จี้หย่าอยู่ที่ไหนน่ะหรือ เธออยู่ที่บ้านตระกูลหนิง
หนิงเยี่ยนฝานเป็สถาปนิกชื่อดัง
แต่ลูกชายและลูกสาวของหนิงเยี่ยนฝานไม่มีใครมีพร์ด้านสถาปัตยกรรมแม้แต่คนเดียว หนิงเยี่ยนฝานจึงให้พวกเขามุ่งเป้าเอาดีทางด้านอื่น
แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ทุกคนก็ประสบความสำเร็จตามแบบฉบับของตนเองแล้ว หากมองโดยภาพรวม ที่จริงตระกูลหนิงแข็งแกร่งกว่าตระกูลจี้ไม่น้อย มิเช่นนั้นมีหรือที่จี้หย่าจะคิดว่าหนิงเสวี่ยคือคนที่เหมาะสมกับจี้เจียงหยวน เธอคือคนที่เคยผ่านชีวิตแต่งงานที่ ‘ไม่เหมาะสมกัน’ มาก่อน ดังนั้นเธอจึงคิดว่าหนิงเสวี่ยคือคนที่คู่ควรกับจี้เจียงหยวนมากที่สุด
จากจุดนี้คนตระกูลหนิงเองก็เห็นพ้องเช่นเดียวกัน ถึงอย่างไรตอนจี้เจียงหยวนอยู่อเมริกาก็มีประวัติที่ไม่เลว สาขาที่หนิงเสวี่ยเรียนย่อมต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ และเมื่อไปอเมริกาจะได้มีจี้เจียงหยวนและจี้หย่าคอยดูแล ทว่าคนตระกูลหนิงไม่มีค่านิยมใช้คำสั่งของพ่อแม่มาบีบบังคับ ทุกสิ่งอย่างล้วนขึ้นอยู่กับว่าตัวหนิงเสวี่ยนั้นคิดเห็นอย่างไร
หนิงเสวี่ยเคยไปอเมริกาสมัยมัธยมปลาย และได้ทำความรู้จักกับจี้เจียงหยวนอยู่นานสองเดือน
ระหว่างทั้งสองคนเกิดเื่อะไรขึ้นบ้างไม่มีใครรู้ แต่หลังหนิงเสวี่ยกลับมาที่ประเทศจีน สำหรับเื่ที่ตระกูลหนิงอยากให้เธอกับจี้เจียงหยวนคบหากันนั้น เธอไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด
หนิงเยี่ยนฝานเป็เพื่อนเก่าเพื่อนแก่กับคุณตาจี้มาหลายสิบปี ตอนจี้หย่ายังเด็ก เธอมักจะมาที่บ้านตระกูลหนิงอยู่เป็ประจำ ดังนั้นเธอจึงเห็นหนิงเยี่ยนฝานเป็เสมือนคุณอาแท้ๆ ของเธอ
ตอนนี้คุณตาจี้ไม่อยู่แล้ว จี้หย่ามีเื่เดือดร้อนจึงอยากมาหาหนิงเยี่ยนฝานและขอให้เขาช่วยจัดการ
ทำงานด้านก่อสร้างมานานหลายปี อายุเข้าเลขเจ็ด ทว่าร่างกายและสีหน้าท่าทางของชายชราผู้นี้ยังดูแข็งแรงไม่ใช่น้อย
หนิงเยี่ยนฝานอายุเจ็ดสิบแล้วแต่ยังไม่เลิกทำงาน ตอนจี้หย่ามาถึงบ้านหนิง เขากำลังสอนเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งสร้างแบบจำลองอยู่ในห้องทำงาน
“คุณอาหนิงเยี่ยนฝาน...”
จี้หย่าใบหน้าซีดขาว เธอจะเสียอาการต่อหน้านักเรียนของหนิงเยี่ยนฝานไม่ได้
“ลองลงมือทำกันเองก่อน อีกเดี๋ยวค่อยมาคุยเื่ความคิดเห็นกับฉัน”
หนิงเยี่ยนฝานกำชับเหล่านักเรียนไม่กี่คำก็เดินนำจี้หย่าไปยังห้องข้างๆ หนิงเสวี่ยคอยต้อนรับจอร์จอยู่ที่ห้องรับแขก ดังนั้นจี้หย่าจึงมาหาหนิงเยี่ยนฝานตามลำพัง
หลังเข้ามาในห้องที่ลับตาคนและมีกำแพงกั้นเสียง จี้หย่าก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
“คุณอาหนิง เขากำลังจะบีบฉันให้ตายค่ะ! คุณอาดูสิคะ เขาไม่ได้ไม่จงเกลียดจงชังฉัน แต่เขายังจงใจเก็บซ่อนความคิดของตัวเองไว้อีกด้วย ตอนนี้พ่อของฉันจากไปแล้ว เขาเลยไม่คิดจะอดทนอีกต่อไปสินะ!”
เขาที่ว่าย่อมหมายถึงทังหงเอิน
เื่ของจี้หย่ากับทังหงเอิน หนิงเยี่ยนฝานย่อมรู้ดี
ตอนที่จี้หย่า้าหย่าร้าง ความจริงแล้วหนิงเยี่ยนฝานไม่เห็นด้วยสักเท่าไร หนิงเยี่ยนฝานรู้สึกว่าแม้สถานการณ์จะย่ำแย่ถึงขีดสุดแล้ว แต่ก็ย่อมมีโอกาสพลิกผัน ขอเพียงจี้หย่ากับตระกูลจี้อดทนอีกเพียงไม่กี่ปี รอจนกระทั่งความไม่สงบสิ้นสุดลงก็พอ ทังหงเอินไม่ได้ทำผิด จะบีบให้เขาขาย ‘ผู้มีพระคุณ’ เพื่อเอาตัวรอดก็คงไม่ได้ จริงหรือไม่เล่า หากทังหงเอินเป็คนเช่นนั้นต่างหาก ตระกูลจี้ถึงควรหวาดระแวงลูกเขยคนนี้
แต่คุณตาจี้ไม่รับฟังความเห็นของหนิงเยี่ยนฝาน
ทุกคนในตระกูลจี้ต่างอดรนทนไม่ไหว หนิงเยี่ยนฝานก็มิอาจตัดสินใจแทนตระกูลจี้ จึงทำได้เพียงเคารพการตัดสินใจของตระกูลจี้เท่านั้น
ตัดสินใจอย่างไรไม่ใช่เื่สำคัญ แต่หลังตัดสินใจเลือกแล้วก็ควรยอมรับผลของมันให้ได้สิ
สถานการณ์หลังจากนั้นเป็ไปตามที่หนิงเยี่ยนฝานคาดการณ์ ไม่กี่ปีต่อมาฟ้าก็สดใส ทังหงเอินเติบโตในหน้าที่การงานอย่างราบรื่น
ตระกูลจี้กังวลว่าทังหงเอินจะกลับมาแก้แค้น ทว่าหนิงเยี่ยนฝานกลับคิดว่าคนที่ไม่ขาย ‘ผู้มีพระคุณ’ เพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขัน ไม่มีทางกลับมาแก้แค้นครอบครัวของอดีตภรรยา แม้จี้หย่าหย่าร้างแล้วก็ไม่ได้ซ้ำเติมเขา ทุกสิ่งที่ทำไปเพื่อตระกูลจี้เท่านั้น
หลังทังหงเอินกลับมารับราชการ เขาไม่เพียงไม่แก้แค้นตระกูลจี้ ทั้งยังให้ความเคารพคุณตาจี้อยู่เสมอ และเดินทางไปที่บ้านตระกูลจี้อยู่ทุกปี
คุณตาจี้รู้สึกผิดต่อเขาจึงไม่เคยออกไปพบเลยสักครั้ง
หนิงเยี่ยนฝานเองก็รู้เื่นี้ดี
ทำผิดพลาดแต่ไม่ยอมลดทิฐิเอ่ยคำขอโทษ ปัจจุบันเขาตายจากไปแล้ว ขุดคุ้ยเื่นี้ต่อก็ไม่มีความหมายอะไร สิ่งเดียวที่หนิงเยี่ยนฝานกังวลก็คือ ตระกูลจี้คิดว่าสามารถใช้จี้เจียงหยวนควบคุมทังหงเอินได้ ยิ่งรู้สึกผิดก็ยิ่งรังแกอีกฝ่ายสินะ... แน่นอนว่าการที่ตระกูลจี้ไม่ยอมให้ทังหงเอินติดต่อกับจี้เจียงหยวนเป็สิ่งที่หนิงเยี่ยนฝานไม่เห็นด้วยมากที่สุด
ปัญหาที่ซุกเอาไว้ใต้พรม เวลาะเิออกมาพลังทำลายล้างย่อมน่ากลัวอย่างแน่นอน
อย่างน้อยทังหงเอินก็ดูจะมีอนาคตที่สดใส ด้วยอายุของทังหงเอินเวลานี้ไม่แน่ว่าอาจจะอยู่ในอำนาจได้อีกยี่สิบปี
เพื่อนเก่าของเขาได้จากไปแล้ว ตระกูลจี้คงมีแต่จะตกต่ำลงเรื่อยๆ อย่างแน่นอน
ทั้งที่มีสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดอย่างจี้เจียงหยวนแต่กลับไม่ใช้ประโยชน์ ดัน้าสร้างความบาดหมางกับทังหงเอิน หนิงเยี่ยนฝานไม่เข้าใจตระกูลจี้เลยจริงๆ คนฉลาดเวลาคุยกับคนโง่นั้นช่างยากลำบากเหลือเกิน แน่นอนว่าความคิดและวิธีการของหนิงเยี่ยนฝานส่งอิทธิพลต่อหนิงเสวี่ยเป็อย่างมาก
ปัจจุบันพอทังหงเอินเอาจริงขึ้นมา ตระกูลจี้ถึงเริ่มตื่นตระหกไปตามๆ กัน
คนที่สามารถบริหารงานราชการได้เช่นนั้นจะยอมถูกคนตระกูลจี้ควบคุมไปตลอดได้อย่างไร ความอดทนของมนุษย์ล้วนมีขีดจำกัด ตระกูลจี้ท้าทายกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทังหงเอินไม่อยากอดทนอีกต่อไป เวลาแบบนี้หนิงเยี่ยนฝานจะสามารถช่วยอะไรได้เล่า
จี้หย่ามาหาที่บ้านหนิง แน่นอนว่าหนิงเยี่ยนฝานไม่อยากเจอเธอเลยจริงๆ
จากหลักเกณฑ์ของหนิงเยี่ยนฝานนั้น ผู้หญิงคนนี้เป็คนไร้สติและโง่เขลา
จี้หย่าสมัยสาวๆ มีความสามารถรอบด้าน เพราะตระกูลจี้เลี้ยงดูเธอมาอย่างดี มิเช่นนั้นเธอคงยืนหยัดด้วยตัวเองที่อเมริกาไม่ไหว แต่ดูจากการตัดสินใจหลายครั้งในชีวิตส่วนตัวของเธอ หนิงเยี่ยนฝานไม่รู้จะพูดอย่างไรดี มีคนตามจีบตั้งมากมายแต่ดันเลือกทังหงเอิน เนื่องจากทั้งสองคนเติบโตมาจากสภาพแวดล้อมที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ชีวิตแต่งงานย่อมมีความขัดแย้งกันอย่างแน่นอน ในเมื่อเลือกคนหนุ่มยากจนเป็คู่ครองก็ควรเตรียมใจลำบากไปกับเขาด้วยสิ
แต่นี่กลับลำบากได้เพียงครึ่งทางก็ขอหย่าร้าง เช่นนั้นความลำบากก่อนหน้านี้จะทนไปเพื่ออะไร?
สู้ไม่เลือกแต่แรกยังดีเสียกว่า ในเมื่อเลือกแล้วก็ควรเชื่อมั่นใจสายตาของตัวเองสิ!
พอเห็นจี้หย่า สิ่งที่รอคอยหนิงเยี่ยนฝานอยู่ก็คือการร้องไห้ฟูมฟายของเธอ มิเช่นนั้นคนอื่นจะบอกว่าจี้หย่าเห็นแก่ตัวหรือ เธอคิดแต่จะระบายอารมณ์ของตัวเอง และไม่คิดเสียเลยว่าหนิงเยี่ยนฝานนั้นอายุเท่ากับคุณตาจี้ แม้สุขภาพจะดีแค่ไหน อย่างไรก็เป็ชายชราอายุเจ็ดสิบปี คงรองรับอารมณ์ของเธอได้ไม่มาก จี้หย่าฟูมฟายอย่างน่าสงสาร แต่ร่างกายและจิตใจของหนิงเยี่ยนฝานคงแบกรับไม่ไหว
ทว่าจี้หย่าหาได้สนใจไม่ โชคดีที่หนิงเยี่ยนฝานฝืนทนไว้ได้
หลังฟังเธอเล่าเื่อย่างสับสนวุ่นวาย หนิงเยี่ยนฝานก็หยุดคิดไปชั่วครู่
“หลานเป็หลานสาวที่อาเห็นมาั้แ่เล็ก ตอนนี้พ่อของหลานจากไปแล้ว อาย่อมมีหน้าที่ช่วยดูแลครอบครัวของหลานแทนเขา ไหนๆ เื่ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว อาคงทำได้แค่แบกหน้าไปช่วยขอประนีประนอมกับพ่อของเจียงหยวนเขา พวกหลานนั่งจับเข่าคุยกัน เจรจาตกลงเงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายต่างยอมรับได้เถิด”
จี้หย่าหายใจสะดุด
คุณอาหนิงควรออกหน้าปกป้องเธอมิใช่หรือ
ทำไมถึงบอกให้เธอไปขอประนีประนอมกับทังหงเอินเล่า
เธอกับทังหงเอินจะประนีประนอมกันได้อย่างไร!
จี้หย่าเริ่มสติหลุด หนิงเยี่ยนฝานคาดไว้แล้วว่าจี้หย่าคงไม่คิดจะฟังคำแนะนำของเขา
หนิงเยี่ยนฝานคงต้องทำให้เธอรู้สึกผิดหวัง ชายชราวัยขึ้นเลขเจ็ดอย่างเขาจะทำให้ครอบครัวของตนเดือดร้อนโดยการไปสู้รบกับทังหงเอินเพื่ออะไร ในเมื่อมีวิธีการที่ดีกว่าอยู่แล้ว ทำไมต้องสู้กันให้เสียหายกันทั้งสองฝ่ายด้วย สู้เพื่อศักดิ์ศรีของจี้หย่า เพื่อให้เธออยู่เหนือกว่าอดีตสามีน่ะหรือ
จี้หย่าไม่เข้าใจและขอตัวกลับไปพร้อมความผิดหวัง
หนิงเสวี่ยเดินเข้ามา เหมือนอยากพูดบางอย่างแต่ก็หยุดกลางคัน
“หลานคงอยากถามปู่ใช่ไหมว่าทำไมไม่ช่วยตระกูลจี้ อาเสวี่ย ที่ปู่อายุยืนกว่าคุณปู่จี้ของหลาน ก็เพราะปู่สามารถปล่อยวางได้”
อยากอายุยืนไม่เพียงต้องรู้จักปล่อยวางเท่านั้น อีกทั้งยังควรลดความบุ่มบ่าม ไม่ยุ่งเื่ของผู้อื่น รวมถึงทำจิตใจให้สงบและโมโหให้น้อยลง!
เขาเสนอวิธีแก้ไขให้แล้ว แต่จี้หย่าจะเลือกใช้หรือไม่ หนิงเยี่ยนฝานคงไม่สามารถก้าวก่ายได้