บทที่ 8 การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และทดลองตลาด
การปฏิรูปฝ่ายสนับสนุนของจวนแม่ทัพดำเนินไปจนครบหนึ่งเดือนตามกำหนดของอนุจิน ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเหนือความคาดหมายของทุกคน "ฝ่ายสนับสนุน" ที่เคยเป็จุดอ่อนและสร้างปัญหาไม่หยุดหย่อน บัดนี้ได้กลายเป็เครื่องจักรที่ทำงานอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้การควบคุมของเสิ่นเยว่
[ติ๊ง! ภารกิจ "ปฏิรูปฝ่ายสนับสนุน" สำเร็จลุล่วง!]
[ท่านได้สร้างระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับจากผู้มีอำนาจทั้งหมดในจวน!]
[กำลังมอบรางวัล...]
[ท่านได้รับ: 500 แต้มระบบ ปลดล็อก "ร้านค้าระบบ" ระดับ 1, ได้รับฉายา: ผู้จัดการมือทอง]
[ร้านค้าระบบ ระดับ 1]
· สินค้า: แบบแปลนเครื่องมือพื้นฐาน สูตรเคมีระดับต้น ตำราความรู้ทั่วไป (การเกษตร การแพทย์พื้นฐาน) ยาฟื้นฟูร่างกายระดับต้น
· สกุลเงิน: แต้มระบบ
"ในที่สุด!" เสิ่นเยว่รู้สึกตื่นเต้นอย่างแท้จริง "นี่คือแผนกวิจัยและพัฒนา (R&D Department) ส่วนตัวของฉัน!"
แต้มระบบ 550 แต้มที่นางมีตอนนี้ (จากรางวัลภารกิจและรางวัลพิเศษ) อาจจะยังซื้อของใหญ่ๆ ไม่ได้ แต่มันก็เพียงพอที่จะเริ่มต้นโครงการใหม่ของนางได้แล้ว
โครงการที่จะเปลี่ยนสถานะของนางจากผู้จัดการภายในไปสู่การเป็ผู้ประกอบการ
เช้าวันนั้น เสิ่นเยว่เข้าพบพ่อบ้านใหญ่คัง พร้อมกับผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง สองสามชิ้นที่นางใช้เวลาทั้งคืนในการสร้างสรรค์ขึ้นมา
"ท่านพ่อบ้านคังเ้าคะ" นางเริ่มต้นการนำเสนออย่างเป็ทางการ "ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา บ่าวได้ทำการปรับปรุงประสิทธิภาพภายในสำเร็จลุล่วงแล้ว แต่บ่าวพบว่าจวนของเรายังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็อีกมาก โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อของใช้สิ้นเปลืองจากภายนอก"
พ่อบ้านคังเลิกคิ้ว "เ้าหมายถึงอะไร?"
เสิ่นเยว่หยิบก้อนสี่เหลี่ยมสีขาวนวลก้อนแรกออกมาวางบนโต๊ะ มันมีกลิ่นหอมสะอาดของมะลิอ่อนๆ "นี่คือสบู่ก้อนเ้าค่ะ"
นางอธิบายต่อ "สบู่ถั่วที่เราใช้อยู่มีประสิทธิภาพต่ำและทิ้งคราบ แต่สบู่ก้อนที่บ่าวทำขึ้นนี้ ใช้กระบวนการ Saponification ซึ่งเป็การทำปฏิกิริยาระหว่างไขมันสัตว์ (ที่เหลือใช้จากโรงครัว) กับน้ำด่างจากขี้เถ้า ทำให้เกิดสารทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ามาก และยังสามารถเติมสมุนไพรเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและสรรพคุณในการบำรุงผิวได้อีกด้วย"
นางสาธิตให้ดูโดยการนำสบู่ไปถูในอ่างน้ำเล็กๆ เกิดฟองละเอียดหนานุ่มขึ้นมาทันที ซึ่งแตกต่างจากสบู่ถั่วที่แทบไม่มีฟอง
พ่อบ้านคังมองดูด้วยความทึ่ง
จากนั้นนางก็หยิบขวดกระเบื้องเคลือบใบเล็กออกมา "ส่วนนี่คือแชมพูสระผม เ้าค่ะ แทนที่จะใช้เปลือกต้นหม่อนหรือน้ำซาวข้าวซึ่งยุ่งยากและมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว บ่าวได้นำน้ำด่างสมุนไพรมาผสมกับน้ำมันมะกอกและสมุนไพรอื่นๆ เพื่อสร้างของเหลวที่ช่วยทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะได้ดีกว่า ทำให้ผมนุ่มสลวยและมีกลิ่นหอม"
และชิ้นสุดท้าย คือเทียนไขสีเหลืองนวลแท่งหนึ่ง "และนี่คือเทียนหอมไร้ควัน เ้าค่ะ เทียนที่เราใช้อยู่ทำจากไขมันสัตว์โดยตรง ทำให้มีควันเยอะและมีกลิ่นเหม็น แต่เทียนของบ่าวทำจากไขผึ้งบริสุทธิ์ ผสมกับไส้เทียนที่ทำจากฝ้ายชุบน้ำเกลือ ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ เกิดควันน้อยมาก และยังสามารถผสมน้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้ลงไปเพื่อสร้างความผ่อนคลายได้อีกด้วย"
ผลิตภัณฑ์ทั้งสามอย่างนี้ อาจดูเป็ของธรรมดาในศตวรรษที่ 21 แต่สำหรับโลกยุคนี้ มันคือนวัตกรรม ที่ปฏิวัติวงการของใช้ในครัวเรือน!
"ข้อเสนอของบ่าวคือ" เสิ่นเยว่เข้าสู่ประเด็นหลัก "แทนที่เราจะซื้อของเหล่านี้จากข้างนอก ซึ่งมีราคาแพงและคุณภาพไม่แน่นอน เราสามารถผลิตของเหล่านี้ขึ้นใช้เองภายในจวนได้เ้าค่ะ! เรามีวัตถุดิบเกือบทั้งหมดอยู่แล้ว ทั้งไขมันสัตว์จากโรงครัว ขี้เถ้า สมุนไพรจากสวน การทำเช่นนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายรายเดือนของจวนลงได้อย่างมหาศาล!"
พ่อบ้านคังนิ่งอึ้งไปนาน เขาลูบเคราครุ่นคิดอย่างหนัก ข้อเสนอของเด็กสาวตรงหน้ามันไม่ใช่แค่การปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ แต่มันคือการสร้าง "อุตสาหกรรมในครัวเรือน" ขึ้นมาเลยทีเดียว!
"เป็ข้อเสนอที่น่าสนใจอย่างยิ่ง" เขากล่าวในที่สุด "แต่ เื่นี้ใหญ่เกินกว่าที่ข้าจะตัดสินใจได้คนเดียว เ้าต้องนำเสนอเื่นี้ต่อหน้าฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง"
เสิ่นเยว่รอคอยคำพูดนี้อยู่แล้ว "ด้วยความยินดีเ้าค่ะ"
การเข้าพบฮูหยินใหญ่ในครั้งนี้แตกต่างไปจากครั้งก่อนๆ นางไม่ได้ไปในฐานะบ่าวไพร่ที่ทำผิด แต่ไปในฐานะผู้จัดการโครงการ ที่จะมานำเสนอแผนธุรกิจใหม่
ฮูหยินใหญ่ฟังการนำเสนอของนางอย่างตั้งใจและทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ตัวอย่างด้วยตัวเอง นางพึงพอใจกับคุณภาพของมันอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเทียนหอมไร้ควัน
"แล้วเ้า้าอะไรเป็การตอบแทน?" ฮูหยินใหญ่ถามอย่างตรงไปตรงมา
"บ่าวไม่้ารางวัลอะไรเป็พิเศษเ้าค่ะ" เสิ่นเยว่ตอบอย่างนอบน้อม "บ่าวเพียงแค่ขออำนาจในการจัดตั้งแผนกผลิตภัณฑ์ ขึ้นมาใหม่ โดยใช้พื้นที่ว่างหลังโรงครัวเป็ที่ทำการ และขอแรงงานบ่าวไพร่ที่ไม่ได้มีหน้าที่สำคัญมาช่วยงาน 5 คน รวมถึงขอสิทธิ์ในการเบิกจ่ายวัตถุดิบที่เหลือใช้จากแผนกอื่นๆ ด้วยเ้าค่ะ"
นี่คือการขอ "งบประมาณตั้งต้น" (Seed Funding) นั่นเอง
"และที่สำคัญที่สุด" เสิ่นเยว่กล่าวต่อ "บ่าวขออนุญาตนำผลิตภัณฑ์ส่วนเกินที่ผลิตได้ ออกไปทดลองตลาดที่ร้านค้าของตระกูลจิน ซึ่งเป็ตระกูลเดิมของอนุจินดูเ้าค่ะ"
ฮูหยินใหญ่เลิกคิ้ว "ทดลองตลาด?"
"เ้าค่ะ" เสิ่นเยว่ยิ้ม "เพื่อประเมินว่าผลิตภัณฑ์ของเราเป็ที่้าของตลาดภายนอกหรือไม่ หากประสบความสำเร็จ รายได้ที่เกิดขึ้น บ่าวขอมอบให้เป็รายได้ของจวนทั้งหมด เพื่อใช้ในการลดหย่อนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ต่อไป"
ข้อเสนอนี้ มันสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ!
มันไม่เพียงแต่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของจวน แต่ยังอาจจะสร้างรายได้เสริมกลับเข้ามาอีกด้วย! ฮูหยินใหญ่จะปฏิเสธข้อเสนอที่วิน-วินแบบนี้ได้อย่างไร?
"ตกลง!" ฮูหยินใหญ่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด "ข้าอนุมัติแผนการของเ้าทั้งหมด! พ่อบ้านคังจะช่วยประสานงานเื่สถานที่และคนให้ ส่วนเื่ร้านค้าของตระกูลจิน ข้าจะส่งคนไปพูดคุยกับอนุจินให้เอง"
"ขอบพระคุณฮูหยินใหญ่ที่ไว้วางใจเ้าค่ะ!"
[ติ๊ง! ท่านได้นำเสนอแผนธุรกิจใหม่สำเร็จ! ได้รับอนุมัติให้จัดตั้งแผนกผลิตภัณฑ์!]
[ภารกิจใหม่: สร้างแบรนด์และเปิดตัวผลิตภัณฑ์!]
· เป้าหมาย: 1. จัดตั้งสายการผลิตให้สำเร็จ 2. นำผลิตภัณฑ์ออกวางขายและสร้างยอดขายให้ได้อย่างน้อย 100 ตำลึงเงินภายในหนึ่งเดือน
· รางวัลเมื่อสำเร็จ: 1000 แต้มระบบ ปลดล็อกร้านค้าระบบระดับ 2 ได้รับ "แบบแปลนโรงงานขนาดเล็ก"
· บทลงโทษหากล้มเหลว: แผนกถูกยุบ แต้มระบบทั้งหมดถูกยึดคืน
"บทลงโทษโหดร้ายเหมือนเดิม แต่ผลตอบแทนก็คุ้มค่า" เสิ่นเยว่คิดในใจ
"แผนกผลิตภัณฑ์" หรือที่เสิ่นเยว่เรียกมันในใจว่า "Shen Yue's Innovations Inc. (SYI) " ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็ทางการ นางได้คัดเลือกบ่าวหญิงที่มีความละเอียดรอบคอบและหัวไวมา 5 คน และเริ่มทำการฝึกอบรมทันที
นางใช้แต้มระบบ 100 แต้ม แลกซื้อ "แบบแปลนเครื่องมือพื้นฐาน" จากร้านค้า ซึ่งเป็แบบแปลนสำหรับทำแม่พิมพ์สบู่ เครื่องตัดเทียน และอุปกรณ์กรองขนาดเล็กที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วในการผลิตได้อย่างมหาศาล
เพียงหนึ่งสัปดาห์โรงงาน ขนาดเล็กของนางก็เริ่มเดินสายการผลิตได้อย่างเต็มรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ล็อตแรกถูกนำไปใช้งานภายในจวนก่อน ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมอย่างท่วมท้น บ่าวไพร่ต่างชื่นชอบสบู่และแชมพูสูตรใหม่กันถ้วนหน้า ส่วนเหล่าอนุภรรยาและฮูหยินใหญ่ก็ติดใจเทียนหอมไร้ควันของนางกันงอมแงม
เมื่อเห็นว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพคงที่แล้ว ขั้นต่อไปก็คือการเปิดตัวสู่สาธารณะ
ด้วยเส้นสายของอนุจินและฮูหยินใหญ่ ผลิตภัณฑ์ของเสิ่นเยว่ได้รับอนุญาตให้นำไปวางขายที่หอการค้าจินอี้ ซึ่งเป็หนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่และหรูหราที่สุดในเมืองหลวง บริหารงานโดยพี่ชายของอนุจิน จินเหวินป๋อ
วันแรกที่เสิ่นเยว่ (ซึ่งได้รับอนุญาตให้ออกนอกจวนเป็กรณีพิเศษ) นำสินค้าตัวอย่างไปให้จินเหวินป๋อดูที่ร้าน เขามองสินค้าของนางด้วยสายตาของพ่อค้าผู้เจนโลก
"สบู่? เทียนไข?" เขาหัวเราะเล็กน้อย "ของพวกนี้ในตลาดก็มีขายอยู่ถมไป ของของเ้ามีอะไรพิเศษ?"
เสิ่นเยว่ไม่พูดพร่ำทำเพลง นางขออ่างน้ำมาหนึ่งใบแล้วสาธิตให้เขาดูถึงความแตกต่างของฟองสบู่และความสะอาด จากนั้นก็จุดเทียนหอมของนางเทียบกับเทียนไขธรรมดาของทางร้านให้เห็นถึงความแตกต่างของควันและกลิ่น
"ผลิตภัณฑ์ของข้าไม่ได้ขายแค่ประโยชน์ใช้สอย แต่ขายประสบการณ์" เสิ่นเยว่กล่าวอย่างมั่นใจ "สบู่ของข้าไม่ได้แค่ทำให้สะอาด แต่ยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายด้วยกลิ่นหอมและช่วยบำรุงผิว เทียนของข้าไม่ได้แค่ให้แสงสว่าง แต่ยังสร้างบรรยากาศที่ดีและไม่เป็อันตรายต่อสุขภาพ"
"เราไม่ได้ขายสินค้า แต่เราขายไลฟ์สไตล์"
คำว่า "ไลฟ์สไตล์" เป็คำใหม่ที่จินเหวินป๋อไม่เคยได้ยิน แต่เขาก็เข้าใจความหมายที่นาง้าจะสื่อได้ในทันที
"น่าสนใจ" แววตาของเขาเปลี่ยนเป็จริงจังขึ้น "แล้วเ้า้าจะขายมันในราคาเท่าไหร่?"
เสิ่นเยว่ยิ้ม "ข้าไม่ได้จะขายส่งให้ท่าน แต่ข้าขอเสนอรูปแบบฝากขาย (Consignment) "
"ข้าจะนำสินค้ามาวางที่ร้านของท่านโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายล่วงหน้า และเมื่อสินค้าขายได้ เราจะแบ่งผลกำไรกันที่ 70/30 ท่านได้ 30"
"30! เ้าล้อข้าเล่นรึ!" จินเหวินป๋อแทบจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ "ปกติข้ารับส่วนแบ่งอย่างต่ำ 50!"
"แต่สินค้าของท่านอื่น ท่านต้องใช้เงินทุนของตัวเองซื้อเข้ามาก่อนใช่หรือไม่? นั่นคือความเสี่ยง" เสิ่นเยว่โต้กลับอย่างใจเย็น "แต่สินค้าของข้า ท่านไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ไม่มีความเสี่ยงแม้แต่อีแปะเดียว ท่านแค่จัดหาสถานที่ให้ข้า และรอรับส่วนแบ่ง 30% จากยอดขาย นี่คือผลกำไรที่ได้มาเปล่าๆ"
จินเหวินป๋อถึงกับพูดไม่ออก เด็กสาวตรงหน้าต่อรองได้อย่างเฉียบแหลมและไร้ช่องโหว่
"และเพื่อเป็การเปิดตัว" เสิ่นเยว่กล่าวต่อ "ข้าจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่หน้าร้านของท่านด้วยตัวเองในอีกสามวันข้างหน้า เพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างการรับรู้ในแบรนด์"
"ข้าจะทำให้ร้านของท่าน เป็ที่กล่าวขานไปทั่วเมืองหลวง"
ความมั่นใจอันเปี่ยมล้นของนางทำให้จินเหวินป๋อรู้สึกทึ่งและสนใจอย่างยิ่ง
"ตกลง!" เขาตัดสินใจในที่สุด "ข้าจะให้เวลาเ้าหนึ่งเดือน และให้มุมที่ดีที่สุดในร้านแก่เ้า แต่ถ้าสินค้าของเ้าขายไม่ได้อย่างที่พูด เ้าต้องจ่ายค่าเช่าที่เป็สองเท่าให้ข้า!"
"ตกลงตามนี้เ้าค่ะ!"
การเดิมพันทางธุรกิจครั้งสำคัญได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เสิ่นเยว่ไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเองคนเดียวอีกต่อไป แต่กำลังต่อสู้เพื่ออนาคตของ "บริษัท" แห่งแรกที่นางก่อตั้งขึ้นในโลกใบนี้
