอะไรกับเขาหรอก
ก็แค่ผู้ช่วยแม่ครัวในร้านอาหารแต่ต้องทำทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆ ขัดห้องน้ำ ล้างจาน และทำอาหารแทนแม่ครัว แต่เขาดันเรียกว่าเป็คนปรุงเพราะวันไหนที่แม่หัวหน้าแม่ครัวไม่มา อี่ศรีคนนี้แหละจะต้องทำทุกงาน ั้แ่หั่นผักยันปรุง
“ก็คิดว่าช่วยๆ กัน”
เ้าของร้านพูดเมื่อวันสุดท้ายของปี ที่แม่ครัวแกดันกลับบ้านที่ต่างจังหวัดไม่บอกไม่กล่าวสักคำ เราจึงต้องใช้คำว่าช่วยๆ กันั้แ่เช้า
อีศรีไพรคนนี้ก็เลยต้องทำทุกตำแหน่งในร้าน จน..จนในที่สุดฉันก็ได้พัก ดื่มสุราในคืนข้ามปีพร้อมกับน้องๆเด็กเสิร์ฟในร้านที่แอบรินสารพัดสุราที่ลูกค้าดื่มไม่หมด มาลงขวดเก็บไว้ ผลจากสุราที่เรียกว่า หลาสยกษัตรย์ผสมกันทำเอาร่างกายที่อ่อนล้ามาทั้งวันทิ้งตัวหล่นตุ๊บในท่าตะแคงข้างลงบนพื้นกระเบื้องในท่านั่ง
โลกหมุนติ้วสีฟ้าขาวเหลือง แดง ม่วง น้ำเงิน ส้ม ชมพูแสงสว่างวาบ
แล้วมาหล่นตุ๊บอีกทีที่ไหนสักแห่ง
“$@#*+&&¢£¥%”
จูนแป็บ…เขาพูดอะไรกัน สะบัดศีรษะไปมา
“เร็วเข้า ฝ่าาเพิ่งจะกวาดเครื่องเสวยลงพื้นจนหมดพวกเ้าขืนช้าเกรงว่าเอาคอไปพาดไว้ที่ลานปะา”เสียงเข้มของใครบางคนแค่ฟังน้ำเสียงก็รุ้แล้วว่าวางอำนาจแค่ไหน
อ่อภาษาจีน ทำไมพูดภาษาจีน แล้วที่นี่ที่ไหนอย่าถามโง่ๆ ออกไปนะศรีไพร
อืมคงเป็ฝันแหละ จะต้องเป็ฝันแน่ๆ ก็ดันดื่มเสียเกือบหมดขวด ซีวาส รีกัล ผสมกับแบล็ค เรด และอื่นๆบลาๆๆหอมละมุนเหนื่อยๆ ฟาดเสียเต็มพิกัด แล้วดื่มแบบซ๊อตด้วยสิ
“คุณหนูเข่อชิง รีบลุกมาช่วยกันอย่ามัวแต่ฝันกลางวันคิดว่าตัวเป็คุณหนูบ้านใหญ่“คุณหนู!ใครกันคือคุณหนู อย่าบอกนะว่าศรีไพรมาเป็คุณหนูบ้านใหญ่
เสียงป้าตื้อที่พูดไม่พูดเปล่าเดินมาดึงหูศรีไพรให้ติดมือไปด้วย อ้าวนั่นประชดหรอกหรือ
”ปล่อยนะ”
ปากพูดตามองรอบๆตัว นี่มันห้องครัว แต่ทำไมใหญ่โตมโหราฬขนาดนี้ นางในห้องเครื่องที่ต่างนั่งกุมขมับเพราะกลัวจะถูกลงทัณฑ์ในเมื่อฮ่องเต้ไม่ยอมเสวยอะไรเลยทุกอย่างจึงมาลงที่ห้องเครื่อง
”หือข้าล่ะเกลียดความเสแสร้งของเ้าจริงแม่นางน้อยเข่อชิง วางท่าราวกับคุณหนูกลางวันแอบงีบ กลางคืนนอนแต่หัวค่ำ คนอื่นเขากลุ้มใจแต่เ้ากลับหลับได้สบายๆ”
ฟาดมือลงบนแผ่นหลังเสียงดังตุ๊บตั๊บ
“ยอมแล้ว ยอมแล้ว”เจ็บจัง! ศรีไพรรีบลุกขึ้นมามนั่งตากลม
”ไปช่วยกันปรุงอาหาร หลายวันมานี้ไม่มีอาหารชนิดใดที่ฝ่าายอมเสวย หัวหน้าห้องเครื่องจึงให้พวกเราลองปรุงอาหารถวาย ทุกคนในห้องเครื่องจะต้องปรุงเครื่องเสวยแล้วลองนำไปถวายฝ่าา วันนี้ถึงคิวเ้าแล้วเข่อชิง“
”หา ทำอาหารอีกแล้วหรือ”เบ้ปากด้วยความเบื่อหน่าย
“เ้าจะทำอาหารชนิดไหนเลือกเอาจะของคาวรึของหวาน หากฝ่าาทรงยอมเสวยจึงได้ไปต่อแต่หากฝ่าากวาดเครื่องเสวยของเ้าทิ้งไปนั่นเท่ากับว่าพวกเราซวยแล้วเข่อชิงเหลือเพียงเ้ากับ เฟยฟางสองคนเท่านั้นที่จะช่วยพวกเราไม่เช่นนั้นคงต้องหอบห่อผ้ากลับไปทำนาไร่”
“ยายแก่ แกพูดง่ายไปแล้ว หากวันนี้ฝ่าายังไม่ยอมเสวยคาดว่าจะโมโหหิวจนสั่งปะาพวกเราเสียทีเดียว ในเมื่อไม่เสวยอะไรมาห้าวันแล้วนั่นเท่ากับพวกเราถึงคราวซวย”
ลุงซุนพูดด้วยน้ำเสียงเป็กังวล
โอ้โห้โอโห้ ตึงเครียดขนาดนี้เลยหรือ ความเป็ความตายนี่คนดีดี อย่างศรีไพรจะนิ่งเฉยได้อย่างไรกัน ยนานๆจะได้เป็คนดีเสียที ปกติปแล้วช่างหัวมัน
“ได้ยินไหมเข่อชิง เ้าเร่งลงมือเถิด”
ศรีไพรยิ้มเจื่อนๆ ดึงผ้าสีทึมมาคาดที่เอวกิ่ว ถลกแขนเสื้อขึ้น เอาวะ
เหลือบตามองวัตถุดิบในกระจาด มีสิ่งใดพอใช้ได้บ้าง
“ของดีๆ ทำถวายก็ถูกกวาดลงพื้นจนสิ้น เหลือวัตถุดิบเท่าที่เห็น”ป้าตื้ออธิบายฉอดๆ
“แล้วทำไมไม่นำมาเพิ่ม”ลุงซุนบ่น
“ตาแก่ ข้าเห็นว่านำมาเพิ่มได้ฝ่าาก็ไม่ยอมเสวยของดีๆ ไม่ว่าจะหมูตุ๋นหรือไก่ตุ๋นก็กวาดลงพื้นเสียสิ้น”
ศรีไพรถอนหายใจ
“ถอยไปเลยทั้งสองคน”จะให้เร่งมือแต่มาเสียงดังข้างๆ
ส่งเสียงเข้ม เหมือนทุกครั้งที่กำลังจะลงมือปรุงอะไรสักอย่างการทำอาหารสำหรับศรีไพรคือศิลปะอย่างหนึ่งที่ต้องใช้ใจและสมาธิ
ป้าตื้อกับลุงซุนมองตากันแล้วถอยออกไปปล่อยให้ศรีไพรง่วนกับวัตถุดิบตรงหน้า
“อะไรดี”
เหลือบไปที่กระจาดที่วางอยู่ตรงนั้น หยิบของบางอย่างขึ้นมาดูขึ้นมาดู
“นั่นเ้าจะทำอะไรของสกปรกแบบนั้นไม่เหมาะกับเครื่องเสวยฝ่าาเป็ถึงโอรถ์”
ลุงซุนพูดดังๆ กลัวว่าศรีไพรจะเอาของที่ไม่เหมาะแก่ฐานะของฮ่องเต้ทำปรุงเื่เสวย
ศรีไพรหยิบของสิ่งนั้นมาหั่นเป็ชิ้นยาวๆ บั้งเหมือนกับบั้งหมึกสับปะรดตั้งกระทะเทน้ำมันใส่ โยนสิ่งที่หั่นบังไว้ลงไปทอดด้วยไฟแรงไม่สนใจสายตาของลุงซุน
“เ้า เ้าบังอาจนัก”ชี้มือสั้นระริกไปที่ศรีไพร ที่บัดนี้หลุดกเข้าไปในโลกส่วนตัวเสียแล้วไม่สนใจเสียงรอบข้าง
“ลุงเชิญออกไปรอด้านนอกเสร็จแล้วจะยกออกไปให้”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้