น้ำเสียงของหรงซิวเรียกได้ว่าเขย่าโลกผีโลกเทพ ทำให้อวิ๋นอี้ตะลึงงันทันที ร่างกายแข็งทื่ออยู่กับที่
ทหารที่อยู่นอกประตูเข้ามาหาเขาพร้อมๆ กัน นำหน้ามาด้วยยาชิงที่ถามด้วยความเป็ห่วง “ฝ่าาพ่ะย่ะค่ะ?”
หรงซิวไม่ตอบ
“ฝ่าาเป็กระไรไปพ่ะย่ะค่ะ?”
อวิ๋นอี้ถูกดึงกลับมาสู่ความเป็จริงเพราะเสียงนั้น มองไปหาชายหนุ่มล้มอยู่บนเตียงที่กำส่วนสำคัญของเขาไว้ ก็ได้รู้ถึงตำแหน่งที่นางเตะโดน ใบหน้าของเขาค่อยๆ เปลี่ยนเป็สีม่วง
เหมือนจะ...แย่แล้ว
หรือว่าจะเตะโดนแท่งทายาทของเขาจริงๆ?
นางเกร็งกราม ตอบคำถามคนที่อยู่ด้านนอกอย่างอ้ำๆ อึ้งๆ “ยา...ยาชิง...เร็วเข้า! ไปเรียกหมอมาเร็ว!”
“ฝ่าาเป็กระไรไปพ่ะย่ะค่ะ?” ยาชิงมีจิตใจละเอียดอ่อน รู้สึกได้ถึงความไม่ปกติ ก็พูดต่อ “พระชายาพ่ะย่ะค่ะ! ฝ่าาเป็อย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ?”
ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก
อวิ๋นอี้ทำตัวไม่ถูก มิรู้จะอธิบายอย่างไรดี คงจะพูดว่านางเตะไอ้นั่นของเขาหักมิได้หรอกใช่หรือไม่ มิเช่นนั้นต่อไปหรงซิวจะอยู่อย่างไร?
นางพูดอย่างหงุดหงิดและดุ "ข้าบอกให้ไปเรียกมาก็ไปเถิด จะพูดกระไรให้มากความ!"
"พ่ะย่ะค่ะ" ยาชิงก้มหน้าลง ตอนกำลังจะเดินออกไป หรงซิวก็พูดหยุดเขา น้ำเสียงของเขาดูอ่อนแอเล็กน้อย ฟังดีๆ แล้วเสียงยังสั่นอีกด้วย ราวกับว่ากำลังอดกลั้นต่อความเ็ปอยู่ “ไม่เป็กระไร พวกเ้าออกไปให้หมด!”
“ฝ่าา! มั่นใจนะพ่ะย่ะค่ะว่าไม่เป็กระไร?”
“มิได้ยินหรือไงว่าข้าบอกว่าไม่เป็กระไร?” หรงซิวกัดฟัน หน้าผากเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ ลูกน้องพวกนี้ไล่ไปได้ไม่ง่าย เขาจึงต้องทำท่าทีดุขึ้น พูดว่า “ออกไปสิ!”
ทุกคนรู้นิสัยของเ้านายดี ในเมื่อเขาพูดแล้ว จึงมิมีผู้ใดกล้าขัดขืน ยาชิงจึงนำทำความเคารพ แล้วพาคนออกไป
เมื่อได้ฟังเสียงฝีเท้าที่ก้าวไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าที่ร้อนผ่าวของอวิ๋นอี้ ในคืนฤดูร้อนเช่นนี้ ก็ยิ่งแผดเผาขึ้นอีก
นางลูบหน้า จ้องเขม็งไปที่หรงซิวที่ขดตัวกลม ถามอย่างระมัดระวังว่า "ฝ่า...ฝ่าาเป็กระไรหรือไม่เพคะ?"
"เ้ารู้หรือไม่ว่าเมื่อครู่เ้าเตะไปโดนที่ใด?"
"...... "อวิ๋นอี้ฉีกมุมปาก ตอนแรกนางมิรู้หรอก ทว่าเพียงเห็นท่าทีของเขาก็รู้แล้ว นางพูดอย่างรู้สึกผิดว่า "ฝ่าาไม่เป็กระไรนะเพคะ? ตรงนั้นมีปัญหากระไรหรือไม่?"
“มีปัญหาหรือไม่ ต้องใช้ดูถึงจะรู้”
"......"
"เ้ามาตรวจดูให้ข้าได้หรือไม่?"
"......"
เขาพูดทะลึ่งกับนางได้อย่างหน้าไม่อาย ดูแล้วไม่น่าจะกระทบถึงไอ้นั่น
นางถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตบไหล่เขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “อย่าคิดว่าเป็เช่นนี้แล้วฝ่าาจะเปลี่ยนเื่คุยได้นะเพคะ!”
หรงซิวที่ถูกมองออกมุมปากก็กระตุก เมื่อได้เห็นสายตาคู่สุกใสของสาวตัวน้อย เขาก็ทำกระไรมิได้นอกจากจะต้องอธิบาย “อวิ๋นเออร์ ที่ข้าปิดบังเ้าข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้ว ทว่าเื่นี้ข้าก็ลำบากใจ”
ลำบากใจ ลำบากใจ
มีเื่ใดบ้างที่ไม่ต้องลำบากใจ?
หากนางมิรู้ เขาก็จะปิดนางไปเรื่อยๆ ใช่หรือไม่ มองนางเหมือนคนโง่ เขามองนางอย่างไม่แยแส ในคราที่อารมณ์ดี ถึงได้ร่วมแสดงกับนาง?
อวิ๋นอี้สีหน้าเ็า “ข้าไม่สนหรอกว่าฝ่าาจะมีปัญหากระไร ทว่าเื่นี้ฝ่าาทำให้ข้าผิดหวังมาก”
“เมียจ๋า ข้าผิดไปแล้ว” หรงซิวพูด “เื่ที่จะแต่งงานกับหว่านฉือเป็สิ่งที่เพิ่งตัดสินใจเมื่อวาน ที่ข้ามิได้บอกเ้า ก็เพราะข้าจะรอโอกาสที่เหมาะสมอยู่ เ้าต้องเชื่อข้านะ"
"ข้าเชื่อฝ่าา แต่ท่านเคยเชื่อข้าหรือไม่? ฝ่าาคงกลัวสินะเพคะ ว่าบอกข้าแล้วข้าจะไปยุ่งวุ่นวายกับงานอภิเษกของฝ่าากับแม่หญิงหว่านฉือ!"
"มิใช่นะ!"
อวิ๋นอี้ยืนขึ้น คว้าหมอนฟาดเขาแล้วเดินออกไปอย่างโกรธเคือง
เขายืนขึ้นจะไล่ตามไป แต่ความเ็ประหว่างขาของเขาทำให้เขาไม่สามารถยืนขึ้นได้ ท่าทีของเขาน่าสมเพชและอนาถ สิ่งที่คนนอกเห็น คือองค์ชายโน้มตัวลงราวกับสุนัขเดินตามพระชายา
ในตอนนี้อวิ๋นอี้ไม่อยากเจอเขา ไม่อยากทะเลาะกับเขามิรู้จบ นางเหนื่อยกายเหนื่อยใจ การเดินออกไปจึงเป็ทางเลือกที่ดีที่สุด
“อวิ๋นเออร์! รอข้าด้วยสิ!"
"ฝ่าา!" อวิ๋นอี้ได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ใกล้ๆ ก็หยุดแล้วหันกลับมาทันใด ทำให้หรงซิวที่เดินตามมาอยู่ด้านหลังสะดุ้งใ เขาจ้องมองสาวน้อย หัวของนางสูงเท่าอกเขาเพียงเท่านั้น รัศมีของเขาอยู่ประมาณหนึ่งเมตรแปดสิบ
“เมียจ๋า?” เขาพูดด้วยความกลัว “เป็...เป็กระไรไป?”
“หากตามข้ามาอีก วันพรุ่งข้าจะกลับบ้าน!”
“ไม่ตามแล้ว ไม่ตามแล้ว” หรงซิวส่ายหน้ารัวๆ ราวกับว่ากลัวว่านางจะไม่เชื่อ เขายังยกมือขึ้นสาบาน “ข้าจะไม่ตามแล้ว เมียจ๋าต้องอยู่ข้างข้าต่อไปนะ”
“ฮึ่ม!”
อวิ๋นอี้มิได้ไปที่ห้องข้างๆ แต่ไปหาเสี่ยวมู่อวี่
เมื่อเ้าตัวเล็กเห็นนางมา เขาทั้งแปลกใจและดีใจ เขาวิ่งลงจากเตียงด้วยเท้าเปล่าแล้วะโเข้าไปในอ้อมแขนของนาง "ท่านแม่!"
"คืนนี้ข้าจะนอนกับเ้า" หลังจากที่อวิ๋นอี้อธิบายเหตุผลที่มาเสร็จ ก็อุ้มเขาขึ้นมา เ้าตัวเล็กโตไว น้ำหนักพุ่งปรี๊ด อุ้มขึ้นบนอกก็รู้สึกหนัก เพียงเดินไปไม่กี่ก้าว ก็ต้องวางเขาลงพลันหอบเสียแล้ว
“ท่านแม่ ทำไมจู่ๆ มานอนกับข้าเล่าพ่ะย่ะค่ะ?” เสี่ยวมู่อวี่เป็เด็ก แต่รู้เยอะ เขาสังเกตเห็นว่าตอนอวิ๋นอี้เข้ามาหน้าบึ้งตึง เขาคิดในใจว่านางน่าจะทะเลาะกับท่านพ่อราคาถูกมาแน่ๆ
“ไปนอนเถิด” อวิ๋นอี้ลูบหัวเขา "แม่ก็ง่วงแล้วเหมือนกัน มีเื่กระไรค่อยพูดกันนะ"
เทียนในห้องดับ ห่างออกไปสิบเมตร บุรุษหนุ่มที่ยืนอยู่ใต้ร่มไม้เขียวชอุ่ม ยิ้มอย่างขุ่นเคืองใจแล้วส่ายหน้า
เขาแต่งงานแล้วแท้ๆ ทว่าใช้ชีวิตเกือบจะเป็สมณะเสียแล้ว
นางโกรธเขา ก็ปล่อยให้เขาหิว ไม่ง่ายเลยที่จะอิ่มสักมื้อ ดูแล้วเขายังต้องหิวโหยไปอีกสักระยะ
มิได้สิ วันพรุ่งเขาจะต้องพานางกลับมาให้ได้ หากว่านางจะยังมีเื่ ก็จะพานางลงเตียง ทานอย่างเอร็ดอร่อย อิ่มแล้วก็คงหายโกรธ
“ฝ่าาพ่ะย่ะค่ะ”
หรงซิวกำลังครุ่นคิดอย่างมีความสุข จู่ๆ ร่างที่ราวกับผีก็แวบเข้ามาหลังเขา เป็เสียงต่ำของยาชิง
เขายับยั้งอารมณ์ของเขาไว้อย่างไม่พอใจ ความอบอุ่นรอบตัวเขาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว “มีกระไร?”
“ทหารที่ส่งไปเฝ้าท่านหญิงหว่านฉือ บอกว่ารู้เื่วันนี้ที่ท่านหญิงหว่านฉือกับพระชายาพบกันพ่ะย่ะค่ะ เขายังได้ยินเื่บางอย่างมาอีกด้วย”
“เรียกเขามาที่ห้องหนังสือ”
องครักษ์ที่สามารถทำงานให้หรงซิวได้ ล้วนพื้นฐานดีและมีความสามารถที่โดดเด่น ทหารคนนั้นบอกว่าได้ยินอวิ๋นอี้และหว่านฉือพูดกระไรกัน แม้ว่าเขาจะห่างออกไปกว่าสิบเมตรแต่ก็ได้ยินได้อย่างชัดเจน
เขาจึงเล่าการสนทนาของทั้งสองอย่างละเอียดไม่ตกสักคำ พร้อมทั้งเสริมว่า "หลังจากนั้นพระชายาก็ดึงเก้าอี้แล้วเดินออกไปเลยพ่ะย่ะค่ะ"
เทียนในห้องดับลง หลังจากที่ไล่ผู้อื่นกลับออกไปหมดแล้ว ทั้งห้องก็เหลือเพียงหรงซิว
เขาแปลกใจเล็กน้อย
เื่แรกคือแปลกใจที่ในยามที่เขาไม่เห็น หว่านฉือกลับเป็เช่นนั้น
เขาเชื่อมโยงเื่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นใน่นี้ ก็ชี้ได้เพียงว่าหว่านฉือเป็คนทำเื่นี้ และทุกอย่างก็ดูสมเหตุสมผลมิมีข้อกังขาใด
ดูเหมือนว่าหลังจากมิได้เจอกันสามปี หว่านฉือจะเปลี่ยนไปมากกว่าที่เขาคิด
เื่ที่สองคือ ในตอนที่นางเผชิญหน้าเขานางช่างดูไร้เดียงสา อวิ๋นอี้ที่ดูไร้เล่ห์กลใดๆ กลับกลายเป็สตรีที่รอบคอบและเฉลียวฉลาดมาก
ในบทสนทนากับหว่านฉือ แม้ว่านางจะมิได้พูดกระไรออกมามาก แต่ประโยคเพียงไม่กี่ประโยคก็เพียงพอที่จะแสดงความสงบและความแน่นิ่งของนาง รวมถึงความกล้าหาญและการวางแผน
หรงซิวคิดว่ามันน่าขำ
ตลอดมา เขาคิดเสมอว่าสตรีที่อยู่ข้างกายเขา เป็เพียงสตรีที่อ่อนแอ รู้เพียงวิธีในการแย่งชิงความรักความโปรดปราน แต่ไม่คิดเลยว่า เขาจะประหลาดใจได้ถึงสองคราในวันเดียว
ไม่ว่าจะเป็หว่านฉือ หรืออวิ๋นอี้ก็ล้วนกำลังเล่นงานเขา
หว่านฉือทำให้เขาติดกับ นำพาให้เขาะโลงหลุมไปทีละก้าว
อวิ๋นอี้รู้ว่ามีผู้ใดบางคนกำลังหลอกเขา รู้ว่าเขากำลังจะะโลงหลุม แต่นางกลับเมินเฉย ไม่เตือนเขา ถึงกับวางแผนซ้อนแผน
น่าสนุก ช่างน่าสนใจจริงๆ
สตรีของเขาทำให้เขาประหลาดใจได้ตลอดจริงๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้