เซี่ยเสี่ยวหลานมีประวัติความเป็มาอย่างไรน่ะหรือ?
จี้เจียงหยวนจะไปรู้ได้อย่างไร!
เป็เพื่อนกับใคร ถูกชะตากับใคร จำเป็ต้องไปสืบหาประวัติครอบครัวของคนอื่นก่อนอย่างนั้นหรือ?
ถึงอย่างไรที่เซี่ยเสี่ยวหลานยอมพูดคุยกับเขา คงไม่ใช่เพราะเขากลับมาจากอเมริกาอย่างแน่นอน... คำว่า ‘กลับมาจากอเมริกา’ เป็เหมือนป้ายห้อยคอจี้เจียงหยวน เป็สิ่งที่ทำให้คนอื่นจดจำเขาได้อย่างง่ายดาย ในหัวชิงหาก้าได้รับการยอมรับ กลับสามารถทำได้ง่ายดายเช่นนี้
“คุณลุง ผมไม่ทราบครับ”
จี้เจียงหยวนตอบไปตามความจริง
เขารู้แค่ว่า เซี่ยเสี่ยวหลานรู้จักกับพ่อบังเกิดเกล้าของเขาบนรถไฟ
หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็สนิทสนมมากขึ้นหลังติดต่อกันหลายต่อหลายครั้ง จี้เจียงหยวนคาดว่าพ่อของตนคงเห็นเซี่ยเสี่ยวหลานเป็เหมือนหลานสาวแท้ๆ มิเช่นนั้นเื่คราวนี้เขาคงไม่เดือดดาลเช่นนี้ แค่ขึ้นรถไฟยังได้รู้จักกับนายกเทศมนตรี ใครจะไปรู้ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะยังรู้จักคนอื่นที่เก่งกาจกว่านี้อีกหรือเปล่า
หลังได้ยินว่าวันนี้จี้หย่าไปหาเซี่ยเสี่ยวหลานอีกครั้ง จี้เจียงหยวนก็หมดคำจะบรรยาย
ต่อให้เซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีคนหนุนหลัง แม่ของเขาสามารถไปหาเซี่ยเสี่ยวหลานตามอำเภอใจอย่างนี้ได้หรือ? หากมีคนอยากออกโรงปกป้องเซี่ยเสี่ยวหลานจริงด้วยการหาเื่ตระกูลจี้ เมื่อมองอย่างยุติธรรม มันก็สมควรแล้ว
เขาเติบโตที่อเมริกา ไม่เหมือนคนที่บรรลุนิติภาวะแล้วอย่างจี้หย่า ทัศนคติของเธอล้วนถูกกำหนดให้เป็ไปตามแบบแผนก่อนที่เธอจะไปใช้ชีวิตที่อเมริกา ในขณะที่จี้เจียงหยวนนั้นได้รับการศึกษาตามแบบของอเมริกาั้แ่ยังเล็ก
เริ่มแรก เขาก็ประสบปัญหาถูกเหยียดสีผิวเช่นกัน ตอนหลังอาศัยความพยายามพัฒนาตนเองให้ยอดเยี่ยม คนรอบข้างถึงเลิกพูดจาเหยียดหยามเื่ที่เขาเป็คนผิวเหลือง เจอประสบการณ์เช่นนี้กับตัวทำให้จี้เจียงหยวนรู้จัก ‘ให้เกียรติ’ ผู้อื่น ทว่าสิ่งที่ทำให้จี้เจียงหยวนอับอายก็คือ ทุกอย่างที่จี้หย่าทำเป็การไม่ให้เกียรติเซี่ยเสี่ยวหลานเลยแม้แต่น้อย!
ตระกูลจี้ยอมตามใจแม่ของเขาก็เพราะเธอเป็คนป่วย และเธอจำเป็ต้องได้รับการดูแล
แต่หลังออกจากบ้านจี้ ไม่มีใครยอมอ่อนข้อหรือตามใจจี้หย่า อาการป่วยของเธอไม่ได้เกิดจากการถูกผู้อื่นทำร้าย ไม่ว่าอย่างไรโลกใบนี้เต็มไปด้วยผู้คนยากจนและอดอยาก เด็กแอฟริกาที่ต้องกินดินเพื่อให้อิ่มท้องต่างหากที่สมควรได้รับความใส่ใจจากประชากรโลก ต่างจากจี้หย่าที่มีชีวิตสุขสบาย คนอื่นจะมีชีวิตรอดยังเป็ปัญหาด้วยซ้ำ หากเธอป่วยก็เพียงเข้ารับการรักษา ทำไมคนนอกจะต้องตามใจจี้หย่าทุกเื่ด้วย?
จี้เจียงหยวนรู้ซึ้งถึงปัญหานี้มานานแล้ว เพียงแต่เขาไม่มีความกล้าพอที่จะเปลี่ยนแปลงมัน
หากการตามใจทำให้จี้หย่าอาการกำเริบน้อยลง จี้เจียงหยวนก็ยินดีทำแบบนั้น!
ทว่าปัจจุบันเป็เพราะการตามใจของเขากับคนตระกูลจี้ทำให้แม่ของเขาต้องกลายเป็เช่นนี้ ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง เอาตัวเองเป็ที่ตั้ง ไม่เข้าใจคำว่า ‘ให้เกียรติผู้อื่น’ แม้แต่น้อย และไม่คิดเลยว่าการกระทำของตนจะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นในตระกูลจี้มากแค่ไหน
จี้หลินรักและเอ็นดูเขามาก เพราะหน้าที่การงานทำให้เขาสามารถบินไปอเมริกาเพื่อเยี่ยมเขาได้บ่อยครั้ง
และจี้เจียงหยวนไม่อยากเห็นคุณลุงของตนต้องกลัดกลุ้มใจเช่นนี้
“เซี่ยเสี่ยวหลานมีเส้นสายอื่นอีกหรือไม่ผมไม่ทราบ แต่ผมรู้ว่าแฟนหนุ่มของเธอแซ่โจว ตอนพวกเราฝึกทหารอยู่ที่มณฑลจี้เป่ย แฟนของเธอทำหน้าที่เป็หัวหน้าครูฝึก ยศพันตรี ตำแหน่งในกองทัพคือหัวหน้ากองพัน อายุน่าจะมากกว่าผมราวสองปี”
พันตรีอายุเพียงยี่สิบต้นๆ อย่างนั้นหรือ?
ศีรษะของจี้หลินเริ่มปวดขึ้นมาอีกครั้ง!
พันตรีวัยยี่สิบต้นๆ หากไม่ใช่เพราะเป็คนที่เก่งกาจ ก็ต้องเกิดในตระกูลที่ทรงอำนาจน่ะสิ
และที่น่ากลัวที่สุดคือเขาอาจจะมีทั้งสองอย่าง
ดังนั้นถึงได้กล่าวว่า เราไม่ควรดูถูกใคร จี้หย่าสืบประวัติเซี่ยเสี่ยวหลาน และคิดว่าเธอเป็แค่เด็กบ้านนอกที่สอบเข้าหัวชิงได้คนหนึ่งจึงเดินทางไปข่มขู่อย่างไร้กังวล ส่วนพันตรีแซ่โจวผู้นี้ต้องมีประวัติความเป็มาเป็แน่ มิเช่นนั้นหนิงเยี่ยนฝานคงไม่เตือนเขาเช่นนี้
“เขาชื่ออะไร”
“โจวเฉิงครับ”
โจวเฉิง?
จี้หลินใช้ความคิดของตนอย่างรวดเร็ว
ในกรุงปักกิ่ง บรรดาตระกูลแซ่โจวมีตระกูลไหนที่สามารถทำให้หนิงเยี่ยนฝานต้องเกรงใจบ้างหรือไม่ วันนี้ตอนรุ่นน้องที่คณะสถาปัตยกรรมโทรมาเตือนเขาบอกว่าอย่างไรนะ คนที่ออกหน้าแทนเซี่ยเสี่ยวหลานคือสหายหญิงแซ่กวนคนหนึ่ง สหายหญิงคนนั้นทำงานอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขใช่หรือไม่
แซ่กวนเป็แซ่ที่พบเจอได้ไม่บ่อยนัก
แซ่กวน และมีความเกี่ยวข้องกับคนแซ่โจว หรือว่าจะเป็... ตระกูลโจวตระกูลนั้น?
เมื่อเดินมาถึงหน้าทางเข้าโรงแรม จี้หลินรู้สึกเข่าอ่อนเล็กน้อย หากไม่ได้จี้เจียงหยวนช่วยประคองไว้ทัน จี้หลินคงสะดุดล้มที่หน้าโรงแรมเป็แน่
เขาบอกพนักงานประชาสัมพันธ์ว่า ตนเป็เพื่อนของจอร์จ มีเื่ด่วน้าพบจอร์จทันที
เขาสามารถบอกเลขห้องที่จอร์จพักอาศัยอยู่ อีกทั้งยังมีบัตรข้าราชการของกระทรวงการต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปยังห้องพักได้
หลังเคาะประตูอยู่นาน ห้องของจอร์จก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด
พนักงานโรงแรมบอกเขาว่า คุณจอร์จเปิดห้องข้างๆ ด้วยอีกห้องหนึ่ง
จี้หลินเดินไปเคาะประตูอีกห้อง ครั้งนี้มีความเคลื่อนไหวจากข้างในห้องแล้ว จอร์จสวมชุดนอนเดินมาเปิดประตูด้วยท่าทางสะลึมสะลือ เห็นดังนั้นพนักงานหญิงของโรงแรมก็หน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที คุณจอร์จจากอเมริกาผู้นี้เปิดห้องระยะยาวที่โรงแรม ตอนบ่ายเขาช่วยเปิดห้องใหม่ให้กับสุภาพสตรีท่านหนึ่ง สุดท้ายก็ไม่ได้นอนที่ห้องพักของตัวเอง แต่กลับเป็คนเปิดประตูห้องข้างๆ ในสภาพชุดนอน... พระเ้าช่วย ชาวอเมริกันช่างเปิดกว้างมากจริงๆ!
จี้หลินหน้าบึ้งตึง
“จี้หย่าล่ะ”
สองคนนี้จะช่วยคิดถึงสภาพแวดล้อมหน่อยได้หรือไม่ ที่นี่ไม่ใช่อเมริกาที่สาวโสดจะสามารถเปลี่ยนแฟนและค้างแรมได้ตามใจชอบนะ!
ฤดูร้อนของปีนี้เพิ่งสิ้นสุดการรณรงค์ต่อต้านอาชญากรรม คนที่กล้าพักห้องเดียวกันทั้งที่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสอย่างจอร์จกับจี้หย่า สามารถถูกยัดข้อกล่าวหาโทษฐานอันธพาลคงไม่เกินเลยแต่อย่างใด
“พี่ใหญ่ เจียงหยวน มาได้อย่างไร? เข้ามาคุยในห้องสิ วันนี้จี้หย่าเหนื่อยเกินไป ดื่มไวน์แดงไปแก้วหนึ่งก็หลับแล้ว ผมคอยเฝ้าอยู่ที่นี่ตลอด”
จอร์จรีบอธิบายให้จี้หลินฟังทันที
ประเพณีของชาวจีนไม่เหมือนอเมริกา เขากับจี้หย่าทำทุกอย่างที่คนรักทำกันมาหมดแล้ว แต่อยู่ที่จีนจำเป็ต้องระมัดระวังตัว แน่นอนว่าจอร์จนั้นเข้าใจดี
จี้หลินกับจี้เจียงหยวนเดินเข้าห้อง
จี้หย่ากำลังหลับอยู่จริงๆ ชุดนอนบนตัวก็เรียบร้อยดีเช่นกัน สีหน้าของจี้หลินจึงดีขึ้นมาบ้าง
จอร์จก็ลำบากมากเช่นกัน กล่อมจี้หย่านอนไม่ต่างอะไรกับการกล่อมเด็ก นมสดกับขนมปังเธอไม่ได้กิน จี้หย่าเลือกดื่มไวน์แดง แก้วไวน์ยังตั้งอยู่บนโต๊ะและไม่ทันได้เก็บให้เรียบร้อย ไวน์แดงเหลือไม่ถึงครึ่งขวด ตัวจอร์จไม่มีกลิ่นเหล้า เห็นได้ชัดว่าจี้หย่าเป็ผู้ดื่มมันคนเดียว!
“เจียงหยวน ไปปลุกแม่ของหลานหน่อย”
จอร์จไม่เข้าใจ “กว่าเธอจะหลับได้ไม่ง่ายเลยนะครับ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย? ถ้าพี่ใหญ่กังวลเื่จี้หย่ากับเจียงหยวนออกนอกประเทศไม่ได้ พวกเรามีวิธีแก้ไขแล้ว พรุ่งนี้ผมจะไปขอความช่วยเหลือจากสถานทูตอเมริกา...”
“ไม่! พวกคุณไปไม่ได้!”
คิ้วของจี้หลินผูกเป็ปมแน่น
“ถ้าพวกคุณไปอเมริกาอย่างราบรื่น คนที่จะต้องเผชิญหน้ากับความเดือดร้อนก็คือคนทั้งตระกูลจี้ จอร์จ คุณไม่ควรเชื่อฟังจี้หย่าไปเสียทุกเื่ วันนี้พวกคุณไปหัวชิงมาอีกครั้งใช่หรือไม่ ผมคิดว่าพวกคุณอาจกำลังทำเื่ที่ผิดพลาดยิ่งกว่าเดิมน่ะสิ!”
แค่ทังหงเอินคนเดียวเื่ก็ยุ่งยากมากพอแล้ว หากตระกูลโจวที่ว่าเป็ตระกูลโจวเดียวกับที่จี้หลินรู้จัก ก็คงเป็เฉกเช่นเดียวกับที่ผู้เฒ่าหนิงกล่าวไว้ ตระกูลจี้คงต้องเจอศัตรูทั้งหน้าทั้งหลังแน่นอน
บนเตียงใหญ่ของโรงแรม จี้หย่าถูกลูกชายของตนปลุกให้ตื่น ก่อนจะได้ยินพี่ใหญ่ของตนอย่างจี้หลินกล่าวว่า
“จี้หย่า ขอโทษเถอะ”
นั่งจับเข่าคุยกับทังหงเอิน
ขอโทษนักศึกษาเซี่ยเสี่ยวหลานที่ไปคุกคามเธอ
หากทำสองเื่นี้ได้ วิกฤตครั้งนี้ของตระกูลจี้ก็จะคลี่คลายแน่นอน!