ความเป็อยู่ของบ้านสวีย่ำแย่มาก สวีเต๋อเซิ่งโดนตัดสินปะา ตอนนี้โดนขังอยู่ก็ไม่ต่างกับรอวันตาย
จากวันฟ้าใสในอดีต สองสามวันมานี้หมู่บ้านเค่าซานมีหิมะตกหนัก
ชาวบ้านเก็บตัวหนาวอยู่ในบ้าน หิมะตกหนักขนาดนี้ ไม่มีผู้ใดมีกะจิตกะใจไปดูเื่สนุกที่บ้านสวี หนาวจนสั่น
แต่แน่นอนว่าการเก็บตัวผิงไฟในบ้านก็ไม่น่าเบื่อเสียทีเดียว เพราะเื่ของบ้านสวีเพียงพอให้คุยได้ทั้งปี
ซุนซื่อเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ร้องไห้ทุกคืน สามีตัวเองตาย ลูกชายคนโตที่มีอนาคตที่สุดก็กำลังจะตายเช่นกัน
ลูกชายคนรองถูกไล่ออกจากงานที่บ่อน เงินในบ้านถูกใช้จนหมด ตอนนี้ทั้งครอบครัวต้องพึ่งพาเงินที่ลูกรองเก็บไว้ในตำบลก่อนหน้านี้
แต่เมื่อเวลาผ่านไปนาน ภรรยาของลูกรองก็หน้าไม่ใช่หน้า จมูกไม่ใช่จมูก[1]
ซุนซื่อได้แต่อดทน
นางเกลียดบ้านเจียง หากบ้านเจียงไม่สร้างเื่วุ่นวายเช่นนั้น ครอบครัวนางคงไม่ประสบหายนะเช่นนี้
ไม่คิดบ้างว่าพวกนางเป็ฝ่ายปองร้ายคนร้ายอื่นก่อน
คนประเภทนี้…รู้สึกว่าฟ้ากว้างแผ่นดินใหญ่ ครอบครัวตัวเองใหญ่ที่สุด
ทุกคนยกยอปอปั้นตัวเอง
มีสิทธิ์กระไร?
เ้าเป็ผู้ใด?
น้องของเง็กเซียนฮ่องเต้หรือ?
สมควรประสบหายนะแล้วล่ะ!
ความเป็อยู่ของบ้านสวีไม่ดี ความเป็อยู่ของบ้านหลินก็ไม่ต่างกระไรกัน
ฤดูหนาวสิ้นปีไม่เพียงกินไม่อิ่ม เสื้อผ้าใหม่ก็ไม่มีให้ใส่
ทุกคนทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก
เมื่อท้องฟ้ามืดลง จู่ๆ ก็มีคนมาเคาะประตูบ้านหลิน
หลินฟาไฉเปิดประตูเดินนำบุรุษเฒ่าผู้หนึ่งเข้ามา บุรุษผู้นี้ดูท่าทางอายุพอๆ กับหลินฟาไฉ เขาเดินขากะเผลก มองอย่างละเอียดจะพบว่าขาข้างหนึ่งเบ้ออก
“มาได้อย่างไร?” หลินฟาไฉถาม
บุรุษเฒ่าขาเป๋ตอบว่า “ขับรถล่อมา คืนนี้กลับไม่ได้ ต้องขอพักที่บ้านเ้าสักคืน วันพรุ่งจะออกเดินทางก่อนฟ้าสาง”
พูดจบก็จูงรถล่อเข้ามาในลานบ้าน จากนั้นถอดตัวยึดรถออกและพาล่อไปหลบลม ป้อนหญ้าให้กิน
หลินฟาไฉพยักหน้า “ได้ เช่นนั้นเื่นั้น…”
บุรุษเฒ่าขาเป๋พูดว่า “ตอนนี้เลยแล้วกัน รีบจัดการจะได้รีบเสร็จ”
“ได้ เช่นนั้นเ้าตามข้ามาที่ห้องโถง”
ทั้งคู่เข้าไปในห้องโถง หลินฟาไฉไปตามสวี่ซื่อ สวี่ซื่อพูดกับเขาว่า “ข้าต้มยาไว้แล้ว ตอนนี้ยาไม่ร้อน ต้องอุ่นหรือไม่?”
หลินฟาไฉคิดแล้วตอบว่า “อุ่นหน่อยดีกว่า ยาต้องร้อนจึงจะออกฤทธิ์ดี ตามลูกรองมาด้วย”
สวี่ซื่อได้ยินดังนั้นก็ไปที่ห้องครัว จุดไฟในเตาให้ลุกโชนและอุ่นยา จากนั้นไปเรียกหลินกุ้ยฮวาที่ห้องหลินฉิน
“ลูกรอง รีบออกมา พ่อเ้ามีเื่จะคุยด้วย”
“มีกระไรหรือถึงรอคุยวันพรุ่งไม่ไหวเช่นนี้” หลินกุ้ยฮวาไม่พอใจ เพิ่งรู้สึกอุ่นอยู่ใต้ผ้าห่มได้แค่ครู่เดียว นางไม่อยากลุก
“คุยเื่เงิน รอถึงวันพรุ่งไม่ได้” สวี่ซื่ออ้าปากโกหกเพราะรู้นิสัยลูกสาวตัวเอง
“ได้ ข้าจะไปประเดี๋ยวนี้” เงิน!
ขอเพียงมีเงินให้ ต่อให้มีมีดร่วงจากฟ้านางก็ลุก!
“น้ารอง ไว้ท่านกลับมาแล้วบอกวิธีหาเงินให้ข้าฟังด้วยเถิด” หลินฉินพูดอย่างอิจฉา
หลินกุ้ยฮวาใส่เสื้อผ้าไปด้วย พูดเย้ยหยันไปด้วย “บอกเ้า? ข้าจะได้ประโยชน์กระไร? เ้ายังมีกระไรให้ข้าได้อีก?”
หลินฉินถูกนางตอกกลับจนปวดใจ
นอนคลุมโปงด้วยความโมโห ใช้มีดแทงหลินกุ้ยฮวาในใจ
หลินกุ้ยฮวาคิดว่าคงไม่มีกระไร รีบเดินเข้าห้องโถง
หลังจากเข้าไปก็เห็นบุรุษเฒ่าขาเป๋นั่งสูบยาสูบอยู่บนม้านั่ง เขาคอยมองมาที่นางตลอดั้แ่ที่นางเข้ามา
สายตานั่นทำให้นางไม่สบายใจเอาเสียเลย
ราวกับกำลังพิจารณาล่อม้าอย่างไรอย่างนั้น
“ท่านพ่อ…ท่านนี้คือผู้ใด?” หลินกุ้ยฮวาถาม
หลินฟาไฉตอบ “ชิวเสียง เ้าเรียกว่าลุงชิว”
“ลุงชิว” หลินกุ้ยฮวาคิดว่าวิธีหาเงินที่ท่านพ่อพูดถึงคงจะเกี่ยวกับบุรุษผู้นี้ นางจึงปั้นหน้ายิ้มประจบ
ชิวเสียงไม่ตอบ จังหวะนี้เองที่สวี่ซื่อยกโอสถชามหนึ่งเข้ามา หลินฟาไฉหันไปปิดประตูลงกลอน
“ท่านพ่อ…พวกท่านจะทำกระไร?” หลินกุ้ยฮวาถามอย่างสงสัย นางรู้สึกลนลานขึ้นมาแบบไร้สาเหตุ
ตอนนี้ชิวเสียงที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดลุกขึ้นยืนแล้ว เขาเดินมาหาหลินกุ้ยฮวาแล้วยืดแขนกอดนางแน่น
“ทำกระไรน่ะ ปล่อยข้านะ!” หลินกุ้ยฮวาทั้งใทั้งโมโห บุรุษผู้นี้กล้ากอดนางต่อหน้าท่านพ่อท่านแม่ นี่มันจะ…
แต่บุรุษเฒ่าผู้นี้แรงเยอะมาก หลินกุ้ยฮวาดิ้นไม่หลุด
และคำพูดของบุรุษเฒ่าก็ต้องทำให้นางเหมือนโดนฟ้าผ่าตอนกลางวัน
“มัวทำกระไรอยู่ ยังไม่รีบกรอกยาให้นางอีก!”
“ท่านพ่อ…ท่านแม่…พวกท่านจะทำกระไร? นี่คือยากระไร...ไม่เอา...ข้าไม่ดื่ม…”
หลินกุ้ยฮวาต่อสู้ดิ้นรนอย่างหวาดกลัว แต่หลินฟาไฉกลับบีบคางนางให้อ้าปาก สวี่ซื่อกรอกยาลงคอ
ที่ซอกประตู หลินฉินมองลอดเข้ามาเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น
นางมองจนตัวสั่น
ภายในใจหวาดกลัวถึงขีดสุด
นางเห็นหลินกุ้ยฮวาถูกกรอกยาแล้วขดตัวดิ้นบนพื้น ถูกบุรุษเฒ่าขาเป๋ดึงมือไปมัดไว้ด้านหลัง
นางอ้าปากกระอักเื สวี่ซื่อถามด้วยความใ “ลูกรองจะตายเพราะยาหรือไม่? หากนางตาย พวกเราจะโดนหยาเหมินจับหรือไม่? ฆ่าคนต้องโดนปะานะ…”
ชิวเสียงมองสวี่ซื่ออย่างไม่พอใจ สายตาเย็นยะเยียบจนน่าผวา “นี่เป็ยาใบ้ ทำลายลำคอย่อมมีเืออก แต่ไม่อันตรายถึงชีวิต”
ไม่อันตรายถึงชีวิตแต่ทำลายลำคอและกระเพาะ
ยาใบ้ชามนี้ทำให้อายุสั้นลงอย่างน้อยสิบปี
“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี เขียนสัญญาขายตัวกันเถิด” มีสัญญาขายตัว หลินกุ้ยฮวาหายไป ต่อให้นางขายตัวไป เช่นนั้นเป็ตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับพวกเขาแล้ว
หลินฉินตัวสั่นอยู่ด้านนอก ท่านปู่กับท่านย่านางถึงกับกล้าลงมือเช่นนี้กับลูกสาวแท้ๆ จะนับประสากระไรกับนาง
ครั้งนี้คือหลินกุ้ยฮวา ครั้งหน้าจะเป็นางหรือไม่?
ต้องใช่เป็แน่
ต้องใช่แน่
หลินฉินหนีกลับห้องอย่างอกสั่นขวัญหาย ปิดประตูให้สนิท ใช้ผ้าห่มคลุมโปงตัวเอง ตัวสั่นอยู่ด้านใต้
ไม่กล้าหลับตาตลอดคืน
เมื่อถูกสวี่ซื่อปลุกในเช้าวันรุ่งขึ้น นางหาทั่วทุกที่แต่ก็ไม่เจอหลินกุ้ยฮวา บุรุษเฒ่าขาเป๋เมื่อคืนก็ไม่อยู่แล้วเช่นกัน
ภายในใจหลินฉินเย็นยะเยียบ
ไม่ได้การ นางต้องหาทางหนีออกจากบ้านหลิน
เชิงอรรถ
[1] หน้าไม่ใช่หน้า จมูกไม่ใช่จมูก(脸不是脸,鼻子不是鼻子) แสดงถึงอาการโกรธจนท่าทางน่าเกลียด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้