ณ ดินแดนรกร้าง นอกเมืองซานเซียน
หลังจากทดลองมาครึ่งเดือน สถานที่แห่งนี้ถูกจั๋วอวิ๋นเซียนทดลองจนเละเทะไปหมด พื้นดินเต็มไปด้วยหลุมบ่อมากมาย ไม่มีพื้นเรียบให้เห็นอีกแล้ว
ผ่านไปไม่นาน เ้าเกาะทั้งสามพาหวู่อันถงกับเหมาปู้เอ้อเดินทางเข้ามา พวกเขาเห็นจั๋วอวิ๋นเซียนกำลังสร้างลูกปัดเพลิงอัสนีด้วยความบรรจงจึงมิได้เข้าไปรบกวนในทันที
ไม่เหมือนกับ ‘ะเิเพลิงอัสนี’ การสร้าง ‘ลูกปัดเพลิงอัสนี’ นั้นซับซ้อนยิ่งกว่าหลายเท่า ใช้วัตถุดิบมากกว่าะเิเพลิงอัสนีสิบเท่า ใช้วิชากลไกประกอบรวมเข้าด้วยกัน ทั้งเื่ของสมดุลอักขระ ทั้งการประกอบวัตถุดิบล้วนยากเย็นแสนเข็ญ ต่อให้จั๋วอวิ๋นเซียนมีมรดกสืบทอดของสำนักเทียนกงก็ต้องผ่านการทดลองและลงมือทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า มิอาจทำสำเร็จได้ทันที
พวกเขาเห็นฝ่ามือของจั๋วอวิ๋นเซียนราวกับมีเงาพันร่าง นิ้วทั้งสิบกวัดไกว ลูกปัดเก็บิญญานับร้อยลูกกับกลไกประกอบรวมกันอย่างน่าอัศจรรย์ กลายเป็ลูกทรงกลมสมบูรณ์แบบลูกหนึ่ง มีขนาดใหญ่กว่าะเิเพลิงอัสนีนับสิบเท่า อักขระนับพันตัวเปล่งประกายให้เห็นอย่างชัดเจน
กระบวนการทั้งหมดนี้ ล้วนอยู่ในสายตาเหมยซิ้งหงกับพวกหวู่อันถ ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง! โดยเฉพาะเหมาปู้เอ้อ สายตาแปลกประหลาดแฝงด้วยความตื่นเต้น
ในการสร้างอาวุธก็มีศาสตร์วิชาที่ซับซ้อนเช่นกัน กระบี่บินสมบัติวิเศษระดับสุดยอด อย่างมากที่สุดก็มีอักขระทับซ้อนกันนับร้อยตัวเท่านั้น มิได้ซับซ้อนเหมือนอย่างสำนักเทียนกง
ทว่าสิ่งที่ทำให้เหมาปู้เอ้อใที่สุดก็คือวิชากลไกในกระบวนการสร้าง
วิชากลไกสืบทอดมาั้แ่ยุคโบราณ มิใช่ศาสตร์ในการบำเพ็ญวิถีเซียน เป็ศาสตร์ที่คนธรรมดาสร้างขึ้นมาเพื่อต่อกรกับผู้ที่แข็งแกร่งกว่าตนเอง จึงค่อยๆ พัฒนาเป็ศาสตร์วิชา ถึงได้มีวิชาหุ่นเชิดกลไกในเวลาต่อมา
ทว่าพลังจากภายนอกเหล่านี้กลับมีขีดจำกัดจึงค่อยๆ ถูกเซียนทอดทิ้ง จนกระทั่งมีสำนักเทียนกงปรากฏขึ้นมา ถึงทำให้วิชากลไกเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง
แน่นอนว่าสำหรับสำนักเทียนกงแล้ว ความเจริญรุ่งเรืองของวิชากลไกไม่ได้สำคัญต่อโลกวิถีเซียนเท่าใดนัก ห้าศาสตร์วิถีเซียนถึงจะเป็ศาสตร์หลักที่แท้จริง
ทว่าตอนนี้ในสายตาของเหมาปู้เอ้อ เื่เล่าเ่าั้อาจจะมิใช่ความจริง วิชากลไกสิถึงจะเป็หัวใจสำคัญของสำนักเทียนกง ทั้งยังเป็ศาสตร์วิชาที่รุ่งโรจน์ที่สุดแห่งยุคสมัย
……
เมื่อประกอบเซียนยุทธ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว จั๋วอวิ๋นเซียนใส่มันเข้าไปในเตาหลอม เพื่อหลอมกลั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมบีบอัดพลังเพลิงอัสนีเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
ขั้นตอนนี้ค่อนข้างอันตราย ยิ่งบีบอัดมาก พลังะเิก็ยิ่งน่ากลัว หากเตาะเิมันจะมิใช่พลังที่คนธรรมดาจะสามารถแบกรับไหว
ยังดีที่หลังจากทดลองมานับครั้งไม่ถ้วน ตอนนี้จั๋วอวิ๋นเซียนมั่นใจทุกรายละเอียดในการสร้างอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นขั้นตอนการหลอมกลั่นจึงราบรื่นมาก
……
“ไป๋เฮ่อคารวะท่านเ้าเกาะทั้งสาม!”
จั๋วอวิ๋นเซียนให้เสี่ยวจิ่วเข็นรถเข็นไปหาเ้าเกาะทั้งสาม พร้อมประสานมือคำนับ
เหมยซิ้งหงยกมือกล่าว “ไป๋เฮ่อร่างกายของเ้าไม่สมบูรณ์นัก ต่อไปไม่ต้องมากมารยาทเช่นนี้แล้ว”
ความจริงแล้วก่อนหน้านี้พวกเหมยซิ้งหงคิดจะหลอกใช้จั๋วอวิ๋นเซียนจริงๆ จากนั้นค่อยข้ามแม่น้ำตัดสะพาน…แต่เมื่อได้เห็นกระบวนการสร้างเซียนยุทธ์ของจั๋วอวิ๋นเซียนแล้ว พวกเขารู้สึกว่าอีกฝ่ายคืออัจฉริยะอย่างแท้จริง ไม่ว่าด้านศาสตร์วิชาหรือความพยายามล้วนทำให้ผู้คนต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่
ยิ่งไปกว่านั้นเหมยซิ้งหงไม่คิดว่าข้ามแม่น้ำแล้วจะตัดสะพานได้ เพราะศาสตร์วิชาของสำนักเทียนกงไม่ธรรมดา ต่อให้จั๋วอวิ๋นเซียนจะสอนความรู้ทั้งหมดให้จริงๆ ก็มิใช่ว่าทุกคนจะเป็เหมือนไป๋เฮ่อ
“ไป๋เฮ่อขอบคุณท่านเ้าเกาะ”
จั๋วอวิ๋นเซียนไม่รู้ว่าความคิดของเ้าเกาะทั้งสามเปลี่ยนไปแล้ว แต่เขารู้ว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด ด้วยเหตุนี้เขาจึงเอาลูกปัดเพลิงอัสนีที่สร้างเสร็จวางไว้ในมือแล้วค่อยๆ ยื่นออกไป
“ท่านเ้าเกาะทั้งสาม…นี่ก็คือลูกปัดเพลิงอัสนีที่สร้างเสร็จเมื่อครู่ โปรดเชยชม”
เมื่อได้ยินเสียงของจั๋วอวิ๋นเซียน พวกเหมยซิ้งหงถึงได้สติกลับมา
จากนั้นเ้าเกาะทั้งสามผลัดกันตรวจสอบอย่างละเอียด สายตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างห้ามมิได้
ถึงแม้พวกเขาไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็อย่างไร แต่พวกเขากลับสามารถรับรู้ได้ว่าในลูกปัดเพลิงอัสนีแฝงพลังอันน่าหวาดหวั่นเอาไว้
แน่นอนว่าเพื่อรับประกันว่าจะไม่มีปัญหาใดๆ เ้าเกาะทั้งสามจึงยื่นลูกปัดเพลิงอัสนีไปให้เหมาปู้เอ้อ ให้เขาเป็คนตรวจสอบด้วยตัวเอง
……
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง มีเสียงะเิดังะเืฟ้าดิน ผู้คนทั้งในและนอกเกาะล้วนตกตะลึง ส่งผลให้จิตใจผู้คนรู้สึกกระสับกระส่าย
ยังดีที่เ้าเกาะทั้งสามเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว จึงสงบสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
ในพื้นที่รกร้างนอกเมือง เนินเขาเล็กแห่งหนึ่งถูกะเิจนแบนราบ พลังทำลายเช่นนี้เทียบได้กับการโจมตีของระดับเปิดชีพจรหนึ่งครั้ง ต่อให้เป็ยอดฝีมือระดับกำเนิดปราณ หากไม่ระวังต้องาเ็สาหัสแน่
เหมยซิ้งหงสะกดความตื่นเต้นเอาไว้พลางกล่าวว่า “ไป๋เฮ่อ ลูกปัดเพลิงอัสนีถึงจะเป็อาวุธสังหารที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างแท้จริง ตอนนี้ประสิทธิภาพการสร้างของเ้าเป็อย่างไรบ้าง?”
จั๋วอวิ๋นเซียนมิได้ตอบ กลับหันไปถามเหมาปู้เอ้อว่า “เ้าหอเหมา หอเทียนปินของพวกท่านปกติใช้เวลาสร้างอาวุธนานเท่าไร”
เหมาปู้เอ้อสงบจิตใจลง เขากล่าวอย่างไม่อ้อมค้อม “อาวุธวิเศษง่ายๆ ปกติใช้เวลาสร้างสองถึงสามวันต่อหนึ่งชิ้น หากเป็สมบัติวิเศษค่อนข้างลำบากหน่อย คุณสมบัติแต่ละอันไม่เหมือนกัน เวลาการสร้างจึงแตกต่างกัน…ปกติแล้วสมบัติวิเศษระดับต่ำหนึ่งชิ้นต้องใช้เวลาสองเดือน ส่วนสมบัติวิเศษระดับสุดยอดใช้เวลาสามถึงห้าเดือน สำหรับพวกอาวุธิญญา ต้องให้ปรมาจารย์เป็ผู้สร้างถึงจะสามารถสร้างได้ อีกทั้งอาจใช้เวลาหนึ่งปีหรือมากกว่านั้น…น่าเสียดายที่มิอาจสร้างสมบัติิญญาได้ มีเพียงพึ่งโชควาสนาถึงจะทำให้อาวุธิญญาวิวัฒนาการเป็สมบัติิญญาได้”
เมื่อกล่าวถึงฝีมือการสร้างอาวุธของตัวเอง เหมาปู้เอ้อรู้เื่เป็อย่างดี จึงกล่าวออกมาอย่างมั่นใจ
ความจริงแล้วที่จั๋วอวิ๋นเซียนถามเช่นนี้ ก็เพื่อให้พวกเหมยซิ้งหงมีข้อเปรียบเทียบในใจ
“ท่านเ้าเกาะทั้งสาม การสร้างลูกปัดเพลิงอัสนีมิใช่เื่ง่าย ตอนนี้มีข้าสร้างเพียงคนเดียว หากมีวัตถุดิบเพียงพอจะใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนถึงสามารถสร้างออกมาได้ลูกหนึ่ง”
เมื่อได้ยินคำตอบของจั๋วอวิ๋นเซียน เ้าเกาะทั้งสามขมวดคิ้วอย่างห้ามมิได้
อัตราการผลิตเช่นนี้ไม่ต่ำนัก ทว่าสำหรับสถานการณ์ของเกาะสามเซียนในปัจจุบันแล้วยังช้าเกินไป ถึงอย่างไรหากช้าเพียงหนึ่งวัน าแย่งชิงเหมืองแร่ก็จะเกิดตัวแปรเพิ่มมากขึ้น
“ไป๋เฮ่อ เ้าสามารถเพิ่มจำนวนการผลิตได้หรือไม่”
สำหรับเงื่อนไขของเหมยซิ้งหง จั๋วอวิ๋นเซียนคาดการณ์ได้อยู่ก่อนแล้ว จึงจงใจกล่าวว่า “ในด้านของศาสตร์วิชาหลายอย่างสามารถแบ่งงานผลิตได้ หากมีปรมาจารย์ผู้สร้างอาวุธอย่างเ้าหอเหมาคอยช่วยเหลือ เจ็ดวันสร้างลูกปัดเพลิงอัสนีหนึ่งลูกน่าจะไม่มีปัญหา”
เ้าเกาะทั้งสามสบตากันพลางพยักหน้า จากนั้นเหมยซิ้งหงกล่าวว่า “ั้แ่วันนี้ไป หอเทียนปินฟังคำสั่งไป๋เฮ่อชั่วคราว เ้าหอเหมาเ้ารับผิดชอบประสานงานเื่นี้ มีปัญหาหรือไม่?”
“ไม่มีปัญหา”
เหมาปู้เอ้อรู้สึกตื่นเต้น เขาจึงมิได้โต้แย้ง
เมื่อเห็นทุกอย่างราบรื่น เหมยซิ้งหงเดินเข้ามาตบบ่าของจั๋วอวิ๋นเซียนพลางกล่าวว่า “ไป๋เฮ่อ ครั้งนี้เ้าทำได้ไม่เลวเลย รอหลังจากาแย่งชิงเหมืองแร่จบลงแล้ว ข้าจะตอบแทนเ้าอย่างงาม”
จั๋วอวิ๋นเซียนส่ายศีรษะ มิได้รู้สึกหยิ่งทะนงแต่อย่างใด “เ้าเกาะทั้งสามเกรงใจเกินไปแล้ว ไป๋เฮ่อได้รับการคุ้มครองจากเกาะสามเซียน จึงต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจ…อยู่ในตำแหน่งไหนก็ต้องทำตามหน้าที่นั้น นี่เรียกว่าความรับผิดชอบ”
“ดีดีดี! ความรับผิดชอบสินะ! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เหมยซิ้งหงอารมณ์ดีมาก พวกกงหยางอวี่ซ่านกับจวงซวี่เหยาก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
