“มึงยืนดีๆได้มั้ยไอ้เหี้ย” เสียงของอัลฟ่าร่างบางดังลั่นไปทั่วทั้งโถงทางเดินของชั้นยี่สิบเจ็ดในยามค่ำคืนที่เงียบสงัดอย่างไม่นึกเกรงใจผู้พักอาศัยคนอื่น เมื่อถูกอัลฟ่าอีกคนซุกไซ้ซอกคอไม่เลิกแถมยังขูดฟันถากกับผิวเนื้อของเขาไปมาจนแสบไปหมด เดี๋ยวกูก็จับทุ่มทิ้งตรงนี้ซะหรอก
“ฮืม” ร่างสูงขบกรามแน่นคำด่าของอีกคนนั้นเหมือนจะเข้าหูซ้ายแล้วทะลุหูขวาออกไปเลยไม่ได้ถูกเก็บมาคิดตามแต่อย่างใด เพราะยิ่งคลอเคลียอีกฝ่ายมากเท่าไรความ้าของเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
“รหัสห้องมึงคือเหี้ยไรเนี่ย” เ้าของกลิ่นฝนผลักให้อีกคนถอยห่างออกไป ก่อนจะมองหน้าของคนที่กำลังรัทอย่าง้าคำตอบ
“ขอกัดหน่อย”
“...” ขอบคุณ
“...”
“กัดส้นตีนอะไรล่ะ” แทนล่ะปวดหัวกับไอ้หมาตัวโตตรงหน้าจริงๆ มึงจะคันฟันอะไรหนักหนาวะกูถามจริง “กูจะเอารหัสห้อง”
“กูจะเอามึง”
“...มึงนี่นะ” ปวดหัวจี๊ดเลยไอ้เหี้ยเอ้ย “บอกรหัสเข้าห้องมึงมา หรืออยากจะนอนตากยุงอยู่ตรงนี้กูจะได้กลับ”
“ไม่รู้”
“ห้องมึงไอ้สัดจะไม่รู้ได้ไง เดี๋ยวกูก็ทิ้งแม่งไว้ตรงนี้จริงๆซะหรอก” และด้วยความที่เป็คนคิดแล้วทำเลย มือเรียวจึงปล่อยออกจากร่างสูงทันทีที่พูดจบทำให้คนที่ทั้งเมาและรัทในเวลาเดียวกันไม่ทันได้ตั้งหลักทรุดลงไปนั่งกับพื้นอย่างหมดสภาพ
“...”
“...” ดวงตากลมปรายตามองไปยังร่างสูงของคนที่นั่งอยู่บนพื้น ก่อนจะยกแขนข้างหนึ่งขึ้นมาเท้าเอาไว้ที่เอวและใช้มืออีกข้างที่ว่างเสยผมที่ปรกหน้าผากขึ้นเผยให้เห็นหน้าผากขาวที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ มันไม่ง่ายเลยสำหรับการที่ต้องแบกอัลฟ่าที่ตัวโตกว่าและปล่อยกลิ่นข่มออกมาตลอดเวลาขึ้นมาจนถึงชั้นยี่สิบเจ็ดแห่งนี้ เล่นเอาเรี่ยวแรงแทบไม่เหลือแถมแม่งยังอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก ไม่รู้จะข่มเหี้ยไรนักหนา กูรู้แล้วว่ามึงแกร่งกว่ากูน่ะไอ้สัด
“...”
“ลองดูก็ไม่เสียหายวะ” หลังจากที่ยืนพักหายใจได้ครู่หนึ่งร่างบางก็เอ่ยพึมพำกับตัวเองขึ้นมา ก่อนปลายนิ้วเรียวจะถูกยื่นออกไปแตะลงบนตัวเลขตามที่เคยใช้เพื่อปลดล็อกโทรศัพท์ของอีกคน “เก้า...เจ็ด...ศูนย์...สอง...หนึ่ง...สี่” บางทีมันอาจจะเป็รหัสเดียวกัน
แก๊ก...
“เยส” ร่างบางแสดงสีหน้าพอใจออกมาเมื่อสามารถเปิดประตูห้องของอีกคนได้สำเร็จ ใบหน้าที่จะมองว่าหล่อก็หล่อแต่หากจะบอกว่าสวยก็ยากที่จะปฏิเสธหันไปมองยังร่างสูงที่นั่งอยู่ที่พื้นอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าตอนนี้ใบหน้าของอีกคนนั้นแดงก่ำผิดปกติแถมยังดูทรมานมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
“...”
“โคตรภาระ” ร่างบางกลอกตาขึ้นมองเพดานด้วยความเหนื่อยใจ ก่อนจะก้มลงไปประคองร่างของอีกคนให้ลุกขึ้นมา ในหัวคิดเพียงว่าต้องจับร่างของอีกคนโยนเข้าไปในห้องเสร็จแล้วก็ปิดประตูหลังจากนั้นเขาจะได้กลับบ้านไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายตัวเองสักทีเหม็นคาบอ้วกบนตัวจะแย่อยู่แล้ว
“...”
“เฮ้ย!” แทนร้องออกมาด้วยความใ เพราะยังไม่ทันจะได้ทำอย่างที่คิดเอาไว้ร่างของเขาก็ถูกคนที่ตัวโตกว่าผลักให้เข้าไปในห้องเสียก่อน ก่อนจะโดนอีกฝ่ายกดจูบลงมาโดยที่เขาเองก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัว แต่พอเริ่มตั้งสติได้เขาก็รีบยกมือขึ้นมาดันแผ่นอกแกร่งของอัลฟ่าตัวโตกว่าเอาไว้แต่ก็ยังสู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดี
อัลฟ่าร่างหนาใช้ประโยชน์จากเรี่ยวแรงที่มีมากกว่าในการดันแผ่นหลังบางให้แนบชิดไปกับกำแพงโดยที่ริมฝีปากหนายังไม่ผละห่างออกจากริมฝีปากอิ่มของอีกคน ขาเรียวที่พยายามจะดิ้นเพื่อขัดขืนก็ถูกขาที่แกร่งกว่าดันให้แยกออกจากกันแล้วแทรกค้างเอาไว้ ฝ่ามือหนาข้างหนึ่งจับประคองอยู่ที่กรอบหน้าของร่างบางเพื่อรักษาองศาในการจูบให้ถนัดมากที่สุด ส่วนมืออีกข้างก็ไล้ต่ำลงไปทางด้านหลังก่อนจะออกแรงฟอนเฟ้นก้อนเนื้อนุ่มเต็มมือผ่านกางเกงยีนตัวเก่งที่อีกคนสวมใส่อยู่
“...” เสียเปรียบในทุกทางให้ตายเถอะ
“...”
“อื้อ...” ปากอิ่มร้องประท้วงเมื่อรู้สึกหมดอากาศหายใจบวกกับ้าที่จะหลุดพ้นออกจากพันธนาการ ริมฝีปากหนาเองก็ยอมผละห่างออกมาให้อีกคนได้กอบโกยอากาศเข้าปอดเพียงชั่วครู่ก่อนจะทาบทับกลับลงไปดังเดิม โดยท่อนขาแกร่งที่แทรกอยู่ระหว่างขาเรียวนั้นยังคงไม่ถอยห่างออกไปแถมยังกดชิดเข้ามาใกล้จนต้นขาหนาแนบชิดไปกับกลางกายของอีกคนผ่านเนื้อผ้าของยีนสีซีด น้ำหนักที่อีกฝ่ายกดทับลงมานั้นทำให้หน้าท้องบางภายใต้เสื้อยืดสีดำเผลอหดเกร็งอย่างลืมตัว
“ฮืม...” ลมหายใจอุ่นร้อนที่รดรินออกมาจากปลายจมูกโด่งคมทำให้แทนรับรู้ได้ว่าความ้าของคนตรงหน้านั้นได้พุ่งทะยานขึ้นไปสูงมากแล้ว และถ้าเขาไม่อยากให้มันเลยเถิดไปมากกว่านี้เขาก็ต้องรีบสลัดตัวเองให้หลุดออกไปจากสถานการณ์นี้อย่างจริงจังเสียที
ฝ่ามือขาวที่เคยวางเทินอยู่บนแผงอกกว้างค่อยๆเลื่อนขึ้นไปนวดวนอยู่ที่ท้ายทอยของร่างสูงเหมือนว่ากำลังให้ความร่วมมือกับการจูบในครั้งนี้ ฟันขาวขบกัดลงบนริมฝีปากล่างของคนตรงหน้าสลับกับดูดเม้มพร้อมกับนิ้วเรียวที่เริ่มแทรกผ่านเส้นผมสีเข้มแล้วค่อยๆจิกลงไปบนเส้นผมของอีกคนด้วยแรงที่มากขึ้น มุมปากแดงยกยิ้มพอใจเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังผ่อนคลายทำให้รสจูบที่ร้อนแรงเริ่มผ่อนจังหวะเบาลง คราวนี้ฟันซี่ขาวขบกดลงบนริมฝีปากหนาอีกครั้งด้วยแรงที่มากขึ้นจนได้กลิ่นเืและรสชาติฝาดลิ้นคล้ายสนิมคละคลุ้งไปทั่วปาก ก่อนมือเรียวจะออกแรงดึงทึ้งเส้นผมของอีกฝ่ายจนหน้าหงาย
เมื่อเห็นว่าปลื้มกำลังเสียหลักมือบางก็รีบปล่อยออกจากเส้นผมของอีกคนแล้วเปลี่ยนมาเป็ผลักให้คนตรงหน้าถอยห่างออกไปแทน แทบไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจร่างบางก็พลิกตัวเตรียมจะเดินออกไปจากห้องทันที มือเรียวจับที่ลูกบิดประตูเอาไว้แน่นก่อนจะออกแรงกระชากมันเข้าหาตัวจนประตูเปิดออกเล็กน้อย
ปัง!
แต่ยังไม่ทันที่ขาเรียวจะได้ก้าวออกไปจากพื้นที่พักอาศัยของอัลฟ่ากลิ่นป่าสนที่กำลังอยู่ใน่รัท ฝ่ามือหนาของร่างสูงก็แตะลงที่ประตูเสียก่อน อัลฟ่าหนุ่มที่ยังไม่ได้สติออกแรงผลักบานประตูให้ปิดลงจนเกิดเสียงดังลั่นแม้แต่แทนเองยังก็ยังสะดุ้งตัวด้วยความใ
“ห้ามไปไหนทั้งนั้น” เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบบอกชิดใบหูบาง ก่อนจะกดจมูกลงไปคลอเคลียกับท้ายทอยสวยพร้อมกับบดเบียดท่อนล่างของตัวเองเข้าหาอีกคนที่ยืนหันหน้าแนบไปกับบานประตูอยู่ จนร่างบางััได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังดุนดันบั้นท้ายของเขาและอาการสั่นเทาไปทั้งตัวของอีกคนด้วย ปลื้มกำลัง้าที่จะปลดปล่อยเป็อย่างมากและถ้าหากยังปล่อยเอาไว้แบบนี้ต่อไปอีกคนก็อาจจะช็อกเอาได้
“เอาวะ” แทนหลับตาลงสูดลมหายใจเข้าปอดหนึ่งครั้งเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจพลิกตัวหันไปเผชิญหน้ากับอัลฟ่าตัวโตที่ไร้สติ สีหน้าที่ดูทุกข์ทรมานเพราะอารมณ์ความ้าที่กำลังแผดเผาสติของอีกคนยิ่งกระตุ้นให้ต่อมความเป็คนดีของแทนทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม
“...”
“จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก”
ฝ่ามือขาวประกบเข้าที่ใบหน้าหล่อของอีกคนก่อนจะออกแรงดึงรั้งเข้าหาตัว ปลายนิ้วโป้งเรียวแนบอยู่บนแก้มตอบ ดวงตากลมโตหลับลงพร้อมกับระยะห่างระหว่างใบหน้าของเขาทั้งคู่ที่ลดลงเรื่อยๆแล้วในที่สุดริมฝีปากหยักก็บดเข้ากับริมฝีปากอิ่มที่เคล้าคลอไปด้วยกลิ่นเชอรี่เย็นๆจากบุหรี่ที่อีกฝ่ายพึ่งจะสูบไป ลิ้นร้อนกวาดต้อนความหอมหวานที่ล่อตาล่อใจให้เข้าไปลิ้มลองเหมือนคนโลภจนลูกกระเดือกทรงสวยรับกับลำคอแกร่งของร่างสูงขยับเคลื่อนไหวตามจังหวะการกลืนหยาดน้ำหวานที่ตักตวงจากอีกคนมาได้ แต่ก็ยังมีน้ำหวานเหนียวใสบางส่วนที่ลิ้นหนาไม่สามารถกวาดต้อนไปได้หมดไหลเลอะออกมาจากมุมปากของเขาทั้งคู่อยู่ดี
“อื้ม...”
ปลื้มหลุดเสียงครางในลำคอออกมาเมื่อเขารู้สึกพอใจกับรสจูบของตัวเองที่กำลังมอบให้อีกคน มันไม่ได้อ่อนหวานนุ่มนวลสักเท่าไรนัก แต่ก็ไม่หยาบกระด้างจนหายใจไม่ทัน มันอยู่ในจังหวะที่พวกเขาทั้งสองคนพอใจและรู้สึกดีกับสิ่งที่กำลังทำ ฟันคมขบเม้มริมฝีปากล่างของคนตรงหน้าจนแทนรู้สึกเจ็บจี๊ดๆขึ้นมาคล้ายการเอาคืนในสิ่งที่ร่างบางพึ่งทำกับเขาจนได้เืไปก่อนหน้านี้ ก่อนลิ้นหนาจะกระหวัดเข้าหาลิ้นบางอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง เนิ่นนานจนแทบหมดอากาศหายใจกันทั้งคู่
หลังจากที่แลกลิ้นกันไปได้สักอย่างที่ไม่มีใครยอมใคร มือเรียวยาวก็ค่อยๆปล่อยออกจากกรอบหน้าของคนตัวสูงไล้ต่ำลงไปผ่านลำคอแกร่งและแยกกันไปตามไหล่กว้างเรื่อยลงไปตามเนินอกที่แน่นหนั่นที่เป็ผลพวงมาจากความมีวินัยและการดูแลตัวเองเป็อย่างดี ก่อนจะผละออกไปและวางลงทาบไปอีกครั้งที่่เอวสอบลูบไปไล้มาที่หน้าท้องแกร่งเท่ากับระดับสะดือให้อีกคนหายใจกระตุกเล่นๆ แล้วค่อยๆลากลงไปตามแนวขนไรอ่อนที่ปกคลุมอยู่ั้แ่สะดือลงไปถึงขอบกางเกงสแลคสีดำผ่านเนื้อผ้าของเสื้อเชิ้ตที่อีกฝ่ายสวมใส่อยู่ การััทั้งหมดร่างบางไม่ได้แตะโดนผิวเนื้อของอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำแต่มันกลับทำให้อัลฟ่าร่างสูงรู้สึกมากกว่าการแตะััตรงๆเสียอีก มือบางลากต่ำลงไปอีกจนถึง่เป้ากางเกงที่นูนเด่นออกมา
“อืม...” ร่างสูงหลับตาขบกรามแน่นขึ้นเมื่อมือเรียวกดน้ำหนักมือลงไปบีบนวดส่วนลับภายใต้เนื้อผ้าอย่างเอาแต่ใจจนได้ยินเสียงทุ้มในลำคอของอีกคนแว่วออกมาจึงยอมหยุดมือลง เปลี่ยนเป็ปลดกระดุมของกางเกงเ้าปัญหานั้นออกแทน โดยมีร่างสูงให้ความร่วมมือเป็อย่างดีในการจัดการถอดกางเกงของตัวเองออก
เสียงเฉอะแฉะของการแลกลิ้นเงียบลงเมื่อลิ้นร้อนผละถอยห่างออกไป ร่างสูงเลิกรังแกริมฝีปากอิ่มของอีกคนและหันไปให้ความสนใจกับซอกคอขาวแทนจมูกโด่งคมลากไล้สลับกับกดจูบแทะเล็มลงบนลำคอเรียวที่หอมอบอวลไปด้วยกลิ่นของไอฝนซึ่งเป็กลิ่นฟีโรโมนประจำตัวของอีกฝ่าย ทุกครั้งที่ฟันคมออกแรงกดลากผ่านเนื้อขาว ใจดวงเล็กก็จะรู้สึกสั่นสะท้านเหมือนสติถูกกระชากทิ้งออกไปตามแรงดูดนั้น แต่ยังดีที่แทนยังพอประคองสติเอาไว้ได้และพยายามควบคุมไม่ให้เื่ราวภายในคืนนี้มันเลยเถิดจนมากเกินไป
“อ๊า...” เสียงใสหลุดครางออกมาเมื่อถูกดูดผิวเนื้ออย่างแรงจนเกิดรอยช้ำขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ใบหน้าสวยถูกผู้เป็เ้าของวางเกยไหล่หนาเอาไว้ขณะที่มือเรียวกำลังแตะััอยู่บนท่อนลำของอัลฟ่าที่ตื่นตัวอย่างเต็มที่ ยิ่งมือบางัักับมันมากเท่าไรกลิ่นป่าสนก็ยิ่งถูกปล่อยออกมาเข้มมากขึ้นเท่านั้น
“หยุดข่มกูสักที”
“...”
“กูไม่ได้จะแย่งถิ่นมึง แต่กูกำลังช่วยมึงไอ้ควาย” ปากอิ่มบ่นออกมาเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มถูกแรงกดดันของอีกคนบีบรัดเอาไว้อีกแล้ว
“ซี๊ดดดด” ใบหน้าหล่อซบลงกับไหล่บางเหมือนคนหมดแรงเมื่อ ฝ่ามือขาวเริ่มขยับรูดรั้งขึ้นลงบนท่อนลำที่แข็งชัน แทนกัดปากแน่นเขารู้สึกได้ถึงเส้นเืที่ปูดโปนออกมารอบๆฐานของแท่งเอ็นร้อนในมือที่กำลังสั่นสู้กับฝ่ามือของเขา คงจะทรมานน่าดูเลยสินะ
“...”
“กูอยากได้มากกว่านี้” เสียงทุ้มกระซิบบอก ก่อนลิ้นร้อนจะไล้เลียไปรอบใบหูบางที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ
“กูให้ได้แค่นี้”
แทนเอ่ยตอบออกไปก่อนจะตั้งใจชักรูดแก่นกายของอีกคนให้เร็วมากขึ้น เขาพยายามเน้นที่ส่วนหัวเป็พิเศษทั้งในจังหวะที่ชักขึ้นและรูดลง ก่อนจะใช้มือซ้ายชักรอบๆโคนแท่งร้อนเอาไว้ และใช้มือขวากำรอบส่วนยอดเอาไว้จงใจบดปลายนิ้วโป้งลงบนหัวหยักที่เริ่มปล่อยน้ำสีขาวไหลออกมาตามรอยแยกจบเปื้อนเลอะทั้งแท่งร้อนและฝ่ามือของเขา
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ
“อย่าจับ” เสียงใสเอ่ยดุขึ้นเมื่อฝ่ามือหนาเริ่มซุกซนไปยุ่งกับเป้ากางเกงของเขา แต่อีกคนก็หาได้สนใจในสิ่งที่เขาพูดไม่ มือหนาแตะลงที่เม็ดกระดุมของกางเกงสีซีดก่อนจะปลดมันออกอย่างง่ายดาย
“อ่าห์” ร่างสูงคำรามออกมาเสียงต่ำเพราะถูกบีบรัดที่แท่งร้อนด้วยแรงที่มากขึ้น
“...” เมื่อพูดไม่ฟังร่างบางจึงหยุดการกระทำของอีกฝ่ายลงด้วยการเพิ่มจังหวะในการขยี้ส่วนหัวให้แรงมากขึ้น ทำให้ร่างสูงเกร็งตัวและแอ่นสะโพกสอบเข้าหาฝ่ามือบางมากยิ่งขึ้น
ร่างสูงอาศัย่ที่อีกคนกำลังโฟกัสกับท่อนลำของตัวเองสอดมือเข้าไปในเสื้อยืดที่ร่างบางสวมเอาไว้ ฝ่ามือหนาที่ร้อนผ่าวทาบลงบนหน้าท้องที่พอมีกล้ามอยู่บ้าง ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปจนถึงแผงอกเนียน ทั้งที่เป็อัลฟ่าแต่ผิวกลับเนียนลื่นมือไปเสียหมด
“เฮือก” ใบหน้าสวยที่เกยอยู่บนบ่าแกร่งเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความใแล้วเปลี่ยนเป็กัดปากซบหน้าลงกับไหล่ของคนตรงหน้าเอาไว้เมื่อปลายนิ้วโป้งหนากดลงบนปลายยอดทับทิมทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียมก่อนจะออกแรงนวดคลึงจนมันแข็งสู้นิ้ว
“...”
“อึก” ปากอิ่มพยายามสะกดกั้นเสียงครางของตัวเองเอาไว้อย่างยากลำบาก มือเรียวหยุดชะงักการเคลื่อนไหวลงในทันทีเมื่อถูกอีกฝ่ายหยอกล้อกับยอดอกไม่เลิกเสียที
“...” ปลื้มเอนตัวเองออกไปด้านหลังเพื่อให้ใบหน้าที่ซบอยู่ที่ไหล่ของตนเลื่อนห่างออกไป ก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไปจูบลงที่ปลายคางสวยของคนที่ก้มหน้าอยู่ และซุกไซ้ไปที่ลำคอหอมนั้นอีกครั้ง ปลายลิ้นร้อนลากไล้ไปตามแนวยาวของลำคอขาวสลับกับขบกัดอย่างเอาแต่ใจไม่ต่างจากมือหนาที่บดขยี้ลงบนเม็ดเชอรี่ทั้งสองจนเ้าของมันรู้สึกเจ็บแลขนลุกชันไปทั้งร่าง
“อ๊ะ...” ใบหน้าหล่อยิ้มกว้างออกมาจนให้เห็นลักยิ้มบุ๋มทั้งสองข้างเมื่อได้ยินเสียงหวานครางออกมา
“ไม่ไหวแล้ว...ขอมากกว่านี้ได้มั้ย” เสียงทุ้มกระซิบชิดใบหูของร่างบางอีกครั้ง
“ไม่...ก็คือไม่”
แทนยังคงหนักแน่นในคำเดิม เขาพยายามเร่งจังหวะในการชักขึ้นชักลงให้เร็วขึ้นกว่าเดิมเพื่อที่อีกคนจะได้ปลดปล่อยออกมาสักที เมื่อััได้ว่าแท่งเอ็นอวบในมือเริ่มเพิ่มขนาดมากขึ้นอีกร่างบางก็ยิ่งตั้งอกตั้งใจมากขึ้นเท่านั้น
“แค่นี้มันไม่เสร็จหรอก” ร่างสูงที่รู้จักร่างกายของตัวเองดีเอ่ยบอก ก่อนมือหนาจะเลิกกลั่นแกล้งยอดอกของอีกคน แล้วจัดการปลดกางเกงยีนสีซีดที่แทนใส่อยู่ลงไปกองอยู่เหนือเข่าด้วยความเร็วที่แม้แต่แทนเองก็ยังขัดขืนไม่ทัน
“มึงจะทะ...”
“หันหลัง”
“ไม่!” ร่างบางเอ่ยเสียงแข็ง
“ตามใจ” ร่างสูงเอ่ยบอกเพียงเท่านั้น ก่อนมือหนาจะจับมือบางที่กอบกุมแท่งร้อนอยู่ให้ผละออกไป แล้วจับมันจ่อไปที่ต้นขาของร่างบางแทน “หนีบขาเข้าหากันกว่านี้หน่อย” เมื่อเห็นว่าอีกคนยังเฉยไม่ยอมทำตาม ร่างสูงก็เป็ฝ่ายจัดการจับให้ต้นขาขาวเบียดชิดเข้าหากันโดยมีแท่งร้อนของตัวเองแทรกอยู่ระหว่างกลาง แทนรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้ายามที่สะโพกสอบกระแทกเข้าออกที่ต้นขาของเขา
ริมฝีปากอิ่มถูกเม้มเอาไว้ด้วยความประหม่า ดวงตากลมเสมองไปทางอื่นแทนใบหน้าหล่อที่ท่วมไปด้วยหยาดเหงื่อ ร่างบางรับรู้ได้ถึงท่อนลำที่กระทั้นเข้าออกอยู่ที่ต้นขาของเขาในทุกจังหวะที่มันเข้าออก และยามที่อีกฝ่ายอัดสะโพกเข้ามาสวนกลางกายของเขาที่ซ้อนอยู่ในชั้นในมันก็กระแทกเข้ากับหน้าท้องแกร่งของอีกคนเช่นกัน
ปึก ปึก ปึก
เสียงกระทบกันระหว่างหน้าขาแกร่งและหน้าขาขาวดังลั่นไปทั่วทั้งห้องที่เคยเงียบสนิท เ้าของขาเรียวรับรู้ได้ถึงน้ำเหนียวหนืดที่ไหลย้อยลงไปตามเรียวขา แทนรู้สึกอับอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีทั้งที่เป็อัลฟ่าเหมือนกันแต่กลับมายืนหนีบขาให้อีกฝ่ายกระแทกใส่ ความเป็คนดีและความใจอ่อนกำลังสร้างเื่ราวบัดซบที่เขาจะไม่มีวันลืมให้กับชีวิตของตัวเองเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเื่
Rrrrr
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นพร้อมกับแรงสั่นทำให้ปลื้มหยุดชะงักทุกอย่างลงก่อนจะยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่ถูกถอดกองเอาไว้บริเวณหัวเข่า เขาไม่แม้แต่จะมองว่าปลายสายที่โทรเข้ามาเป็ใครปลายนิ้วหนากดรับสายแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบชิดหูพร้อมกับสอดท่อนลำเข้าไปที่หว่างขาของคนตรงหน้าอีกครั้ง
“ไอ้...” แทนที่กำลังจะด่าปลื้มต้องรีบหยุดปากตัวเองเอาไว้เมื่อได้ยินเสียงของปลายสายออกมาจากโทรศัพท์เบาๆ
(ไอ้เหี้ยปลื้มมึงหายหัวไปไหนเนี่ย) เป็เก่งนั่นเองที่โทรเข้ามา
“กลับแล้ว”
(กลับไปไหน กลับห้องอะหรอ แล้วมึงกลับไปยังไงรถยังอยู่ที่ร้านอยู่เลยไอ้เวร)
“...”
(มึงเมามากมั้ย แดกเพรียวไปขนาดนั้นกูคิดว่าไปนอนอ้วกอยู่ข้างทางซะแล้ว)
“ไม่”
“...” ตอแหล แทนคิดอยู่ในใจ
“ซี๊ดดดด”
(ไอ้ปลื้มทำไมเสียงมึงแม่งกระเส่าขนาดนั้นวะ นี่มึงเอากับใครอยู่ป่ะเนี่ย)
“ดีสัด...ฮ่าห์”
(ดีเหี้ยอะไรล่ะ ขนลุกไอ้สัด พรุ่งนี้ตื่นมามึงเจอพวกกูซักรีดแน่ กูจะแท็กทีมกับพีครีดมึงให้เรียบเลยคอยดู) เก่งเอ่ยทิ้งท้ายไว้ก่อนจะรีบกดตัดสายไปเพื่อให้เพื่อนได้ทำภารกิจของตัวเองต่อให้เสร็จ แล้วก็รู้สึกผิดนิดหน่อยที่โทรมาขัดจังหวะเพื่อนใน่เวลาแบบนี้
ตึก!
เมื่อเสียงของเพื่อนเงียบหายไปร่างสูงก็ปล่อยโทรศัพท์ให้ร่วงลงบนพื้นจนเกิดเสียงดังอย่างไม่นึกสนใจว่าราคาของมันจะแพงมากแค่ไหนตอนที่ซื้อมา
“อึก...ซี๊ด...จะเสร็จแล้ว” เสียงทุ้มแหบเอ่ยบอกพร้อมกับใบหน้าหล่อที่กดแนบลงมาจนหน้าผากของเขาทั้งสองคนแนบชิดกัน เปลือกตาคมหลับลงเมื่อรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังจะแตะที่ขอบของความสุขในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า หยดน้ำเม็ดเล็กที่กระจายกันเกาะอยู่บนใบหน้าหล่อค่อยๆไหลลงมาตามแนวของกรอบหน้าและหยดลงจากปลายคาง
พรวดดดด
“กึก” ฟันคมขบกันแน่นจนลำคอแกร่งขึ้นเส้นเืปูดโปนยามที่ร่างกายสูงใหญ่กระตุกตัวปล่อยน้ำรักออกมาอาบซอกขาของร่างบาง แต่การปลดปล่อยเพียงครั้งเดียวนั้นมันก็ยังไม่เพียงพอสำหรับอัลฟ่าป่าสนคนนี้อยู่ดี
หลังจากที่ทำให้ปลื้มปลดปล่อยออกมาได้สำเร็จแทนก็อาศัย่ที่อีกคนกำลังปรับจังหวะหายใจพลิกตัวไปยืนอยู่ด้านหลังของร่างสูงแล้วใช้แขนเรียวด้านขวาอ้อมไปไว้ด้านหน้าให้มือขวาจับเข้าที่ต้นแขนซ้ายของตัวเองได้เพื่อล็อกแขนเอาไว้ต่อให้อีกคนดิ้นแค่ไหนแขนเขาก็จะไม่มีทางหลุด ก่อนจะงอแขนซ้ายมาที่บริเวณท้ายทอยของร่างสูงและออกแรงรัดคออีกฝ่ายทันที
“อึก” ปลื้มพยายามดิ้นไปมาเมื่อเขารู้สึกทรมานเนื่องจากอากาศหายใจไม่พอ ก่อนร่างของอัลฟ่าหนุ่มจะค่อยๆนิ่งลง
“สิ้นฤทธิ์ได้สักทีนะมึง” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสลบไปแล้วแทนจึงยอมผละแขนของตัวเองออก เปลี่ยนมาเป็ประคองร่างกายของอีกฝ่ายเอาไว้แทน โชคดีที่เขาเคยเรียนศิลปะการป้องกันตัวมาอยู่บ้างจึงพอเอามาปรับใช้กับสถานการณ์ที่เจอได้ การรัดคอเมื่อสักครู่แทนไม่ได้มีเจตนาที่จะปลิดชีพปลื้มแต่อย่างใด เขาแค่้าทำให้อีกคนสลบไปก็เท่านั้น
จริงก็อยากจะทำให้หลับๆไปตั้งนานแล้วแต่การปล่อยให้ร่างกายของอัลฟ่าที่กำลังรัทสลบไปโดยที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยนั้นอาจจะไม่สร้างผลดีให้กับปลื้มสักเท่าไร เขาจึงได้ใจดีจะช่วยให้อีกคนปลดปล่อยออกมาก่อนแล้วจึงค่อยจัดการให้สลบแต่ใครจะคิดว่าปลื้มจะกล้าทำเื่หน้าอายแบบนั้นกับเขา
ร่างบางค่อยๆจับให้ร่างสูงที่หมดสติไปแล้วนั่งลงบนพื้นก่อนจัดการดึงกางเกงของตัวเองให้ขึ้นมาอยู่ในระดับปกติ แล้วค่อยย่อตัวลงไปนั่งข้างๆปลื้ม แทนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงสแลคที่ถูกถอดคาเอาไว้ที่เข่าของอีกคนเพื่อหยิบคีย์การ์ดออกมาและเสียบมันลงไปในช่องที่เสียบคีย์การ์ดทำให้ห้องที่เคยมืดสนิทสว่างขึ้นมาจนร่างบางเองยังหรี่ตาเพราะไม่สามารถปรับตัวกับแสงสว่างจ้าได้ทัน
“หมดสภาพที่แท้” เสียงใสเอ่ยบอกกับร่างสูงที่หลับคอพับคออ่อนอยู่ เขาจัดการดึงกางเกงขึ้นสวมให้อีกคนตามปกติรูดซิปให้เรียบร้อยแต่ไม่ได้ติดกระดุมให้เพราะเกรงว่าตอนนอนอีกคนจะอึดอัดเอาได้ ก่อนจะใช้แรงที่เหลืออยู่ในการแบกร่างสูงไปทิ้งไว้ที่โซฟาตัวยาวในส่วนของห้องรับแขก
อัลฟ่าเ้าของกลิ่นฝนเท้าเอวมองร่างสูงที่นอนหลับไม่รู้เื่ด้วยท่าทีที่ดูเหนื่อยเพลีย ที่จริงเขาตั้งใจว่าจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านแต่ดูจากสภาพของตัวเองในตอนนี้แล้วเขาว่าเขาคงกลับไม่ไหว ก่อนตากลมจะเลื่อนมามองยังเป้ากางเกงของตัวเองที่นูนกว่าปกติ แทนเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะไม่รู้สึกอะไรเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ใบหน้าสวยมองไปรอบๆตัวก่อนจะไปสะดุดเข้ากับประตูสองบานหนึ่งในสองต้องเป็ประตูห้องนอนของร่างสูงแน่ๆ ขาเรียวจึงเดินไปในทิศทางที่มีประตูที่ใกล้ที่สุดอยู่ก่อนเมื่อเปิดออกแล้วพบว่ามันเป็ห้องน้ำก็ปิดลง แล้วเดินลากขาต่อไปอีกหน่อยเพื่อเปิดประตูและเข้าไปในห้องนอนของปลื้มอย่างถือวิสาสะ
มือบางกดเปิดไฟในห้องให้สว่าง ก่อนจะจัดการถอดเสื้อยืดที่เปื้อนอ้วกของเ้าของห้องออกแล้วเหวี่ยงทิ้งลงบนพื้นโดยไม่สนใจว่ามันจะไปกองอยู่ตรงไหน หยิบผ้าเช็ดตัวที่ถูกแขวนเอาไว้ขึ้นพาดบ่าก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำที่เชื่อมติดอยู่กับห้องนอน และกลับออกมาอีกครั้งในตอนที่ทำความสะอาดและจัดการกับร่างกายของตัวเองเสร็จแล้ว
อัลฟ่าตัวขาวยืนมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกสภาพคอของเขาเหมือนไปโดนหมาฟัดมามีทั้งรอยเขี้ยว รอยฟัน รอยดูดครบจบที่คอเดียว ไล่ต่ำลงมาที่หน้าอกก็แดงเป็ปื้นเพราะถูกบีบเค้น และต้นขาด้านในที่ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะถูกเสียดสีเป็เวลานานพอสมควร ปลายนิ้วเรียวที่ยังมีหยาดน้ำเกาะอยู่แตะลงที่บริเวณนั้นอย่างแ่เบาผิวกายของเขายังจดจำอุณหภูมิที่ร้อนผ่าวของแท่งร้อนนั้นได้เป็อย่างดี
“ขนาดกูเป็อัลฟ่ายังเละขนาดนี้ ถ้าเป็โอเมก้า...” แทนไม่อยากคิดเลยว่าโอเมก้าที่ต้องรองรับอารมณ์ใน่เวลารัทของปลื้มนั้นจะมีสภาพยับเยินแค่ไหน ก่อนใบหน้าน่ารักของใครบางคนจะผุดขึ้นมาในหัวเขา คนน่ารักที่พึ่งวนมาเจอกันอีกในรอบสองปี
“น่ารักมากกว่าเมื่อก่อนอีกนะ...เรน” เสียงทุ้มติดใสที่ปลายเสียงเอ่ยบอกกับร่างเล็กที่เดินมาทักทายเขาถึงที่โต๊ะหลังจากที่พึ่งเจอกันในห้องน้ำ
“ชมแบบนี้เราก็เขินแย่เลยดิ”
บทสนทนาจบลงที่ตรงนั้นพร้อมกับใบหน้าของเขาที่ถูกกำปั้นของไอ้อัลฟ่าที่นอนสลบไม่รู้เื่รู้ราวอยู่ข้างนอกกระแทกเข้าอย่างจังจนหน้าหัน