เฟิ่งเฉี่ยนตอบกลับมาว่า “กระบวนท่าเมื่อสักครู่เป็กระบวนท่าที่อาจารย์คนแรกของข้าสอนข้า เขาบอกว่าต่อให้ไม่มีหน่วยก้านของพลังเทพก็สามารถเรียนรู้ศิลปะการป้องกันตัวได้ ดังนั้นเขาจึงถ่ายทอดกระบวนท่าชุดนี้เพื่อให้ข้าเอาไว้ป้องกันตัว หากจะพูดให้ถูกต้องก็คือ เพื่อนำมาใช้เพื่อเอาชีวิตรอด!”
นางไม่อยากโกหกอีกฝ่าย แต่เื่บางเื่จำเป็ต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผล
ท่านหญิงชิงเสียหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก กระบวนท่าน่าตกตะลึงและเยี่ยมยอดเช่นนั้น แต่นางกลับนำมาเป็เครื่องมือในการเอาชีวิตรอด!
ทว่านางกลับจับประเด็นได้อย่างรวดเร็วก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงตื่นตะลึง “อะไรนะ เ้าไม่มีหน่วยก้านของพลังเทพ?”
เรือนจินฟัง ท่านาุโทุกท่านได้แต่งงงันเช่นกัน
นางถึงกับไม่มีหน่วยก้านของพลังเทพ แต่ยังร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้?
ต้องรู้ว่าการไม่มีหน่วยก้านของพลังเทพเท่ากับถูกตราหน้าว่าเป็คนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง กระทั่งคุณสมบัติที่จะฝึกยุทธ์ก็ยังไม่มี!
คนไร้ประโยชน์คนหนึ่งถึงกับฝ่าด่านมาได้สองด่านติดๆ กัน นี่มันเหลือเชื่อ!
ฝ่ามือของท่านาุโกู่ชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น คิดไม่ถึงว่าสถานการณ์ของนางจะย่ำแย่กว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้เสียอีก เดิมทีคิดว่าเพียงความสามารถไม่มากพอ ต่อไปอาจจะฝึกฝนเพิ่มให้ดีขึ้นได้ แต่หากไม่มีหน่วยก้านพลังเทพ จะฝึกฝนอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ เขาแทบจะหัวใจสลาย!
เฟิ่งเฉี่ยนพยักหน้าช้าๆ หากว่ากัน ร่างเดิมของฮองเฮา ควรจะไม่มีหน่วยก้านพลังเทพจึงจะถูกต้อง แต่นางทะลุมิติมาจะมีหรือไม่นั้น นางไม่รู้
ท่านหญิงชิงเสียพูดด้วยน้ำเสียงกังขา “หากเ้าไม่มีหน่วยก้านพลังเทพ ว่ากันตามหลักแล้วเสาทดสอบพลังยุทธ์ย่อมไม่ปรากฏตัวเลขพลังการสู้รบและพลังชีวิตของเ้า เพราะเสาทดสอบพลังยุทธ์นั้นวัดจากพลังเทพจึงจะคำนวณตัวเลขได้”
เรือนจินเฟิง ท่านาุโกู่และท่านอื่นๆ พากันพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของนาง หากเฟิ่งเฉี่ยนไม่มีหน่วยก้านพลังเทพจริงๆ เหตุใดเสาทดสอบพลังยุทธ์จึงปรากฏตัวเลขออกมาได้เล่า?
ดวงตาหม่นวูบของท่านาุโกู่พลันมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
ท่านหญิงชิงเสียนิ่งไปครู่หนึ่ง “เช่นนี้เถิด ข้าจะถ่ายทอดวิธีเดินพลังลมปราณให้กับเ้าชุดหนึ่งก่อน เ้าจะรับไปได้เท่าใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเ้า”
เฟิ่งเฉี่ยนพยักหน้า ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับนาง
เรือนจินเฟิง ท่านาุโทั้งหลายเริ่มหารือกัน
“หากแม่นางเฟิงมีหน่วยก้านของพลังเทพจริงๆ หลังจากฝึกวิธีการเดินลมปราณแล้ว การจะเพิ่มพลังความสามารถขึ้นหนึ่งเท่าไม่ใช่ปัญหา! ท่านหญิงชนะแน่แล้ว!” ท่านาุโเหลียนพูดอย่างยินดี
ท่านาุโเฉินพยักหน้าเห็นด้วย “ท่านหญิงชิงเสียเป็คนละเอียดถี่ถ้วน ทั้งจิตใจกล้าหาญ ข้ายืนข้างนาง!”
“นั่น...นั่นยังไม่แน่!” ท่านาุโกู่โต้กลับอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ในใจนั้นร้อนรนกว่าใคร
รองอาจารย์ใหญ่หัวเราะตาหยีมิได้ต่อปากต่อคำ
ท่านาุโฉินยังคงเงียบงัน
“ข้าจะสอนวิธีการเดินลมปราณที่ชื่อว่า 《พลังลมปราณดาวเจ็ดดวง》 เป็วิธีเดินลมปราณที่เป็ของสกุลเยียนของข้า มันจะช่วยเ้ารวบรวมพลังเทพภายในร่างกายของเ้า เพื่อให้เ้านำมันมาใช้ประโยชน์ได้!” ท่านหญิงชิงเสียพูดช้าๆ “ดูจากตัวเลขที่ปรากฏบนเสาทดสอบพลังยุทธ์แล้ว ในร่างกายของเ้าได้สะสมพลังเทพเอาไว้ไม่น้อย แต่พวกมันอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย เ้าเองไม่รู้วิธีการควบคุมและนำมาใช้ ดังนั้นจึงทำให้พวกมันไม่อาจแสดงพลังและอานุภาพของมันออกมาได้ แต่ด้วยเวลามีจำกัด ข้าไม่อาจสอนให้เ้าล้างไขกระดูกและสร้างรากฐานของลมปราณั้แ่ต้นได้ ข้าได้แต่ช่วยเ้ารวบรวมพลังลมปราณภายในระยะเวลาอันสั้น และใช้มันให้ได้อย่างมีอานุภาพที่สุด”
เฟิ่งเฉี่ยนพยักหน้าเงียบๆ นางไม่รู้ว่า 《พลังลมปราณดาวเจ็ดดวง》ชุดนี้มีอานุภาพและมีค่าเพียงใด แต่ท่านาุโทุกท่านในเรือนจินฟังเมื่อได้ยินคำว่า 《พลังลมปราณดาวเจ็ดดวง》แววตาของพวกเขาแทบจะเกิดประกายไฟขึ้นมาทีเดียว นั่นเป็สิ่งที่ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนต่าง้า!
“《พลังลมปราณดาวเจ็ดดวง》 ของสกุลเยียนนั่นน่ะเป็วิธีการเดินลมปราณขั้นห้าขึ้นไปเชียว พบเห็นได้ทว่าไม่อาจร้องขอได้!” ท่านาุโเฉินกล่าว
“ข้าได้ยินว่า 《พลังลมปราณดาวเจ็ดดวง》เมื่อครั้งเยียนโหวยังหนุ่มได้ออกไปฝึกฝนและได้พบขุมสมบัติแห่งหนึ่ง พูดกันว่าในขุมสมบัติแห่งนี้มีบันทึกโบราณ เห็นได้ว่า 《พลังลมปราณดาวเจ็ดดวง》มีความเป็มาไม่สามัญ” ท่านอาวสุโสกู่กล่าว
ท่านาุโเหลียนได้แต่ทอดถอนใจ “ท่านหญิงชิงเสียถึงกับนำวิธีการเดินพลังลมปราณที่ล้ำค่าหายากเช่นนี้ถ่ายทอดให้กับแม่นางเฟิง เห็นได้ว่านางมีความจริงใจต่อผู้อื่น และมีคุณสมบัติของการเป็อาจารย์”
รองอาจารย์ใหญ่พลันเอ่ยปากขึ้นว่า “ใจที่ไร้ความเห็นแก่ตัวนั้นย่อมเปิดกว้าง เส้นทางบนโลกนี้ล้วนผันผวน!”
ได้ยินรองอาจารย์ใหญ่กล่าวชมเช่นนี้ ท่านาุโเหลียนลอบปรบมือในใจ เื่นี้สำเร็จแล้ว! ดอกเหมยทองต้องเป็ของท่านหญิงชิงเสียแน่นอน!
ท่านหญิงชิงเสียกำลังกระซิบกระซาบข้างหูเฟิ่งเฉี่ยน เพื่อถ่ายทอดวิธีการเดินลมปราณของ 《พลังลมปราณดาวเจ็ดดวง》รอบหนึ่ง “วิธีการเดินลมปราณนี้เป็ของสืบทอดของตระกูลเท่านั้น ตามหลักแล้วไม่อาจถ่ายทอดให้กับคนนอก แต่เ้ากับข้าเมื่อพบกันเหมือนมีวาสนาต่อกัน วันนี้ข้าจะถ่ายทอดมันให้กับเ้า ไม่รู้ว่าเ้าจดจำได้แล้วหรือไม่?”
เฟิ่งเฉี่ยนเพิ่งจะกระจ่างแจ้งถึงวิธีการเดินลมปราณชุดนี้ หัวใจของนางอุ่นซ่าน นางพูดด้วยความตื้นตันใจ “ข้าจดจำไว้หมดแล้ว! ท่านหญิงจริงใจต่อข้าเช่นนี้ ข้าจะเก็บวิธีการเดินลมปราณชุดนี้เป็ความลับ ไม่ถ่ายทอดให้คนนอก! ขณะเดียวกันก็จะตั้งใจฝึกฝนให้ดี!”
ท่านหญิงพยักหน้ายิ้มๆ “เ้าลองเดินลมปราณตามขั้นตอนสักครั้งหนึ่ง จากนั้นค่อยไปซัดฝ่ามือใส่เสาทดสอบพลังยุทธ์”
เฟิ่งเฉี่ยนพยักหน้า นางเริ่มปิดดวงตาทั้งคู่ลง และฝึกพลังลมปราณพร้อมกำหนดลมหายใจตาม 《พลังลมปราณดาวเจ็ดดวง》
สำหรับการฝึกยุทธ์ นางเป็คนมีพร์อย่างยิ่งมาโดยตลอด คนปกติต้องใช้เวลาฝึกหนึ่งเดือนจึงจะเป็เชี่ยวชาญ แต่นางฝึกสามวันก็สำเร็จแล้ว 《พลังลมปราณดาวเจ็ดดวง》ไม่ได้ซับซ้อนยุ่งยากอันใด ดังนั้นนางจึงเข้าใจทันที
ความร้อนสายหนึ่งรวมตัวกัน ณ ท้องน้อยอย่างรวดเร็ว และส่งผ่านไปยังแขนขาทั้งสี่ทะลุทะลวงไปทั่วร่างกาย ความร้อนสายนี้ไหลบ่าไปยังอวัยวะต่างๆ อย่างไหลลื่น ส่งผลให้เืลมรวมตัวกันไร้ซึ่งอุปสรรค! ต่อมาพลังเทพที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ของร่างกายเริ่มรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว แล้วกลับมารวมตัวกันอยู่ที่บริเวณท้องน้อยอีกครั้ง...
เฟิ่งเฉี่ยนรับรู้ได้ทันทีว่าพลังเทพอันเต็มเปี่ยมภายในร่างกาย นางมองหาสถานที่ที่จะระบายพลังลมปราณนี้!
ฮ่า!
พลังลมปราณสายหนึ่งพุ่งออกมาจากร่างกาย!
รอบๆ ร่างกายของนางพลันปรากฏแสงสีส้มจางๆ ชั้นหนึ่ง!
นี่เป็ปรากฏการณ์ที่เหนือกว่าเทพยุทธ์ขั้นหนึ่ง!
ใช่แล้ว นางก้าวขึ้นไปสู่อีกขั้นหนึ่งแล้ว!
นางกำลังก้าวเข้าไปสู่กระบวนการของการเป็เทพยุทธ์ และกลายเป็เทพยุทธ์ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงคนหนึ่ง!
ต่อให้เป็เพียงขั้นแรก แต่สำหรับนางแล้ว กลับเป็การเริ่มต้นใหม่ที่งดงาม!
นางลืมตาขึ้นพรึ่บ เมื่อเดินพลังปราณพอแล้วรวบรวมพลังลมปราณมาที่ฝ่ามือ ต่อมานางส่งเสียงร้องพร้อมกับซัดฝ่ามือออกไปบนเสาหิน!
ฝ่ามือนี้ นางใช้พละกำลังถึงสิบส่วน!
เสาหินต้นนั้นยังคงไม่เคลื่อนไหว แต่เฟิ่งเฉี่ยนััได้อย่างชัดเจนว่าพลังของนางเพิ่มขึ้นแล้ว
ท่านาุโในเรือนจินเฟิงต่างจับจ้องเสาทดสอบพลังยุทธ์ผ่านลูกแก้วคริสตัล รอผลสรุปที่จะปรากฏออกมา
ท่านหญิงชิงเสียรอคอยด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน
ในที่สุด ตัวอักษรสีน้ำเงินก็ปรากฏออกมา--
พลังการสู้รบ 120 พลังชีวิต 120!
คนทั้งหมดตกตะลึง
เพิ่มขึ้นมาหนึ่งเท่าเต็มๆ!
ชนะแล้ว! ท่านหญิงชิงเสียชนะแล้ว!
ต่อให้เฟิ่งเฉี่ยนมีความสามารถมากมาย ก็ไม่อาจทำให้เทพยุทธ์ขั้นเจ็ดคนหนึ่งเพิ่มพลังเทพขึ้นมาหนึ่งเท่าในระยะเวลาสั้นๆ!
การก้าวหน้าขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว นั่นหมายความว่าท่านหญิงชิงเสียที่เป็เทพยุทธ์ขั้นเจ็ด จะก้าวะโมาอยู่ในขั้นของอาจารย์เทพยุทธ์ทันที!
เื่นี้เป็เื่เป็ไปไม่ได้!
ต่อให้นางกินโอสถ์เข้าไป ก็ไม่อาจทำเื่นี้ให้เป็จริงได้!
ดีเหลือเกิน! สำเร็จแล้ว!
ท่านาุโเหลียนยินดีปรีดา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้