รถตู้หรูสีขาวของชนกันต์แล่นผ่านเส้นทางลัดซึ่งค่อนข้างเปลี่ยว ในความเงียบสงัดนั้น ขอนไม้ขนาดใหญ่กลับวางขวางทางอยู่กลางถนน
“เดี๋ยวผมลงไปเอาไม้ออกก่อนนะครับ” คนขับรถหันมาบอก
“ไม่ต้อง ไม่แน่ว่าอาจมีคนจงใจวางไว้ก็ได้ ถ้าลงไปอาจถูกดักทำร้าย… ขับกลับทางเดิมเถอะ”
“ครับ” คนขับรับคำก่อนจะค่อยๆ ถอยรถแล้วกลับลำไปอีกทาง
ระหว่างที่รถแล่นต่อไป สายตาคมของชนกันต์ก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งข้างทาง หญิงสาวร่างเล็กคนหนึ่งกำลังถูกชายสองคนฉุดกระชากลากถูอย่างน่าใ
“หยุดรถ! มีผู้หญิงตกอยู่ในอันตราย!”
เสียงของเขาเด็ดขาดจนคนขับเหยียบเบรกกะทันหัน
“รีบโทรแจ้งตำรวจ ผมจะลงไปช่วย!”
“ครับ!”
ชนกันต์รีบเปิดประตูก้าวออกจากรถโดยไม่รอช้า เขาหรี่ตาจ้องมองภาพตรงหน้า
หญิงสาวคนหนึ่งกำลังต่อสู้อย่างกล้าหาญ ท่วงท่าแข็งแกร่งคล่องแคล่วชนิดที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นจากผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง
แต่ในจังหวะหนึ่ง เธอกลับถูกชายร่างใหญ่รวบแขนไว้จากด้านหลัง จนแทบขยับตัวไม่ได้
อันดากัดฟันแน่น ต่อสู้อย่างสุดกำลัง แม้ในใจจะรู้ว่าตนเสียเปรียบเพียงใด
เธอจ้องหน้าชายร่างใหญ่คนที่เดินเข้ามาใกล้ เขากัดฟันกรอดอย่างเหิมเกริม ท่าทางเหมือนคนเมาที่หลงระเริงอยู่กับความรู้สึกมีอำนาจ
“หน้าตาแบบนี้… จะให้นับครั้งยังไงไหวล่ะคืนนี้?” ชายที่จับแขนเธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหยาบคาย แววตาหื่นกระหายอย่างปิดไม่มิด
อีกคนหัวเราะ ก่อนพูดเสริมเสียงน่าขนลุก “ทั้งแรง ทั้งดุ… สนุกแน่นอนคืนนี้”
“ไอ้พวกสารเลว!!” อันดาตะคอกอย่างเดือดดาล ใจหนึ่งกลัวจับใจ แต่อีกใจก็ยังมีแรงฮึด
เธอเฝ้าภาวนา… ขอให้มีใครสักคนผ่านมา ช่วยพาเธอออกไปจากฝันร้ายตรงนี้…
“กล้าด่าเหรอ นังนี่!” ชายตรงหน้าชักมือขึ้นเตรียมฟาด แต่ก่อนที่ฝ่ามือนั้นจะกระทบลงบนตัวเธอ ร่างของเขากลับกระเด็นปลิวไปติดมุมผนังอย่างแรง!
โครม!
“โอ๊ยยยย!!! ใครวะ ใครทำกู?!”
“ลูกพี่!!” ชายอีกคนร้องเสียงหลง รีบปล่อยตัวเธอแล้ววิ่งไปหาคู่หูของตน
ทันทีที่แขนเป็อิสระ อันดาขบริมฝีปาก ยกยิ้มฮึ่มๆ อย่างเืขึ้นหน้า …ถึงทีของเธอบ้างแล้ว!
หญิงสาวะโถีบหลังคนที่เพิ่งจับเธอเต็มแรง จนร่างเขาปลิวไปชนกับชายอีกคน
“โอ๊ย!! ไอ้บ้า! หน้าทิ่มพุงกู!”
“พอแล้วครับ รีบไปจากที่นี่ก่อน” เสียงเข้มของชายผู้ช่วยเธอจากฝันร้ายดังขึ้น ก่อนที่เขาจะคว้ามือเธอแล้วออกวิ่งไป
อันดายังมึนงง วิ่งตามไปทั้งที่ใจยังคิดว่า…
จะหนีทำไม? คนช่วยเธอก็ไม่ได้ดูอ่อนแอสักนิด จะสู้ซ้ำอีกสักหน่อยให้สองคนนั่นจำก็ยังไหวแท้ๆ…
เขาพาเธอวิ่งมาถึงรถตู้สีขาวคันเดิม ประตูเลื่อนเปิดออกโดยอัตโนมัติ
“ขึ้นสิ” เขาหันมาบอกด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ
อันดาชะงักไปนิด ก่อนจะพยักหน้า ผู้ชายคนนี้คือผู้มีพระคุณของเธอ จะกลัวอะไรอีกล่ะ?
พอทั้งคู่ขึ้นมาบนรถ ประตูก็ปิดลงทันที
“คุณกันต์ไม่เป็อะไรนะครับ?” คนขับถามอย่างร้อนรน
“ไม่เป็ไร” ชนกันต์ตอบเรียบๆ ก่อนจะหันมามองหญิงสาวข้างตัว
“คุณโอเคหรือเปล่า ผมจะพาคุณไปแจ้งความ”
“ค่ะ… ขอบคุณมากนะคะ” เธอยิ้มบางๆ ใบหน้าเขาคมคายจนแทบละสายตาไม่ได้ ดูภูมิฐาน ราวกับคนที่อยู่บนโลกอีกใบหนึ่ง เธอจะตอบแทนบุญคุณเขาได้อย่างไรบ้างนะ...
หลังจากแจ้งความและลงบันทึกประจำวันที่ สน. เสร็จเรียบร้อย ชนกันต์กับอันดาก็พากันเดินมายังรถตู้ที่จอดรออยู่
“ขอบคุณมากนะคะสำหรับวันนี้” อันดากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจ เมื่อเดินมาถึงข้างรถ
“ไม่เป็ไรครับ เื่แบบนี้เป็ ‘น้ำใจพื้นฐาน’ ของความเป็มนุษย์ ต่อให้ไม่ใช่คุณ... ผมก็ช่วย” เขาตอบเรียบๆ แต่คิ้วกลับขมวดแน่น ราวกับกำลังนึกอะไรบางอย่าง
ใบหน้าของเธอดูคุ้นตา เหมือนเคยพบกันมาก่อน...
อันดาเพียงแค่ยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดขึ้น
“ค่ะ... ถ้าวันนี้ฉันไม่เจอคนที่ยังมีน้ำใจอย่างคุณ ฉันคงไม่มีโอกาสมายืนอยู่ตรงนี้แล้วจริงๆ”
เธอสูดลมหายใจลึกก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงดี ดูจากท่าทางแล้ว คุณคงไม่้าอะไรจากคนอย่างฉันแน่ๆ… แต่ถึงอย่างนั้น หนูตัวเล็กๆ วันหนึ่งก็อาจช่วยราชสีห์ได้นะคะ หากในอนาคตมีเื่อะไรที่ฉันช่วยคุณได้ ขอแค่คุณบอกมา ฉันจะช่วยเต็มที่แน่นอนค่ะ”
เธอก้มหน้าลงเล็กน้อย ก่อนหยิบกระดาษ และปากกาขึ้นมาจดเบอร์โทร แล้วยื่นให้เขา
“เก็บเบอร์ฉันไว้เถอะค่ะ ถ้าคุณ้าความช่วยเหลือ โทรมาแค่กริ๊งเดียว ฉันจะรีบไปหาคุณทันที”
แต่ชนกันต์กลับยกมือขึ้นเล็กน้อย ผลักกระดาษใบนั้นให้ออกห่าง
“ราชสีห์อย่างผม... ไม่พึ่งพาหนูหรอกครับ บ้านผมก็มีหนูเยอะอยู่แล้ว” เขาพูดนิ่งๆ ด้วยแววตาระแวดระวัง ไม่แน่ใจว่าเธอจะใช้เื่นี้มาเป็ข้ออ้างเพื่อเข้าหาเขาหรือเปล่า เพราะเขาเคยเจอคนประเภทนี้มาไม่น้อย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้