เห็นสีหน้าของเนี่ยหลี หยางซินก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เนี่ยหลีคงต้องมีความขัดแย้งบางอย่างกับเสิ่นเฟยผู้นี้ เนี่ยหลีเรียกนางมา วัตถุประสงค์นั้นชัดเจนยิ่ง นี่เป็การต่อสู้กับตระกูลเสินเซิ่ง
แม้รู้ว่าจะต้องมีเื่บาดหมางใจกับตระกูลเสินเซิ่ง หยางซินยังไม่ลังเลที่จะยืนอยู่ฝ่ายเดียวกันกับเนี่ยหลีแม้แต่น้อย นางตัดสินใจได้อย่างง่ายดายยิ่ง
“ฮึ” เสิ่นเฟยร้องเสียงขึ้นจมูกคราหนึ่ง ไม่ใส่ใจเนี่ยหลี ‘ปล่อยให้เ้าโอหังไปอีกสักครู่หนึ่งก่อน รอจนถึงเวลาที่งานประลองเยาวชนผู้มีพร์เริ่มต้นขึ้น ดูสิว่าข้าจะเล่นงานเ้าให้ตายได้อย่างไร!”
“ฮ่าๆ คุณชายเสิ่นเฟยช่างเป็มิตรเสียจริงๆ!” เนี่ยหลีหัวเราะ “หนิงเอ๋อเล่าเื่ของท่านให้ข้าฟังอยู่บ่อยๆ บอกว่าคุณชายเสิ่นเป็คนจิตใจกว้างขวางผู้หนึ่ง!”
เมื่อได้ยินเนี่ยหลีพูดถึงเซียวหนิงเอ๋อ เสิ่นเฟยก็แทบโมโหจนแทบจะะเิออกมาแล้ว เนี่ยหลีช่างจี้ลงบนจุดอ่อนของเขาโดยแท้ รู้สึกเหมือนบนศีรษะของตนมีหมวกเขียวใบหนึ่งสวมอยู่ก็ไม่ปาน (ถูกสวมเขา)
เห็นสีหน้าของเสิ่นเฟยกลายเป็สีตับหมู เนี่ยหลีทำเหมือนไม่รู้เื่รู้ราวแม้แต่น้อย ยังคงพูดต่อไป “เมื่อเร็วๆ นี้ความก้าวหน้าในการฝึกยุทธ์ของนางเพิ่มพูนขึ้นอย่างก้าวะโทีเดียว อีกไม่นานก็คงเลื่อนขึ้นถึงระดับเงินแล้ว หลังจากที่ข้าช่วยนวดให้นาง อาการป่วยของนางก็ดีขึ้นจนแทบหายขาดแล้ว พูดถึงเื่นี้ขึ้นมา คุณชายเสิ่นควรจะต้องขอบคุณข้าให้มากแล้ว!”
นวด...
ได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี ในหัวของเสิ่นเฟยก็พลันบังเกิดภาพวาบหวิวบางอย่างขึ้นมา แทบอยากจะกระอักเืออกมาสักคำหนึ่ง ต้องทราบว่ากระทั่งบัดนี้ แม้แต่มือของเซียวหนิงเอ๋อก็ยังไม่เคยยอมให้เขาแตะต้องมาก่อน!
“คนแซ่เนี่ย เ้ายั่วโทสะข้าจนแทบจะบ้าตายแล้ว ข้าจะฆ่าเ้า!” เสิ่นเฟยไม่อาจอดกลั้นต่อไปได้อีกแล้ว สองตาเบิกกว้างถมึงทึง ในฐานะที่เป็คุณชายแห่งตระกูลเสินเซิ่ง เมื่อไหร่กันที่เขาจะเคยถูกเยาะเย้ยถากถางถึงเพียงนี้? เสิ่นเฟยถลันตัวออกไป ชกใส่เนี่ยหลี
เวลานี้ สองคิ้วของหยางซินเลิกสูง นางกระโจนเข้าขวางระหว่างคนทั้งสอง แม้นางจะรู้ดีว่าเนี่ยหลีเจตนายั่วยุอารมณ์ของเสิ่นเฟย ทว่าในใจได้แต่ยิ้มขื่น ในเมื่อเสิ่นเฟยคิดหาเื่เนี่ยหลี นางย่อมไม่อาจนั่งดูอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร
เห็นเนี่ยหลีจงใจยั่วยุอารมณ์ของเสิ่นเฟย ทำให้หยางซินต้องออกหน้าให้ เสิ่นิก็บังเกิดความโกรธขึ้นมาเล็กน้อย ดึงเสิ่นเฟยเอาไว้ด้วยท่วงท่าสงบเยือกเย็นยิ่ง
“คุณชายเสิ่นเฟย อย่าได้หุนหันพลันแล่น!” เสิ่นิเอ่ยขึ้นพร้อมยิ้มแย้ม “งานประลองเยาวชนผู้มีพร์กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้านี้แล้ว คิดว่าคนของตระกูลเนี่ยก็คงจะต้องส่งคนลงสนามแข่ง ถึงเวลานั้นค่อยเปรียบฝีมือกันจะไม่ดีกว่าหรือ? ไม่จำเป็ต้องทำให้เสียมิตรภาพที่นี่เลย!”
ทรวงอกของเสิ่นเฟยหอบขึ้นหอบลงไม่หยุด ฝืนกดข่มความโกรธในใจลง ชำเลืองมองเนี่ยหลี เขาเห็นชัดเจนว่าเนี่ยหลีได้รับการปกป้องจากสมาคมนักปรุงยาวิเศษ ถึงได้ไม่กลัวอะไร ดังนั้นเขาจึงไม่อาจทำอะไรเนี่ยหลีได้ ทว่าเมื่องานประลองเริ่มต้นขึ้น เขาจะต้องหาโอกาสสั่งสอนเนี่ยหลีสักบทเรียนหนึ่งให้จงได้
หากเนี่ยหลีไม่ยอมลงสนาม เช่นนั้นก็ให้พวกของมัน คนจากตระกูลเทียนเหินที่ลงสนามถูกตีจนเจียนตายแทน ดูสิว่าเนี่ยหลีจะยอมลงสนามหรือไม่!
เสิ่นเฟยสูดลมหายใจลึกคำหนึ่งและหยุดเท้าลง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เนี่ยหลีพูดขึ้นเรียบๆ ว่า “รอคอยงานประลองเยาวชนผู้มีพร์อยู่เช่นนี้ ไม่ได้กำไรกลับมาบ้างก็คงจะน่าเบื่อไร้สีสันยิ่ง หากไม่มีการพนันขันต่อ ข้าไม่ขอลงสนามจะดีกว่า”
“โอ๋?” เสิ่นิชำเลืองมองเนี่ยหลีเล็กน้อยและเอ่ยถาม “ไม่ทราบว่าน้องชายท่านนี้อยากพนันอะไรหรือ?”
“การประลองเยาวชนผู้มีพร์รอบนี้ เปลี่ยนข้าเป็เ้ามือเถอะ! ไม่ว่าตระกูลเสินเซิ่ง้าพนันเท่าไหร่ ข้าล้วนรับหมด ทว่าหากเงินที่ลงพนันน้อยเกินไป ข้าก็ไม่สนใจจะเล่น!” เนี่ยหลีพูดด้วยท่วงท่าสบายๆ ยิ่ง
“ให้เ้าเป็เ้ามือ? เ้ามีเงินพอหรือ?” สองคิ้วของเสิ่นิเลิกสูง หากเปิดการพนัน สองฝ่ายต้องมีเงินวางเดิมพันเท่ากัน ผู้ชนะได้เงินทั้งหมด “ข้าเกรงว่าตระกูลเทียนเหินจะรับไม่ไหว!”
“มีพี่สาวหยางอยู่ทั้งคน ตระกูลเทียนเหินยังเกรงว่าจะรับไม่ไหวหรือ?” เนี่ยหลียิ้มบาง
หยางซินที่อยู่ด้านข้างมองออกแล้ว เหตุผลที่เนี่ยหลียั่วให้เสิ่นเฟยโกรธ ยั่วยุตระกูลเสินเซิ่ง ที่แท้ก็เพื่อให้มั่นใจว่าตระกูลเสินเซิ่งจะติดกับ ยอมพนันกับเขา ดูท่าเนี่ยหลีคงมีความมั่นใจว่าจะชนะเสิ่นเฟยได้
“หากน้องเนี่ยหลีมีเงินไม่พอ ข้าก็ยินดีที่จะช่วยจ่ายแทนเขา!” หยางซินยิ้มน้อยๆ พูด
“ในเมื่อผู้อำนวยการหยางกล่าวเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเราก็มาเล่นกันสักตาสองตา การแข่งขันระหว่างคุณชายเสิ่นเฟยและคุณชายเนี่ยหลี ข้าขอพนันว่าคุณชายเสิ่นเฟยจะเป็ฝ่ายชนะ พนันกันที่ห้าสิบล้านเหรียญจิตอสูร กล้ารับหรือไม่?” เสิ่นิหรี่สองตา ชำเลืองมองเนี่ยหลี
เสิ่นเฟยก็จ้องมองเนี่ยหลีด้วยสายตาชั่วร้ายยิ่ง
“ห้าสิบล้านเหรียญจิตอสูรรึ?” เนี่ยหลีเบิกตากว้างทันที
“เป็อย่างไร กลัวแล้วหรือ?” เสิ่นเฟยร้องฮึคำหนึ่ง ลงพนันครั้งเดียวห้าสิบล้านเหรียญจิตอสูร ยังจะไม่ทำให้เ้ากลัวจนทำตัวไม่ถูกได้อย่างไร?
“ข้าว่า เงินห้าสิบล้านเหรียญจิตอสูรเท่านี้ พวกเ้ายังกล้าลงเล่นรึ? ตระกูลเสินเซิ่งใหญ่โตถึงเพียงนี้ กลับกล้าลงพนันเพียงแค่นี้!” เนี่ยหลีทำหน้าสงสัยหันไปมองหยางซิน “พี่สาวหยาง ตระกูลเสินเซิ่งยากจนปานนี้เชียวหรือ? เงินแค่ห้าสิบล้านเหรียญจิตอสูร เอาไว้ให้เด็กซื้อขนมกินเล่นคงได้กระมัง?”
เห็นสีหน้าของเนี่ยหลี ในใจของหยางซินหัวเราะร่าแล้ว เนี่ยหลีเ้าเด็กผู้นี้ ทั้งสมองช่างเต็มไปด้วยแผนการชั่วร้ายนัก จงใจยั่วยุให้ตระกูลเสินเซิ่งติดกับ นางส่ายศีรษะ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังน่าเชื่อถือ “น้องเนี่ยหลี เงินห้าสิบล้านเหรียญจิตอสูรสำหรับตระกูลเหล่านี้ ถือว่ามากมายแล้ว”
“ไม่จริงกระมัง? น่าอับอายปานนี้เชียวหรือ? ไหนว่ามีกำลังมากมาย!” เนี่ยหลีหยิบแผ่นผลึกอสูรออกมาชุดหนึ่ง รวมแล้วมีราวยี่สิบ-สามสิบใบเห็นจะได้ โยนพวกมันลงไปที่อัฒจันทร์ ฉับพลันก็บังเกิดความชุลมุนวุ่นวายขึ้นที่อัฒจันทร์ เงินกี่สิบหมื่นเหรียญจิตอสูร พริบตาก็ถูกโยนทิ้งไป เนี่ยหลีทำท่ายโสโอหังยิ่ง “ในเมื่อตระกูลเสินเซิ่งยากจนถึงเพียงนี้ เช่นนั้นข้าก็จะทนเล่นกับพวกท่านสักหน่อย หากข้าชนะได้เงินห้าสิบล้านเหรียญจิตอสูร ก็บริจาคให้พวกผู้ชมในอัฒจันทร์แล้วกัน อย่างไรก็ไม่มีความหมายอันใด แค่หว่านเงินติดถุงเล่นเล็กน้อย”
ได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี เสิ่นิ เสิ่นเฟย สองคนโกรธจนหน้าเขียวคล้ำแล้ว เนี่ยหลีก็บ้าเกินไปแล้วจริงๆ ห้าสิบล้านเหรียญจิตอสูรมิใช่เงินจำนวนน้อยๆ ครอบครัวชั้นสูงทั่วไปครอบครัวหนึ่งย่อมไม่อาจควักเงินจำนวนมากปานนี้ออกมาได้ มีแต่ครอบครัวระดับสูงเช่นตระกูลเสินเซิ่งเท่านั้น จึงจะสามารถนำเงินจำนวนเท่านี้ออกมา แน่นอนว่านี่ยังไม่อาจเทียบกับสมาคมนักปรุงยาวิเศษได้ สมาคมนักปรุงยาวิเศษในเวลานี้มั่งคั่งเหลือเกิน ยังร่ำรวยยิ่งกว่าจวนเ้าเมืองเสียอีก
“ห้าสิบล้าน คิดไม่ถึงว่ายังกล้าพูดออกมาได้เต็มปากเต็มคำ!” เนี่ยหลีร้องฮึออกมาคำหนึ่งด้วยน้ำเสียงดูแคลนยิ่ง
เสิ่นิสูดลมหายใจลึกเข้าไปคำหนึ่ง เขายังคงสงบเยือกเย็นได้อยู่ ในเมื่อเนี่ยหลีกล้ายั่วยุเสิ่นเฟยปานนี้ เดาว่าคงมีความมั่นใจอยู่ ลงพนันรอบแรกด้วยเงินห้าสิบล้านเหรียญจิตอสูรชุดแรกถือว่าไม่เป็ไร อย่างไรก็ยังมีโอกาสลงพนันอีกมาก รอบแรกดูกำลังของเนี่ยหลีก่อนจึงค่อยว่ากัน!
“รอบแรกเล่นห้าสิบล้านเหรียญจิตอสูรก่อน! จากนั้นค่อยดูว่าคุณชายยังยินดีที่จะเล่นต่อหรือไม่” เสิ่นิยิ้มบาง ต่อให้เนี่ยหลีมีความมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะเสิ่นเฟยได้ ก็ยังมีคนจากตระกูลเสินเซิ่งอีกสองคน วางเดิมพันกับสองคนนั้นย่อมไว้ใจได้มากกว่า
“ก็ได้ ตราบใดที่ตระกูลเสินเซิ่งสนใจจะเล่น ข้าก็จะร่วมเล่นกับท่านจนถึงที่สุด ข้าจะเป็เ้ามือเอง ไม่ว่าตระกูลเสินเซิ่งจะพนันเท่าไหร่ ข้าก็รับทั้งหมด!” เนี่ยหลียืดอกพูดอย่างเย่อหยิ่ง
เห็นท่าทางยโสโอหังของเนี่ยหลี เสิ่นิร้องฮึขึ้นจมูกคราหนึ่ง ทว่าปากยังคงพูดอย่างสุภาพ “คุณชายน้อยของตระกูลเทียนเหินท่านนี้ช่างคึกคักเสียจริง ไม่ทราบว่าผู้ใดจะเป็ประจักษ์พยานกับการพนันครั้งนี้?” เสิ่นิชำเลืองมองหยางซินและพูดว่า “ เกรงว่าผู้อำนวยการหยางคงมิอาจเป็ได้กระมัง?”
“การพนันครั้งนี้ล้วนเป็ที่รับรู้ของทุกตระกูลในที่นี้!” เนี่ยหลีพูด
“ดี!” เสิ่นิก็กระตือรือร้นยิ่งเช่นกัน
การประกาศพนันระหว่างตระกูลเสินเซิ่งและตระกูลเทียนเหินสองฝ่าย ไม่นานก็แพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสนามประลองก็ดุเดือดขึ้นมาทันที ประมุขของทุกๆ ตระกูลในที่นี้ล้วนได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็สักขีพยานในการพนันครั้งนี้
“เกิดอะไรขึ้นกับตระกูลเทียนเหินกัน กลับกล้าท้าพนันกับตระกูลเสินเซิ่งได้?”
“เ้าไม่รู้หรือ? ตระกูลเทียนเหินมีสมาคมนักปรุงยาวิเศษหนุนหลังอยู่ เวลานี้ร่ำรวยมาก ดูเหมือนจะสู้กับตระกูลเสินเซิ่งได้แล้ว”
“นี่จะมิใช่การต่อสู้ของสองั์ใหญ่ ระหว่างตระกูลเสินเซิ่งกับสมาคมนักปรุงยาวิเศษหรอกหรือ?”
“ใครจะรู้เล่า?” ประมุขของหลายครอบครัวกระซิบกระซาบถกเถียงกันอย่างเงียบๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้