เมื่อหลงหว่านเอ๋อร์วิ่งออกไปก็พบว่าดาบของทานหลางเจี้ยนแตกออกเป็สองเสี่ยงพร้อมด้วยเสียง ‘ปัง’ ตามมาแทบจะทันที ชิ้นส่วนของดาบหล่นลงพื้นพร้อมศีรษะ เืสดๆ ไหลทะลักทั่วลานแต่ร่างของเย่เฟิงที่สวมหน้ากากวิ่งออกจากสนามไปแล้วและกำลังจากไป
“เร็วมาก” เซี่ยนเฟิงฝูเหงื่อชุ่มไปทั้งตัวเมื่อคิดว่าหากเป้าหมายของชายสวมหน้ากากไม่ใช้ทานหลางเจี้ยนแต่เป็เขา ตอนนี้หัวที่ตกพื้นคงเป็หัวของตน
หนึ่งกระบี่ฆ่าได้หนึ่งคน
“พวกนายจัดการเขาด้วย เดี๋ยวฉันตามไปเอง” หลงหว่านหว่านเอ๋อร์กัดฟัน ชั่วพริบตาเธอลอยออกจากลานแห่งนี้และไล่ตามเย่เฟิงไป
ตอนนี้เธอสงสัยเล็กน้อยว่าผู้ชายที่สวมหน้ากากใช่เขาหรือไม่ เพราะเย่เฟิงที่เธอรู้จักเป็เพียงนักเรียนมัธยมปลายที่แม้แต่ตำรวจก็จับเขาได้ แต่ชายสวมหน้ากากคนนี้สามารถสังหารนักดาบที่ฝึกฝนมาห้าปีด้วยกระบี่เดียว มีคนเสียชีวิตในงานที่ตระกูลเธอจัด หญิงสาวจึงต้องรับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นชื่อเสียงของตระกูลหลงจะเป็อย่างไร?
เมื่อผู้ฝึกวรยุทธ์รุ่นเยาว์ของตระกูลหลงออกมาข้างนอก พวกเขาก็ตื่นตระหนกเมื่อเห็นศพไร้หัวของทานหลางเจี้ยน แต่ประการแรกพวกเขาต้องทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีคนพบศพนี้ ประการที่สอง พวกเขาต้องจับตัวคนทำมาสอบสวนให้ได้
ทั่วร่างของเซวี่ยนเฟิงฝูยังเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เขาไม่เคยประสบเหตุการณ์เฉียดตายแบบนี้มาก่อน เมื่อสติกลับคืนมากลับพบว่าตัวเองนั่งอยู่ในห้องเล็กห้องหนึ่งโดยมีกลุ่มคนของตระกูลหลงมากมายยืนอยู่ตรงหน้า พวกเขาสอบถามเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
เซวี่ยนเฟิงฝูไม่กล้าปกปิด เขารีบเล่าเื่ที่เกิดขึ้นทุกอย่าง “ก่อนหน้านี้ที่ห้องโถง พวกเรารวมหัวกันหลอกชายสวมหน้ากาก จากนั้นเมื่อเขาออกมา เขากับเพื่อนของผมก็...”
“เขาใช้แค่กระบี่ในการลงมือใช่ไหม?” มีคนถามขึ้น
“ใช่ครับ กระบี่สีแดง” เซวี่ยนเฟิงฝูพยักหน้าอย่างมั่นใจ
“สามารถตัดดาบของหมาป่าได้ง่ายแบบนี้ ดูเหมือนกระบี่เล่มนั้นเป็อาวุธ์” บางคนถึงกับขมวดคิ้วเมื่อได้ยินข้อสันนิษฐาน
“ผมรู้ตัวตนของชายคนนั้น” ทันใดนั้น ชายหนุ่มรูปงามที่อยู่หน้าประตูก็วิ่งเข้ามาและพูดพลางหอบ "เขาชื่อโม่จิ่วเกอ ได้รับเชิญจากตาเฒ่าหวง"
“ตาเฒ่าหวง?” กลุ่มคนตระกูลหลงต่างหันมองกัน สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเมื่อรู้ว่ายากจะรับมือกับชายชราคนนั้น
………...
เย่เฟิงกลืนยาหลายเม็ด พลังชี่ที่แห้งขอดในเส้นลมปราณเริ่มฟื้นตัวช้าๆ ชายหนุ่มวิ่งไปเรื่อยๆ โดยไม่หยุดพัก เวลานี้เขาวิ่งมาไกลหลายกิโลเมตรจนมาถึงใจกลางเมืองหลางฝาง มันเป็เื่ง่ายที่จะหลบหนีในที่ที่มีคนพลุกพล่าน นี่คือประสบการณ์ของเขาที่สรุปได้ใน่หลายปีที่ผ่านมา แต่หมู่บ้านห่างไกลแห่งนี้อยู่ห่างจากใจกลางเมืองอย่างน้อยสามหรือสี่กิโลเมตร ก่อนอื่นเขาต้องมั่นใจว่าตัวเองจะไม่ถูกหลงหว่านเอ๋อร์ตามทัน
“ยัยผู้หญิงหน้าโง่ ไม่คิดเลยว่าจะตามมาเร็วขนาดนี้” เย่เฟิงหันกลับไปมองและเห็นหลงหว่านเอ๋อร์ไล่ตามมาติดๆ เขาไม่มีพลังชี่พอที่จะใช้ก้าวย่างไร้เงาอีกครั้ง ความเร็วของเย่เฟิงสู้อีกฝ่ายไม่ได้
หลงหว่านเอ๋อร์มีระดับวรยุทธ์แปดปี แม้เธอจะเป็ผู้หญิงแต่วิ่งตามมาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ แต่ละย่างก้าวของเธอไม่มีร่องรอยของเศษฝุ่นแม้แต่น้อย หญิงสาวพุ่งตามมาอย่างรวดเร็วดั่งสายลมแ่เพื่อจับตัวเย่เฟิง
“เย่เฟิงหยุดเดี๋ยวนี้!” เสียงคมชัดและรื่นหูของเธอลอยเข้าหูของเย่เฟิง
“แม่นางหลง คุณจำคนผิดแล้ว” เย่เฟิงพูดเสียงทุ้ม แน่นอนว่าเสียงของเขาต่ำลงเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสงสัยตัวตนของเขา
“หึ ไม่ว่าคุณจะเป็ใคร ด้วยวิธีการโหดร้ายเช่นนี้ คุณเป็ศัตรูของผู้ฝึกวรยุทธ์แล้ว!” เธอเข้าใกล้เย่เฟิงมากขึ้นเรื่อยๆ
ชายหนุ่มนึกดูถูกในใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ การกระทำของเขาถือว่าโหดร้ายงั้นหรือ? ในโลกเทวะเขาฆ่าล้างทั้งตระกูลโดยไม่สนอะไรถือเป็เื่ธรรมดา ยิ่งกว่านั้นอีกฝ่ายก็ยั่วโมโหเขาก่อน เพราะงั้นโดนแบบนี้ก็สมควรแล้ว ถ้าเมื่อกี้เขาไม่ฆ่าทานหลางเจี้ยน ก็เป็เขาเองที่จะโดนพวกมันรังแกและถูกหลงหว่านเอ๋อร์จับ
เย่เฟิงไม่ชอบความรู้สึกของการถูกจับ
“ตอนนี้ระดับพลังของเรายังต่ำเกินไป พยายามอย่ามีเื่กับผู้ฝึกวรยุทธ์จะดีกว่า นอกจากมีของช่วยเสริมพลังของเรา” ในการสังหารทานหลางเจี้ยน เขาใช้ย่างก้าวไร้เงารวมทั้งแหวนกระบี่ัโบราณ พลังชี่ที่ถูกใช้ไปนับว่ามหาศาล ตอนนี้เขาเริ่มเจ็บเส้นลมปราณที่ขาทั้งสองข้างเล็กน้อย ไม่ง่ายเลยที่จะใช้ย่างก้าวไร้เงาด้วยระดับวรยุทธ์ปัจจุบัน ถ้าเขามีวรยุทธ์ระดับห้าปีคงใช้ย่างก้าวไร้เงาหลายต่อหลายครั้ง และสามารถสลัดหลงหว่านเอ๋อร์ไปได้อย่างง่ายดายแล้ว
เวลานี้มีความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว เย่เฟิงกวาดตามองหาตรอกซอยแคบๆ หลงหว่านเอ๋อร์อยู่ห่างจากเขาเพียงสิบเมตร หากยังเป็เช่นนี้ต่อไป เขาจะไม่มีทางหลบหนีจากเธอได้เลย ยาผสมสองสามเม็ดที่เขากลืนลงไปช่วยฟื้นฟูพลังชี่อย่างน้อยครึ่งหนึ่งแล้ว เย่เฟิงหยุดทันทีแล้วหันกลับมาปล่อยหมัดออกไป!
หลงหว่านเอ๋อร์ที่วิ่งตามหลังใเมื่อเห็นเย่เฟิงหยุดกะทันหัน หมัดของเย่เฟิงเร็วเกินไป ชั่วพริบตาก็มาถึงหน้าเธอ!
เย่เฟิงควบแน่นพลังชี่ทั้งร่างของเขาไว้ที่แหวนกระบี่ัโบราณ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนจะไม่สามารถหลบได้ แสงสีแดงของกระบี่เจินชี่ก็เปล่งประกาย!
ฉึก!
วรยุทธ์ระดับแปดปีของหลงหว่านเอ๋อร์ไม่ได้มีไว้อวด แม้อยู่ในสถานการณ์คับขัน เธอก็ยังแสดงความยืดหยุ่นและหลีกเลี่ยงส่วนสำคัญที่เป็อันตรายได้ อย่างไรก็ตามหลังจากแสงกระบี่สีแดงผ่านไป ผ้าบางบนหน้าอกของเธอก็ถูกตัดออก หน้าอกขาวเนียนดั่งหิมะปรากฏต่อหน้าต่อตาเย่เฟิง
หลงหว่านเอ๋อร์รับรู้ได้ถึงบางอย่าง เธอร้องด้วยความโกรธ “แกตาย!”
หญิงสาวรีบใช้มือข้างหนึ่งปิดหน้าอกคู่สวยของเธอพลางจ้องเย่เฟิงเขม็ง ขณะเดียวกันก็กวาดขาเตะออกไป
เย่เฟิงคิดในใจ ในเมื่อเขาเคยจับหน้าอกคู่นั้นมาแล้ว แค่เห็นนิดเห็นหน่อยจะเป็เื่ใหญ่อะไร? อย่างไรก็ตามการตวัดกระบี่ครั้งนี้ไม่บรรลุผลตามที่คาดหวัง ทำให้เย่เฟิงประหลาดใจเล็กน้อย ความเร็วในการตอบสนองและทักษะของหลงหว่านเอ๋อร์เกินความคาดหมายของเขา
เมื่อเห็นลูกเตะของเธอใกล้เข้ามา เย่เฟิงกลิ้งตัวหลบแล้วฟันขาของเธอ เขาใช้พลังชี่ทั้งหมดในการเรียกกระบี่ซึ่งมันยังคงอยู่ได้สักพัก ในที่สุดหลงหว่านเอ๋อร์ก็เห็นอาวุธในมือของเย่เฟิงอย่างชัดเจน จึงรีบหดขากลับ เธอยังไม่ถึงระดับที่สามารถใช้ร่างกายและพลังภายในสู้กับอาวุธ์ได้ คนที่สามารถท้าทายอาวุธ์เช่นนี้ได้ในยุทธจักรคงมีแต่พวกผู้าุโที่ฝึกฝนมานานหลายทศวรรษ
เย่เฟิงยังถือว่าอยู่ในสถานการณ์ได้เปรียบ เขาแกว่งกระบี่ไปมาในแนวขวางอย่างต่อเนื่อง แม้การเคลื่อนไหวของเขาจะไร้รูปแบบ แต่ก็ทำให้เธอระมัดระวังการโจมตี บางครั้งการโจมตีนั้นก็ตัดกระโปรงขาดด้วยความบังเอิญ เผยให้เห็นเรียวขาคู่สวยที่ดึงดูดสายตาของเขาอย่างไม่ตั้งใจ
หลงหว่านเอ๋อร์โมโหเสียเเล้ว เธอต้องปกป้องผิวขาวราวหิมะ จึงไม่สามารถต่อสู้อย่างเต็มที่ เพียงไม่นานก็ปรากฏรอยขาดวิ่นอีกมากมายบนเสื้อผ้าของเธอ เผยผิวขาวเนียนที่มองเห็นได้จากทั่วทิศ ผิวของเธอช่างน่าดึงดูดใจ ไม่นานพลังชี่ที่ควบแน่นในแหวนกระบี่ัโบราณก็หมดลง กระบี่นั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“มาดูว่าเธอจะไล่ฉันยังไง” เย่เฟิงยิ้มก่อนวิ่งหนีไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้