เห็ดเกิดจากความรัก

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

16.


ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง 

งาน Plant fair ที่ใครหลาย ๆ คนต่างเฝ้ารอกันมา๻ั้๫แ๻่ต้นปี เห็นว่าบางภาคในคณะถึงขั้นเตรียมงานรอกันเป็๞เทอม ๆ เลย งานนี้ถือว่าเป็๞งานใหญ่ของบรรดาเหล่าคณะเกษตรศาสตร์ของทุกมหาวิทยาลัย เพราะนอกจากจะสามารถมาเดินดูผลงานของเด็กนักศึกษาแล้ว ยังมีโอกาสได้เจอเพื่อนจากมหาวิทยาลัยอื่น ๆ และคนนอกก็สามารถเข้ามาเดินชมได้อีกด้วย

ภายในงานจะแบ่งสัดส่วนออกอย่างชัดเจน จะมีโซนสำหรับการจัดแสดงงานวิจัยทางด้านการเกษตรที่ได้รางวัล หรืองานนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน มีโซนสำหรับขายอาหารและเครื่องดื่มตั้งอยู่ตรงกลาง และโซนสุดท้ายจะเป็๲โซนสำหรับจัดจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรที่นักศึกษาทำกันขึ้นมาเอง อย่างภาคพืชผักของผมก็มีผักออร์แกนิคมาวางขาย ส่วนภาคพืชสวนของขนุนก็คงไม่พ้นทุเรียน หรือผลไม้ชนิดอื่นที่กำลังให้ผลใน๰่๥๹นี้พอดี

“ทำไมถึงไม่ชอบใส่หมวก” เสียงคนข้าง ๆ เอ่ยขึ้นหลังจากที่เราเดินมาหยุดอยู่ตรงบริเวณด้านหน้าทางเข้างานพร้อมกัน พี่ปรงปรายตามามองผมด้วยสายตานิ่ง ๆ ก่อนที่เขาจะถอดหมวกของตัวเองมาวางไว้บนหัวผมแบบที่เขาชอบทำ

“แล้วทำไมพี่ถึงชอบโยนหมวกตัวเองมาให้คนอื่นใส่อยู่เรื่อยเลย” ผมพูดพร้อมกับทำท่าจะถอดหมวกออก แต่พี่ปรงก็ยื่นมือมาวางไว้บนหัวผมเพื่อไม่ให้ผมสามารถถอดหมวกออกได้ ซึ่งเขาก็ทำแบบนี้กับผมอยู่เป็๲ประจำ

“ใส่ ๆ ไปเถอะ เพราะเวลาที่น้องตากแดดหรือออกแดดเนี่ย น้องจะหน้าแดงมากจนเหมือนคนจะเป็๞ลมเลยอะ” พี่ปรงตอบกลับมาเพียงเท่านั้น ก่อนที่เขาจะเดินนำผมเข้าไปในงานก่อนเป็๞คนแรก

เวลาที่เขาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงแบบนั้นหรือสายตาแบบนั้น ผมจะคิดเอาเองว่าเขาคงสมเพชเวทนาผมมาก ๆ แน่เลย แล้วผมก็คงดูเป็๲คนที่อ่อนแอและแรงน้อยในสายตาของพี่ปรง เขาถึงได้ชอบเข้ามาช่วยผมทำนู่นทำนี่อยู่เรื่อย

ผมเดินตามเขาเข้ามาภายในบริเวณงานที่ตอนนี้มีคนเดินไปมาอย่างพลุกพล่าน อาจจะเป็๞เพราะวันนี้เป็๞วันหยุด และอากาศวันนี้ก็ไม่ได้ร้อนมากเท่าไหร่ด้วย เลยทำให้มีคนมาเดินเที่ยวงานนี้กันเยอะมากกว่าที่ผมคาดไว้ ผมพยายามเดินตามพี่ปรงให้ทัน แต่ก็เว้นระยะห่างระหว่างเราสองคนเอาไว้ด้วย จนกระทั่งพี่ปรงหยุดเดินและหันมามองผม

“อะไรครับ” ผมเอ่ยถามหลังจากที่พี่ปรงยื่นมือข้างหนึ่งมาแบตรงหน้าผม เขาจิ๊ปากเหมือนหงุดหงิดที่ผมไม่รู้เ๱ื่๵๹อะไร แล้วต้องให้เขาคอยบอกตลอด ก่อนที่เขาจะขยับตัวเข้ามาและยื่นมือมาจับข้อมือของผมไว้หลวม ๆ

“คนมันเยอะ เดี๋ยวหลง” เขาตอบกลับมาเพียงเท่านั้น พี่ปรงเดินต่อไปโดยพยายามดึงแขนให้ผมเดินไปยืนข้าง ๆ เขา แล้วเขาก็คอยหันมามองตลอดว่าผมเดินไปเบียดเสียดกับใครหรือเปล่า

“ไม่ใช่เด็กแล้วสักหน่อย” ผมบ่นอุบอิบ

เหมือนพี่ปรงจะได้ยินที่ผมบ่น เขาจับข้อมือผมให้แน่นขึ้นกว่าเดิมและดึงผมเข้ามาหาตัวจนหน้าผมแทบจะชิดกับแผ่นหลังของเขาอยู่แล้ว เราเดินมาตามทางเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงทางแยกที่เป็๞ลานกว้าง ๆ มีป้ายบอกทางว่าทางไหนเป็๞โซนอะไร พี่ปรงหยุดเดินและหันไปมองป้ายทุกป้ายก่อนที่จะหันมาถามความเห็นจากผม

“อยากไปตรงไหนก่อน ไอ้อูนอยู่ตรงโซนขายของ ส่วนขนุนน่าจะอยู่โซนจัดงานวิจัย” พี่ปรงพูดพร้อมกับชี้ไปยังทางเข้าแต่ละโซน ผมมองตามเขาไปโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองควรไปทางไหนก่อน

“ผมไม่รู้ว่าจะไปไหนอะ พี่นำไปเลยดีกว่า”

“งั้นไปหาไอ้อูนก่อนนะ วันนี้มันมาเฝ้าบูธขายผัก” พี่ปรงดึงมือผมให้ขยับขึ้นมาเดินข้าง ๆ เขา เราสองคนเดินไปพร้อม ๆ กันโดยที่เขายังคงกำข้อมือของผมเอาไว้อยู่ พอมองลงไปดูที่มือของตัวเอง มันเหมือนกับว่าเราสองคนกำลังเดินจับมือกันเลย

“แล้วพี่ไม่ต้องมาขายผักบ้างเหรอ”

“ก็ต้องมานะ”

“อ้าว”

“แต่วันนี้พี่นัดกับน้องไว้ไง”

จังหวะที่เขาพูดจบแล้วหันมาสบตากับผม มันทำให้ผมชะงักและเผลอหยุดเดินโดยที่เขายังจับมือผมไว้อยู่ มองสบตากับเขาได้เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น หลังจากนั้นผมก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่น หลังจากนั้นพี่ปรงก็เริ่มเดินต่อไปข้างหน้าโดยไม่ลืมที่จะออกแรงดึงให้ผมเดินตามไปด้วย เขาพยายามพาผมเดินหลบหลีกจากผู้คน แต่เป็๞เพราะวันนี้มีคนมาเดินดูงานเยอะมากจริง ๆ ก็เลยทำให้หลบไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เราต้องเดินเบียดเสียดกับคนอื่นจนผมเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมา

ในระหว่างที่พี่ปรงกำลังเดินนำทางผมเพื่อไปหาพี่อูน ผมก็มองไปรอบ ๆ เพื่อดูบรรยากาศภายในงานรอบ ๆ โซนนี้เป็๲โซนที่มีการนำสินค้าทางการเกษตรมาขาย โดยในแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีของดีเป็๲ของตัวเอง ส่วนมหาวิทยาลัยผมก็จะเด่นในเ๱ื่๵๹เกษตรอินทรีย์ พวกผักออร์แกนิคที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี นี่เลยเป็๲สาเหตุที่พี่อูนต้องมาตั้งบูธขายผัก

ผมเดินฝ่าผู้คนมานานหลายนาทีจนกระทั่งมาเจอบูธสีเขียวที่เขียนชื่อมหาวิทยาลัยของผมเอาไว้ มีโต๊ะยาว ๆ ตั้งอยู่ด้านหน้าและมีผักมากมายหลายชนิดวางเรียงรายกันอยู่สวยงาม ถัดเข้าไปด้านในเป็๞พี่อูนที่กำลังยืนคุยอยู่กับลูกพีช และภายในบูธก็ยังมีรุ่นพี่ในภาคอีกหลายคนนั่งอยู่ และเมื่อเขาเห็นว่าพี่ปรงมาถึงพอดี ทุกคนก็หันมาเอ่ยทักทายพี่ปรงอย่างคุ้นเคย

“นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว” พี่อูนเป็๲คนเดียวในบูธที่ไม่ได้ทักทายพี่ปรง เขาเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผมและเอ่ยทักทายพร้อมกับรอยยิ้มในแบบที่เขาชอบทำ เมื่อเห็นว่าเขาพยายามจะผูกมิตรกับผมมาก ๆ ผมจึงยิ้มตอบกลับไป

“พี่อูนเป็๞ยังไงบ้างครับ” ผมเอ่ยถามราวกับว่าผมและเขาไม่ได้เจอหน้ากันมานานหลายปี พี่อูนหัวเราะออกมาเล็กน้อย คำถามที่ผมถามออกไปก็ดูจะเป็๞คำถามปกติ แต่ผมกับพี่อูนรู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร

มันเป็๲ความงี่เง่าของผมเอง พอตัวเองผิดหวังจากพี่อูน ผมก็เอาแต่หลบหน้าเขาและพยายามเลี่ยงที่จะพูดคุยกับเขาจนบางครั้งผมก็รู้สึกได้ว่าพี่อูนรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตอนนี้ผมเลยรู้สึกผิดที่ตัวเองเคยเป็๲คนนิสัยไม่ดีแบบนั้น แต่หลังจากที่เห็นพี่อูนยิ้มตอบกลับมาแบบนั้น ผมก็สบายใจได้แล้วว่าเขาคงไม่ได้เคืองอะไรผม

“ก็ดีนะ แค่เบื่อที่ต้องมานั่งขายผัก พี่เห็นผักทุกวันจนเหม็นเขียวไปหมดแล้ว” ประโยคสุดท้ายเขายื่นหน้ามากระซิบกับผมด้วยเสียงที่เบาลง ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมหัวเราะออกมานิดหน่อย ผมขยับหันตัวไปหาพี่อูนพร้อมกับดึงมือที่พี่ปรงจับอยู่ออก 

“แล้วพี่ได้ไปเดินดูงานไหม มีอะไรน่าสนใจบ้างครับ”

“ตรงนู้นมีคนมาขายไม้ประดับด้วย มีแต่พันธุ์แปลก ๆ ที่พี่ไม่ค่อยเห็น ถ้าเราอยากไป เดี๋ยวพี่พาไปได้นะ” พี่อูนพูดพร้อมกับชี้ไปยังทางที่ผมเพิ่งเดินผ่านมา ซึ่งพอหันไปมองก็พบกับบูธหนึ่งที่มีคนยืนออกันอยู่ด้านหน้าเยอะมาก

“ยังดีกว่าครับ”

ผมเป็๞คนที่ชอบไม้ประดับมาก ๆ เลยนะ ต้นไม้ที่ผมปลูกไว้ที่ห้องก็เป็๞ไม้ประดับทั้งหมดเลย จริง ๆ ก็อยากลองเข้าไปดูเหมือนกันนะว่าจะมีต้นอะไรแปลก ๆ ที่ผมไม่รู้จักหรือเปล่า เผื่อเจอต้นที่สวยถูกใจแล้วจะได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปปลูกที่ห้องเพิ่มอีก แต่พอเห็นจำนวนคนที่ต่อแถวรอเข้าไปในบูธ ผมก็รู้สึกท้อขึ้นมาแล้ว

“อ๋อ! ส่วนน้องขนุนอยู่อีกโซนหนึ่งนะ ตอนแรกเห็นว่าอยู่บูธตรงข้ามนี่แหละ แต่พอมีคนเอาทุเรียนมาวางขายก็หนีหายไปเลย” พี่อูนหันมาบอกพร้อมกับจับไหล่ผมให้หมุนตัวหันไปมองที่บูธฝั่งตรงข้าม ซึ่งก็เป็๲บูธของภาคพืชสวนของคณะผมเองนี่แหละ ผมคุ้นหน้าหลาย ๆ คนที่เป็๲เพื่อนขนุน แต่ไม่เห็นขนุนมันอยู่ในนั้นเลย น่าจะหนีกลิ่นทุเรียนไปอยู่ที่อื่นแล้ว  

“ทานตะวัน” เสียงหนึ่งดังขึ้นแทรกบทสนทนาของผมกับพี่อูน พอหันไปมองก็พบว่าเป็๞ลูกพีชที่เดินเข้ามาทักผม เขาเดินตรงเข้ามาหาผมและส่งยิ้มมาให้ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นต่อ “ผักสลัดที่ปลูกรอบใหม่เป็๞ไงบ้าง โตดีใช่ไหม”

เมื่อวานผมกับพี่ปรงเพิ่งไปปลูกผักสลัดรอบใหม่มาด้วยกัน ผมพยายามทำตามขั้นตอนทุกอย่างและคอยให้พี่ปรงช่วยดูว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดตรงไหน เพราะครั้งนี้ก็เป็๲ครั้งสุดท้ายแล้วที่ผมจะสามารถปลูกผักได้ เพราะผักสลัดจะใช้เวลาในการเจริญเติบโตพร้อมเก็บเกี่ยวคือประมาณหนึ่งเดือน และผมจะต้องส่งงานนี้ก่อนการสอบปลายภาคจะมาถึง ซึ่งนั่นก็หมายความว่าผมเหลือโอกาสในการปลูกผักอีกแค่รอบเดียวเท่านั้น

พี่ปรงเขาช่วยผมทำ๻ั้๫แ๻่ขั้นตอนแรกยันขั้นตอนสุดท้าย แต่เขาก็ไม่ได้ทำให้ผมทั้งหมด ในระหว่างนั้นเขาก็สอนผมไปด้วย ผมรู้สึกว่าตัวเองได้ความรู้จากเขาเยอะมาก ๆ บางเ๹ื่๪๫ที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน ผมก็ได้รู้จากเขานี่แหละ

“ยังไม่ได้ไปดูเลยอะ เพิ่งปลูกไปเมื่อวานเอง” ผมตอบกลับไปก่อนจะส่งยิ้มกลับไปให้อีกฝ่ายด้วย ถึงในใจผมจะรู้สึกแปลก ๆ กับลูกพีชอยู่นิดหน่อย แต่ผมก็พยายามจะไม่เก็บมาคิด ลูกพีชเหมือนคนที่อัธยาศัยดีมาก ๆ เพราะเขาชอบถามสารทุกข์สุขดิบของคนรอบตัวอยู่เสมอ แต่บางครั้งเขาก็ดูหยิ่งมาก ๆ จนผมไม่กล้าเข้าไปคุยด้วย

“ยังไงก็ต้องขึ้น เชื่อเราดิ”

“จริง ได้นักปลูกมือทองอย่างไอ้ปรงมาช่วยแล้ว ยังไงผักเราก็ต้องโตสวยได้คะแนนเต็มไปเลย” พี่อูนพูดเสริม คำพูดของเขาทำให้ผมรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ใคร ๆ ต่างก็อวยพี่ปรงว่าเขาเป็๲นักปลูกพืชมือทอง เพราะปลูกอะไรก็ขึ้นและโตสวยไปหมด ถ้าเขาทำให้ผักของผมโตได้ ก็แปลว่าเขาคงเป็๲นักปลูกมือทองจริง ๆ อย่างคนอื่นว่านั่นแหละ

“ไปหาอะไรกินกันไหม เห็นบอกว่ายังไม่ได้กินอะไรเลย๻ั้๫แ๻่เช้าไม่ใช่เหรอ” เสียงของที่ปรงดังขึ้นใกล้ ๆ ผม พอผมหันมองก็พบว่าเขาว่ามายืนซ้อนอยู่ที่ด้านหลังของผม๻ั้๫แ๻่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“ทำไมสองคนนี้ดูสนิทกันจัง” จู่ ๆ ลูกพีชก็พูดขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วมาทางผมกับพี่ปรงที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กัน พี่อูนเองก็พยักหน้าเหมือนกำลังจะบอกว่าเขาเองก็รู้สึกเหมือนที่ลูกพีชพูด

“นั่นสิ วันนี้ก็มาด้วยกันด้วยนี่” พี่อูนพูดเสริม

“ก่อนหน้านี้ก็เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ ทานตะวันก็มาที่ห้องภาคเกือบทุกวันเลย ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนก็ไม่ค่อยได้มาเลยนะ แปลกมาก” ลูกพีชพูดพร้อมกับหรี่ตามองผมกับพี่ปรงสลับกัน ผมหันไปมองพี่ปรงว่าเขาจะพูดอะไรหรือเปล่า แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาทำเพียงแค่ยืนอยู่เฉย ๆ แล้วเบือนหน้าหันไปมองทางอื่น

“ก็ปกตินะ มีงานต้องทำด้วยก็เลยเข้าห้องภาคบ่อย กับพี่ปรงก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมากหรอก เจอกันแค่ตอนทำงานเท่านั้นแหละ” ผมตอบกลับไปแล้วหัวเราะออกมาแห้ง ๆ

“นั่นแหละแปลก เพราะปกติพี่ปรงไม่มีเพื่อนนะ อยู่คนเดียวตลอด” ลูกพีชพูดพร้อมกับหันไปหัวเราะกับพี่อูน แสดงว่าเขาแค่จะแกล้งพี่ปรงกันใช่ไหม เขาไม่ได้สงสัยเ๱ื่๵๹ของผมจริง ๆ สินะ

“เดี๋ยวนี้กล้าลามปามพี่ขนาดเลยนะ ไอ้อูนสอนมาเหรอ” พี่ปรงพูดพร้อมกับยื่นมือไปขยี้หัวลูกพีชเหมือนที่เขาทำกับผม ซึ่งลูกพีชก็ปัดมือออกอย่างแรงก่อนจะจัดทรงผมของตัวเองใหม่

พวกเขาดูสนิทกันจัง 

พอมายืนอยู่ท่ามกลางวงสนทนาแบบนี้ ผมดูเหมือนกลายเป็๞ตัวประหลาดไปเลย ทั้งพี่ปรง พี่อูน แล้วก็ลูกพีช เขาดูสนิทกันมากถึงขั้นที่สามารถพูดแซวกันได้โดยที่ไม่โกรธเคืองกัน ผมคิดว่าตัวเองก็สนิทกับพี่ปรงมากในระดับหนึ่งแล้วนะ แต่พอได้มาเห็นในวันนี้ จริง ๆ แล้วผมก็ยังไม่ได้สนิทกับเขาขนาดนั้นสักหน่อย

ผมเดินแยกตัวออกมาหลังจากที่พวกเขาทั้งสามคนเริ่มพูดคุยกันถึงเ๱ื่๵๹งาน มันก็คงแปลก ๆ อยู่เหมือนกันที่ผมจะไปยืนฟังเขาคุยกันทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่เ๱ื่๵๹ของผมเลย ผมเดินออกมาที่ด้านนอกบูธและมองไปรอบ ๆ ตัวว่าผมควรจะไปไหนดี ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดอยู่ที่บูธขายไม้ประดับที่พี่อูนบอกก่อนหน้านี้ ตอนนี้คนเริ่มน้อยลงกว่าตอนแรกแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเยอะอยู่ดี

ภายในบูธจะมีไม้ประดับหลายชนิดที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็๞ไม้ประดับที่คนสมัยนี้นิยมปลูกกันเยอะ พวกไม้ประดับที่ช่วยกรองอากาศก็จะฮิตมากเป็๞พิเศษ แต่สำหรับผมแล้ว ผมกลับชอบไม้ประดับที่มีไว้เพื่อประดับตกแต่งเฉย ๆ แล้วผมก็จะชอบต้นที่รูปร่างแปลก ๆ มากกว่าที่จะเป็๞ใบสีเขียวธรรมดา ๆ 

ผมเดินมาหยุดตรงต้นไม้ตรงหนึ่งที่อยู่ในกระถางขนาดกลาง ๆ และมีแค่ต้นเดียวเท่านั้น ผมไม่แน่ใจว่ามันคือต้นอะไร แต่ใบของมันจะเป็๲ใบเรียวยาวรูปร่างแปลกจากต้นอื่น ผมหยิบต้นไม้ต้นนั้นขึ้นมาดูอย่างพิจารณาก่อนจะวางมันกลับไปที่เดิม

“ชอบเหรอ” เสียงหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลังผม พอหันไปมองก็พบว่าเป็๞พี่ปรง เขาโผล่มายืนที่ด้านหลังของผมเงียบ ๆ เป็๞รอบที่สองแล้ว ผมไม่รู้ตัวเลยว่าเขาเดินตามผมมาตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เขาโผล่มาแล้ว

“มันแปลกดีครับ” ผมตอบกลับไป

“เดี๋ยวนี้คนเขาไม่ค่อยฮิตปลูกต้นนี้กันแล้ว”

“ถึงว่า ผมถึงไม่เคยเห็นเลย”

“สมัยก่อนคนจะชอบเอาต้นนี้มาปลูกประดับบ้าน เรียกได้ว่ามีกันแทบทุกบ้านเลย บ้านพี่นี่มีเกือบร้อยต้นได้” พี่ปรงพูดพร้อมกับยกกระถางนั้นขึ้นมาถือไว้ น่าแปลกที่มันไม่มีชื่อติดเหมือนกระถางอื่น ๆ

“แล้วทำไมเดี๋ยวนี้ถึงไม่ค่อยเห็นแล้วล่ะครับ”

“มันก็คงเลิกฮิตไปตามกาลเวลานั่นแหละ สมัยนี้คนเขาหันมาปลูกไม้ประดับที่มันต้นเล็ก ๆ ปลูกในห้องได้ ยิ่งถ้าเป็๞ต้นไม้ที่กรองอากาศได้ก็ยิ่งมีราคาแพง” พี่ปรงพูดพร้อมกับหันไปมองรอบ ๆ ตัวก่อนที่เขาจะยื่นต้นไม้ต้นนี้ไปให้ใครบางคนที่น่าจะเป็๞คนขายของบูธนี้ แล้วเขาก็พูดขึ้นต่อ “เอาต้นนี้ครับ ช่วยใส่กล่องให้หน่อยนะครับ”

“ไหนพี่บอกว่าบ้านพี่มีเป็๲ร้อยต้นแล้วไง” ผมหันไปพูดกับเขาหลังจากที่เขาเดินไปจ่ายเงินค่าต้นไม้มาแล้ว อยู่ดี ๆ เขาก็เดินมาจับ ๆ แล้วก็ตัดสินใจซื้อเลย ทั้ง ๆ ที่พี่ปรงเขาก็เพิ่งพูดว่าบ้านตัวเองมีเป็๲ร้อย ๆ ต้น

“พี่ไม่ได้ซื้อให้ตัวเอง”

“แล้วพี่ซื้อให้ใคร”

พี่ปรงไม่ได้ตอบคำถาม เป็๞จังหวะเดียวกันกับที่คนขายถือกล่องใส่ต้นไม้ต้นนั้นมาให้พี่ปรง เขารับมันมาถือไว้ก่อนจะเดินนำออกไปที่นอกบูธเป็๞คนแรก อาจเป็๞เพราะว่าคนเริ่มเข้ามาในบูธเยอะขึ้นจนเราแทบไม่มีที่จะหายใจ พี่ปรงเดินออกมาหยุดที่ด้านหน้า เขารอจนกระทั่งที่ผมเดินตามออกมาแล้วก็ยื่นกล่องนั้นมาให้ผม

“ให้”

เขาซื้อให้ผมเหรอ

“พี่จะให้ผมทำไม” ผมตอบกลับไป พี่ปรงพยายามจะยัดเยียดกล่องนั้นใส่มือผม แต่ผมก็พยายามที่จะไม่รับเพราะผมอยากให้เขาตอบคำถามผมก่อนว่าเขาซื้อให้ผมทำไม แต่สุดท้ายเขาก็จับมือผมขึ้นมาให้ถือกล่องนั้นไว้

“อยากให้”

“ถ้างั้นเดี๋ยวผมเอาเงินคืนให้นะ พี่จ่ายไปเท่าไหร่ครับ” ผมพูดพร้อมกับทำท่าจะควักกระเป๋าสตางค์ของตัวเองออกมา แต่พี่ปรงก็ยื่นมือมาจับมือผมเอาไว้ก่อน

“ไม่ต้องคืนหรอก พี่ตั้งใจซื้อให้จริงๆ” พี่ปรงพูดด้วยสายตาที่จริงจัง เขาเอาแต่จ้องตาผมอย่างไม่ลดละ จนในท้ายที่สุดผมก็เป็๞ฝ่ายที่ต้องยอมแพ้ให้เขา และรับต้นไม้นั้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ 

เขาเอาแต่พูดว่าอยากซื้อให้เฉย ๆ ผมเลยเลือกที่จะไม่ถามเหตุผลจากเขาแล้วรับต้นไม้ต้นนั้นมาไว้กับตัวเอง อันที่จริงแล้วผมก็ชอบต้นนี้เหมือนกันนะ อย่างที่บอกว่ามันดูแปลกดี เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นต้นไม้ที่มีใบเป็๲แบบนี้สักเท่าไหร่ แต่ที่ไม่ตัดสินใจซื้อเพราะผมไม่รู้ว่ามันคือต้นอะไรเลย เคยเห็นผ่าน ๆ ตามาบ้าง แต่ก็จำชื่อมันไม่ได้

“ขอบคุณนะครับที่ซื้อให้” หลังจากตัดสินใจแล้วว่าผมจะรับต้นไม้ต้นนี้ไว้เอง ผมจึงหันไปพูดกับพี่ปรงในตอนที่เราทั้งสองคนเดินออกมาจากบริเวณนั้นแล้ว พี่ปรงหันมาพยักหน้าให้เล็กน้อย

“ดูแลให้ดีล่ะ”

“สรุปว่าต้นนี้มันชื่อว่าอะไรเหรอครับ”

ต้นปรง

เขาซื้อให้ผมเพราะแบบนี้สินะ

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้