เมื่อเย่เฟิงมองใบหน้าอ้อนวอนอย่างน่าสงสารของซูเมิ่งหานก็ได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกล่าว“โลกใบนี้ช่างแสนโหดร้าย คนจิตใจงดงามแบบเธอนี่หาได้ยากจริงๆ เอาเถอะ ในเมื่อเธออยากช่วยพวกเขา ฉันจะให้โอกาสเธอก็ได้”
หลังพูดจบ เย่เฟิงก็หยิบบัตรเครดิตที่มีเงินสองแสนออกมาจากกระเป๋า “นี่ ฉันให้เธอยืมบัตรนี้ ส่วนจะเอาไปใช้ทำอะไรก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอ แต่เธอต้องคิดให้ดี ตอนนี้ฉันขอตัวไปทำธุระก่อน มีเื่อะไรก็โทรมาล่ะ”
เขาตัดสินใจแบบนี้ หนึ่งเพราะรู้สึกถึงความเมตตาของเธอ อีกอย่างคือเพื่อชดใช้แทนแก๊งอสรพิษ์ที่ขายยาให้ต้าเกิน เขาไม่สามารถเมินเฉยได้ ถึงอย่างไรเย่เฟิงก็เสียใจกับเื่นี้อยู่บ้าง
เมื่อซูเมิ่งหานเห็นอีกฝ่ายอธิบายกับเธออย่างเคร่งขรึม จึงรับบัตรใบนั้นจากเขาพร้อมพยักหน้า เย่เฟิงมองท่าทางเธออย่างขบขัน เขาอยากรู้เหมือนกันว่าหลังจากได้เห็นโลกมากขึ้น เธอจะไร้เดียงสาและใจดีแบบนี้อยู่อีกไหม?
ตอนนี้ชายขี่มอเตอร์ไซค์และหญิงวัยกลางคนยังคงไม่สนใจเย่เฟิงและซูเมิ่งหาน พวกเขาล้วนวุ่นวายอยู่กับการพยุงต้าเกินขึ้นมอเตอร์ไซค์ แต่ต้าเกินหมดสติไปแล้วจึงทำได้ไม่ง่ายเลย เวลานี้เสียงรถตู้สองคันแล่นเข้ามาพร้อมฝุ่นฟุ้งไปทั่ว รถทั้งสองคันจอดขวางทางออกของพวกเขา มีชายร่างกำยำจำนวนมากคาบบุหรี่ลงจากรถทีละคน พวกเขาล้วนเปลือยท่อนบนและมีสองคนสวมแว่นกันแดด เพียงมองแวบเดียวก็รู้ว่าคนกลุ่มนี้เป็พวกนักเลงท้องถิ่น
“ใครกล้าท้าทายแก๊งอสรพิษ์! ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไง?” ชายสวมแว่นกันแดดสีดำซึ่งเดินนำมามีกล้ามเป็มัดๆ เขาคายบุหรี่ทิ้งก่อนมองกลุ่มคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าด้วยสายตาดุร้าย พลางเดาว่าใครทำร้ายคนของเขา
ทันทีที่พ่อแม่ของต้าเกินเห็นเเก๊งอสรพิษ์ พวกเขารีบชี้เย่เฟิงที่อยู่ข้างๆ “เขา... พวกเขาเป็คนทำ คนธรรมดาอย่างพวกเราจะกล้าล่วงเกินคนของคุณได้ยังไง?”
ชายแว่นดำมองไปทางเย่เฟิงทันที เมื่อเห็นซูเมิ่งหานซึ่งเป็สาวสวยอยู่ข้างๆ เย่เฟิงก็ประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าจะมีสาวสวยอยู่ที่นี่ ใครกล้าหาเื่แก๊งอสรพิษ์ มันต้องเตรียมตัวรับผลที่ทำ!
ชายแว่นดำโบกมือส่งสัญญาณให้คนของเขาล้อมเย่เฟิงกับซูเมิ่งหาน การกระทำอันน่ากลัวของชายเหล่านี้ทำให้พ่อแม่ของต้าเกินรีบหลบไปอีกทาง เมื่อเห็นคนของแก๊งอสรพิษ์เลิกสนใจพวกเขา ชายวัยกลางคนซึ่งเป็พ่อของต้าเกินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขากระซิบถามภรรยา “เด็กหนุ่มกับสาวน้อยพวกนั้นเป็ใครกัน?”
“นั่นคือซูเมิ่งหานหลานสาวของคุณ เมื่อกี้ไปต่อยคนของแก๊งอสรพิษ์ พวกเราอย่าไปยุ่งดีกว่า ตอนนี้ต้าเกินอาการหนักมากพอแล้ว…” หญิงวัยกลางคนพูดพลางร้องไห้เพราะกลัวสามีจะเข้าไปช่วย
เมื่อพ่อของต้าเกินได้ยินดังนั้นก็แปลกใจเล็กน้อย ซูเมิ่งหานงั้นหรือ? ทำไมเธอถึงกลับมาวันนี้ล่ะ… สายตาของเขาจับจ้องเย่เฟิงและซูเมิ่งหานที่อยู่ท่ามกลางวงล้อมของเเก๊งอสรพิษ์ แม้จะอยากช่วย แต่เมื่อคิดถึงสถานการณ์ตอนนี้แล้วก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างจนปัญญา
ไร้หนทางแล้วจริงๆ เขาเผชิญหน้ากับแก๊งอสรพิษ์ไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้เขายังไม่มีเงินสำหรับค่ารักษาของลูกชายเลย ขาหัก ติดยา ถูกกระทบกระเทือน ซ้ำยังาเ็ภายในอื่นๆ อีก รวมกันเป็จำนวนเงินไม่น้อย
ซูเมิ่งหานกำแขนของเย่เฟิงแน่นและซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง เวลานี้หัวใจเธอเต้นเเรงมาก คราวนี้มีอันธพาลร่วมสิบเอ็ดคน ทำไมเย่เฟิงถึงไม่เปิดเผยตัวตนของเขาเสียที จะได้ไม่ต้องมีเื่กัน ถ้าเกิดสู้กันขึ้นมาล่ะก็... อย่างที่ทุกคนรู้ เย่เฟิงไม่กังวลเลยแม้จะมีศัตรูอยู่หลายสิบคน ถึงพวกมันใช้กลอุบายก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา
ขณะที่เย่เฟิงจะปล่อยหมัด ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของหัวหน้ากลุ่มก็ดังขึ้น เขาโบกมือให้คนของตนจัดการเื่นี้ไปก่อน ขณะยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้านหลัง
“สวัสดีครับพี่ใหญ่ อะไรนะครับ… ถอนตัว? ไม่ทำเเล้ว?” ชายแว่นดำใอย่างยิ่ง“ครับ... ครับ... ครับผม เข้าใจแล้วครับ แต่ที่นี่มีเ้าหนุ่มคนหนึ่งสร้างปัญหาให้เรา รอผมจัดการมันก่อน… อะไรนะครับ?”
เขาเงยหน้าขึ้นเห็นเย่เฟิงต่อยคนของเขาสองคนกระเด็นร่วงอยู่บนพื้น เขาพยายามสังเกตมือขวาของชายหนุ่ม เห็นอีกฝ่ายมีแหวนโบราณวงหนึ่งที่นิ้วมือข้างขวา
“ครับ ใช่ครับ เป็เขาครับ เขาอยู่กับเด็กสาวน่ารักคนหนึ่ง… ครับผม เข้าใจแล้วครับหัวหน้า!” หลังรับรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เริ่มเลวร้าย เขารีบวางสายแล้วะโให้คนของตนหยุดมือทันที “หยุดเดี๋ยวนี้!”
แต่คำสั่งนี้ช้าไปเล็กน้อย
ชายแว่นดำเห็นเย่เฟิงโอบเอวหญิงสาวไว้ในอ้อมกอดและจัดการคนของตนจนลงไปนอนร้องครวญครางบนพื้น ขณะนี้เหลือเพียงห้าคนที่ยืนล้อมอยู่อย่างระมัดระวัง แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปสู้กับชายหนุ่ม
เมื่อได้ยินเสียงะโของชายแว่นดำ พวกเขาต่างประหลาดใจว่าเกิดอะไรขึ้น? ไม่จัดการมันเเล้วหรือ ถึงมันจะโหดจนสู้ไม่ได้ก็ไม่ควรปล่อยไปแบบนี้สิ
“ขออภัยครับพี่เย่ เป็ความผิดของพวกผมเอง” ชายแว่นดำวิ่งหลายก้าวเข้ามาหาเย่เฟิงพร้อมยิ้มแห้ง เขาเกาหัวด้วยท่าทางรู้สึกผิด
หลังจากได้ยินชายแว่นดำพูด ลูกน้องต่างก็เข้าใจ คนที่ถูกเย่เฟิงต่อยก็ถือว่าซวยไป มันน่าเศร้ามากที่ต่อยคนของตัวเองาเ็สาหัสขนาดนี้
“ช่างมันเถอะ” เย่เฟิงรู้ว่าเมื่อครู่เตาปาคงโทรมาบอกเื่ของตนกับชายแว่นดำ ชายหนุ่มโบกมือพร้อมกล่าว “มาได้จังหวะพอดี ใครสักคนขับรถพาฉันไปส่งที ส่วนที่เหลือคอยฟังคำสั่งจากผู้หญิงของฉัน หากเธอสั่งให้ทำอะไรก็ทำตาม เข้าใจใช่ไหม?”
ซูเมิ่งหานยังอยู่ในอ้อมกอดของเย่เฟิง เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเขา ใบหน้าก็พลันแดงเรื่อ
ชายแว่นดำมองซูเมิ่งหานพร้อมแอบคิดในใจ ผู้หญิงของพี่เย่นี่ช่างงดงามจริงๆ “เข้าใจแล้วครับ ซานจื่อมานี่ ขับรถไปส่งพี่เย่” เมื่อชายร่างผอมได้ยินดังนั้นก็รีบตอบรับทันที
“ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาบอกฉันล่ะ” เย่เฟิงพูดกับซูเมิ่งหานก่อนปล่อยมือจากร่างหอมของเธอ แล้วเดินตามชายร่างผอมไปที่รถตู้
ซูเมิ่งหานหน้าแดง ไม่รู้จะพูดอะไร พลางด่าเย่เฟิงหลายร้อยครั้งในใจ “ใครเป็ผู้หญิงของนายกันยะ ตาบ้า”
เธอเข้าใจที่เย่เฟิงออกคำสั่งกับชายแว่นดำแบบนั้น หากลูกพี่ลูกน้องของเธอต้องไปโรงพยาบาลด้วยมอเตอร์ไซค์คงจะลำบาก คนที่เหลือสามารถช่วยเหลือเธอได้ อีกทั้งปกป้องเธอได้อีก
“เร็วเถอะค่ะ รีบพาลูกพี่ลูกน้องของฉันไปโรงพยาบาลด้วย” เมื่อเย่เฟิงทิ้งคนไว้ให้ ซูเมิ่งหานจึงรีบชี้ญาติของเธออย่างไม่ลังเล
ขณะนี้สามีภรรยาวัยกลางคนยังมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าเื่จะเป็เช่นนี้ เพราะ่นี้แก๊งอสรพิษ์อาละวาดในพื้นที่แถบนี้อย่างหนัก ไม่ว่าใครก็ตามที่มีเื่กับพวกนั้นจะต้องพบจุดจบไม่ดี แต่ตอนนี้…
หญิงวัยกลางคนมองซูเมิ่งหานอย่างแปลกใจ เธอสวยขนาดนี้สามารถคบคนที่มีอิทธิพลก็ไม่แปลก เวลานี้ภาพลักษณ์ของซูเมิ่งหานในใจเธอเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์ จากที่เคยคิดว่าเป็เพียงเด็กสาวไร้เดียงสากลับเปลี่ยนเป็คนที่ฉลาดและเ้าเล่ห์อย่างยิ่ง อย่างไรก็ช่าง หญิงวัยกลางคนคิดว่าสามารถช่วยลูกชายของเธอได้ก็พอ ในเมื่อตอนนี้ซูเมิ่งหานอยู่ดีขนาดนี้ ช่วยออกค่ารักษาพยาบาลแค่นี้คงไม่มีปัญหาสินะ?
ผู้หญิงคนนี้ลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้เธอเคยพูดจาไม่ดีกับซูเมิ่งหาน แต่หญิงสาวกลับไม่ถือสา หลังจากเย่เฟิงจากไป เธอก็ขอให้แก๊งอสรพิษ์ช่วยกันพาต้าเกินไปรถตู้อีกคัน สำหรับคนของแก๊งที่าเ็ ชายแว่นดำโทรเรียกรถพยาบาลมารับ
เมื่อรถตู้ทั้งสองคันจากไปแล้ว ชาวบ้านระแวกนั้นจึงปรากฏตัว พวกเขาต่างพูดคุยเกี่ยวกับเื่ที่เกิดขึ้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้