เื่นี้ช่างอึดอัดใจยิ่งนัก
เขาไม่ได้เป็คนฆ่า
แต่กลัวสืบค้นต่อไปแล้วจะลากเื่ที่เขาเคยทำในอดีตออกมา ด้วยเหตุนี้จึงต้องใช้เงินแก้ปัญหา
ไม่ใช่แค่เื่ของเขา เขากลัวสิ่งโสมมที่เกาะบนก้นพ่อตาตัวเองถูกลากออกมาเช่นกัน
เพราะหากไม่มีพ่อตาที่เป็ผู้ช่วยนายอำเภออยู่ เขาคงดึงหนังเสือมาแอบอ้างบารมีและเที่ยวหาเงินไปทั่วเช่นนี้ไม่ได้
“ฮือฮือฮือ…ตาแก่นี่ มัวทำกระไรอยู่ ยังไม่รีบเอาเงินให้ลูกอีก!” สวี่ซื่อเห็นสวีฝูไม่มีปฏิกิริยาก็วิ่งเข้ามาจากด้านนอก ร้องไห้ทุบตีใส่หลังเขา
“หุบปาก โวยวายเพราะเหตุใด อยากให้รู้กันทั้งหมู่บ้านหรือ?” ยายแก่น่ารำคาญนี่กล้าดีอย่างไรมาแอบฟัง
สวี่ซื่อปิดปากตัวเองทันที นั่นสินะ จะให้ผู้ใดรู้เื่นี้ไม่ได้ แต่ลูกชายพูดเสียน่ากลัวขนาดนั้น ก็ต้อง…ก็ต้องรีบเอาเงินให้ไม่ใช่หรือ?
สวีฝูสูบยาสูบสองคำ เคาะปล้องยาสูบกับโต๊ะให้ขี้เถ้าหลุด
เขายกเปลือกตาขึ้นพูดว่า “ข้ามีเงินติดตัวแค่ร้อยหกสิบกว่าตำลึง ที่เหลือเ้าคงต้องหาทางเอง”
เขาเป็คนดูแลเงินในบ้าน นับดูแล้วมีทั้งหมดสามร้อยกว่าตำลึง แต่เขาจะเอาออกมาหมดไม่ได้
หากเอาออกมาหมด เกิดวันหน้าเจอปัญหากระไร…คงหมดหนทางพอดี
อีกอย่าง เงินที่บ้านก็มีส่วนของเหล่าเอ้อร์ด้วย
“แม่มียี่สิบกว่าตำลึง จะไปเอามาให้เดี๋ยวนี้” สวี่ซื่อพูดจบก็วิ่งกลับห้องไปเอาเงิน
สวีฝูให้สวีเต๋อเซิ่งไปร้อยห้าสิบตำลึง บอกเขาว่าต้องเก็บที่เหลือไว้ใช้จ่ายในบ้าน
สวีเต๋อเซิ่งพูดกระไรไม่ได้
หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึง บวกกับยี่สิบตำลึงจากสวี่ซื่อ เขาได้เงินจากบ้านมาทั้งหมดร้อยเจ็ดสิบตำลึง
เสร็จจากที่นี่ สวีเต๋อเซิ่งไปหาสวีเต๋อเม่าที่ตำบลต่อ
สวีเต๋อเม่าทำงานที่บ่อนเช่นกัน ตำแหน่งผู้คุมเล็ก
ได้เงินจากสวีเต๋อเม่ามาเจ็ดสิบตำลึง กลับไปใส่เงินตัวเองเพิ่มสองร้อยกว่าตำลึงแล้วมอบให้ผู้ช่วยนายอำเภอเฮ่อ
ไอ๊หยา เขาเสียดายเหลือเกิน
ส่งเงินเรียบร้อย คดีนี้เป็อันสิ้นสุด
คนที่ตายเป็โจรผู้ร้าย รายงานขึ้นไปแล้วเป็ผลงาน
เดิมทีนายอำเภอก็จะจัดการเช่นนี้ แต่แค่ถือโอกาสรีดเงินผู้ช่วยนายอำเภอเฮ่อ ตาแก่นี่อาศัยว่าตัวเองเป็เ้าถิ่น แอบลอบกัดเขาหลายรอบ
คิดว่าเขาไม่รู้หรือไร?
เขาแค่แกล้งโง่เท่านั้น ไม่ได้โง่จริง
ตำแหน่งนายอำเภอเปลี่ยนทุกสามปี เขาตักตวงผลประโยชน์เสร็จก็ไป ไม่จำเป็ต้องชนกับเ้าถิ่นพวกนี้
ทำเช่นนั้นไปก็ไม่มีผลดีกับตัวเอง
แต่ครั้งนี้ จุดอ่อนของอีกฝ่ายถูกยื่นให้เขาเอง…หึหึ ไม่ใช้คงเสียของ
เจียงหงหย่วนอ่านประกาศที่ติดนอกที่ทำการอำเภอ มือปราบจับโจรอย่างกล้าหาญ…สดุดีคุณงามความดี
ทั้งที่ภาพที่เขาอยากเห็น แต่ว่า…
กลับเห็นคนพวกนี้ได้หน้า เขาไม่สบอารมณ์นัก
ถ้าข้าราชการเป็เช่นนี้หมด…ประชาชนคงหมดทางรอดแล้ว เขารู้สึกชื่นชมตู้ซิวจู๋ที่เลี้ยงคนไปฆ่าขุนนางเลวเมื่อชาติที่แล้วขึ้นมา
คงผิดหวังในราชสำนักเช่นกันเลยลงมือเองสินะ?
ทว่าสุดท้ายไม่เหลือแม้แต่ชีวิต
เจียงหงหย่วนหันตัวจากไป เื่เืร้อนเช่นนี้…ปล่อยให้คุณชายที่มีอุดมการณ์มีปณิธานแบบตู้ซิวจู๋ไปทำนั่นแหละ เพราะเขาต้องเก็บชีวิตไว้ใช้ร่วมกันกับภรรยาตัวน้อย
สภาพสังคมไม่ดี ฆ่าขุนนางเลวเยอะแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์
ฆ่าหนึ่งคน ผุดเพิ่มสิบคน
ไม่มีทางฆ่าหมด
นอกเสียจากว่า…คนที่อยู่เบื้องบนท่านนั้นจะได้สติ กวาดล้างการทุจริตในหน้าที่ของข้าราชการจึงจะทำลายระบบโสมมนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
แต่ว่า เื่พวกนี้ไม่เกี่ยวกับเขา
เจียงหงหย่วนซื้อเหล้าดีสองไห ไปหาเถ้าแก่เถาที่โถงร้อยโอสถ ถามเื่หมอฉู่จากเขา
เถ้าแก่เถารับของแล้วดึงเจียงหงหย่วนไปคุยด้านข้าง “เื่นี้ไม่มีกระไรต้องปิดบัง ชีวิตนี้หมอฉู่เคยรับศิษย์ไว้สามคน หลังจากส่งศิษย์ทั้งสามเข้ากรมหมอหลวง สามคนนี้ต่างไม่ฟังคำเตือนของเขา แย่งกันปีนขึ้นสูงและสู้กันเอง ทำให้หมอฉู่เดือดร้อนไปด้วยเพราะเื่เล็กน้อย ถูกฮ่องเต้ลงโทษให้คุกเข่ากลางหิมะ คุกเข่าทั้งคืนจนเข่าพัง อีกทั้งยังถูกขับออกจากกรมหมอหลวง หลายคนในเมืองหลวงต่างรู้เื่นี้ คนในเมืองเล็กๆ แบบพวกเราไม่ค่อยรู้นัก ข้ายอมเล่าให้ฟังเพราะเห็นว่าเ้าซื่อสัตย์ ไม่อยากให้เสียแรงเปล่า หมอฉู่ไม่มีทางรับศิษย์เพิ่มอีกแล้ว หากน้องชายวางใจในตัวข้า ข้าจะช่วยแนะนำหมอคนอื่นๆ ให้แล้วก็วันหน้าถ้าเ้ามีของดีต้องเอามาขายที่นี่นะ!”
ที่แท้ก็ถูกลูกศิษย์ทำให้เสียใจ ดูท่าจะฝากตัวเป็ศิษย์ไม่ได้จริงๆ
“เช่นนั้นข้ารบกวนให้ท่านช่วยสอบถามให้หน่อย วางใจเถิด ขอเพียงเื่นี้สำเร็จ ข้าจะไม่ปฏิบัติต่อท่านอย่างไม่ยุติธรรมเป็แน่ ท่านอยากได้สิ่งใด ต่อให้ต้องขึ้นเขาไปเอามาเดี๋ยวนี้ข้าก็จะทำให้” เจียงหงหย่วนพูด
“ฮ่าฮ่าฮ่า พูดได้ดีๆ รอฟังข่าวจากข้าได้เลย!” เถ้าแก่เถาตบไหล่เจียงหงหย่วนหัวเราะ
ออกจากโถงร้อยโอสถ เจียงหงหย่วนมุ่งตรงกลับบ้าน ระหว่างทางเดินผ่านแผงขายขนมอบ เห็นว่าขนมพุทราดูสดใหม่ดีจึงซื้อกลับบ้านหนึ่งชั่งกลับไปให้หลินหวั่นชิว
เขาได้ยินว่าสตรีกินพุทราแล้วดี
กลับถึงบ้าน เขามองขนมพุทราให้หลินหวั่นชิวแล้วไปล้างมือ “ขนมพุทรา ซื้อติดมือมา ชอบกินก็กิน ไม่ชอบก็ทิ้ง”
“ทิ้งเพราะเหตุใด ไม่ชอบก็ให้พวกยายสวีเสีย” หลินหวั่นชิวพูดอย่างไม่ถือสา
นางเปิดห่อออก หยิบออกมากินหนึ่งชิ้น รสชาติไม่เลว แต่หวานเลี่ยนยิ่งนัก
นางชอบกินรสเผ็ดชา ไม่ค่อยชอบของหวาน
“รสชาติเป็อย่างไร? ให้ข้าชิมหน่อย” เจียงหงหย่วนเดินมาใกล้ จู่ๆ ก็ก้มหน้าลงเกี่ยวขนมพุทราที่ปากหลินหวั่นชิวเข้าปากตัวเอง
จังหวะที่ใช้ลิ้นเกี่ยว ไม่รู้ว่าจงใจหรือไม่ มันััโดนริมฝีปากหลินหวั่นชิว
นางจ้องเขาตาเขม็ง เ้าหมอนี่ นับวันฝีมือหยอกสตรียิ่งพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ!
นางเม้มปาก ริมฝีปากเปียกเล็กน้อย เป็ร่องรอยที่ชายฉกรรจ์ทิ้งไว้
“ก็ยังมีอีกไม่ใช่หรือไง!” นางยัดห่อขนมพุทราให้เขา
“ข้าไม่ชอบกินหวาน ชิ้นเดียวก็กินไม่ลง!” เขาพูดอย่างไม่ยี่หระ
อืม หวานมาก อร่อย
หลินหวั่นชิวเอาขนมพุทราไปเก็บในตู้ที่ห้องครัว เวลาหิวก็หยิบของว่างขนมต่างๆ มากินได้
ส่วนเื่ต่อปากต่อคำกับชายฉกรรจ์…
ช่างเถิด นางไม่เคยชนะ
ชายฉกรรจ์ตามเข้ามาในครัว ภรรยาตัวน้อยกำลังพูดกับยายสวีว่า “ในตู้มีขนมพุทรา ถ้าพวกท่านหิวก็หยิบมากิน จริงสิ ต้มหมูสามชั้นก้อนนี้ให้สุกก่อน ประเดี๋ยวตอนเที่ยงข้ามาทำหมูสามชั้นกลับกระทะ หั่นไก่เป็ชิ้นเล็กๆ ลวกในน้ำเดือด…”
นางบอกวิธีจัดการวัตถุดิบกับยายสวี เจียงหงหย่วนแค่ฟังอยู่ด้านข้างก็น้ำลายไหลแล้ว
ภรรยาตัวน้อยออกจากห้องครัว เขาก็ตามไปอีก
ยายสวีมองแผ่นหลังทั้งคู่จากในห้องครัวอย่างมีความสุข
สายตาเหล่าเหยียมีแต่ไท่ไท่ ไท่ไท่ช่างวาสนาดียิ่งนัก!
ชายฉกรรจ์ตามหลินหวั่นชิวเข้าห้อง หลินหวั่นชิวนั่งลงถามเขา “สอบถามเื่หมอฉู่ชัดเจนแล้วหรือ?”
