รถเลี้ยวเข้ามาจอดใต้ตึกสูงสีขาวตั้งตระหง่า 6 ชั้น ป้ายตั้งหน้าตึกบอกชัดเจนว่าสถานที่นี้คือ "สถาบันนิติเวชวิทยา"
"ถึงแล้วครับคุณเจษ" คนขับรถกล่าวก่อนกดปุ่มเพื่อให้ประตูไฟฟ้าเลื่อนเปิด
ชายทั้งสองลงจากรถก่อนมุ่งหน้าเดินเข้าไปในตึกด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มีกลุ่มตำรวจยืนอยู่ที่เคาร์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เมื่อประตูเลื่อนเปิดออกชายทั้งสองก็เดินพร้อมซองเอกสารสีน้ำตาลก็มุ่งไปติดต่อที่ประชาสัมธ์
"ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าห้องเก็บศพของคุณผู้หญิง โกษรา ธาราศิลา ต้องไปทางไหนครับ" เจษเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากหญิงสาวผู้นั่งที่เคาร์เตอร์ประชาสัมพันธ์ประจำตึก
"ขอดูเอกสารด้วยค่ะ คุณเป็ญาติที่จะมารับศพใช่ไหมคะ"
"นี่เอกสารครับ" เจษอานันพูดหน้าตาเฉยโดยยื่นแต่เอกสารแต่ไม่ได้ตอบคำถามว่า เป็ญาติที่จะมารับศพหรือป่าว
"เดี๋ยวคุณเป็ใคร มีสิทธิอะไรจะมารับศพของคุณผู้หญิง โกษรา" เสียงห้าวของสารวัตรหนุ่มนามว่า "ภูมิ" ดังขึ้นเมื่อได้ยินว่ามีคนจะมารับศพของคุณหญิง
เจษอานันถึงกับต้องหันไปตามเสียงนั้นแล้วก็พบว่าไอ้หนุ่มหน้าหล่อ สันจมูกโด่ง กรามเป็สัน ใส่ชุดตำรวจที่แน่นฟิตเปรี๊ยะยืนจ้องมองเขาอยู่
"แล้วคุณเป็ใครมายุ่งอะไรด้วย" น้ำเสียงไม่สบอารมณ์ถูกพ่นออกมา
สารวัตรหนุ่มได้เดินเข้ามาใกล้ประจันหน้ากับเขา
"ผมสารวัตรภูมิผู้เป็เ้าหน้าที่ดูแลคดีนี้ครับ และถ้าให้เดา...คุณคือ..." เขาพูดโดยเว้นจังหวะ
"ใช่ ผมคือ เจษอานัน ธาราศิลา ผู้รับมรดกแต่เพียงผู้เดียวของคุณหญิง"
"อืมม...ยินดีที่ได้พบครับ แต่คุณไม่สามารถรับศพกลับไปได้"
"หืม...ผมรู้ แต่ผมขอดูสภาพศพได้ไหม ผมอยากรู้สาเหตุการตายจริงๆ และอยากเห็นคุณหญิงป้า...ด้วย" น้ำเสียงอ่อนลงเมื่อพูดถึงคุณหญิง
"เอายังไงดีคะ คุณตำรวจ คุณเจษอานัน ไม่ใช่ บิดา มารดา สามี ภรรยา บุตร หรือ ผู้ได้รับมอบหมายจากพนักงานสอบสวนท้องที่ที่เกิดเหตุ ที่จะดูศพหรือรับศพไปได้" หลังจากที่หญิงสาวตรวจสอบเอกสารก็ได้ความตามที่ว่า
"ไม่เป็ไรครับ เดี๋ยวผมพาเขาไปดูสภาพศพเอง ผมเป็พนักงานสอบสวนท้องที่ที่เกิดเหตุ ยังไงผมรับผิดชอบเองครับ"
สารวัตรภูมิพูดพร้อมส่งยิ้มให้ว่าไม่ต้องกังวลเดี๋ยวเขาจะดูแลเคสนี้เอง
"ว่าแต่ผู้ชายอีกคนคือ ใครครับ ผมอนุญาติให้แค่คุณเจษคนเดียวนะครับเพราะเขาคือผู้เกี่ยวข้องกับการตายในครั้งนี้ด้วย"
"อ่อ เลขาผมเอง"
"แกรออยู่ตรงนี้นะ" เจษหันไปกระซิบกับคนของเขาเบาๆ
"ได้ครับนาย"
"นำทางผมไปทีครับสารวัตร"
"'งั้นเชิญทางนี้ครับ"
ทางตรงแคบสุดทางเดินมีไฟกระพิบไม่รู้เพราะว่ามันจะเสียหรือยังไง แต่มันทำให้บรรยากาศชวนขนลุก เจษไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะต้องมาดูศพญาติตัวเองในสภาพที่ได้รับการชันสูตรพลิกศพไปแล้ว...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้