ในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ จัดว่าเป็วันหยุดที่ยอดเยี่ยมกว่าครั้งไหนๆและงานนิทรรศการแฟชั่นฤดูใบไม้ร่วงยังประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี
หลังจากค่ำคืนนั้นที่หยางเฉินขโมยจูบของหลินรั่วซี เมื่อกลับมาถึงบ้านหลินรั่วซีก็เอาแต่หลบเลี่ยงหยางเฉินตลอดเวลาพอถึงเวลาเลิกงานเธอก็เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องทำงานของตัวเองตลอด
ในเื่นี้หยางเฉินไม่อาจทำอย่างไรได้ เขารู้ว่าภรรยาของเขาผิวบางคล้ายปีกจักจั่น
สองวันถัดมาเป็วันหยุดสบายๆ บริษัทมู่หยุนซึ่งนำทีมโดยหลี่มู่หัวก็เดินทางมายังเมืองจงไห่ด้วยเช่นกันโดยพวกเขาจะมาถึงสนามบินใน่บ่าย
ตามข้อตกลงของทั้งสามฝ่ายแล้วประธานของทั้งสามบริษัทจะร่วมลงนามกันที่อาคารอิมพีเรียลเพื่อร่างสัญญากันอย่างเป็ทางการ
คนที่มารอต้อนรับหลี่มู่หัวที่สนามบินคือหยางเฉิน ในวันนี้เขาสวมสูทผูกเนกไทในปากคาบบุหรี่อยู่ จนในที่สุดเ้าหน้าที่สนามบินก็ต้องมาลากตัวเขาออกไปข้างนอก
สุดท้ายหยางเฉินจึงจำต้องโทรติดต่อหลี่มู่หัวให้มาเจอกันข้างนอกสนามบิน
หลี่มู่หัวนำบอดี้การ์ดหลายคนมาด้วยและทุกคนก็รู้สึกโกรธเป็อย่างมากต่อความไร้มารยาทของหยางเฉินแต่นั่นไม่ใช่กับหลี่มู่หัว เขาเผยรอยยิ้มออกมาตามปกติ เพราะรู้ดีว่าสำหรับหยางเฉินการปฏิบัติเช่นนี้ต่อเขาก็ถือว่าสมควรแล้วหากจู่ๆ ปฏิบัติกับหยางเฉินอย่างดีล่ะก็ ทั้งวันนั้นเขาคงกินไม่ได้นอนไม่หลับ
"ไม่เจอหลายวัน คุณหยางยังคงหล่อเหมือนเดิมเลยนะครับ" หลี่มู่หัวกล่าวอย่างมีความสุขมากพร้อมเอื้อมมือออกไปหาหยางเฉิน
หยางเฉินเช็ดมือกับกางเกง แล้วจับมือหลี่มู่หัวเขย่าน้อยๆ พลางกล่าวว่า
"ขอโทษที พอดีเมื่อเช้าผมกินของทอดมาแต่ผมคิดว่าคุณชายรองคงไม่รังเกียจมันเท่าไร"
หลี่มู่หัวฝืนยิ้มออกมา ดูเหมือนคำว่า ''คุณชายรอง'' ในจีนแผ่นดินใหญ่นั้นไม่ใช่คำพูดที่ควรพูดนัก
หลังจากทักทายกันเล็กน้อยแล้ว หยางเฉินก็นำทุกคนขึ้นรถ Mercedes S600 ที่บริษัทอวี้เหล่ยจัดส่งมาเป็พิเศษ
หยางเฉินประหลาดใจมากเมื่อหลินรั่วซีในเวลานี้ช่างใจกว้างดั่งมหาสมุทรและถึงกับออกปากว่า จะให้รถหรูแก่หยางเฉินสำหรับมารับแขก
แล้วก่อนจะออกมาหลินรั่วซียังให้แผนที่กับหยางเฉินนอกจากจะเป็แผนที่นำทางไปยังที่พักแล้ว เธอยังทำเครื่องหมายสีแดงจำนวนมากปรากฏอยู่บนแผนที่พร้อมคำอธิบายตัวเล็กๆ
หยางเฉินจ้องมองอย่างเหม่อลอย เครื่องหมายดังกล่าวเป็ทรัพย์สินของทางบริษัทอวี้เหล่ยทั้งหมดและนี่เป็เพียงถนนสายเล็กๆ ในเมืองจงไห่เท่านั้นยังไม่นับทรัพย์สินทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก
ไม่น่าแปลกใจที่สื่อต่างประเทศล้วนยกย่องให้หลินรั่วซีติดท็อปร้อยของมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกและหยางเฉินก็รู้สึกนับถือคุณย่าของหลินรั่วซีในทันที ที่สามารถสร้างทุกอย่างนี้ด้วยตัวคนเดียว
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่สำหรับหยางเฉิน แต่เป็วิธีที่เอาไว้จูงใจหลี่มู่หัวให้ยอมรับความร่วมมือกันในครั้งนี้ด้วยความเต็มใจ
หยางเฉินนั่งมองแผนที่อยู่ในรถ ฟังหลี่มู่หัวที่ยังคงแพล่มไม่หยุดเขาทำตามความ้าของหลินรั่วซี โดยการยื่นแผนที่มาตรงหน้าของหลี่มู่หัว
"คุณหยาง มันคืออะไรเหรอครับ?" หลี่มู่หัวหยิบแผนที่มาดูอย่างสนอกสนใจ
หยางเฉินกล่าวว่า "ก่อนที่จะมาที่นี่ ภรรยาของผมได้ทำสัญลักษณ์เหล่านี้ไว้บนแผนที่ มันคือทรัพย์สินของบริษัทและภรรยาของผมเองเธออยากให้คุณได้รับรู้ และวางใจ ก่อนจะลงนามในสัญญาครั้งนี้"
หลี่มู่หัวขยายแผนที่ และเห็นจุดสีแดงในแผนที่ที่ปรากฏอยู่ ไม่ว่าจะเป็หมู่บ้าน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถานเสริมความงาม สโมสรบันเทิง...
"คุณหยางกำลังจะบอกว่า.... นี่ทรัพย์สินของภรรยาและคุณงั้นหรือครับ?" หัวใจของหลี่มู่หัวเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆไม่ค่อยอยากจะเชื่อในสิ่งที่หยางเฉินพูดสักเท่าไร หากว่านี่เป็ทรัพย์สินของบริษัทอวี้เหล่ยก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับเป็ของภรรยาเขา...
หยางเฉินพยักหน้า "คุณยังสืบมาได้ไม่ละเอียดพอนะ ซีอีโอของอวี้เหล่ยไม่ใช่ภรรยาของผมหรือไง?"
ยิ่งกว่าฟ้าผ่าลงมาตรงกลางแสกหน้า หลี่มู่หัวตื่นตระหนกถึงขีดสุดเขาฉุกคิดไปถึงเหตุการณ์ในโกดัง ตอนนั้นเขานึกว่าโม่เชี่ยนนีคนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับหยางเฉินแต่เขาไม่คิดว่าที่แท้จริงกลับเป็หลินรั่วซี...
ไม่แปลกใจเลยที่ชายผู้นี้จะไม่เกรงกลัวะุปืนเพราะสำหรับเขาแล้ว ชีวิตของเขานั้นถือว่าเป็เื่รอง แต่สิ่งสำคัญคือ ห้ามใครมาทำร้ายหรือแตะต้องผู้หญิงของเขาเป็อันขาด!
ในตอนนี้หลี่มู่หัวมีอาการหวั่นเกรงหยางเฉินสุดขั้วหัวใจและการที่เขายังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ก็นับว่าเป็โชคอย่างหาที่เปรียบมิได้!
เสียงหัวเราะของหลี่มู่หัวยังคงน่าเกลียด
"คุณหยางครับ... เอ่อ ผมไม่ทราบจริงๆว่าคุณกับคุณหลินเป็สามีภรรยากัน ไม่อย่างนั้นล่ะก็..."
"ไม่อย่างนั้น นายคงจะฆ่าฉันไปแล้วถูกไหม?" หยางเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลี่มู่หัวหน้าซีดลงทันทีรอยยิ้มของหยางเฉินทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นเขารีบโบกมืออย่างเร่งรีบพร้อมกล่าวว่า
"ไม่ใช่นะครับผมไม่กล้าล่วงเกินคุณหยางเฉินเด็ดขาด คุณหยางอย่าล้อเล่นอย่างนี้เลยนะครับหัวใจของผมไม่อาจทนรับมันได้ไหวแล้ว"
หยางเฉินยักไหล่ ยิ้มกล่าวว่า
"การแต่งงานของเรายังคงเก็บไว้เป็ความลับถ้าคุณรู้สภาพตัวเองก็ถือว่าดีแล้ว คุณลองมองในแง่ดีนะ อย่างน้อยในตอนนี้คุณก็ร้ายจริงยังดีกว่าเป็คนหน้าซื่อใจคดที่แสดงออกว่าเป็คนดี"
บ้าไปแล้ว ถูกจับได้ขนาดนี้ มิหนำซ้ำกลับถูกหาว่าเป็คนร้ายเปิดเผย! หลี่มู่หัวคิดในใจแต่ใบหน้ายังคงประดับด้วยรอยยิ้มเอาอกเอาใจ
ในเมื่อหยางเฉินเป็สามีของหลินรั่วซีแบบนี้ ทำให้หลี่มู่หัวรู้สึกหวาดกลัวตัวตนเื้ัของหยางเฉินมากขึ้นในขณะเดียวกันก็อยากรู้เื่ราวของหยางเฉินเพิ่มขึ้นด้วยเขาไม่เชื่อเด็ดขาดว่าหลินรั่วซีจะเลือกหยางเฉินเป็สามี เพราะความแข็งแกร่งของหยางเฉินเพียงอย่างเดียว
หลังจากเดินทางมาถึงอาคารอิมพีเรียล ขณะนี้ก็เป็เวลาหกโมงเย็นแล้วหยางเฉินนำหลี่มู่หัวเข้าไปพบกับผู้บริหารของทั้งอวี้เหล่ยและฉางหลินที่มารออยู่ก่อนแล้ว
เมื่อหลี่มู่หัวและคนอื่นๆ เข้ามาในห้องโถง หลินรั่วซีและเฉิงซินหลินก็เดินมาทักทายซึ่งนี่เป็ครั้งแรกที่ซีอีโอของทั้งสามบริษัทได้พบปะกันพร้อมหน้า
หยางเฉินมองดูทั้งสามเสวนาเื่ธุรกิจ เมื่อได้ลองฟังดูก็รู้สึกว่าน่าเบื่อเกินไปที่นี่มีสิ่งบันเทิงมากมาย ในขณะที่กำลังคิดจะไปสปาให้สาวๆ นวดตัวให้อยู่นั้นโทรศัพท์ของหยางเฉินก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น
เป็โม่เชี่ยนนีที่ส่งข้อความมานั่นเอง
หลังกลับมาจากฮ่องกง หญิงสาวก็รักษาระยะห่างกับเขามาโดยตลอด
"ไปเจอกันข้างนอก ฉันมีเื่จะคุยด้วย"
หยางเฉินชำเลืองมองไปที่ผู้บริหารของมู่หยุน ซึ่งกำลังยืนคุยกับโม่เชี่ยนนีอยู่เขารู้สึกทึ่งกับความเร็วในการพิมพ์ข้อความของหญิงสาวเป็อย่างมาก
หลังจากรอมาประมาณสิบนาที โม่เชี่ยนนีก็เดินออกมาในชุดสีขาวระหงดูงดงามในแบบตะวันตก
เธอเดินมาหาหยางเฉิน และพูดขึ้นด้วยท่าทางเขินอายเล็กน้อยว่า
“รอนานหรือเปล่า คนพวกนั้นเซ้าซี้ไม่เลิกจนฉันต้องโกหกเพื่อที่จะปลีกตัวออกมา"
"ผมไม่มีของอะไรให้ตอบแทนคุณเลยหลังจากกลับมาฮ่องกง เชี่ยนเชี่ยนน้อยก็เอาแต่หลบหน้าไม่พูดไม่จา" หยางเฉินกล่าว
"นายโกรธฉันงั้นเหรอ? นายก็รู้ว่ารั่วซีเป็คนจิตใจอ่อนไหวพวกเราไปฮ่องกงด้วยกันตั้งหลายวัน แม้เธอจะไม่พูดอะไร แต่เธอก็ต้องคิดมากแน่ๆ... ฉันไม่้าให้ความสัมพันธ์ของพวกเราเลวร้ายลงเพราะเื่นี้" โม่เชี่ยนนีกล่าวเสียงเศร้า
"หอมแก้มก่อนสิ หรือจะให้ผมโกรธคุณจริงๆ ดี” หยางเฉินว่าพลางชี้ไปที่แก้มของตัวเอง
โม่เชี่ยนนีเบ้ปาก หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ เธอก็หลับตาแล้วโน้มตัวเข้าหาหยางเฉิน
โดยไม่รีรอให้โม่เชี่ยนนีหอมแก้มหยางเฉินจัดการประกบปากของเขากับริมฝีปากอวบอิ่มของเธอเสียก่อน!
"อื้อ!"
โม่เชี่ยนนีรู้สึกว่าถูกมือแกร่งของหยางเฉินจับศีรษะเอาไว้ทำให้ไม่สามารถขัดขืนได้ อีกทั้งริมฝีปากสีชมพูของเธอยังโดนลิ้นอุ่นของหยางเฉินรุกรานโหมกระหน่ำพยายามเป็อย่างมากที่จะเปิดฟันของเธอ
ขณะเดียวกันร่างกายของโม่เชี่ยนนีในเวลานี้เริ่มเสียการควบคุมตัวเองจิตใจของเธอเริ่มกระเจิดกระเจิง หญิงสาวเริ่มปล่อยตัวปล่อยใจไปกับกามารมณ์อย่างเต็มที่
หลังจากพบเจอจูบอันหอมหวานดูดดื่มอย่างกะทันหัน โม่เชี่ยนนีถึงกับหอบหายใจอย่างหนักใบหน้าของเธอแดงก่ำเป็ลูกตำลึง ซบลงกับหน้าอกแกร่งของหยางเฉิน
"ฉันมีเื่จะคุยกับนายจริงๆ รู้มั้ย! อย่าฉวยโอกาสแบบนี้สิ!"
"นี่ก็เป็เื่จริงจังเหมือนกันเพื่อให้อารมณ์ของผู้ฟังดีขึ้น เราจะได้คุยกันอย่างราบรื่นไงล่ะครับ" หยางเฉินกล่าวขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มกริ่ม
โม่เชี่ยนนีแกล้งทำเป็ไม่สนใจคำพูดของหยางเฉินเธอเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันเบาว่า
"กลับบ้านกับฉันได้มั้ย"