การลงมีดครั้งนี้ทำให้พวกเขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าความแตกต่างมันเป็อย่างไรความแตกต่างก็คือขณะที่พวกเขาคิดว่าอีกฝ่ายจะค่อยๆ เล็งอย่างช้าๆก่อนที่จะผ่าธูปนั้น แต่อีกฝ่ายกลับมองเพียงชั่วครู่แล้วลงมีดลงมาทันทีและการลงมีดของเขาก็เป็ไปตามธรรมชาติ แล้วยังมีความแม่นยำมากอีกด้วย
เป็การลงมีดที่ไม่มีใครเทียบได้
และเมื่อคิดถึงพฤติกรรมตามปกติของตนเอง นักศึกษาชายทั้งหลายจึงรู้สึกละอายใจอีกครั้ง
“เร็วขึ้นกว่าเดิมเสียอีก!”
ท่านฉางไท่เปรียบเทียบความเร็วในการลงมีดวันนี้กับเมื่อยี่สิบวันก่อนท่านพบว่าหลินเยว่มีความก้าวหน้าขึ้นมาก เขาไม่ได้ดูไม่คล่องตัวเหมือนตอนแรกอีกแล้ว
หลังจากที่หลินเยว่กลายเป็ลูกศิษย์ของท่านฉางไท่แล้วท่านฉางไท่เคยถามเขาว่าเพราะอะไรเขาถึงสามารถทำลายด่าน 3 มีดลงได้หลินเยว่บอกท่านว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งเขาได้เข้าสู่สภาวะแบบหนึ่งโดยบังเอิญ มันเป็สภาวะที่ไม่มีความยินดียินร้ายมองทุกอย่างด้วยสายตาว่างเปล่าแต่ก็เหมือนจะสนใจทุกอย่างในเวลาเดียวกันและมีเพียงสภาวะเช่นนี้เท่านั้นเขาถึงจะสามารถเอาชนะ 3 มีดนี้ได้ เมื่อท่านฉางไท่ได้ยินถึงสภาวะเช่นนี้แล้วท่านจึงได้แต่ถอนหายใจลึกๆ ในที่สุดท่านก็รู้ว่าเพราะเหตุใดเหล่าบรมครูตั้งมากมายถึงไม่สามารถฝ่าด่าน3 มีดนี้ได้ไม่ใช่เป็เพราะมีความสามารถไม่เพียงต่อ แต่เป็เพราะขาดความเข้าใจอย่างแท้จริงพวกเขาเอาแต่ฝึกฝนเพียงอย่างเดียว แต่กลับไม่มีการทำความเข้าใจกับปริศนาตรงนั้น
การที่หลินเยว่สามารถบรรลุถึงสภาวะนี้ได้เป็ผลมาจากความกดดันที่เขาได้รับจากท่านฉางไท่เขาต้องผ่าให้ได้ 6 ครั้งจากการลงมีด10 ครั้งภายใน 1เดือนนี่ไม่ใช่การฝึกฝนแบบธรรมดาแล้วจะสามารถทำได้สำเร็จ
“สภาวะจิตสงบนิ่งไม่ว่อกแว่กของหลินเยว่มีความนิ่งมากกว่าแต่ก่อนแล้วไม่แน่ครั้งนี้เขาอาจจะสามารถรักษาสภาวะนี้ไว้ได้จนถึง 6 มีด หากเป็เช่นนี้เขาก็สามารถเริ่มฝึกขั้นตอนแรกจากหนังสือ “คัมภีร์การแกะสลัก” ที่ท่านปฐมาจารย์อวี๋ซินทิ้งเอาไว้ได้แล้ว”
เมื่อคิดถึงความสำเร็จของหลินเยว่ในอนาคตท่านฉางไท่ก็เริ่มเกิดความคาดหวังมากยิ่งขึ้น
และการลงมีดครั้งนี้ก็ทำให้ดวงตาคู่สวยของหลี่ชิงเมิ่งเป็ประกายเช่นกันสายตาของเธอมีความประหลาดใจและก็มีความตกตะลึงแฝงอยู่
ส่วนนักศึกษาบางส่วนที่อยู่นอกห้องต่างไม่ค่อยเข้าใจนักมีเพียงกลุ่มที่ค่อนข้างสนิทกับคนที่เรียนสาขาการแกะสลักถึงจะรู้เหตุการณ์ที่พวกเด็กแกะสลักที่วันๆต้องเอาแต่ฝึกผ่าธูปเหมือนกับคนบ้า พวกเขาแอบคิดว่า... หรือว่าคนคนนี้ก็กำลังผ่าธูปอยู่?
ทำไมถึงไม่เหมือนกับการผ่าธูปของคนอื่นๆ เลยล่ะ?ทำไมเขาถึงไม่ต้องเล็งเลยล่ะ?
ความคิดและการเคลื่อนไหวร่างกายของคนรอบๆตัวต่างไม่มีผลต่อหลินเยว่ในเวลานี้เลย เมื่อผ่าธูปดอกแรกแล้วเขาจึงเดินไปยังธูปดอกที่2 จังหวะการก้าวเท้าก็มีแต่ความหนักแน่นมั่นคงเช่นเคย
เมื่อหลินเยว่ยืนห่างจากธูปดอกที่ 2 เป็ระยะหนึ่ง่แขนแล้ว เขาจึงหยุดก้าว ยกมีดขึ้นและผ่าลงมาอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการลังเลเลยสักนิด
ครั้งนี้ จุดไฟแดงๆก็ดับลงท่ามกลางความสนใจของคนรอบๆ คมมีดไม่ได้คลาดเคลื่อนไปเลยสักนิดแต่เป็การผ่าลงไปตรงกลางจุดแดงๆ โดยตรง
ณ เวลานี้ ในใจของทุกๆ คนมีแต่ความตกตะลึงเท่านั้น
มันมหัศจรรย์เกินไปหรือเปล่า! ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ!
หลินเยว่เดินไปยังธูปดอกที่ 3 โดยไม่มีการหยุดชะงัก
ความตกตะลึงของทุกๆ คนต่างถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งมีดที่ 3 จะยังผ่าถูกอีกหรือเปล่า?
แต่ปัญหานี้คงเป็สิ่งที่ไร้ประโยชน์เพราะหลินเยว่ได้ใช้การกระทำของตนเป็ตัวพิสูจน์ศักยภาพของเขาแล้ว
เมื่อหยุดตรงหน้าธูปดอกที่ 3 เขายกมีดขึ้น และผ่ามีดลงมา
จุดแดงๆ พลันหายไป
ผ่าถูกอีกครั้ง!
“มีดที่ 3 มีดที่ 3 มีดที่3 ......”
การกระทำของหลินเยว่ทำให้พวกเขาตื่นเต้นจนเืพล่านพวกเขาต่างร้องะโอย่างบ้าคลั่งตามการกระทำของหลินเยว่สีหน้าของพวกเขาแดงเล็กน้อย สายตามีแต่ความลุ้นระทึก
ยังคงไม่มีการหยุดชะงักเช่นเคย!
เมื่อผ่ามีดที่ 3 แล้ว หลินเยว่จึงเดินไปยังเบื้องหน้าของธูปดอกที่4 เขาขยับเท้าเล็กน้อยเพื่อเป็การปรับตำแหน่งให้เหมาะสมหลังจากนั้น... ยกมีดขึ้น ผ่าลงมา
ช่างคล่องแคล่วอย่างยิ่ง!
จุดแดงๆยังไม่ทันได้กะพริบจังหวะสุดท้ายก็ต้องดับหายไปอีกครั้ง
มีดที่ 4 ยังคงผ่าถูกเหมือนเดิม
“มีดที่ 4 มีดที่ 4 มีดที่4 ......”
พวกเขาต่างร้องะโไร้เสียงอยู่ในใจ
นักศึกษาชายต่างตื่นเต้นจนต้องกุมมือทั้งสองข้างเข้าไว้ด้วยกันส่วนนักศึกษาหญิงก็ตื่นเต้นจนใบหน้าแดงจัด ณ เวลานี้ไม่มีใครสามารถควบคุมความตื่นเต้นในใจของตนเองได้เลย
ณ เวลานี้หลินเยว่ไม่ได้เป็ผู้ที่กำลังสาธิตการผ่าอีกแล้ว แต่เขากลับกลายเป็บุคคลที่ทุกคนต่างฝากความหวังเอาไว้เป็ความหวังที่พวกเขาไม่สามารถทำให้เป็จริงได้ การผ่าถูกในแต่ละครั้งและสุดท้ายจะสามารถผ่าถูกกี่มีด ขีดจำกัดของมนุษย์นั้นอยู่ที่เท่าไรพวกเขาทุกคนต่างรอคอยและคาดหวัง
“มีดที่ 5! มีดที่ 5!มีดที่ 5! ......”
ขณะที่หลินเยว่เดินไปยังธูปดอกที่ 5 นั้น พวกเขาทุกคนต่างร้องะโขึ้นในใจอีกครั้งพวกเขาต่างจับจ้องทุกอิริยาบถของหลินเยว่ เพราะเกรงว่าตนเองจะพลาดไปในแต่ละการกระทำ
หลินเยว่เดินไปถึงธูปดอกที่ 5 เขาไม่มีการหยุดชะงัก แล้วก็ยกมีดผ่ามีดลงมาอีกครั้ง
จุดสีแดงดับลง ผ่าถูกอีกครั้ง!
“มีดที่ 6! มีดที่ 6!มีดที่ 6! มีดที่ 6! ......”
หลังจากผ่าธูปดอกที่ 5 แล้ว ท่านฉางไท่จึงจ้องเขม็งกับทุกสีหน้าท่าทางของหลินเยว่ท่านพบว่าเขาไม่มีการผ่อนคลายใดๆ ยังคงสงบนิ่งเหมือนเช่นเคยราวกับว่าถึงฟ้าจะถล่มลงมาก็ไม่สามารถทำให้เขามีสีหน้าเปลี่ยนไป ในใจของท่านฉางไท่จึงค่อยๆผ่อนลงอย่างโล่งอก
ดูจากสถานการณ์นี้แล้วหลินเยว่สามารถรักษาสภาวะนี้ได้จนถึงมีดที่ 6 แล้วเพียงแต่ว่าท่านยังไม่รู้ว่าหลินเยว่มีความก้าวหน้ามากขึ้นเพียงใดกันแน่หรือว่าจะหยุดลงที่มีดที่ 6เท่านั้น?
ท่านฉางไท่จึงเริ่มเกิดการคาดหวังขึ้นมา
เมื่อเห็นบรรยากาศรอบๆ ตัวมีแต่ความคึกคักหลี่ชิงเมิ่งก็เริ่มคล้อยตามไปกับบรรยากาศนี้ดวงตาทั้งสองข้างของเธอจับจ้องไปที่หลินเยว่ ใบหน้างามราวกับนางฟ้าที่มีแต่ความเ็าของเธอดูเหมือนจะมีริ้วแดงๆของสาวน้อยเกิดขึ้น ดูน่ารักและน่าหลงใหล แต่ทว่าเวลานี้สายตาของทุกคนต่างพุ่งตรงไปยังตัวหลินเยว่เพียงจุดเดียวดังนั้น จึงไม่มีใครได้เห็นความงามของราชินีน้ำแข็งที่เริ่มหลอมละลายลง
“มีดที่ 6! มีดที่ 6! มีดที่ 6! ......”
หลินเยว่ไม่ได้ทำให้ทุกคนผิดหวังเมื่อผ่าธูปดอกที่ 5 แล้วเขาก็รีบตรงยังไปธูปดอกที่ 6 ทันที
ธูปดอกที่ 6 เกิดการลุกไหม้ค่อนข้างนาน ขี้เถ้าของธูปยังคงก่อตัวค้างสูงอยู่และเป็ตัวขัดขวางสายตา รวมทั้งตำแหน่งในการลงมีดของหลินเยว่
แต่ทว่าหลินเยว่ก็ยังไม่มีการหยุดชะงักแต่อย่างใดเขายกมีดขึ้นและผ่าลงมา
จุดแดงของธูปดอกที่ 6 พลันดับไปกลางอากาศโดยไม่เกิดความผิดพลาดแม้แต่น้อย
มีดที่ 6 ผ่าถูกอีกครั้ง!!!
และคมมีดก็ผ่าขี้เถ้าธูปที่ค้างสูงอยู่้าออกเป็สองส่วนอย่างไม่น่าเชื่อ
ทุกๆ คนต่างสูดหายใจเข้าลึกๆ อย่างไม่รู้ตัว
นี่มันเป็ไปได้อย่างไร!!!
ขี้เถ้าธูปเป็สิ่งที่ชนเพียงเบาๆ ก็กระจายตกลงมาอันที่จริงไม่ต้องถึงกับชน เพียงแค่ลมพัดเบาๆ ก็สามารถทำให้มันกระจายไปทั่วได้แล้ว
แล้วทำไมมีดอีโต้ถึงได้แบ่งมันออกเป็สองส่วนได้ล่ะ?
มันยังเป็มีดอีโต้อยู่หรือเปล่า?
ณ เวลานี้ ในใจของพวกเขาต่างคิดถึงคำคำหนึ่ง
ความเร็ว
มีเพียงความเร็วสุดยอดเท่านั้นจึงจะทำให้เกิดผลเช่นนี้ได้
แล้วกำลังของมนุษย์ยังสามารถทำได้เร็วขนาดนี้ด้วยหรือ?
ปัญหานี้อาจจะดูไร้สาระเพราะคนเบื้องหน้าสามารถทำได้แล้ว เขาทำได้อย่างสวยงามท่ามกลางสายตาของทุกๆ คน
“มีดที่ 7! มีดที่ 7! มีดที่ 7! มีดที่ 7! ......”
ธูปดอกที่ 6 ดับไปเมื่อทุกคนต่างได้สติขึ้นมาจึงเริ่มร้องะโถึงมีดที่ 7 ต่อความตื่นเต้นและความกระตือรือร้นในใจของพวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและพร้อมจะะเิออกมาได้ทุกเมื่อ
ทั้ง 6 มีดล้วนผ่าถูกทั้งหมดแล้วมีดที่ 7 ล่ะจะผ่าถูกหรือเปล่า?
แต่นี่ไม่ใช่คำถามที่พวกเขาครุ่นคิดอีกแล้วเพราะว่าพวกเขารู้สึกเชื่อมั่นว่าผู้ชายที่ถือมีดอีโต้เบื้องหน้าจะต้องสามารถทำได้ทุกอย่าง
ใต้์เหนือปฐีแห่งนี้ไม่มีสิ่งใดที่เขาทำไม่ได้!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้