หนี้รักภรรยาจำเป็น

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

บทที่ 18

...

‘ได้เ๱ื่๵๹อะไรบ้างไหมไอ้ธัน’

‘เห็นแค่ปอร์เช่มาที่บ้านหลังหนึ่ง มีเด็กน้อยอายุประมาณสิบแปดสิบเก้าคนหนึ่งอยู่ที่นี่ แต่ไม่เห็นว่ามีกอหญ้านะ’

‘ไม่ใช่กอหญ้าหรอ’

‘ฉันได้คุยกับเด็กน้อยนั่นนิดหน่อย เธอบอกว่ามีพี่สาว’

‘สืบให้ได้นะ ว่านั่นใช่กอหญ้าไหม’

‘ไว้ใจฉันได้’

ธันวาปิดหน้าจอมือถือก่อนจะยัดลงใส่กระเป๋ากางเกงอย่างลวก ๆ หันมองเข้าไปในบ้านอีกครั้ง วันนี้ในบ้านดูเงียบเหงาราวกับไม่มีคนอยู่บ้าน เขาเดินวนดูรอบ ๆ เพื่อมองหาบุคคลด้านในอีกครั้งก็ต้องสะดุดชะงักเท้าที่กำลังเดิน เพราะรู้สึกได้ว่ามีวัตถุแปลก ๆ มีจี้อยู่ที่เอวหนาของเขา

เขายืนนิ่ง ๆ ก่อนจะยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นเหนืออกแกร่งช้า ๆ และเมื่อคิดว่าคนด้านหลังน่าจะตายใจแล้วก็ใช้เทคนิคศิลปะการป้องกันตัวหันกลับไปคว้าหมับที่ข้อมือบุคคลด้านหลังอย่างรวดเร็ว

“โอ๊ย!”

“ทำไมเป็๞เธอ”

“ก็นายมาเดินลับ ๆ ล่อ ๆ หน้าบ้านอีกแล้วทำไมละ”

“แล้วเธอเอาไม้แขวนมาจี้เอวฉันเนี่ยนะ”

“ก็ทำให้นายชะงักไปได้แล้วกัน ... จะปล่อยได้หรือยัง ฉันเจ็บ”

“อยากให้ปล่อยก็ตอบคำถามฉันมาก่อน”

“คำถามอะไร”

“พี่สาวเธอที่อยู่บ้านหลังนี้ชื่ออะไร”

“นายเป็๲เอามากนะ ฉันไม่บอกหรอก”

“ถ้าไม่บอก ฉันจะจับเธอไปถ่วงทะเลสาบ”

“อย่านะ! ฉันว่ายน้ำไม่เป็๲

“งั้นก็บอกมา”

“ไม่บอก มีคำถามอื่นไหม”

ยังไม่ทันที่ธันวาจะได้พูดอะไร ก็มีรถคันหนึ่งแล่นมาจอดที่หน้าบ้าน ผู้ชายที่เขาตามมาเดินลงจากรถมามองหน้าธันวาและเด็กสาว ตามลงมาด้วยผู้หญิงคนหนึ่งที่ใบหน้าคุ้นเคย เมื่อเธอเห็นว่าคนที่ยืนอยู่กับเด็กสาวเป็๞ใครก็ได้แต่ยืนนิ่ง ๆ ด้วยความ๻๷ใ๯

“เกิดอะไรขึ้นเว่ยเอิน”

“ตาคนบ้านี่มายืนทำลับ ๆ ล่อ ๆ พี่ปอร์เช่จัดการเขาเลย”

“คุณเป็๲ใคร มาทำอะไรที่นี่”

“ผม.. เห็นว่าบ้านหลังนี้ร่มรื่นดี เลยมาดูบ่อย ๆ ไม่คิดว่าน้องสาวของคุณจะขี้ระแวง”

“หรอ”

“ปอร์เช่ เราเข้าบ้านเถอะ”

“ค่อย ๆ เดินนะ .. ส่วนคุณถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ปล่อยมือน้องสาวผมได้แล้ว”

ธันวาไม่รอช้า ละมือออกจากข้อมือเล็ก ๆ ของเด็กสาว ก่อนที่เธอจะใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที ก้มลงมากัดแขนของเขาอย่างแรง แล้วรีบวิ่งเข้าไป ปิดประตูบ้านอย่างรวดเร็วราวกับว่ากลัวว่าผู้ชายคนนี้จะตามเข้ามา

“เธอ!”

“แบร่!”

ธันวายืนนิ่ง ๆ เอามืออีกข้างลูบแขนตัวเองป้อย ๆ ตรงรอยที่เด็กสาวนั้นกัด ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก เมื่อเขาหันเข้าไปในตัวบ้านอีกครั้ง ก็เห็นว่ากอหญ้าที่บัดนี้ท้องกลมโตยืนมองเขาอยู่จากในตัวบ้าน เมื่อเธอเห็นว่าเขาเองก็มองเธอจึงหลบเข้าไปในตัวบ้านทันที

‘เจอแล้ว’

ตื๊ด ตื๊ด

“เธอเป็๞ยังไงบ้าง สบายดีไหม”

“เท่าที่เห็นก็สบายดี ... กอหญ้าเห็นฉันแล้ว”

“เธอโวยวายไหม”

“ไม่นะ เธอเห็นว่าปอร์เช่ไม่รู้จักฉัน เธอเองก็ไม่ได้พูดอะไร จะให้ฉันทำอะไรต่อ”

“นายอยู่ที่นั่น จัดการหาที่พักแบบระยะยาวไว้เลย นายต้องดูแลเธอจนกว่าฉันจะจัดการงานที่นี่เสร็จ”

“กี่เดือน”

“สี่เดือน โปรเจ็คนี้ประมาณสี่เดือน”

“งั้นฉันไปเดินหาที่พักที่ใกล้ ๆ ก่อนแล้วกัน”

“ไอ้ธัน ... ได้ถ่ายรูปเธอไว้บ้างไหม”

“เจอกันโดยบังเอิญ และบรรยากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ไว้รอบหน้าจะจัดการให้”

“ดูแลเธอให้ดี”

ทุกการกระทำของบุคคลด้านนอกล้วนอยู่ในสายตาของกอหญ้า เธอจำได้ดีว่านั่นคือธันวา แต่เธอไม่รู้ว่าทำไมธันวาถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ก่อนที่เธอจะนึกขึ้นได้ว่าปอร์เช่เองเพิ่งบินมาจากไทย หรือว่าเขาจะสะกดรอยตามปอร์เช่มา

เธอเดินมานั่งที่โซฟาก่อนจะหยิบไอแพดเครื่องโปรดมาเปิดดูโซเชียลทั่วไป เมื่อเลื่อนผ่านข่าวสังคมก็เห็นข่าวใหญ่โตของบริษัทนำเขารถสปอร์ตที่โชว์ชื่อและใบหน้าของผู้บริหารอยู่บนหน้าจอ ผ่านไปได้สามสี่เดือนแล้วที่เธอตัดสินใจเดินออกมา แต่ไม่มีแม้สักวินาทีที่เธอจะลืมใบหน้าของผู้ชายคนนี้ได้เลย

“พี่หญ้า วันนี้แม่บอกว่าป้าเฉียงได้ดอกไม้ใหม่มาลงที่ร้านด้วย พี่หญ้าอยากไปดูไหม”

“มาลงใหม่หรอ ไปสิ พี่อยากได้มาเพิ่มอีก”

“พี่หญ้าแต่งตัวรอเลย เลยเว่ยเอินตากผ้าเสร็จเราจะได้ไปกัน”

“รบกวนแล้ว”

ตลาดดอกไม้ริมทะเลสาบ

ดอกไม้นานาพันธุ์ที่ถูกบรรจุอยู่ในกระถางพลาสติกกำลังชูดอก ผลิใบ ล่อลวงให้ผู้พบเห็นเข้ามาเชยชม และก็แน่นอนกอหญ้าคือหนึ่งในนั้น เธอเลือกต้นไม้ดอกไม้มากมายจากร้านของป้าเฉียง ซึ่งเป็๞เพื่อนสนิทของแม่เว่ยเอิน

“รบกวนป้าเฉียง ให้เด็กไปส่งที่บ้านเหมือนเดิมนะคะ”

“ลูกชายป้าเพิ่งประสบอุบัติเหตุไปส่งให้ไม่ได้ แต่ป้ามีรถเข็นนะ ให้ยัยหนูเว่ยเอินเข็นไปได้ไหม”

“เดี๋ยวผมเข็นไปให้ครับ”

“นาย! ทำไมเป็๞นายอีกแล้ว”

“ดอกไม้เยอะขนาดนี้ ตัวเธอเท่ากับมดแบบนี้จะเข็นไปไหวหรอ”

“ก็ไม่ใช่ให้นายมายุ่งแล้วกัน”

“เว่ยเอิน อย่าเสียมารยาท”

“แต่ว่า”

“งั้นก็รบกวนคุณแล้วนะคะ”

“ด้วยความยินดีครับ”

ดีที่ว่าทะเลสาบไปไกลจากบ้านมากนัก เดินกินลมชมวิวแค่เพียงไม่นานก็ถึงยังไม่ทันได้รู้สึกเหนื่อย แต่ที่ทำให้กอหญ้ารู้สึกเหนื่อยนั่นไม่ใช่การเดิน แต่เป็๲เสียงที่สองคนด้านหลังเถียงกันตลอดทางนี่แหละ

“ทำไมนานชอบมายุ่งกับพี่สาวเราอยู่เรื่อย”

“เธอชื่อเว่ยเอินสินะ ฉันอายุมากกว่าเธอ เธอควรเรียกฉันว่าพี่ไหม”

“ก็นายทำตัวไม่น่าเคารพ ฝันไปเถอะว่าจะเรียกว่าพี่”

“ฉันไม่น่าเคารพยังไง เธอต่างหากที่แก่แดดแก่ลม”

“นี่นาย! อย่างฉันเรียกฉลาดย่ะ ไม่ใช่แก่แดด .. เห้ย! เข็นดี ๆ สิต้นไม้จะลงไปกองรวมกันอยู่แล้ว”

“เธอนี่เป็๲เด็กที่ขี้บ่นมากรู้ตัวไหม อีกอย่างฉันมีชื่อ ฉันชื่อธันวา จำชื่อฉันไว้ด้วยยัยเปี๊ยก”

“ใครเด็ก! ฉันโตแล้วนะ ที่สำคัญสวยมากด้วย”

“ใครให้ความมั่นใจเธอมาเนี่ย”

“พอแล้ว เถียงกันไม่เหนื่อยหรอ”

“ก็เขาหาว่าเว่ยเอินเป็๲เด็กอะพี่หญ้า”

“เราก็ให้มันน้อย ๆ หน่อย ยังไงคุณธันวาก็โตกว่าเรา...ขอบคุณ คุณธันวามากนะคะที่ช่วยพาดอกไม้กลับมาบ้านให้”

“ไม่เป็๲ไรครับ มีอะไรให้ช่วยเรียกได้เลยนะกอหญ้า”

“หมายถึง ... คุณอยู่ที่นี่หรอ”

“ใช่ครับ ผมอยู่ที่นี่”

กอหญ้าหยุดเดิน ก่อนจะหันมามองหน้ากับธันวานิ่ง ๆ ทั้งคู่สบตากับเล็กน้อยราวกับกำลังค้นหาความจริงอะไรบางอย่าง ธันวาฉีกยิ้มหวานให้เธอจนตาหยีโดยที่การกระทำของทั้งคู่อยู่ในสายตาของเด็กสาวทุกอย่าง เธอหันมองกอหญ้าสลับกับธันวาสองสามที ก็เห็นกอหญ้ายิ้มบาง ๆ ที่มุมปากก่อนที่เธอจะหันหลังและเดินไปตามทางต่อโดยที่ไม่มีเสียงพูดคุยอะไรกันอีก

ทั้งสามเดินมาถึงหน้าประตูรั้วสีขาว เด็กสาวก็รีบวิ่งแจ้นไปเปิดประตูเพื่อให้ธันวาได้เข็นรถที่บรรจุต้นไม้ ดอกไม้ หลายสิบต้นเข้าไปในบ้านอย่างไม่รีบร้อน ธันวามองรอบ ๆ บ้านทันทีที่เข้ามา พบว่าจุดหลายจุดถูกปลูกไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์อุดมสมบูรณ์ผลิใบออกดอกอย่างคับคั่ง เขาเดินมาจอดรถเข็นตามที่เด็กสาวบอก ก่อนจะยกต้นไม้ ดอกไม้ลงจากรถเข็นจนหมด

“นี่ก็เย็นแล้ว เย็นนี้ก็อยู่ทานข้าวด้วยกันสิ ถือว่าเป็๞ค่าตอบแทนที่คุณธันวามาช่วยเรา”

“ได้หรอครับ ถ้าอย่างนั้นมื้อนี้ต้องรบกวนด้วยนะครับ”

“เชอะ! ถ้าไม่ติดว่าพี่หญ้าชวน นายไม่มีทางได้เข้ามาแน่”

เว่ยเอินบ่นเสียงเบา ๆ ให้ธันวาได้ยิน ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้กอหญ้าและธันวาหัวเราะขบขันให้กับความแก่แดดของเธอ เมื่อเว่ยเอินเดินเข้าไปในบ้านแล้วก็เหลือเพียงทั้งคู่ที่ยืนนิ่ง ๆ โดยที่ไม่มีใครพูดออกมาเลยสักคำ กอหญ้าถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะหันมาสบตากับธันวา

“คุณธันวามาทำอะไรที่นี่คะ”

“ผมว่ากอหญ้ารู้นะครับ”

“มาคนเดียวหรอคะ”

“ตอนนี้ผมมาคนเดียว และจะอยู่ดูแลกอหญ้าที่นี่จนกว่าตัวจริงจะเสร็จงาน”

“คุณตามปอร์เช่มาหรอ”

“ขอโทษด้วยที่ต้องทำแบบนี้ แต่ราชันย์มันเป็๲ห่วงกอหญ้ามากนะ”

“เลิกพูดถึงเขาเถอะค่ะ อีกอย่างถ้าคุณธันวามาที่นี่เพื่อดูแลกอหญ้า คุณธันวากลับไปเถอะค่ะ กอหญ้าดูแลตัวเองได้ มีเว่ยเอินอีกคน”

“มาเฟียจากดูไบ ที่พ่อของกอหญ้าไปติดหนี้ไว้ เริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้ว”

“หมายความว่ายังไงคะ”

“ตอนนี้ถ้าปอร์เช่กลับไทย แล้วกอหญ้าต้องอยู่คนเดียว เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ไม่สู้ให้ผมอยู่ที่นี่ดีกว่าหรอ”

เธอไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ยืนมองหน้าธันวานิ่ง ๆ อย่างใช้ความคิด เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาพรากชีวิตพ่อของเธอไปแล้ว ทำไมยังตามรังควานเธออีก แต่อีกใจก็ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ธันวาพูดจะใช่เ๹ื่๪๫จริงไหม

“ผมไม่เคยโกหก คุณก็รู้ดีนะกอหญ้า ส่วนที่เหลือผมให้คุณตัดสินใจ ระหว่างอยากให้ผมไปไกล ๆ กับความปลอดภัยของคุณและลูกคุณจะเลือกอะไร”

“ฉันเชื่อว่าต่อให้ฉันไล่คุณไป เขาก็จะส่งคุณมาอยู่ดี”

“ถ้าอย่างนั้น เพื่อไม่ให้ผมต้องเหนื่อยเพิ่ม คุณก็ให้ผมดูแลคุณเถอะ”

“เข้าในบ้านเถอะค่ะ สักพักเว่ยเอินน่าจะทำอาหารเสร็จแล้ว”

“ครับ”

ธันวาเดินเข้ามาในบ้านก็พบว่าเว่ยเอินยกอาหารมาวางไว้จนเรียบร้อย ตามมาด้วยปอร์เช่ที่ยกอาหารจานสุดท้ายมาวาง เขามองหน้าธันวานิ่ง ๆ แต่ไม่ได้มีท่าทีต่อต้านหรือขับไล่ เพียงไม่นานเขาก็นั่งลงเพื่อทานอาหาร

“กอหญ้ารู้จักเขาหรอ”

ปอร์เช่ตั้งคำถามทันทีที่ธันวาเดินเก็บจานชามไปช่วยเว่ยเอินล้างในครัว ทั้งคู่นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องโถง เธอเข้าใจดีว่าปอร์เช่เป็๞ห่วงเพราะธันวาคือคนแปลกหน้าที่มาทำลับ ๆ ล่อ ๆ เพียงเวลาไม่กี่วันก็เข้ามาในบ้านได้แล้ว แต่จะให้เธอบอกไปว่ายังไงละว่าเขาคือมือขวาของราชันย์ก็คงไม่ได้อีกนั่นแหละ

“เขาไว้ใจได้นะ หญ้าดูคนไม่ผิดหรอก”

“แต่เราไม่รู้จักเขา เขาพยายามตีสนิทเราคิดไม่ซื่อหรือเปล่า”

“คิดมากน่า เ๱ื่๵๹นี้หญ้าตัดสินใจแล้วไม่ดีหรอจะได้มีคนมาคอยปะทะฝีปากกับเว่ยเอิน เธอจะได้ไม่ต้องตามปอร์เช่ต้อย ๆ”

“ไอ้ดีก็ดีอยู่ แต่ว่า”

“เอาน่า เชื่อหญ้า”

“งั้นเราแล้วแต่หญ้าละกัน … เราไปเอาถุงที่ซื้อมาแกะดูไหม”

“อื้อ ได้สินี่เราเตรียมใกล้ครบหรือยังนะ”

“งั้นรอแป๊บหนึ่งนะ”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้